ดูหนัง Beckett (2021) ปลายทางมรณะ
นักท่องเที่ยวชาวอเมริกันต้องหนีตายในประเทศกรีซ หลังอุบัติเหตุสลดลากเขาเข้าไปพัวพันกับกลเกมการเมืองจนตกเป็นเป้าล่าสังหารเบ็คเก็ตต์ นักท่องเที่ยวชาวอเมริกัน เดินทางออกจากเอเธนส์ ประเทศกรีซกับแฟนสาว เอพริล เพื่อหลีกหนีความวุ่นวายทางการเมือง ขณะขับรถไปยังโรงแรมที่หมู่บ้านบนภูเขาในภูมิภาคอีพิรัส เบ็คเก็ตต์เผลอหลับในขณะขับรถและพุ่งชนบ้านใกล้เคียง เอพริลเสียชีวิตในอุบัติเหตุ แต่ขณะที่ติดอยู่ในซากรถ เบ็คเก็ตต์เห็นเด็กชายคนหนึ่งถูกผู้หญิงผมบลอนด์พาออกจากบ้านวันรุ่งขึ้น เซนาคิส เจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ สัมภาษณ์เบ็คเก็ตต์ และบอกเขาว่าเขาโชคดีที่บ้านที่เขาชนถูกทิ้งร้าง อย่างไรก็ตาม เบ็คเก็ตต์เล่าให้เซนาคิสฟังว่าเห็นเด็กชายและผู้หญิงคนนั้น หลังจากออกจากสถานีตำรวจ เบ็คเก็ตต์กลับไปที่บ้านด้วยความตั้งใจที่จะฆ่าตัวตาย แต่ก่อนที่เขาจะทำได้ หญิงผมบลอนด์กลับมาและยิงเขา เซนาคิสมาถึงในเวลาไม่นานและบอกเขาว่าปลอดภัยที่จะออกมาจากที่ซ่อน แต่หลังจากที่เขาเปิดเผยตัวตน เบ็คเก็ตต์ได้รับบาดเจ็บที่แขน ขณะที่ผู้หญิงคนนั้นและเซนาคิสยิงเขาและไล่ตาม เบ็คเก็ตต์กระโดดลงหน้าผาและหลบหนีไป
อ่านรีวิวก่อน ดูหนัง
นักแสดง
John David Washington จอห์น เดวิด วอชิงตัน

Boyd Holbrook

Vicky Krieps

ผู้กำกับ : เฟอร์ดินานโด ซีโต้ ฟิโลมาริโน
รีวิว Beckett (2021) ปลายทางมรณะ
entertainment
เริ่มเรื่องมาเหมือนเป็นหนังรักโรแมนติก ระหว่างสองหนุ่มสาวชาวอเมริกันที่มาเที่ยวประเทศกรีซ หนังก็พยายามทำให้เห็นว่าทั้งสองรักกันมาก ส่วนตัวดูแล้วก็ยังสงสัยในความรักของทั้งคู่ ดูไม่ค่อยน่าเชื่อเท่าไร่ แอบคิดว่า เอ๊ะ! มันเป็นเรื่องของการมาเที่ยวกับแฟนคนที่สองหรือกิ๊กอะไรทำนองนั้นหรือเปล่า แต่พอผ่านไปสักครึ่งชั่วโมง ความที่คิดว่าเป็นหนังแนวโรแมนติกก็เปลี่ยนไปสิ้นเชิง กลายเป็นหนังแนวระทึกขวัญแทน
ทั้งเรื่องดูแล้วให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ในความฝัน เป็นการหนีจากเหตุการณ์เลวร้ายหนึ่งไปเจออีกเหตุการณ์เลวร้ายหนึ่ง แล้วเจอต่อเนื่องไม่ตื่นจากความฝันสักที ความเลวร้ายมีทั้งกระโดดหน้าผา ถูกยิง โดนผึ้งต่อย โดนแทง กระโดดจากที่สูง สารพัดจะโดนกระทำทั้งเรื่องก็คอยลุ้นตลอดว่า จะเจออะไรต่อไป แล้วทำไมเบ็คเก็ตต้องหนี ทำไมต้องตามล่าเบ็คเก็ต แล้วเบ็คเก็ตก็โคตรจะทน โดนขนาดนั้นยังทนไหว
การหนีมีทั้งวิ่งหนี เดินหนี ใช้รถไฟ รถยนต์ หรือรถบัสหนี (ถ้าใส่ซีนนั่งเรือหรือนั่งเครื่องบินหนีให้อยู่ในเนื้อเรื่องได้ คงจะทำไปแล้ว เรียกว่าเบ็คเก็ตค่อนข้างซวยดันเห็นสิ่งที่ไม่ควรเห็น และสุดรันทดเพราะดันมาอยู่ในประเทศที่พูดภาษาที่ฟังไม่เข้าใจ โทรศัพท์ก็ไม่มี เงินก็มีอยู่นิดหน่อย เลยต้องพึ่งพาคนแปลกหน้าเป็นส่วนใหญ่ ทุกที่ที่ไปมีแนวโน้มว่าจะเจอคนมาทำร้ายได้ทุกเมื่อ ไว้ใจใครแทบไม่ได้ แต่ด้วยความใสซื่อของหนุ่มเบ็คเก็ต พี่แกก็จะเล่าทุกอย่างให้แก่คนที่ถามฟัง ทั้ง ๆ ที่บางทีมันอาจจะไม่ควรเล่าก็ได้ ถ้าเกิดเหตุการณ์แบบนี้กับเรา เราคงไม่เล่าทั้งหมด เพราะว่าเราไม่รู้ว่าคนแปลกหน้านั้นเขาจะคิดอย่างไรกับเรื่องที่เราเล่า ยิ่งไปกว่านั้นเนื้อเรื่องไม่ได้มีแค่หนี มันยังไปเกี่ยวข้องกับการเมือง การลักพาตัว การประท้วง สารพัดจะเกี่ยวข้อง เนื้อเรื่องดำเนินไปแบบเรื่อย ๆ แต่ก็น่าติดตาม ค่อย ๆ คลายปมไปพร้อม ๆ กับการหนี
beartai
หลังโรงหนังกลับมาเปิดเมื่อปีที่แล้ว หนังฟอร์มยักษ์ของเด็จพ่อโนแลนอย่าง ‘TENET’ ได้เข้าฉายและทั้งโลกก็เริ่มได้รู้จักกับว่าที่ซูเปอร์สตาร์คนใหม่แต่นามสกุลคุ้นหูอย่าง จอห์น เดวิด วอชิงตัน (John David Washington) แต่นอกเหนือจากการที่เขาคือลูกชายของเดนเซล วอชิงตัน (Denzel Washington) แล้วฝีมือการแสดงที่บ่มเพาะและเสน่ห์เฉพาะตัวก็ทำให้ทุกวันนี้วอชิงตันคนลูกเริ่มเป็นนักแสดงที่ผู้กำกับหลายคนอยากร่วมงานด้วยและในวันนี้เขาก็มีผลงานหนังทริลเลอร์เรื่องใหม่ทางเน็ตฟลิกซ์ (Netflix) อย่าง มาพิสูจน์ฝีมือของเขาอีกครั้ง
เบ็คเก็ต (จอห์น เดวิด วอชิงตัน) นักท่องเที่ยวชาวอเมริกันที่หวังพาเอพริล (อลิเซีย วิกันเดอร์ – Alicia Vikander) แฟนสาวของเขาไปเที่ยวกรีซเพื่อดื่มด่ำความสวยงามและดูดดื่มในความรักของพวกเขาทั้งคู่ แต่การตัดสินใจเดินทางออกจากโรงแรมเพียงเพราะกำลังจะมีการชุมนุมในวันรุ่งขึ้นกลับพลิกชะตาชีวิตทั้งคู่ไปตลอดกาลเมื่อเกิดอุบัติเหตุรถคว่ำกลางทาง
ซึ่งนอกจากเอพริลจะหายตัวไปอย่่างไร้ร่องรอยเบ็คเก็ตยังถูกตามล่าจากกลุ่มคนลึกลับที่มีตำรวจรู้เห็นด้วย ทางเดียวที่เบ็คเก็ตจะเอาตัวรอดได้คือการเดินทางไปยังสถานฑูตอเมริกันให้ได้เร็วที่สุด และไขปริศนาทั้งการหายตัวไปของแฟนสาวและเหตุการณ์ลักพาตัวลูกชายนักการเมืองชื่อดังของประเทศ
ดูจากพลอตแล้ว แทบจะมีส่วนผสมของหนังทริลเลอร์ที่น่าจะพามันไปสู่การเป็น ‘Jason Bourne’ ผสมกับหนังไล่ล่าเข้ม ๆ แนวผิดฝาผิดตัวอย่าง ‘The Fugitive’ อะไรเทือก ๆ นั้นได้เลย แต่ความน่าสนใจสำคัญที่ทำให้ตัวละครเบ็คเก็ตน่าสนใจคือการวางตัวให้เป็นคนธรรมดานี่แหละครับ ยิ่งเป็นคนที่อยู่ต่างเมืองต่างถิ่นก็ยิ่งทำให้ชะตากรรมการถูกตามล่าดูน่ากลัวมากขึ้น แต่น่าเสียดายตรงที่พอตัวหนังจริงเสร็จออกมาเรากลับเห็นช่องโหว่และความไม่สมเหตุสมผลอะไรเต็มไปหมด.