300 Rise of an Empire (2014) 300 มหาศึกกำเนิดอาณาจักร

นักแสดง

Sullivan Stapleton ซัลลิแวน สเตเพิลตัน

Eva Green อีวา กรีน

Lena Headey ลีนา ฮีดดี

ผู้กำกับ

Noam Murro

รีวิว 300 Rise of an Empire (2014) 300 มหาศึกกำเนิดอาณาจักร 

⭐ หนังโปรดของข้าพเจ้า

🤩 คะแนน: 6/10 ดาว

รีวิวนี้คือความเห็นของคนที่เป็นแฟน ‘300’ ภาคกำกับโดย Zack Snyder ถ้าถามว่าชอบขนาดไหน ก็ต้องบอกว่าเป็นหนังแอ็คชั่นที่ชอบมากระดับติด 1 ใน 250 หนังโปรดในดวงใจล่ะครับ ดังนั้นเรื่องอคติหรือไม่ชอบหนังแนวนี้ตัดออกไปได้เลยครับ เพราะนี่มันแนวโปรดของผมเลย ตอนได้ข่าวว่าเฮียสไนเดอร์ไม่ได้เป็นคนกำกับภาคต่อ ใจผมก็รู้ละว่าหนังเจ๊งบ๊งแน่ เห็นมาหลายเรื่องแล้วที่ภาคต่อเปลี่ยนผู้กำกับ ไม่เคยเห็นจะออกมาดีสักที (X-Men The Last Stand, Kick-Ass 2) ตอนได้ยินชื่อ Noam Murro นี่ยังงงเลยว่าเป็นใครฟะ ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมตอนสตูดิโอทำโปรโมทหนังถึงต้องแปะป้าย ‘โปรดิวเซอร์ โดย แซ็ค สไนเดอร์ ผกก. 300 และ Man of Steel’300: Rise of an Empire เป็นภาคที่เล่น timeline ตีกินจากภาคแรกครับ ย้อนไป 10 ปีก่อนพ่อของ ‘เซอร์เซส’ ถูก ‘ธีมิสโทเคิลส์’ (Sullivan Stapleton) ฆ่าตายด้วยธนู รุ่นลูกก็มาโดนเป่าหูโดย ‘อาร์ธีมีเซีย’ (Eva Green) ว่าการรบกับกรีกคือความท้าทาย แล้วก็ไปชุบน้ำแฟนตาซีแปลงกายเป็น ‘เซอร์เซส’ กษัตริย์ตัวร้ายในภาคแรกนั่นแหละครับ ช่วงนี้ timeline ทับซ้อนกันครับ ฝั่ง ‘ลีโอไนดัส’ ภาคแรกก็รบอยู่ในภาคแรก ส่วน ‘ธีมิสโทเคิลส์’ ก็รบทางทะเลกับ ‘อาร์ธีมีเซีย’

จากใจเลยว่าอย่าไปสนใจเนื้อเรื่องมันเลยครับ ปวดหัวพูดถึงงานภาพก่อนว่ายังเอาเอกลักษณ์ของ 300 มาตีกินขายต่อได้เนียน ๆ เลยครับ แสงกระทบฝุ่น เปลวไฟลอยผ่านหน้ามันทุกฉาก โทนสีครึ้ม ๆ แบบภาคแรก เอาง่าย ๆ ว่าเหมือนเดิมแต่ทำไมเอางานภาพมาแล้วไม่เอาฉากแอ็คชั่นเท่ ๆ ตามมาด้วยฟะ หนังเปิดฉากแรกเท่มากเลยนะ วิ่งถือดาบถือโล่ไล่ฟันศัตรู slow-motion เป๊ะมาก ฟ้าผ่าที slow ทีแหม่ จากนั้นหนังก็ลืม slow-motion เท่ ๆ ไปเลย ไปเน้นขายฉากฟันขาขาด แขนขาด หัวขาด เลือดสาดกระจาย คือแบบ…. เพลีย นี่หรือ 300 ของข้าฉากแอ็คชั่นน้อยมาก เสน่ห์ของฉากแอ็คชั่นในภาคแรกไม่รู้หายไปไหน แล้วมันไม่มีความน่าจดจำเลยสักฉาก จำได้แต่หัวขาด ขาขาด แขนขาดเอาสะใจคอหนังเลือดสาดอย่างเดียว

dialogue นี่ก็เป็นอะไรที่ดูแล้วเพลียมาก ประดิษฐ์อะไรกันขนาดนั้น ประดิษฐ์ไม่ว่านะถ้ามันออกมาดี นี่แบบ…. บางฉากตัวเอกก็พ่นคำคมปลุกใจไป ไอ้คนฟังก็ทำหน้าเข้าใจตาเป็นประกาย แต่คือคนดูแบบผมมึนตึ้บเลยว่าเอ็งฮึกเหิมยังไงฟะ ไอ้ดราม่าพ่อลูกเลียนแบบภาคแรกนี่ก็ทำออกมาได้ห่างชั้นกับเขาเหลือเกินไหนจะฉากยุทธวิธีเรือรบกลางทะเลที่ห่วยแตกมาก (คือฝั่งนึงดูฉลาด อีกฝั่งดูโง๊โง่) ใครอยากหาหนังเรือรบโบราณดี ๆ ดูลองไปหา Master and Commander: The Far Side of the World (2003) ดูครับ ฉากเรือรบกลางทะเลเล่นง่ายมากหลายฉาก ที่เพลียสุดคือไอ้ฉากลูกไฟลูกเดียวเรือระเบิดทั้งกองทัพเนี่ยแหละ คือมันระเบิดกองทัพตัวเองด้วยไง จบง๊ายง่ายเนอะ แล้ว ‘อาร์ธีมีเซีย’ ที่บรรยายมาซะดิบดีว่าเก่งเทพ คือตกลงเก่งยังไงฟะ เห็นมีแต่ส่งแม่ทัพไปปั้นพระเอกทั้งนั้นที่สำคัญคือหนังโดนตัดด้วย ตัดฉากสำคัญด้วย น่าจะเป็นฉาก sex scene ของอีวา กรีนกับพระเอกนั่นแหละ เพราะตอนหลังมันมีบทพูดแปลก ๆ โห เซ็งมาก ฉากนั้นอีวากำลังปล่อยของแล้วเชียวป.ล. ตอนจบนี่คือเอ็งกะเผื่อไว้ทำภาคต่ออีกหรอ? นี่คือยังทำลายความทรงจำดี ๆ ที่มีต่อ 300 ไม่พอใช่ไหม?

⭐ paulclaassen

🤩 คะแนน: 6/10 ดาว

งานเลี้ยงในหลายๆ ด้าน! ภาพถ่ายที่คมชัดและยอดเยี่ยมอย่างเหลือเชื่อ เนื้อหาชัดเจนมาก แต่ไม่เคยหยุดสร้างความตื่นตาตื่นใจ ภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่ได้น่าตื่นเต้นหรือสนุกสนานเท่าภาคก่อน แต่ก็ยังคงน่าสนใจ พล็อตเรื่องมีข้อบกพร่องมากมาย ไม่สมเหตุสมผลเลยที่ Themistokles ไปที่เรือของ Artemisia เพราะดูเหมือนเป็นภารกิจฆ่าตัวตาย แต่ฉากเซ็กส์ที่ตามมานั้นน่าดูจริงๆ! ภาพยนตร์เรื่องนี้ค่อนข้างซ้ำซากและภาพสโลว์โมชั่นก็ดูเกินจริง แต่ภาพที่สวยงามก็ชดเชยสิ่งนี้ได้มากทีเดียว! ซัลลิแวน สเตเปิลตันเป็นฮีโร่ที่น่ารัก

⭐ ronnie1962

🤩 คะแนน: 6/10 ดาว

ฉันไม่เข้าใจว่าทำไม Zack Snyder ถึงไม่กำกับภาคต่อนี้ และทำไมคนที่ไม่เคยกำกับฉากแอ็กชั่นมาก่อนและแค่หนังยาวเรื่องเดียวถึงได้รับความไว้วางใจให้สร้างหนังระดับใหญ่ขนาดนี้ได้ นั่นคงเป็นสูตรแห่งหายนะแล้ว แม้ว่าในความเป็นจริง Snyder จะเป็นผู้ควบคุมดูแลก็ตาม 300: Rise of An Empire เป็นหนังแอ็กชั่นที่เข้มข้น ภาพสวยงาม และมีเลือดสาดมาก เพื่อพยายามรักษามาตรฐานของภาคก่อน จริงๆ แล้วมีฉากแอ็กชั่น เลือดสาด และฉากเปลือยมากกว่า 300 ภาคแรกเสียอีก สำหรับเนื้อเรื่องนั้นไม่มีอะไรให้คิดมากนัก Themistocles ซึ่งเป็นผู้บัญชาการกองทัพเรือ อ้างว่าเขากำลังพยายามรวบรวมกรีกให้เป็นหนึ่งเดียวกัน เนื่องจากเรื่องราวเกิดขึ้นก่อน ระหว่าง และหลังจากที่กษัตริย์ลีโอนิดัสนำคนของเขาไปต่อสู้กับชาวเปอร์เซีย จึงทำให้ติดตามได้ยากในบางครั้ง

การแสดงส่วนใหญ่อยู่ในระดับปานกลางและไม่สามารถชดเชยจุดอ่อนของเรื่องราวได้ ในความเห็นของฉัน นักแสดงชาวออสเตรเลียที่ได้รับเลือกให้มารับบท Themistocles ถือเป็นการเลือกที่แย่มาก และไม่ใกล้เคียงกับสิ่งที่ Gerard Butler รับบทเป็น King Leonidas ใน 300 เลย เขาไม่สามารถแสดงบทบาทฮีโร่ที่แข็งแกร่งได้อย่างที่คาดหวังไว้ น่าสนใจที่ฉันอ่านเจอที่ไหนสักแห่งว่าผู้กำกับ Noam Murro ยืนกรานว่า Sullivan Stapleton จะต้องรับบทเป็นตัวละครนี้ โดยอ้างว่าเขาคือ “คนๆ นั้น” ในขณะที่ Eva Green รับบทเป็นวายร้ายได้อย่างยอดเยี่ยมในบท Artemisia