ดูหนัง A Taxi Driver (2017) แท็กซี่สายฮาฝ่าสมรภูมิโหด
ในผลงานสร้างจากเหตุการณ์จริง คนขับแท็กซี่ในโซลพานักข่าวชาวเยอรมันเดินทางไปสืบข่าวลือเรื่องการก่อจราจลของกลุ่มพลเมืองในควังจู ก่อนจะได้พบกับเหตุการณ์ที่คาดไม่ถึง ภาพยนตร์เรื่องนี้เล่าถึงเหตุการณ์การลุกฮือที่กวางจูซึ่งเกิดขึ้นระหว่างวันที่ 18 พฤษภาคม 1980 ถึง 27 พฤษภาคม 1980 และคาดว่าทำให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 2,000 คน เนื้อเรื่องในภาพยนตร์สะท้อนให้เห็นภูมิหลังทางประวัติศาสตร์ของเหตุการณ์ดังกล่าว การลุกฮือที่กวางจูเป็นผลจากการแย่งชิงอำนาจอย่างต่อเนื่องระหว่างรัฐบาลเผด็จการและพลเมืองเกาหลีใต้ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นนักศึกษาที่เรียกร้องประชาธิปไตย เป็นเวลาหลายปีที่การลุกฮือถือเป็นคำต้องห้ามในเกาหลีใต้ ผู้ที่อยู่ฝ่ายรัฐบาลในช่วงเวลานั้นเป็นผู้กุมบังเหียนประเทศชาติ ตามคำกล่าวของนักวิชาการจางเซยองจากศูนย์วิลสัน “หนังสือที่เกี่ยวข้องกับกวางจูถูกเซ็นเซอร์อย่างเข้มงวดหรือห้ามตีพิมพ์ ถึงแม้ว่านักการเมืองและนักเคลื่อนไหวจำนวนหนึ่งจะพยายามสืบทอดและพัฒนาจิตวิญญาณของกวางจู แต่พวกเขาก็ถูกข่มเหง” นักวิชาการคิมยองชอลกล่าวว่า “มรดกทางการเมืองที่การลุกฮือกวางจูสร้างขึ้นมีบทบาทสำคัญในการควบคุมการแทรกแซงทางทหารในวงการเมืองในช่วงเปลี่ยนผ่านสู่ประชาธิปไตย ตลอดจนในการสร้างหลักการของอำนาจสูงสุดของพลเรือนในช่วงเปลี่ยนผ่านสู่ประชาธิปไตย” แม้จะถูกห้าม แต่บทความข่าวหลายร้อยหรือหลายพันบทความเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในกวางจูก็พยายามเผยแพร่โดยนักข่าวบางคนในเมือง
อ่านรีวิวก่อน ดูหนัง
นักแสดง
Song Kang-ho ซอง คังโฮ
Thomas Kretschmann
Yoo Hae-jin
ผู้กำกับ : จางฮุน
รีวิว A Taxi Driver (2017) แท็กซี่สายฮาฝ่าสมรภูมิโหด
entertainment
อีกครั้งที่ต้องโค้งคำนับให้กับการเล่าเรื่องจริงให้ออกมาเป็นเรื่องเล่าที่แสนสนุกกับอีกหนึ่งหน้าประวัติศาสตร์ที่เลือกเล่าในมุมที่จำกัดของคนหนึ่งคน จึงทำให้รู้สึกเห็นใจรับทราบ และเข้าใจในความเป็นมนุษย์และการตัดสินใจของคนตัวเล็กที่ทำเรื่องใหญ่ แล้วด้วยความที่นี่คือเรื่องจริงที่เกิดขึ้นจริงและการเล่าเรื่องให้ออกมาบันเทิงได้ขนาดนี้คงต้องยอมรับว่าบทหนังออกมาในระดับยอดเยี่ยม ก็ใช่ที่การเล่าเรื่องจริงผสมเรื่องแต่งแบบนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่และถ้าดูอย่างละเอียดจะมองเห็นว่าอันไหนจริงอันไหนแต่ง แต่ความเยี่ยมของบทคือคนดูจะไม่แน่ใจว่านั่นคือเรื่องแต่งจริงหรือไม่เพราะเชื่อไปแล้วว่านั่นคือเรื่องจริง
อีกสิ่งที่เยี่ยมมากคือการเล่าเรื่องในภาวะข้างในที่เป็นปัจเจกที่ต่างจากหนังที่เล่าเรื่องประวัติศาสตร์ทั่วไปที่มักจะเล่าเรื่องของคนที่มีชื่อเสียงในหน้าประวัติศาสตร์นั้นๆ แต่เรื่องของคุณคิมที่หนังเผยให้เห็นว่าจนปัจจุบัน (ณ ปีที่หนังออกฉาย) ยังไม่ไม่ใครทราบตัวตนที่แท้จริงของคุณคิม นั่นหมายความว่าตัวละครนี้คือมาจากคำบอกเล่าที่เป็นการทำเรื่องที่ยิ่งใหญ่ของมนุษย์ตัวเล็กๆสักคนที่ไม่ได้ต้องการชื่อเสียงใด
กระนั้นหนังก็เล่าในมุมของคุณคิมได้อย่างมีมิติและมองเห็นอารมณ์เชิดชูวีรกรรมอยู่ข้างในซึ่งต้องเป็นเรื่องจริงปนเรื่องแต่งเพื่อความบันเทิงให้ออกมาเป็นภาพยนตร์มากกว่าเป็นสารคดี สิ่งที่เป็นคือหนังมีคุณคิมเป็นเสาหลักเดินเรื่องได้ทรงพลังด้วยมิติของชายผู้เฉยชาต่อเหตุการณ์รอบข้างโนสนโนแคร์ว่าคนรอบข้างหรือโลกจะเป็นยังไงเพราะโลกทั้งใบของคุณคิมมีลูกสาวเพียงคนเดียว กระทั่งโลกแห่งความจริงที่เขาต้องเจอขยับเข้ามาใกล้เขาก็ยังไม่แคร์เพราะนี่ไม่ใช่
การต่อสู้ของเขาจนที่สุดภาพที่ได้เห็นก็ได้จุดไฟสำนึกความเป็นมนุษย์ในใจเขาเมื่อเพื่อนร่วมชาติหรืออย่างน้อยก็คือเพื่อนมนุษย์ได้ถูกกระทำ และถูกพรากชีวิตอย่างโหดร้ายโดยสิ่งที่เขาเชื่อมั่นเสมอจนความเป็นมนุษย์ที่มีในตัวเขาก็ทำให้เขาลุกขึ้นมาทำหน้าที่มนุษย์ด้วยการเอาทั้งชีวิตเข้าแลกเพื่อทำสิ่งที่ถูกต้อง เช่นกันหากการเด็ดดอกไม้กระเทือนถึงดวงดาวถ้าคุณคิมไม่ตัดสินใจกลับรถไปรับปีเตอร์โลกก็อาจจะไม่ได้เห็นฟุตเตจที่ปีเตอร์ถ่ายไว้และสิ่งนั้นก็อาจลุกลามมากระทบโลกเพียงใบเดียวของเขาคือลูกสาวเพราะโฉมหน้าของประเทศของเขาอาจเปลี่ยนไป
BENJI Review
หลังจากเห็นหลาย ๆ คนบนกลุ่ม Netflix แนะนำถึงเรื่อง A Taxi Driver รวมถึงเห็นรีวิวจากเพจของคุณเต๋อ นวพล เลยมีโอกาสได้ไปตามรับชม
พอดูจบรู้สึกว่า นี่เป็นหนังที่ดีใช้ได้ น่าเขียนรีวิวแชร์สำหรับท่านที่สนใจหนังเกาหลีคุณภาพดี
เรื่องย่อ – ภาพยนตร์สร้างจากเรื่องจริง ในช่วงราวปี 1980 “คิม มันซบ (ซอง คังโฮ)” แท็กซี่ในกรุงโซล ได้รับการว่าจ้างจาก “เจอร์เก้น ฮินซ์ปีเตอร์ (Thomas Kretschmann)” นักข่าวชาวเยอรมัน ให้พาเขาไปที่เมืองควังจูในช่วงที่มีการปราบปรามการประท้วงอย่างหนัก พร้อมใช้กระสุนจริงจากเจ้าหน้าที่รัฐ (ฟีลลิ่งแบบเหตุการณ์ 6 ตุลา ฯ)
การเดินทางครั้งนี้ จึงเป็นภารกิจเสี่ยงตายที่คิมและฮินซ์ปีเตอร์ต้องเอาตัวรอดออกจากเมือง เพื่อส่งฟุตเทจบันทึกเหตุการณ์การสลายการชุมนุมออกสู่สายตาชาวโลก
[ ความรู้สึกหลังชม ]
– หลังจากดูจบ รู้สึกว่า นี่เป็นหนังแพทเทินฮอลลีวู้ดรสกิมจิจริง ๆ หนังทริลเลอร์ ผสมการเมือง + ดราม่าเคล้าน้ำตา 😂 ซึ่งว่าไปแล้ว มันเป็นหนังที่มีแนวทางเดียวกับ Argo (2012) กับ Escape from Mogadishu (2021)
เพียงแต่สองเรื่องหลัง สเกลโปรดักชั่นระดับ International ส่วน Taxi Driver เกรดโปรดักชั่นใหญ่เหมือนกัน แต่เป็นระดับในประเทศ
– ตัวหนังเฟรนลี่กับคนดูมาก สนุกบันเทิง เศร้า ซึ้ง น้ำตาซึม ครบทุกรส ทำให้กลุ่มผู้ชมกว้างมาก (ไม่ได้จำกัดเฉพาะสายดราม่าและสายหนังรางวัล)
– ประเด็นหลักในเรื่อง พูดถึงเรื่องการเรียกร้อง “ประชาธิปไตย” ของชาวเกาหลีใต้