ดูหนัง Drop Zone (1994) เหินฟ้าปล้นเย้ยนรก
การแหกคุกอย่างกล้าหาญจากเครื่องบินโดยสารที่ระดับความสูง 30,000 ฟุตทำให้จอมพลสหรัฐ พีท เนสซิป โศกเศร้าเสียใจกับพี่ชายและตั้งเป้าแก้แค้น หลังจากได้รับคำสั่งให้ส่งมอบป้ายประจำตัว เขาจึงออกตามหาเจสซี ครอสแมน นักกระโดดร่มชื่อดัง และเสนอที่จะสนับสนุนทีมของเธอสำหรับการแสดงกระโดดร่มประจำปีในวันประกาศอิสรภาพที่วอชิงตัน ดี.ซี. หากเธอฝึกเขาให้ ขณะเดียวกัน ผู้วางแผนเบื้องหลังการแหกคุกกลางอากาศกำลังวางแผนขโมยคอมพิวเตอร์สุดบ้าระห่ำในวันประกาศอิสรภาพ
อ่านรีวิวก่อน ดูหนัง
นักแสดง
Wesley Snipes เวสลีย์ สไนปส์
Yancy Butler แยนซี่ บัทเลอร์
ผู้กำกับ : John Badham
รีวิว
หมื่นทิพ
ผู้ตรวจการสหรัฐพีท เนสซิป (Wesley Snipes) ได้รับมอบหมายให้ไปตามล่าอดีต DEA ไท มอนครีฟ (Gary Busey) ที่ผันตัวไปทำเรื่องผิดกฎหมายเสียเอง โดยงานนี้พีทต้องแทรกซึมไปในหมู่นักโดดร่มมือฉมัง นำโดย เจสซี่ ครอสแมน (Yancy Butler) เพื่อหาทางตามแผนโจรกรรมเหนือฟ้าของไทให้ทัน เป็นอีกหนึ่งหนังบู๊ของพระเอกผิวหมึกที่กำลังมีชื่อในยุคนั้นอย่าง Snipes พี่แกก็แสดงตามถนัดล่ะครับ ออกแนวกวนหน่อย บู๊หนักหน่วง ปนอารมณ์ขัน เห็นว่าตอนแรกเขาจะมอบบทให้ Steven Seagal ด้วยค่าตัวสูงถึง 15 ล้านทีเดียว แต่พี่จอมหักกระดูกของเราหันไปเล่นภาคต่อ Under Siege 2 แทน บทเลยตกมาเป็นของพี่ Snipes
อีกทั้งตอนแรกบทนางเอกจะไม่มีนะครับ บทเจสซี่นั้นจะต้องเป็นผู้ชาย แต่พอทำๆ ไปทีมงานก็เกิดอยากเปลี่ยนบท อาจเพราะตอนแรกที่พี่ซีเก้าจะมาเล่นนั้น สไตล์ของเขาอาจไม่เหมาะที่จะเล่นคู่กับผู้หญิงสักเท่าไร เลยให้ผู้ชายมาเป็นลูกคู่แทน แต่นี่พอ Snipes เข้ามาก็ค่อยน่าลองเปลี่ยนหน่อยครับ เพราะขานี้เข้าคู่กับผู้หญิงได้เหมาะดี แต่ถ้าว่ากันถึงความสนุก ผมก็ว่าพอเพลินสำหรับหนังแอ็คชั่นครับ อาจไม่ได้มันส์อะไรมากแต่ก็ถือว่าพอได้ ในขณะที่พวกฉากเหินฟ้าก็ไม่ได้ท้านรกหรือตื่นเต้นอะไรนัก
งานกำกับของ John Badham จริงๆ ขานี้มักจะทำหนังออกมากลางๆ ครับ เรื่องที่เข้าท่าจริงๆ ก็มี Nick of Time ที่ Johnny Depp เล่นน่ะครับ เรื่องนั้นมันส์และกดดันดีใช้ได้ แล้วก็ Saturday Night Fever, WarGames แล้วก็ Short Circuit นอกนั้นออกแนวเรื่อยๆ ครับ ส่วนรายได้ถือว่าไม่เข้าเป้าครับ ทำเงินไปราว $28 ล้าน ส่วนทุนสร้างปาไป $45 ล้าน ก็น่าจะเข้าเนื้อพอตัว ก็ต้องแล้วแต่ล่ะนะครับ ถ้าชอบพี Snipes เรื่องนี้ก็โอเค แต่ถ้าหวังความมันส์เป็นล่ำเป็นสัน ผมงานชิ้นเก่าของเขาอย่าง Passenger 57 จะตอบโจทย์กว่าครับ