Edward Norton เอ็ดเวิร์ด นอร์ตัน
ประวัติ Edward Norton เอ็ดเวิร์ด นอร์ตัน
Edward Norton เอ็ดเวิร์ด นอร์ตัน นอร์ตันเกิดในบอสตัน แมสสาชูเซต และโตในโคลัมเบีย แมรีแลนด์ จบการศึกษาปริญญาตรีด้านดาราศาสตร์, ประวัติศาสตร์, ภาษาญี่ปุ่น จากมหาวิทยาลัยเยล เขาเริ่มแสดงหนังในปี 1996 ได้แสดงร่วมกับ ริชาร์ด เกียร์ ใน Primal Fear ทำให้เขาได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ในฐานะนักแสดงสมทบยอดเยี่ยม ต่อมาแสดงใน เรื่อง Everybody Says I Love You ของ วู๊ดดี้ อัลเลน และ เรื่อง The People vs Larry Flynt ของ ไมโลส์ ฟอร์แมน โดยทั้งสองเรื่องออกฉายในปี 1996
อ่านรีวิวก่อน ดูหนัง
และต่อมารับบทในเรื่อง American History X ซึ่งเขาโกนศีรษะเพื่อแสดงเป็นพวกสกินเฮด ถึงแม้จะมีคนพูดถึงเรื่องนี้ไม่ดีแต่เขาก็ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์เป็นครั้งที่ 2 ในฐานะนักแสดงนำ ในปี 1999 เขาได้รับเสียงตอบรับที่ดีอย่างมาก เมื่อแสดงนำร่วมกับ แบรด พิตต์ ใน Fight Club และต่อมาเขาเริ่มหันมาทำหน้าที่ผู้กำกับ ใน Keeping the Faith (2000) ซึ่งเขาแสดงนำเองด้วย หลังจากนั้น ร่วมแสดงกับดารารุ่นใหญ่อย่าง โรเบิร์ต เดอนีโร และ มาร์ลอน แบรนโด ใน The Score (2001)รวมถึงได้แสดงเรื่อง 25thhour ในปี2002 ในบทเจ้าพ่อค้ายาเสพติด
ผลงานภาพยนตร์
บรูซ แบนเนอร์ (เอ็ดเวิร์ด นอร์ตัน) นักวิทยาศาสตร์ที่ใช้ชีวิตอยู่ในเงามืด เอาแต่คิดค้นวิธีเยียวยารักษาอารมณ์ ในขณะที่พวกกระหายสงครามไม่ปล่อยให้เขาได้อยู่อย่างสันติกับ เบตตี้ รอส (ลิฟ ไทเลอร์) หญิงคนรักของเขา ส่วนในโลกที่เต็มไปด้วยแสงสีและความเจริญ ดิ แอ็บโดมิเนชั่น (ทิม ร็อธ) ก็ไล่ล่าคุณหมออัจฉริยะอย่างไม่ลดละ เขานี่แหละคืออสรพิษร้ายตัวฉกาจที่จะต่อกรกับฮัลก์ให้ได้ ศึกระหว่างคู่อริจากหนังสือการ์ตูนประทุขึ้นเมื่อ บรูซ แบนเนอร์ จำเป็นต้องอาศัยพลังยอดมนุษย์ในตัวเข้าช่วยมหานครนิวยอร์กที่ถูกถล่มแหลกลาญ นักวิทยาศาสตร์จะต้องจำใจเลือกว่าจะใช้ชีวิตอย่างสงบเป็น บรูซ แบนเนอร์ หรือจะเป็น ฮัลก์ ยักษ์เขียวตัวประหลาดไปตลอดกาล
A Complete Unknown
ในงานเทศกาล Newport Folk Festival เมื่อปีพ.ศ. 2508 บ็อบ ดีแลนในวัยหนุ่มได้สร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับวงการดนตรีโฟล์คด้วยการเปลี่ยนแนวเพลงของเขาเป็นแนวไฟฟ้าและร็อก ซึ่งถือเป็นเสียงของคนรุ่นใหม่ และถือเป็นหนึ่งในช่วงเวลาที่สร้างการเปลี่ยนแปลงมากที่สุดในวงการดนตรีของศตวรรษที่ 20
Motherless Brooklyn
เป็นหนังสืบสวนที่ชวนให้นึกถึงกลิ่นอายแบบหนังนักสืบฟิล์มนัวร์ยุค 50-70’s ประเภทเดินเท้าปลอมตัวสวมรอยขุดคุ้ยด้านดำมืดของเมือง เพียงแต่ในเคสนี้ ‘ไลโอเนล’ (Edward Norton) เป็นแค่ลูกมือในสำนักงานนักสืบ ที่บังเอิญหัวหน้าของเขาไปพัวพันต่อรองแบล็กเมล์แลกผลประโยชน์ก้อนใหญ่จากคณะกรรมการนายกเทศมนตรี จนถูกฆ่าปิดปากโดยไม่ทิ้งเบาะแสอะไรไว้ให้ลูกน้องเลย แถมเขายังเป็นกลุ่มอาการ Tourette Syndrome กล้ามเนื้อกระตุกและอุทานประโยคออกมาโดยควบคุมตัวไม่ได้ แม้จะมีความจำเป็นเลิศก็เถอะ
เอาแบบไม่สปอยล์ ความลับเบื้องหลังก็คุ้มค่าจะอดทนรอหนังเฉลยช่วงท้าย ๆ อยู่นะ รู้สึกว่ามันดูเป็นสไตล์แบบหนังนักสืบยุคก่อนดี ไม่ใช่ประเด็นใหญ่โตอลังการแต่เป็นความลับที่ควรปกปิดเอาไว้ เพียงแต่ระหว่างการขุดคุ้ยดันไปเจอเรื่องอื่นสำคัญไม่แพ้กัน ซึ่งอย่างในเคส Motherless Brooklyn มันคือเจ้านายเจอก่อนแล้วเลือกจะเอาไปหาประโยชน์ใส่ตัวจนชีวิตฉิบหาย ส่วนไลโอเนลแค่ต้องการล้างแค้นให้เจ้านายด้วยการขุดคุ้ยจากข้อมูลเท่าที่มี