ดูหนัง Double World (2019) พิภพสองหล้า
ตงอีหลง หนุ่มชาวบ้านที่ตั้งใจจะนำเกียรติยศมาสู่พวกพ้องออกเดินทางที่เสี่ยงอันตรายเพื่อไปแข่งคัดเลือกนักรบที่จะได้ออกศึก บอกเล่าเรื่องราวของแคว้นจ้าวและแคว้นเหยียนที่เคยทำสงครามกันเมื่อนานมาแล้ว แต่เมื่อศึกครั้งนั้นสงบลง แคว้นต่างๆก็เหมือนจะแยกจากกันเป็นเอกเทศจนเมื่อ เกิดเหตุการณ์ลอบปลงพระชนม์ฮ่องเต้ ทำให้ท่านราชครูได้ส่งสารออกไปยัง 8 แคว้นทั่วอาณาจักรเพื่อให้ส่งนักรบมากฝีมือเข้ามาร่วมประลองเพื่อชิงชัยตำแหน่งแม่ทัพใหญ่แห่งแคว้นขึ้น ตงอี้หลง (เฮนรี่ หลิว) ฉู่หวน (ปีเตอร์ โฮ) และจิงกัง (เฉินฮาน หลิน) จะต้องรวมทีมเฉพาะกิจเพื่อเข้าร่วมประลองในครั้งนี้ ในฐานะตัวแทนพรรคชิงหยวน Double World (2019) พิภพสองหล้า
อ่านรีวิวก่อน ดูหนังนักแสดง
Henry Lau เฮนรี หลิว
Peter Ho เหอ รุ่นตง
Chenhan Lin เฉินหาน หลิน
ผู้กำกับ : เท็ดดี้ เฉิน
รีวิว
อย่างที่เราบอกมาหลายครั้งว่าช่วงนี้เราดูซีรีย์เกาหลีหนักมาก แต่ถึงกระนั้นเรายังแอบปันใจไปดูหนังที่มีความน่าสนใจอยู่บ้างถ้ามี และด้วยพื้นฐานการดูหนังของเรามันมาจากความสุขที่ได้ซ้อนท้ายจักรยานพ่อไปดูหนังขายยาที่ลานวัด Double World (2019) พิภพสองหล้า ซึ่งสมัยนั้นหนังที่ได้ใจผู้ชมและการันตีจำนวนคนว่าเต็มลานวัดแน่นอนมีสองอย่างคือหนังไทยยิงภูเขาเผากระท่อมและ #หนังจีน ที่เราดูตอนกลางคืนแล้วจะมีเรื่องไปเม้าท์มอยกับเพื่อนๆในห้องเรียนในตอนเข้าแบบใครไม่ได้ไปดูมึงจะกลายเป็นส่วนเกินในทันที ดังนั้นคนที่ตามงานเขียนของเรามานานจะพอทราบว่าเราเติบโตมากับหนังจีน(ฮ่องกง) ได้ก้าวพ้นวัยมากับหนังจีน ก่อนที่จะเริ่มเปิดโลกทัศน์ในการชมภาพยนตร์มากขึ้นและได้ขายวิญญาณให้กับเทพเจ้าแห่งจอเงินในเวลาต่อมา ซึ่งนับได้ว่าหนังจีนมีอิทธิพลอย่างสูงในการเป็นผู้งมงายในภาพยนตร์ของเรา และเราไม่สามารถที่จะละเลยงานที่พูดภาษาจีน(พากย์ไทย)ได้เลย ทุกครั้งที่มีงานที่น่าสนใจเราจะติดตามเสมอมา
แต่น่าเสียดายที่ระยะหลังๆแม้ว่าหนังจีนจะพัฒนาเรื่องของบทและชั้นเชิงขึ้นมาก แต่ช่องทางและความหลากหลายในยุคหลังๆน้อยลงอย่างน่าตกใจเอาชนิดที่ว่าหาดูยากขึ้น แต่กระนั้นเมื่อมีงานที่น่าสนใจเข้ามาไม่ว่าช่องทางไหน เราไม่เคยที่จะละเลยแล้วต้องดูทุกเรื่องเท่าที่มีเวลาและน่าสนใจ อย่างเช่นหนังแฟนตาซีฟอร์มมหึมาจากจีนผ่นดินใหญ่เรื่องนี้ที่เราดูหน้าหนังแล้วน่าสนใจในฟอร์มการสร้างและชื่อผู้กำกับแม้ว่าเราจะไม่รู้จักดาราที่แสดงเลยสักคนก็ตาม แต่เมื่อมันเป็นหนังจีนเราก็ยังต้องดู อนึ่ง เราเป็นคนไม่เล่นเกมและไม่เคยรู้จักเนื้อหาหรือตัวละครในเกมนี้เลย บทความนี้จึงเขียนจากพื้นฐานความเป็นภาพยนตร์ล้วนๆ #DoubleWorld
หลังการศึกระหว่างแคว้นเหยียนกับแคว้นจ้าว แผ่นดินจ้าวอยู่ด้วยความสงบสุขมานาน แต่เมื่อมีเหตุการณ์ลอบปลงพระชนม์ฮ่องเต้แคว้นจ้าวโดยทูตของแคว้นเหยียน ราชครูจึงแนะนำให้เปิดศึกอีกครั้ง และได้ส่งจดหมายเชิญไปยังพรรคต่างๆในแผ่นดินให้ส่งนักสู้มาพรรคละ 3 คนเพื่อประลองคัดเลือกผู้ที่จะเป็นแม่ทัพนำทัพไปถล่มแคว้นเหยียนให้ราบคาบ #ตงอี้หลง เจ้าของฉายา #เด็กนอกคอก กับ #ฉู่หวน ทหารหนีทัพกับมิตรสหายอีกคน(ตัวละครรอตายจำชื่อไม่ได้)จึงอาสาเป็นตัวแทนพรรคชิงหยวนเพื่อเข้าร่วมประลอง ระหว่างทางหนึ่งในสามต้องตายไปก่อนจึงเหลือเพียงสองคนเข้าเมือง และเมื่อกฏการประลองกำหนดให้มีสมาชิกสามคนอี้หลงกับฉู่หวนจึงไม่มีทางเลือกที่จะรับ #จิงกัง
สาวน้อยผู้แบกดาบยักษ์เข้าร่วมทีม แต่ราชครูที่แท้จริงคือสายลับของแคว้นเหยียนแฝงตัวมาตั้งยี่สิบปี(ตามฟอร์ม)เพื่อวางแผนการใหญ่ในครั้งนี้ การประลองจึงเป็นหน้าฉากสำหรับแผนการใหญ่เท่านั้น และเรื่องราวก็เดินตามครรลองของหนังที่สร้างมาจากเกมเมื่อตัวละครเอกต้องผ่านด่านต่างๆตามเลเวล และนำไปสู่ฉากไคลแมกซ์ที่สุดอลังการ บนพื้นฐานของความเป็นหนังจีนที่คุ้นชิน หากแต่งานนี้มีงานทางด้าน CG เป็นตัวนำทำให้บกพร่องเรื่องของอารมณ์ร่วมเชิงลึก แต่ถ้าวัดกันที่ความสนุก ถือว่าจัดมาอย่างพอตัว
ความที่เมื่อเราดูฟอร์มของตัวหนังและชื่อผู้กำกับมันกระตุ้นความอยากดูให้เราอย่างถึงขนาด ฟอร์มหนังอาจมีผลไม่มากแต่ชื่อผู้กำกับมีแน่ เนื่องเพราะนี่คืองานของเท็ดดี้ เฉิน หรือ #เฉินเต๋อเซิน เจ้าของผลงานอย่าง Bodyguards And Assassins (5 พยัคฆ์พิทักษ์ซุนยัดเซ็น ในปี 2009)ที่จัดว่าเป็นหนึ่งในงานที่เราชื่นชอบมากสำหรับหนังจีนยุคหลังปี 2000 (แล้วค่อยเขียนถึงวันหลัง) ซึ่งเมื่อเราดูจบเราคิดว่ายังห่างชั้นและไม่ไกล้เคียงกับระดับนั้นเลย ความคิดของเราคือหนังพยายามขายความเป็นซีจีมากเกินไปทำให้มิติของบทออกมาแบนราบทั้งที่โครงเรื่องค่อนข้างดี ด้วยความเป็นหนังจีนตามขนบที่คนดูหนังจีนคุ้นชิน เรื่องของการแย่งชิงกันระหว่างแคว้น การแฝงตัวเป็นสายลับจนได้รับความไว้ใจ
พระเอกที่เป็นเด็กกำพร้าที่มีปูมหลังเป็นปริศนา บุญคุณความแค้น การแย่งชิงบัลลังก์ Double World (2019) พิภพสองหล้า ตัวร้ายที่เป็นผู้ครอบงำองค์ฮ่องเต้ เรื่องราวเหล่านี้คนดูหนังจีนได้เห็นกันมาจนคุ้นชิน แต่บทก็มีดีพอที่วางโครงเรื่องเป็นเส้นตรงตามนี้ และเล่าได้อย่างไม่เป๋และไม่ออกนอกทาง เพียงแต่มิติเชิงลึกของบทสอบตกเพราะบทไปไม่สุดในเรื่องของพื้นฐานของตัวละครทั้งที่มีเวลาฉายเกือบๆสองชั่วโมง แม้จะพยายามปูเหตุผลของการกระทำและการตัดสินใจแต่ก็ยังน่ากังขา ส่วนเรื่องความสัมพันธ์และมิตรภาพก็บางเบาจนรู้สึกได้ว่ามันง่ายเกินไปที่จะรักกันจนกระทั่งตายแทนได้ขนาดนั้น ถ้านั่นยังไม่พอความพยายามใส่ความโรแมนติกมาบ้างก็บางเบาเหลือเกิน ทั้งการพยายามใส่อารมณ์ขันที่ไม่ได้ผลเอาเสียเลย
ง่ายๆก็คือเส้นเรื่องเล่าแบบตรงๆอย่างดีจริงแต่ประเด็นที่สอดแทรกเข้ามามันไม่มีพลังและน้ำหนักให้คนดูเชื่ออย่างสนิทใจมันเลยทำให้ผู้ชมขาดอารมณ์ร่วมหรือจะว่าไปก็คือไม่เอาใจช่วยเข้าไปนั่น มันเลยกลายเป็นหนังที่เป็นความบันเทิงอย่างเต็มเปี่ยมแต่ขาดอารมณ์เชิงลึก แต่สิ่งที่น่าชื่นชมคือถ้ามองข้ามเรื่องมิติเชิงอารมณ์ที่ผู้ชมเอาใจออกห่างตัวละครแล้ว หนังจัดความบันเทิงมาอย่างเต็มที่และซื่อตรงที่จะขายความบันเทิงนั้น แน่นอนว่าเมื่องานมันออกมาเป็นแฟนตาซีงานซีจีต้องมาก่อนอยู่แล้วซึ่งเรามองว่างานด้านซีจีต้องยกนิ้วให้อย่างที่สุด แรกเลยคือเรื่องของฉากที่เมื่อเราได้ดูเราไปนึกถึงงานอย่าง Alita : Battle Angle (2019) ที่สร้างฉากหลังอย่างอลังการชนิดไม่รู้เลยว่าอันไหนจริงอันไหนซีจีประมาณนั้นเลย
ยอมรับว่างานส่วนนี้ยอดเยี่ยมมาก ส่วนงานซีจีที่ต้องเคลื่อนไหวอย่างในฉากต่อสู้หรือสัตว์ประหลาดยังมีบ้างที่ลอยๆ อีกอย่างที่เพิ่มดีกรีความสนุกขึ้นคือการเดินเรื่องในความเป็นเกมที่ต้องผ่านด่านผ่านเลเวลต่างๆที่จัดว่าได้ผล ทั้งการประลองและการต่อสู้กับอสุรกายเรื่อยไปจนการต่อสู้กับบอส ที่ต้องยอมรับว่าจังหวะจะโคนถูกต้องมาในเวลาที่เหมาะสมและการออกแบบการต่อสู้ที่ทำให้ผู้ชมสนุกและดูได้เรื่อยๆสำหรับผู้ที่ชื่นชอบความเป็นแฟนตาซีและความบันเทิงที่จัดว่าได้อย่างถึงฟอร์มที่แม้แต่คนดูที่เรื่องมากอย่างเรายังดูสนุกแม้ว่าจะไม่ถึงขนาดลุ้นจนเยี่ยวเล็ดและหลับไปหนึ่งงีบแต่เมื่อตื่นมาย้อนดูยังสนุกอยู่พอประมาณแบบดูได้เรื่อยๆไม่ถึงกับต้องใช้ความอดทนในการรับชม
อยางที่เราบอกว่าโครงเรื่องซื่อตรงดี และยึดมั่นในสิ่งที่ตัวเองต้องการจะขายและมันก็ได้ผลในเรื่องของงานซีจีและการต่อสู้ที่ดูสนุกพอได้ แต่ด้วยความที่มิติในบทมันเบาบางเลยไม่ได้ใจผู้ชมกลายเป็นความบันเทิงระดับธรรมดาสำหรับเรากับการดูผ่านจอเล็กที่บ้าน แต่เราค่อนข้างแน่ใจว่าถ้าเรื่องนี้ได้ดูบนจอใหญ่และการให้เสียงพากย์ที่เหมาะสมอรรถรสในการรับชมจะเพิ่มขึ้นเพราะความอลังการงานสร้างของหนังที่จัดหนักจัดเต็ม ภาพสวยเสียงกระหึ่มและการชมในโรงที่ปิดสนิทช่วยได้มากเรื่องอารมณ์ แต่พอมาดูผ่านทีวีที่บ้านที่มีปัจจัยต่างๆนาๆที่จะดึงสมาธิผู้ชมเลยทำให้อรรถรสในการรับชมลดลง และด้วยความซื่อตรงนั้นมันส่งผลอย่างแรงให้ตัวเรื่องไม่มีจุดพลิกผันใดๆ ไปตรงๆเดาง่ายๆทำให้นอกจากฉากต่อสู้และงานด้านเทคนิคที่สุดจัดแล้วไม่มีอะไรกระชากอารมณ์ผู้ชมเลย และแม้จะใส่ความเป็นดราม่ามาเข้ามาบ้างแต่ด้วยพื้นฐานของตัวละครและความสัมพันธ์มันเบาบางผู้ชมเลยไม่อิน และมันกลายเป็นความราบเรียบไปในตัวเรื่อง
สำหรับเราแล้วความผิดพลาดอย่างใหญ่หลวงของการดูหนังเรื่องนี้คือการที่เราดูทันทีหลังจากที่เราดูซีรีย์เกาหลีอย่าง Doctor Prisoner จบแบบดูต่อกันมันเลยทำให้เราที่กำลังรู้สึกไปสุดๆกับการแสดงของเหล่านักแสดงในซีรีย์เรื่องที่ว่า แล้วพอมาดูหนังเรื่องนี้กลายเป็นนักแสดงที่แสดงเรื่องนี้แทบจะเรียกได้ว่าสอบเกือบตกแบบกราวรูด ทั้งนี้เราค่อนข้างแน่ใจว่าบทมันไม่ส่งด้วยเหตุผลของการที่มิติของตัวละครไม่ได้ลึกมาก ความผิวเผินในพื้นฐานของตัวละครทำให้ไม่ได้ใจผู้ชม ประกอบกับการแสดงที่ยังไม่ดีพอเลยทำให้ผู้ชมไม่มีอารมณ์ร่วม
ตัวละครอี้หลงที่ถูกวางเป็นคนทะเล้นจิตใจดีก็ไม่สุด อารมณ์ขันไม่ผ่าน ตัวละครฉู่หวนก็ทำหน้าเดียวทั้งเรื่อง ไม่ต้องไปถามหาการแสดงอารมณ์ผ่านสีหน้าแววตา ยิ่งการพยายามใส่ความโรแมนติกผ่านตัวละครนางทาสยิ่งเบาหวิว หรือพูดอีกอย่างว่าดารานำขาดพลังดาราที่จะยกระดับมิติของตัวละครที่ตัวเองได้รับ ไม่ใช่ว่าแย่มากมายแต่มันธรรมดาเกินไป ธรรมดาจนคิดว่าเอาใครมาเล่นก็คงส่งผลไม่ต่างกัน แต่ที่น่าชื่นชมคือตัวละครแม่นางจิงกังที่ดูน่ารักและเปี่ยมเสน่ห์แต่หนังก็ใจร้ายกับผู้ชมเกินไปหน่อย แต่ก็อย่างว่าหนังไม่ได้พยายามชูเรื่องนี้อยู่แล้วถ้าดูไปพร้อมจิตใจปล่อยวางมันก็สนุกในแนวทางของมัน ไม่ได้เลวร้ายแต่มันก็ยังไม่สุดในทุกมิติเท่านั้น
ความจริงมันคือหนังที่สนุกนะ สนุกตามแนวทาง เพราะแนวทางของมันต้องมาทางนี้อยู่แล้ว Double World (2019) พิภพสองหล้า และซื่อตรงที่จะขายในสิ่งที่อยากขาย แม้จะมีรอยรั่วมากมายแต่เรื่องยังเดินไปอย่างเป็นเส้นตรงและทำให้มันเข้าถึงง่าย ซึ่งในขณะนี้คนรักหนังตัวเล็กที่บ้านยังไม่ได้ดูเพราะยังดู Anime เรื่อง Black Cover อย่างติดพันอยู่เลยพิสูจน์ไม่ได้ว่าสำหรับคนดูรุ่นเล็กแล้วเขาจะรู้สึกยังไง เพราะหนังสร้างมาเพื่อผู้ชมทุกวัยอยู่แล้ว ส่วนเรื่องอื่นๆที่เป็นข้อบกพร่องที่เราคิดว่ามันคือความผิดของเราเองที่มองเห็นและไม่ยอมปล่อยวางด้วยความคาดหวังในตัวผู้กำกับ แต่เมื่อมาลองนึกดูแล้วตัดเอาสิ่งที่เรามองเห็นออกแล้วลืมๆมันไป
มันก็สนุกอยู่แม้เราจะเผลอหลับไปหนึ่งงีบก็ตาม อย่างน้อยๆมันก็เป็นหนังที่ดูได้เรื่อยๆมีอะไรมาให้ได้กระตุ้นความตื่นเต้นแม้มันจะไม่ถึงขนาดนั่งไม่ติดเก้าอี้ แต่ก็ได้ผลตามที่หนังต้องการ และมันก็คือหนังที่น่าดูอยู่สำหรับผู้ชมที่ต้องการความบันเทิงล้วนๆไม่ต้องคิดมาก ไม่เอาดราม่า แต่สำหรับเรามันดันเสพงานที่เป็นดราม่ามาซะจนชินมันเลยเป็นสันดานของเราเองที่วางไม่ลง แต่หนังก็มีดีพอที่ทำให้เราสนุกไปกับมันได้และไม่ต้องใช้ความอดทนในการดูให้จบ และยังพร้อมจะแนะนำให้ดูอยู่เพราะมันทำได้อย่างถึงฟอร์มจริงๆสำหรับงานแนวๆนี้จากจีนเรื่องนี้