อ่านรีวิวก่อน ดูหนัง
ทายาทนักแสดงผู้หลงใหลในศิลปะการละคร
เบเนดิกต์ ทิโมธี คาร์ลตัน คัมเบอร์แบตช์ เกิดเมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม 1976 ที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ในครอบครัวนักแสดงอย่างแท้จริง โดยมีพ่อคือ ทิโมธี คาร์ลตัน และแม่คือ แวนด้า เวนแธม ซึ่งทั้งคู่เป็นนักแสดงที่มีชื่อเสียงในอังกฤษ การเติบโตมาท่ามกลางสภาพแวดล้อมของวงการบันเทิง ทำให้เขาซึมซับและหลงใหลในศิลปะการแสดงมาตั้งแต่เยาว์วัย
เขาได้รับการศึกษาจากโรงเรียนชั้นนำอย่าง Harrow School ที่นี่เองที่เขาได้เริ่มฉายแววการแสดงบนเวทีละครของโรงเรียน ก่อนจะตัดสินใจเลือกเส้นทางสายนี้อย่างแน่วแน่ โดยเข้าศึกษาต่อด้านการละครที่ มหาวิทยาลัยแมนเชสเตอร์ (University of Manchester) และศึกษาต่อระดับปริญญาโทด้านการแสดงคลาสสิกที่ London Academy of Music and Dramatic Art (LAMDA) ซึ่งเป็นสถาบันการแสดงอันทรงเกียรติที่สุดแห่งหนึ่งของโลก
บทบาท “Sherlock” ที่เปลี่ยนชีวิตและสร้างปรากฏการณ์
แม้จะสั่งสมประสบการณ์ทั้งจากละครเวที, โทรทัศน์, และภาพยนตร์มาพอสมควร แต่บทบาทที่ทำให้ชื่อของ เบเนดิกต์ คัมเบอร์แบตช์ โด่งดังเป็นพลุแตกและกลายเป็นที่รู้จักไปทั่วโลกก็คือ “เชอร์ล็อก โฮล์มส์ (Sherlock Holmes)” ในซีรีส์ของ BBC เรื่อง Sherlock (2010–2017)
คัมเบอร์แบตช์ได้ตีความยอดนักสืบในตำนานให้กลายเป็นเวอร์ชันของยุคศตวรรษที่ 21 ได้อย่างสมบูรณ์แบบ ทั้งความฉลาดหลักแหลม, ความเย่อหยิ่ง, ความแปลกแยก และเสน่ห์อันร้ายกาจ ทำให้ตัวละครนี้มีมิติและน่าหลงใหลอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ซีรีส์เรื่องนี้ประสบความสำเร็จอย่างถล่มทลายและส่งให้เขาคว้ารางวัลเอมมี่ (Emmy Award) สาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยมมาครองได้สำเร็จ
สู่การเป็นดาวเด่นแห่งฮอลลีวูดและจอมเวทย์แห่งจักรวาล MCU
ความสำเร็จจาก Sherlock ได้เปิดประตูสู่ฮอลลีวูดให้กับเบเนดิกต์อย่างเต็มตัว เขากลายเป็นนักแสดงที่เป็นที่ต้องการมากที่สุดคนหนึ่งของวงการ และได้พิสูจน์ฝีมือผ่านบทบาทที่หลากหลายและท้าทายความสามารถอย่างต่อเนื่อง
ผลงานภาพยนตร์ระดับมาสเตอร์พีซ:
The Imitation Game (2014): บทบาทที่ทำให้เขาได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ สาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยม กับการสวมบทเป็น “อลัน ทัวริง” นักคณิตศาสตร์อัจฉริยะผู้ถอดรหัสอีนิกมาและช่วยให้ฝ่ายสัมพันธมิตรชนะสงครามโลกครั้งที่ 2
IMDb: 8.0/10Rotten Tomatoes: 90%
Doctor Strange (2016 – ปัจจุบัน): บทบาทที่ทำให้เขากลายเป็นซูเปอร์สตาร์ระดับโลก กับการเป็น “ด็อกเตอร์ สตีเฟ่น สเตรนจ์” จอมเวทย์สูงสุดแห่งจักรวาลภาพยนตร์มาร์เวล (MCU) เขาถ่ายทอดบทบาทศัลยแพทย์ผู้เย่อหยิ่งที่ต้องสูญเสียทุกอย่างก่อนจะค้นพบเส้นทางใหม่ในโลกแห่งเวทมนตร์ได้อย่างน่าประทับใจ
IMDb (Doctor Strange 2016): 7.5/10Rotten Tomatoes: 89%
The Power of the Dog (2021): พลิกบทบาทครั้งสำคัญสู่ “ฟิล เบอร์แบงก์” คาวบอยผู้แข็งกร้าวและซับซ้อน การแสดงอันทรงพลังนี้ส่งให้เขาได้เข้าชิงรางวัลออสการ์เป็นครั้งที่สอง และได้รับคำชมอย่างเป็นเอกฉันท์จากนักวิจารณ์ทั่วโลก
IMDb: 6.8/10Rotten Tomatoes: 94%
The Hobbit Trilogy (2012-2014): แม้จะไม่เห็นหน้า แต่เสียงอันทรงพลังของเขาก็ได้สร้างชีวิตให้กับมังกร “สม็อก” (Smaug) และจอมขมังเวทย์ “เนโครแมนเซอร์” (The Necromancer) ได้อย่างน่าเกรงขาม
แนะนำผลงานที่คล้ายกัน
สำหรับแฟนๆ ที่ชื่นชอบการแสดงอันลุ่มลึกและบทบาทอัจฉริยะของ เบเนดิกต์ คัมเบอร์แบตช์ เราขอแนะนำผลงานเหล่านี้ให้คุณไปติดตามต่อที่ Movie24HD :
A Beautiful Mind (2001): ภาพยนตร์ชีวประวัติของ จอห์น แนช นักคณิตศาสตร์รางวัลโนเบลผู้ต่อสู้กับโรคจิตเภทThe Theory of Everything (2014): เรื่องราวชีวิตและความรักของ สตีเฟน ฮอว์คิง นักฟิสิกส์ชื่อก้องโลก นำแสดงโดย เอ็ดดี้ เรดเมย์นHouse, M.D. (2004-2012): ซีรีส์การแพทย์ที่ตัวเอกอย่าง “ดร.เฮาส์” มีความอัจฉริยะและแปลกแยกไม่แพ้เชอร์ล็อก โฮล์มส์
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
Q: พ่อแม่ของ เบเนดิกต์ คัมเบอร์แบตช์ เคยแสดงในซีรีส์ Sherlock หรือไม่?
A: ใช่, ทิโมธี คาร์ลตัน และ แวนด้า เวนแธม พ่อและแม่ผู้เป็นนักแสดงจริงๆ ของเขา ได้มารับบทเป็นพ่อและแม่ของเชอร์ล็อกในซีรีส์ด้วย เป็นโมเมนต์ที่น่ารักและอบอุ่นสำหรับแฟนๆ
Q: เบเนดิกต์ คัมเบอร์แบตช์ ได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์หรือไม่?
A: ใช่, ในปี 2015 เขาได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้น Commander of the Order of the British Empire (CBE) จากสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 เพื่อเป็นการยกย่องคุณูปการที่เขาสร้างไว้ให้แก่วงการศิลปะการแสดงและงานการกุศล
Q: จะหาชมผลงานของ เบเนดิกต์ คัมเบอร์แบตช์ ได้ที่ไหน?
A: คุณสามารถดำดิ่งสู่โลกการแสดงอันน่าทึ่งของ เบเนดิกต์ คัมเบอร์แบตช์ ได้ง่ายๆ ที่ https://www.movie24hd.com/ เราได้รวบรวมผลงานเด่นๆ ของเขาไว้ให้คุณได้รับชมอย่างครบครัน
ผลงานภาพยนตร์ ในส่วนภาพยนตร์ ปี 2011 ถอดรหัสสายลับพันหน้า รับบทเป็นปีเตอร์ กวิลเลม ปี 2013 ได้รับบทเป็นข่าน ในเรื่อง สตาร์ เทรค ทะยานสู่ห้วงมืด และมังกรสเมาก์ ในเรื่อง เดอะฮอบบิท ดินแดนเปลี่ยวร้างของสม็อค ในปี 2014 ได้รับบทเป็นวิลเลียม ฟอร์ด ในเรื่อง ปลดแอก คนย่ำคน อลัน ทูริ่ง ในเรื่อง ถอดรหัสลับ อัจฉริยะพลิกโลก ในปี 2015 เบเนดิกต์แสดงละครเวทีเรื่อง แฮมเลต ซึ่งเป็นหนึ่งในผลงานที่มีชื่อเสียงของเชกสเปียร์ โดยรับบทเป็น เจ้าชายแฮมเลต ที่โรงละคร Barbican ในกรุงลอนดอน
Patrick Melrose
Patrick Melrose เป็นมินิซีรีส์ดราม่าทางโทรทัศน์ นำแสดงโดย Benedict Cumberbatch ซีรีส์เรื่องนี้ดัดแปลงมาจากนวนิยายกึ่งอัตชีวประวัติของ Edward St. Aubyn
The Courier (2020)
ในปี 1960 โอเล็ก เพนคอฟสกี้ เจ้าหน้าที่ระดับสูงของโซเวียตและเจ้าหน้าที่ข่าวกรองของ GRU ที่สามารถเข้าถึงข้อมูลนิวเคลียร์ที่เป็นความลับระดับสูง รู้สึกผิดหวังกับความเป็นผู้นำของครุสชอฟเมื่อพิจารณาจากภัยคุกคามของสงครามนิวเคลียร์กับสหรัฐอเมริกาที่เพิ่มมากขึ้น เขาจึงติดต่อ CIA และเสนอที่จะให้ข้อมูลที่อาจช่วยลดระดับสถานการณ์ CIA และ MI6 ตัดสินใจว่าจะดีกว่าหากไม่ใช้เจ้าหน้าที่ และให้นักธุรกิจทั่วไปทำหน้าที่เป็นคนกลางแทน
The Power of the Dog (2021)
ในปีพ.ศ. 2468 ในรัฐมอนทาน่า ฟิลและจอร์จ เบอร์แบงก์ สองพี่น้องเจ้าของฟาร์มปศุสัตว์ผู้มั่งคั่งได้พบกับโรส กอร์ดอน ภรรยาม่ายและเจ้าของโรงเตี๊ยมระหว่างการต้อนสัตว์ จอร์จผู้มีจิตใจดีตกหลุมรักโรสทันที แต่ฟิลผู้หยาบคายและอารมณ์ร้ายกลับไม่ชอบเธอ โดยคิดว่าเธอต้องการเพียงเงินของจอร์จเท่านั้น ฟิลยังดูถูกปีเตอร์ ลูกชายวัยรุ่นของเธอ โดยเยาะเย้ยว่าเขาอ่อนแอและอ่อนแอ
ด็อกเตอร์ สเตรนจ์ต้องไปขอความช่วยเหลือจากพันธมิตรหน้าเก่าและหน้าใหม่ระหว่างออกเดินทางสู่เส้นความจริงอื่นๆ ที่เต็มไปด้วยอันตรายและเรื่องน่าฉงน เรื่องราวเปิดมาด้วยตัวละครใหม่อย่างอเมริกาชาเวซ (รับบทโดย โซชิตล์ โกเมซ) เด็กหญิงจากต่างจักรวาล ที่มีพลังในการเดินทางข้ามจักรวาล และมีคนที่อยากจะได้พลังในการเดินทางข้ามจักรวาลของเธอ ทำให้เธอต้องถูกไล่ล่าจากจักรวาลอื่น สุดท้ายเธอได้หนีเข้ามาในจักรวาลหลัก และได้เจอกับ ดร.สเตรนจ์ จากนั้น ดร.สเตรนจ์ ก็ได้ยื่นมือเข้าช่วยเธอ ซึ่งได้รู้ว่าแท้จริงแล้วคนที่อยากช่วงชิงพลังของเด็กสาวก็คือ วานด้า แม็กซิมอฟฟ์ หรือ สการ์เล็ตวิทช์ (รับบทโดย อลิซาเบธ โอลเซ่น) เนื่องจากเธออยากเดินทางข้ามจักรวาลไปอยู่ในจักรวาลอื่นที่เธอมีลูก เพราะเธอเสียใจที่เสียลูกไปในซีรีส์ WandaVision (2021) ซึ่งในตอนท้ายของซีรีส์เธอได้ทำการฝึกวิชาต้องห้าม ทำให้ในภาคนี้เธอมีพลังมากกว่าเดิมเพราะฝึกวิชาห้ามสำเร็จ สุดท้ายแล้ว ดร.สเตรนจ์ และอเมริกาชาเวซจะสามารถรับมือกับ สการ์เล็ตวิทช์ ได้หรือไม่และสุดท้ายเรื่องราวจะจบลงอย่างไร
