ดูหนัง Beetlejuice Beetlejuice (2024) บีเทิลจู๊ดส์ บีเทิลจู๊ดส์
บีเทิลจู๊ดส์ กลับมาแล้ว! หลังจากโศกนาฏกรรมที่คาดไม่ถึงของครอบครัว ครอบครัว ดีทซ์ ถึงสามรุ่นก็กลับมายัง วินเทอร์ ริเวอร์ ที่ยังคงถูกสิงสู่โดย บีเทิลจู๊ดส์ โดยชีวิตของ ลิเดีย ต้องผลิกผันเมื่อ แอสทริด ลูกสาวหัวขบถของเธอ ค้นพบโมเดลเมืองลึกลับในห้องใต้หลังคาและประตูสู่โลกหลังความตายก็ได้เปิดขึ้นอย่างไม่ตั้งใจ ในขณะที่ปัญหากำลังก่อตัวขึ้นในทั้งสองโลก ก็เหลือเพียงแค่รอเวลาเท่านั้น ก่อนที่จะมีใครสักครั้งเรียกชื่อ บีเทิลจู๊ดส์ สามครั้ง และเจ้าวิญญาณจอมซุกซนจะกลับมาพร้อมกับความวุ่ยวายในฉบับของเขา
อ่านรีวิวก่อน ดูหนัง
นักแสดง
Michael Keaton ไมเคิล คีตัน
Winona Ryder
Catherine O’Hara
Justin Theroux
ผู้กำกับ : Tim Burton
รีวิว Beetlejuice Beetlejuice (2024) บีเทิลจู๊ดส์ บีเทิลจู๊ดส์
beartai
เหตุการณ์ในหนังจะตัดมาที่ช่วงเวลาปัจจุบันเมื่อ ลิเดีย ดีตซ์ (รับบทโดย วิโนนา ไรเดอร์, Winona Ryder) พร้อมแม่เลี้ยงอย่าง ดีเลีย (รับบทโดย แคเธอรีน โอ ฮาร่า, Catherine O’Hara) ต้องเผชิญความสูญเสียครั้งใหญ่ ชาร์ลส์ คุณพ่อของเธอประสบอุบัติเหตุเครื่องบินตก และงานศพของคุณพ่อก็พาลิเดีย ดีเลีย พร้อมด้วย แอสทริด (รับบทโดยเจนนา ออเทกา, Jenna Ortega) ลูกสาวตัวแสบแห่งตระกูลดีตซ์กลับมาสู่วินเทอร์ริเวอร์และบ้านหลังเดิมของพวกเธออีกครั้ง
และด้วยความอยากรู้อยากเห็น แอสทริด ก็ดันเข้าไปในห้องใต้หลังคาและได้พบกับโมเดลเมืองวินเทอร์ริเวอร์ที่มีเจ้าผีขี้จุ๊ยส์อย่าง บีเทิลจู๊ดส์ (รับบทโดย ไมเคิล คีตัน, Michael Keaton) ที่สบโอกาสหวังสานต่อพิธีแต่งงานกับลิเดียเพื่อให้เขากลับมาอยู่ในโลกคนเป็นได้อย่างอิสระ แต่อุปสรรคสำคัญของเขาคือ เดอลอเรส (รับบทโดย โมนิกา เบลุขชี, Monica Bellucci) ถ่านไฟเก่าที่ดันประกอบร่างตัวเองขึ้นใหม่ และกลับมาเพื่อหวังแก้แค้นบีเทิลจู๊ดส์ก่อนเขาจะเข้าพิธีวิวาห์ได้สำเร็จ
หากให้กล่าวกันตรง ๆ ก็ต้องบอกว่า เป็นหนังภาคต่อที่อาจจะไม่ได้แคร์การสานต่อตำนานหรือเรื่องเล่าในหนังภาคแรกมากนัก และลักษณะการดำเนินเรื่องเองก็ดูเป็นหนังสปินออฟที่หยิบจุดเด่นของหนังภาคแรกมาเล่าในอีกมุมมากกว่า เพราะในขณะที่มันได้นักแสดงต้นฉบับทั้ง 3 คนกลับมาในหนังภาคต่อ แต่ตัวบทเองกลับไปมีศูนย์กลางเรื่องที่ตัวละครแอสทริด เพื่อหวังเอาใจผู้ชมรุ่นใหม่มากกว่าแฟนหนังเมื่อ 36 ปีก่อน
โดยข้อดีสำคัญที่หนังน่าจะตรึงผู้ชมไว้ได้ก็คือเสน่ห์ของ เจนน่า ออร์เทก้า ที่ได้ฐานแฟนคลับมาจาก ‘Wednesday’ ซีรีส์สปินออฟจาก ‘The Addams Family’ ใน Netflix มารับบทแอสทริดซึ่งก็ไม่น่าแปลกใจที่คาแรกเตอร์แอสทริดคือแทบจะถอดมาจากซีรีส์ดัง เพียงแค่ลดความกอทิกแต่เต็มไปด้วยแววตาขบถเหมือนเดิม และออร์เทก้าก็จับสายตาคนดูได้อยู่หมัดจริง ๆ จึงไม่น่าแปลกใจที่บทหนังจะเทเรื่องราวมาที่ตัวละครของเธอ แถมยังมีบทโรแมนติกชวนจิกหมอนกับ อาร์เธอร์ คอนทิ (Arthur Conti) หนุ่มหล่อที่สาว ๆ เห็นแล้วน่าจะโดนตกได้ไม่ยาก
อีกจุดที่หนังภาคนี้พาเรื่องราวมาห่างไกลจากหนังภาคแรกมาก ๆ คือการขยายขอบเขตการผจญภัยไปสู่โลกอาฟเตอร์ไลฟ์ (Afterlife) หรือปรโลกที่มีระบบตรวจคนเข้าเมืองเหมือนสนามบิน และมีการเพิ่มชานชาลารถไฟส่งวิญญาณหรือโซลเทรน (Soul Trane) ที่ทิม เบอร์ตันดูจะสนุกกับไอเดียนี้ถึงขั้นออกแบบให้ชานชาลาเต็มไปด้วยคนผิวดำในทรงผมแอฟโฟรกำลังเต้นเพลงฟังก์ดิสโก เพื่อล้อกับ Soul ที่เป็นทั้งวิญญาณและแนวดนตรีอย่างสนุกสนานและเปี่ยมความคิดสร้างสรรค์
entertainment
นี่ก็คือการกลับมาสานต่อความวายป่วงในรอบ 36 ปีของตำนานหนังผีแฟนตาซีระดับขึ้นหิ้ง ที่ใช้สูตรสำเร็จของหนังฮอลลีวูดยุคนี้ ด้วยการหยิบเอาของเก่าคลาสสิกมาหากินใหม่ กลายเป็นภาคต่อ ที่นับว่ายังโชคดีที่ทีมนักแสดงและทีมผู้สร้างชุดดั้งเดิมยังยืดหยัดและมีกำลังเพียงพอที่จะลุกขึ้นมาปลุกผีในตำนานนี้กลับมาขึ้นมาจากหลุมอีกครั้ง
หลังจากโศกนาฏกรรมที่คาดไม่ถึงของครอบครัว ครอบครัว ดีทซ์ ถึงสามรุ่นก็กลับมายัง วินเทอร์ ริเวอร์ ที่ยังคงถูกสิงสู่โดย บีเทิลจู๊ดส์ โดยชีวิตของ ลิเดีย ต้องผลิกผันเมื่อ แอสทริด ลูกสาวหัวขบถของเธอ ค้นพบโมเดลเมืองลึกลับในห้องใต้หลังคาและประตูสู่โลกหลังความตายก็ได้เปิดขึ้นอย่างไม่ตั้งใจ ในขณะที่ปัญหากำลังก่อตัวขึ้นในทั้งสองโลก ก็เหลือเพียงแค่รอเวลาเท่านั้น ก่อนที่จะมีใครสักครั้งเรียกชื่อ บีเทิลจู๊ดส์ บีเทิลจู๊ดส์ บีเทิลจู๊ดส์ และเจ้าวิญญาณจอมซุกซนจะกลับมาพร้อมกับความวุ่ยวายในฉบับของเขา
แปะ แปะ แปะ! ก็ต้องปรบมือให้กับความทะเยอทะยานในวิสัยทัศน์ที่ไม่เคยล้าสมัยเลยของ “ทีม เบอร์ตัน” เพราะแนวคิดการสรรค์สร้างออกมาเป็นหนังแฟนตาซีของลุงเขานั้น ยังคงทำได้และทำถึงได้ด้วยดีเสมอมา เช่นเดียวกับการกลับมาใน Beetlejuice Beetlejuice ครั้งนี้ ถ้าไม่ใช่ลุงทิม ก็ไม่รู้ว่าจะมีใครยั้งรู้ลึกได้ถึงรายละเอียดจากอินเนอร์ได้เทียบเท่าแกคนนี้แล้วจริง ๆ