ไทบ้าน x BNK48 จากใจผู้สาวคนนี้ (2020)

นักแสดง

ณัฐวุฒิ แสนยะบุตร

อัครเดช ยอดจำปา

กานต์ธีรา วัชรทัศนกุล

ณัฐรุจา ชุติวรรณโสภณ

ผู้กำกับ

สุรศักดิ์ ป้องศร
ธิติ ศรีนวล

รีวิว ไทบ้าน x BNK48 จากใจผู้สาวคนนี้ (2020) 

⭐ อวยไส้แตกแหกไส้ฉีก

🤩 คะแนน: 6/10 ดาว

อ่านก่อนเลยผมเขียนถึง bnk อย่างเป็นกลางที่สุดแล้ว bnk แสดงหนังมาสามสี่เรื่องแล้วเรื่องไหนดีที่ฉันจะชมไม่ดีฉันบ่นเรื่องที่ดีของ bnk อาจจะอวยเฉื่อยหายแต่สำหรับ จากใจ ผู้มีอำนาจสาวคนนี้คนนี้ต้องบอกอย่างชัดเจนในลักษณะเดียวกับไทบ้านที่เอาเข้าจริงๆคือมีความเรียลและธรรมชาติของมันแต่ตัดมาในส่วนของ bnk กลับพบว่ามันทำให้หนัง เพื่อดูกรณีนี้ก้องห่วยไร่ ที่เหมือนจะเป็นตัวขับเคลื่อนให้กับหนังที่ดีขึ้นมากแต่มันก็ข่วยไม่ได้มากในนั้น จากใจผู้สาวคนนี้เล่าถึงข่าวถึงย่าน bnk ขาลงที่คนเสื่อมคุณภาพ เลยพยายามหาช่องทาวใหม่ๆด้วยการจะออกเพลงภาษาอีสานโดยทางจ็อบซังหัวหน้าคณะหรือผู้จัดการวงอะไรสักอย่างนี้แหละ ตัดสินใจจ้างเจ๊ก้องมาเป็นคนทำเพลงและทางเจ๊ก้องก็ให้ทางวง bnk ศรีสะเกษเพื่อศึกษาชีวิตคนอีสานพร้อมทำเพลงและฝึกร้องอีสานด้วยกันโดยเรื่องราวจะเป็นเรื่องของสาวๆบีเอ็นเคกับ กินในจักรวาลในบ้านนี่เจ๊ก้อง เชื่อว่าเป็นเรื่องของเรื่อง นั่นคือครับ ผมบอกอย่างเป็นทางการเลยหนังเทียมในไทบ้านผมพบว่าส่วนใหญ่จะโอเคอยู่มากจริงๆ ด้วยความที่มีความเรียลและด้วยความเข้าอกเข้าใจตัวละครของพวกเราที่แกะสลักประสิทธิภาพสูงมา… กับมือเช่นจ่ารอดครูแก้ว บักมืดหมอเฝ้าระวังอะไรก็ตามที่กล่าวทุกตัวยังเหมือนเดิมโดยไม่มีการรั่วไหลคอนเซปน่ารักเป็นพิเศษในโลโก้ BNK ที่นี่ที่เป็นปัญหาของหนังคนที่ชื่อหนังเองเอาจริงๆใน

จำเป็นต้องมีบทนี่แค่เห็นชื่อเรื่อง คอนเซปอาจจะเดาออกว่าคงมาแนวแบบไฮโซบ้านนอก แบบคนกรุงเทพมาวี๊ดว๊ายอยู่ในชนบทไม่ได้ซึ่งเอาจริงๆ แล้วต้องมีสาเหตุหรือเซอไพรส์เลยน้อยกว่าที่เราคาดว่าจะเจออะไรเราก็ได้เจอแบบนั้นแหละและไม่ได้เจออะไรแปลก เลยฉันบอกว่า BNK คือปัญหานี่ผมเองก็ไม่ใช่ส่วนหนึ่งของเด็กๆ ในวงเลย เพราะเอาเข้าจริงๆ น้องเค้าไม่ใช่นักแสดงอาชีพ แต่น้องเค้าเป็นศิลปินไง นี่คือพี่น้องที่นี่แสดงเป็น bnk ที่นี่เลยพวกคุณเค้าเหมาะที่จะ ที่นี่ไม่ค่อยเหมาะที่จะมาแสดงหนัง และทีนี้พอมาแสดงหนังด้วยโครงสร้างบทและที่ bnk สมาชิกเค้ามีข้อจำกัดอะไรไหม มันเลยทำให้แคเตอร์ของ bnk ทุกตัว ในหนังดูแบนมาก ภายนอกคือไร้มิติที่ไม่มีความเป็นมนุษย์ดูไม่เรียลดูไม่ถึงเลย บางครั้งไปดูอะไรที่เรามาดูสดๆ โดยตรงเองจริงๆ เสียดายที่อีกครั้งที่ดึงความน่ารักของ bnk ออกมาได้อีกครั้งก้อง ห้วยไร่ และเราจะได้รับความช่วยเหลือที่เรายิ้มได้หัวเราะกับหนังได้แต่ก้องเก่งมากนะครับที่เข้ามาเอาหนังมันพออยูได้ แต่สุดท้ายโดยส่วนประกอบรวมหนังมันก็ยัง… ไม่ได้ค่อบเวิร์คแต่อย่างใด แต่ทั้งนี้ล้วนเป็นงานวิจัยของก้องจากใจจริงครับสำหรับการแสดงและการแจ้งเตือนอินเนอร์ผมต้องถามผู้ใหญ่ที่รู้จักว่าสามารถติดตามแบบในหนังจริงๆ ไหม มองไม่เห็น ไม่เป็นจ้ามี ภรรยาแล้วพวกเราก็เก่งจริงๆนะครับคำขวัญสำคัญคือสิ่งใหม่ที่เราต้องเรียนรู้ , ไม่จำเป็นต้องให้เสียงของคนอื่น มากลบเสียงในใจเราที่สำคัญๆ ท่องกันเป็นนกแก้วนกขุนทองวัตถุดิบไม่ได้สะท้อนให้เราเห็นว่าในหนัง นั่นเอาเข้าจริงๆ ผมอยากจะบอกว่า มันพยายามเอาส่วนผสมวัฒนธรรมที่เป็นป็อปเจอร์อีสาน กับวัฒนธรรมป็อปเจอร์โอตะมาความสามารถในการขายของส่วนที่สำคัญที่สุด แต่น่าเสียดายที่ส่วนนั้น ดีๆของส่วนผสมมันดันเป็นส่วนผสมที่ไม่สอดคล้องกันผลที่ออกมามันก็กลายเป็นหนังที่ขาดๆเกินๆเลย คนส่วนใหญ่พอดูได้แหละครับ สำหรับคนทั่วไปที่บอกว่ามันไม่เข้าเลยแบบนีแหละลองดูนะครับ

⭐ Super Review Channel

🤩 คะแนน: 7/10 ดาว

เป็นภาพยนตร์ที่ร่วมมือกันระหว่าง ทีมงานไทบ้านและ BNK48 ว่าด้วยเรื่องราวของวงเกิล์ลกรุ๊ฟที่กำลังใกล้ขะถึงทางตัน ทางผู้บริหารจึงมีนโยบายแต่งเพลงที่มีแนวแพลงที่กำลังได้รับความนิยมในสมัยนี้คือ แนวลูกทุ่งอีสาน จึงจ้างวานให้ก้องห้วยไร่มาเป็นโปรดิวเซอร์เพลง ซึ่งก้อง ห้วยไร่ที่เสนอความคิดว่า ต้องให้สาว ๆ BNK48 ไปเรียนรู้วิถีชีวิตอีสานที่แท้จริงเสียก่อน จึงจะเข้าถึงอารมณ์เพลงได้ เมื่อเจรจากันเรื่องค่าตอบแทนอย่างลงตัว ความสนุกสนาน และมิตรภาพครั้งใหม่จึงเกิดขึ้นโดยรวมแล้วหนังออกมาค่อนข้างพอใช้ได้ ถือว่าไม่เลวเลยทีเดียว ตัวละครที่โดดเด่นได้ยังถือว่าเป็นแม่เหล็กที่ทำให้หนังเรื่องนี้สามารถยืนอยู่ได้ก็คงต้องยกให้ ก้อง ห้วยไร่ รองลงมาก็คือจ่าลอด และก็ตัวละครสำคัญคือครูแก้วกับหมอปลาวาฬแห่งจักรวาลไทบ้าน ที่ออกมาคนละหน่อยให้เราหายคิดถึงส่วนน้อง BNK48 ทั้ง 8 คนนั้น บอกเลยว่าแทบไม่ค่อยรู้สึกสักเท่าไหร่ บางคนมีบทพูดบ้าง แต่บางคนแทบจะไม่ได้พูดเลย บางคนแทบจะเป็นตัวประกอบฉากซึ่งตัดออกไปเลยก็ยังได้ เป็นการเฉลี่ยบทพูดที่ไม่ดีนัก

ผู้กำกับได้นำเอกลักษณ์ที่สำคัญที่สุดของหนังชุดไทบ้านก็คือฉาก “ฟูมฟาย” ใส่ในหนังด้วย และยังคงเก่งในด้านดึงอารมณ์เศร้าได้ดีช่วงครึ่งแรกไม่ค่อยชอบสักเท่าไหร่เพราะมันดูเลอะเทอะไป แต่หลังจากที่เรื่องพบกับจุดแตกหักตั้งแต่กลางเรื่องไปถึงครึ่งหลังถือว่าพอใช้ได้แต่ที่แปลกใจคือหนังค่อนข้างผิดสามัญสำนึกของหนังแนวแต่งเพลงที่ใช้เพลงเอกเป็นตัวละครหลักของเรื่อง ซึ่งในตอนต้นเป็นการแต่งเพลงอีกเพลงหนึ่งคือ “โดดดีดง” แต่ไป ๆ มา ๆ หนังกลับนำเสนอเพลง “จากใจผู้สาวคนนี้” มาเป็นเพลงหลักแทน
ที่แปลกใจเพราะโดยธรรมชาติของหนังประเภทนี้จะมีเพลงหลักที่เป็นเพลงเอก 1 เพลง นอกนั้นก็จะเป็นเพลงเสริม เพลงหลักที่ว่าจะเป็นแกนหลักหรือหัวใจของเรื่องทั้งหมด และเพลงหลักที่ว่านั้นจะเป็นเพลงแรกเริ่มของหนังแนวนี้ทุกเรื่องด้วย ขอยกตัวอย่างเช่น Music and Lyrics (2007)

พระเอกที่เป็นนักแต่งเพลงร่วมเขียนเพลงกับนางเอกชองเรื่องแต่งเพลง Way Back Into Love ซึ่งใช้เป็นตัวดำเนินเรื่อง หรือ A Star Is Born (2018) ก็ใช้เพลงที่นางเอกของเรื่องแต่งเนื้อร้อง พระเอกเรียบเรียงทำนองเป็นตัวเดินเรื่องหลัก คือเพลง Shallow เป็นต้นหากลองสังเกตแล้ว หนังที่ใช้เพลงเป็นตัวดำเนินเรื่อง จะสื่อความหมายว่า เพลงคือการแทนค่าความสัมพันธ์ของตัวละคร ซึ่งในช่วงแรก เพลง จะไม่มีความไพเราะ จังหวะ ท่วงทำนอง จะขาด ๆ เกิน ๆ แต่เมื่อความสัมพันธ์ของตัวละครดีแล้ว หรือ คลี่คลายไปในทางที่ดีแล้ว เพลงจะมีความไพรเราะมากขึ้น ซึ่งไทยบ้าน จากใจผู้สาวคนนี้ เปิดเรื่องมา ก้อง ห้วยไร่แต่งเพลงโดดดีดงชัดเจน แต่ในตอนจับกลับใช้เพลงผู้สาวคนนี้ ไม่เข้าใจว่าเป็นความตั้งใจตั้งแต่ต้นหรืออย่างไร นอกจากนี้ยังมีสิ่งที่น่าติดใจตอนชมคือ อากับกริยาของตัวละครน้อง ๆ BNK48 ที่ดูแล้วน่าหงุดหงิดนิด ๆ เมื่อเจอกับวิถีชีวิตที่แตกต่างจากที่เคยคุ้นเคย แต่ความดีที่สุดของหนังเรื่องนี้ที่มาสารถดึงคะแนนความชื่นชมให้มาอยู่ในแดนบวกได้คือ การนำเสนอบรรยากาศของวิธีชีวิตชาวอีสาน การรักษาสมดุลระหว่างความเป็นไทบ้านกับความเป็น BNK48 ที่สำคัญคือการเล่าเรื่อง โดยเฉพาะวิธีการสร้างเงื่อนไขให้กับตัวละคร ทั้งในด้านความสัมพันธ์ รวมถึงการสร้างสถานการณ์ให้เพลงที่ที่เป็นตัวดำเนินเรื่องหลักนั้นมีความหมายได้ ซึ่งจะเป็นอย่างไรต้องติดตามชมเองครับ