ดูหนัง Behind Enemy Lines (2001) แหกมฤตยูแดนข้าศึก
เนื่องจากสถานะการณ์ทางการเมืองที่ค่อน ปราะบาง ทำให้ ถูกกันให้ห่างจากสิ่งที่ รู้ดีที่สุด นั่นคือการขับสุดยอดเครื่องบินขับไล่รุ่น F/A -18 บอกกับพลเรือเอกไรการ์ต (ยีน แฮ็คแมน) ซึ่งคิดว่าเบอร์เน็ท ไม่ประสีประสาอะไรว่า “เรามีหน้าที่เฝ้าดู ไม่ใช่ต่อสู้” คือความหมายที่แท้จริงของการเป็นทหาร ระหว่างปฏิบัติภารกิจลาดตระเวนในบอสเนีย เบอร์เน็ท ถ่ายภาพบางสิ่งที่ไม่ควรจะมีใครเห็น เป็นเหตุให้เครื่องบินถูกสอยร่วงใน ของศัตรู พยายามหนีเอาตัวรอดจากการไล่ล่าอย่างไม่ลดละของตำ รวจลับที่ โหดเหี้ยมไร้ความปราณีและกองทัพศัตรูจำนวนนับไม่ถ้วน เวลาเหลือน้อยลงทุกที ไรการ์ตจึงตัดสินใจฝ่าฝืนกฎข้อบังคับและยอมเสี่ยงที่ จะสูญเสียหน้าที่ การงานของตน เพื่อปฏิบัติการกู้ชีพนายทหารคนหนึ่ง
คริส เบอร์เน็ตต์ นักเดินเรือเครื่องบินขับไล่ต้องการออกจากภารกิจนี้ กำลังมองหาอะไรบางอย่างที่มากกว่าภารกิจลาดตระเวนที่น่าเบื่อที่ เคยทำมา พบว่าตัวเองกำลังบินภารกิจคริสต์มาสเพียงภารกิจเดียวเหนือบอสเนียที่กำลังเกิดสงคราม แต่เมื่อ ชักชวนให้สแต็กเฮาส์ นักบินบินออกนอกเส้นทางเล็กน้อยเพื่อตรวจสอบเป้าหมายที่น่าสนใจ ทั้งสองกลับถูกยิงตก เบอร์เน็ตต์ต้องอยู่คนเดียวในไม่ช้าและพยายามหลบหนีกองทัพที่ไล่ตามมา ในขณะที่ผู้บังคับบัญชา ไรเกิร์ต พบว่าปฏิบัติการกู้ภัยของ ถูกขัดขวางด้วยการเมือง ทำให้เบอร์เน็ตต์ต้องวิ่งออกไปให้ไกล
อ่านรีวิวก่อน ดูหนัง
นักแสดง
Owen Wilson
Gene Hackman / ยีน แฮ็กแมน
Joaquim de Almeida
David Keith (actor)
ผู้กำกับ จอห์น มัวร์
รีวิวหนัง
6 / 10
เป็นภาพยนตร์ที่ดีที่ดำเนินเรื่องได้รวดเร็วและกระชับ
เป็นภาพยนตร์ที่มีข้อโต้แย้งเล็กน้อย เรื่องราวนั้นอ้างอิงจากประสบการณ์ของนักบินกองทัพอากาศสหรัฐ สก็อตต์ โอ’เกรดี้ แต่พวก กลับบิดเบือนข้อเท็จจริงมากเกินไป และโอ’เกรดี้รู้สึกว่าภาพยนตร์เรื่องนี้ทำให้ตัวเอก (โอเวน วิลสัน) มีทัศนคติแย่ๆ ในช่วงต้นเรื่องและไม่เชื่อฟังคำสั่ง…ซึ่งต่างจากโอ’เกรดี้ในชีวิตจริง นอกจากนี้ ภาพยนตร์เรื่องนี้ยังเปลี่ยนแปลงข้อเท็จจริงหลายอย่างด้วย โดยเปลี่ยนเครื่องบินเป็นเครื่องบินสองที่นั่งของกองทัพเรือ (F-18 Super Eagle) ที่บินจากเรือบรรทุกเครื่องบินแทนที่จะเป็นเครื่องบินที่นั่งเดียวที่โอ’เกรดี้บินจากฐานทัพอากาศ ถึงอย่างนั้น ภาพยนตร์เรื่องนี้ก็ค่อน น่าตื่นเต้นและคุ้มค่าแก่การรับชม
เรื่องราวเริ่มต้นบนเรือบรรทุกเครื่องบินของสหรัฐ ร้อยโทเบอร์เน็ตต์ (วิลสัน) รู้สึกหงุดหงิดที่ต้องบินเครื่องบินในช่วงหยุดยิงปี 1995 เหนือดินแดนที่เคยเป็นยูโกสลาเวีย เนื่องจากพวก เพียงแค่บินเครื่องบินลาดตระเวน…และหลีกเลี่ยงการสู้รบกับชาวบอสเนีย หลังจากยื่นคำร้องขอปลดประจำการจากกองทัพเรือ พลเรือเอก (จีน แฮ็กแมน) ก็ตำหนิเบอร์เน็ตต์และมอบหมายหน้าที่พิเศษให้ ..ในกรณีนี้คือภารกิจลาดตระเวนในวันคริสต์มาส
แต่โชคร้ายที่เครื่องบินสองที่นั่งลำนี้ถูกชาวเซิร์บยิงตก…ซึ่งถือเป็นการละเมิดข้อตกลงหยุดยิง หลังจากนักบินและนักเดินเรือดีดตัวออก ชาวเซิร์บก็ประหารชีวิตนักบิน…และเบอร์เน็ตต์ นักเดินเรือก็สามารถหลบหนีออกมาได้ และส่วนที่เหลือของภาพยนตร์เป็นเรื่องเกี่ยวกับชาวเซิร์บที่พยายามฆ่าเบอร์เน็ตต์เนื่องจากข้อมูลที่ ได้รับจากภารกิจเกี่ยวกับการเคลื่อนพลและการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ เพื่อหลีกเลี่ยงความตาย เบอร์เน็ตต์จึงบินหลายไมล์เหนือดินแดนที่เป็นศัตรูเพื่อความปลอดภัย
เมื่อฉันดูหนังเรื่องนี้ ฉันก็พบว่าหนังเรื่องนี้มีจุดประสงค์เพื่อสร้างความตื่นเต้นให้กับผู้ชมโดยแลกกับสามัญสำนึก…โดยเฉพาะตอนจบของหนัง การเห็นพลเรือเอกบินเฮลิคอปเตอร์ในภารกิจกู้ภัยดูโง่เง่ามาก และกองทัพเรือสหรัฐฯ คงไม่มีทางเสี่ยงให้ผู้บังคับบัญชาทำหน้าที่นี้แน่ๆ นอกจากนี้ยังมีฉากเสี่ยงๆ ในตอนท้ายซึ่งดูไม่ค่อยสมเหตุสมผลด้วย น่าตื่นเต้นไหม? ใช่…แต่ต้องแลกมาด้วยความสมจริง ในความเป็นจริง เฮลิคอปเตอร์และเครื่องบินขับไล่ของนาวิกโยธินมีส่วนร่วมในภารกิจนี้ (หนังเรื่องนี้ฉายแค่เฮลิคอปเตอร์เท่านั้น ซึ่งดูโง่เง่ามากที่บิน ไปในดินแดนอันเป็นศัตรู ทั้งๆ ที่บรรทุกเครื่องบินไว้เต็ม!)
อ้อ และถึงแม้จะไม่สำคัญอะไรมาก แต่หนังเรื่องนี้ถ่ายทำในช่วงคริสต์มาส และเครื่องบินของโอ’เกรดี้ถูกยิงตกเมื่อประมาณเดือนมิถุนายน
โดยรวมแล้วเป็นหนังที่สนุกดีที่จะดู แต่อย่าถือเป็นบทเรียนประวัติศาสตร์