ประวัติ Elizabeth Perkins เอลิซาเบธ เพอร์กินส์

Elizabeth Perkinsเอลิซาเบธ เพอร์กินส์: นักแสดงเจ้าบทบาทผู้สร้างสีสันให้ทั้งจอเงินและจอแก้วคือนักแสดงหญิงชาวอเมริกันผู้เป็นที่รักและจดจำจากผลงานอันหลากหลายตลอดระยะเวลากว่า 4 ทศวรรษในวงการบันเทิง ด้วยความสามารถในการสวมบทบาทได้อย่างแนบเนียนทั้งในบทตลกและดราม่า ทำให้เธอสามารถสร้างผลงานที่น่าจดจำได้มากมาย ตั้งแต่ภาพยนตร์คลาสสิกในยุค 80 อย่าง “Big” ไปจนถึงการแสดงอันทรงพลังในซีรีส์ยอดฮิตเรื่อง “Weeds” ที่ส่งให้เธอได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลเอ็มมี่และลูกโลกทองคำ
อ่านรีวิวก่อน ดูหนังชีวิตช่วงต้นและการก้าวสู่โลกการแสดง
เอลิซาเบธ แอน เพอร์กินส์ เกิดเมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน ค.ศ. 1960 ณ ย่านควีนส์ ในนครนิวยอร์ก แต่ไปเติบโตที่รัฐเวอร์มอนต์ บิดาของเธอเป็นนักธุรกิจและนักเขียน ส่วนมารดาเป็นนักเปียโนคอนเสิร์ตและที่ปรึกษาด้านการบำบัดยาเสพติด เธอเริ่มต้นเส้นทางสายการแสดงอย่างจริงจังด้วยการเข้าศึกษาที่ Goodman School of Drama ของมหาวิทยาลัยเดอโปลในชิคาโก ซึ่งเป็นที่ที่เธอได้ขัดเกลาฝีมือและเตรียมความพร้อมสำหรับการเป็นนักแสดงมืออาชีพ
หลังจากสั่งสมประสบการณ์บนละครเวทีในชิคาโก เธอก็ได้ย้ายไปนิวยอร์กในปี ค.ศ. 1984 และเปิดตัวบนเวทีบรอดเวย์ในละครของ นีล ไซมอน เรื่อง “Brighton Beach Memoirs”
แจ้งเกิดบนจอภาพยนตร์กับ “Big”
เพอร์กินส์ประเดิมผลงานภาพยนตร์เรื่องแรกกับ “About Last Night” (1986) แต่บทบาทที่ทำให้เธอกลายเป็นดาวเด่นและเป็นที่รู้จักไปทั่วโลกคือการรับบท “ซูซาน ลอว์เรนซ์” ผู้บริหารสาวสุดเนี้ยบที่ตกหลุมรักกับ จอช บาสกิน (รับบทโดย ทอม แฮงส์) เด็กหนุ่มในร่างผู้ใหญ่ จากภาพยนตร์แฟนตาซี-คอเมดี้สุดคลาสสิกเรื่อง “Big” (1988) เคมีที่ลงตัวระหว่างเธอกับทอม แฮงส์ และเสน่ห์อันชาญฉลาดของเธอ ทำให้บทบาทนี้เป็นที่จดจำและเป็นประตูสู่บทบาทสำคัญอื่นๆ ในเวลาต่อมา
ตลอดช่วงทศวรรษที่ 90 เธอมีผลงานภาพยนตร์ที่โดดเด่นอีกหลายเรื่อง เช่น การรับบทเป็น “วิลม่า ฟลินท์สโตน” ในภาพยนตร์ไลฟ์แอ็คชั่นเรื่อง “The Flintstones” (1994) และบท “ดอรี่ วอล์คเกอร์” ในภาพยนตร์สำหรับครอบครัวเรื่อง “Miracle on 34th Street” (1994) นอกจากนี้ เธอยังได้ให้เสียงพากย์เป็น “คอรัล” แม่ของนีโม ในภาพยนตร์แอนิเมชันระดับตำนานของพิกซาร์เรื่อง “Finding Nemo” (2003)
ความสำเร็จสูงสุดทางโทรทัศน์กับ “Weeds”
แม้จะประสบความสำเร็จในโลกภาพยนตร์ แต่บทบาทที่ได้รับการยอมรับในด้านการแสดงอย่างสูงสุดของเธอมาจากจอแก้ว กับการรับบท “ซีเลีย โฮเดส” (Celia Hodes) เพื่อนบ้านจอมจุ้นจ้าน ปากจัด และเต็มไปด้วยปัญหา ในซีรีส์ตลกร้ายยอดฮิตของช่อง Showtime เรื่อง “Weeds” (2005-2009)
การแสดงของเธอในบทซีเลียนั้นยอดเยี่ยมถึงขนาดที่สามารถขโมยซีนได้เสมอ และได้รับการยกย่องจากนักวิจารณ์อย่างล้นหลาม ส่งผลให้เธอได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลใหญ่มากมาย ทั้งรางวัลเอ็มมี่ (Primetime Emmy Award) ถึง 3 ครั้ง และรางวัลลูกโลกทองคำ (Golden Globe Award) อีก 2 ครั้ง ในสาขานักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยม
ผลงานในปัจจุบันและนักกิจกรรม
เอลิซาเบธ เพอร์กินส์ ยังคงมีผลงานการแสดงคุณภาพออกมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในซีรีส์ทางโทรทัศน์ ซึ่งเธอได้ร่วมแสดงในบทบาทที่น่าจดจำมากมาย เช่น บท “แจ็คกี้ โอนีลล์” ในมินิซีรีส์สืบสวนสอบสวนเรื่อง “Sharp Objects” (2018) ของช่อง HBO และบท “เจเน็ต มาโลน” แม่ของรีเบคก้าในซีรีส์ดราม่าขวัญใจมหาชน “This Is Us” นอกจากนี้เธอยังร่วมแสดงในซีรีส์ตลกอย่าง “The Afterparty” (2022) และ “Minx” (2022)
นอกเหนือจากงานแสดง เพอร์กินส์ยังเป็นนักกิจกรรมตัวยงในการรณรงค์สร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับ โรคเบาหวานชนิด LADA (Latent Autoimmune Diabetes in Adults) ซึ่งเป็นโรคที่เธอได้รับการวินิจฉัยเมื่ออายุ 44 ปี เธอใช้ชื่อเสียงของเธอในการแบ่งปันประสบการณ์และสนับสนุนชุมชนผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 1 อย่างแข็งขัน
เอลิซาเบธ เพอร์กินส์ คือนักแสดงเจ้าบทบาทที่พิสูจน์ให้เห็นถึงความสามารถอันยาวนานและความสามารถในการปรับตัวให้เข้ากับยุคสมัยที่เปลี่ยนไป เธอไม่เพียงแต่สร้างเสียงหัวเราะและความประทับใจผ่านผลงานการแสดง แต่ยังใช้ชีวิตเพื่อสร้างประโยชน์ให้กับสังคมอีกด้วย
ผลงานภาพยนตร์
ดูหนัง Another Simple Favor (2025) เพื่อนหาย อย่าหา 2
สเตฟานี สมาเธอร์ส กับเอมิลี เนลสัน รวมตัวกันอีกครั้งบนเกาะคาปรีอันงดงามในอิตาลีเพื่อร่วมงานแต่งสุดอลังการของเอมิลี่และนักธุรกิจชาวอิตาลีผู้ร่ำรวย ท่ามกลางแขกเหรื่อมากมาย ฆาตกรรมและการหักหลังที่เกิดขึ้นในงานแต่ง ที่มาพร้อมเรื่องหักมุมที่หักโค้งซะยิ่งกว่าถนนจากมารินากรานเดไปยังจตุรัสกลางเมืองคาปรีเสียอีก
โอเค บางทีปี 2025 อาจเป็นปีแห่งการแสดงสองบทบาท นักแสดงเล่นบทบาทมากกว่าหนึ่งบทบาทในภาพยนตร์เรื่องเดียวกัน โรเบิร์ต แพตตินสัน ไมเคิล บี. จอร์แดน โรเบิร์ต เดอ นีโร และตอนนี้ก็มีเบลค ไลฟ์ลี… แน่นอนว่าทั้งหมดอยู่ในสัดส่วนที่เหมาะสม น่าเสียดายที่วลีสุดท้ายเกี่ยวกับสัดส่วนนี้ไม่ถูกใจภรรยาของเดดพูล และนักเขียนของ ก็รู้ดี สิ่งที่พวกเขาอาจไม่รู้ก็คือ นอกจากจะเขียนบทได้ดีแล้ว พวกเขายังต้องกำหนดตัวละครให้ดีด้วย เราต่างก็สนับสนุนการพัฒนาและความลึกของตัวละครในเรื่องราว แต่ไม่มีสิ่งนั้นเลย มีบุคลิกที่ปะปนกัน แรงจูงใจที่ปะปนกัน ความตั้งใจที่ปะปนกัน หรือบางทีก็ขาดสิ่งเหล่านี้ทั้งหมด เมื่อตัวละครประกอบในหนังตลกตลกกว่าตัวเอก เราก็มีปัญหา
บทหนังห่วยมาก มีแหล่งข้อมูลหลายอย่าง แต่ทั้งหมดใช้ไม่ดี แหล่งข้อมูลเหล่านี้ยังทำลายจุดพลิกผันของเนื้อเรื่องที่ผิดพลาดได้ หนังตลกไม่ตลกเลย และสถานที่ถ่ายทำก็ดูแย่มาก ทุกอย่างเกินจริงและแสดงได้แย่ ทุกอย่างซ้ำซากและว่างเปล่า แอนนา เคนดริกแสดงและกำกับเรื่อง Woman of the Hour ได้ดีมาก แต่ในเรื่องนี้เธอดูเหมือนเป็นน้องใหม่ ทำไมเธอต้องพูดเร็วขนาดนี้ด้วยและฉันหวังจริงๆ ว่าระบบเสียงของฉันมีปัญหาระหว่างดูภาพยนตร์ ไม่ใช่เพราะการตัดต่อเสียงมีข้อผิดพลาดที่ฉันสังเกตเห็น เพราะนั่นคงเป็นฟางเส้นสุดท้ายยังไงก็ตาม เป็นหนึ่งในภาพยนตร์ที่แย่ที่สุดที่ฉันเคยดูในปี 2025 นั่นคือสิ่งเดียวที่แน่นอนและแน่นอนที่สุด

Spider-Man: Across the Spider-Verse
บนโลก-65 สไปเดอร์วูแมนเกวน สเตซี่เริ่มแยกตัวจากเพื่อนๆ มากขึ้นเรื่อยๆ และห่างเหินจากจอร์จ ผู้เป็นพ่อของเธอ จอร์จกำลังตามล่าสไปเดอร์วูแมนเพื่อฆ่าปีเตอร์ ปาร์คเกอร์โดยไม่รู้ว่าเป็นอุบัติเหตุหลังจากที่ปีเตอร์กลายเป็นลิซาร์ดเกวนพบกับแร้งน้ำจาก จักรวาลคู่ขนานที่มีธีม ยุคฟื้นฟูศิลปวิทยาของอิตาลีและมิเกล โอฮาร่ากับเจส ดรูว์มาถึงผ่านพอร์ทัลมิติเพื่อช่วยกำจัดเขา จอร์จจับเกวนจนมุม และเธอเปิดเผยตัวตนให้เขาเห็น และเขาพยายามจับกุมเธอ ก่อนที่เธอจะจากไปกับเจสและมิเกลในบรู๊คลินบนโลก-1610 16 เดือนหลังจากที่คิงพินพ่ายแพ้และการทำลาย เครื่องชนอนุภาค อัลเคแมกซ์[ a ] ไมล์ส โมราเลสกำลังมีปัญหากับ
พ่อแม่ของเขาเนื่องจากหน้าที่ของเขาในฐานะสไปเดอร์แมนที่ก้าวก่ายชีวิตส่วนตัวของเขาและถูกกักบริเวณเมื่อเขาไปงานปาร์ตี้ฉลอง การเลื่อนตำแหน่งของ เจฟฟ์ พ่อของเขา เป็นกัปตันตำรวจสาย ไมล์สพบกับสปอตนักวิทยาศาสตร์อัลเคแมกซ์ที่กลายเป็นวายร้ายผู้ซึ่งร่างกายถูกฉีดพอร์ทัลในระหว่างการระเบิด สปอตโทษไมล์สที่ทำให้เขากลายพันธุ์และเปิดเผยว่าแมงมุมกัมมันตภาพรังสีที่กัดไมล์สและมอบพลังให้กับเขามาจากจักรวาลคู่ขนานเอิร์ธ-42ในขณะที่สปอตกำลัง
ทดสอบเครื่องชนอนุภาค สปอตส่งตัวเองเข้าไปในสุญญากาศโดยไม่ได้ตั้งใจและเรียนรู้ที่จะใช้พอร์ทัลของเขาเพื่อเดินทางไปยังจักรวาลอื่นและเสริมพลังให้ตัวเองโดยใช้เครื่องชนอนุภาคอัลเคแมกซ์ในมิติอื่น เกวนเดินทางไปยังมิติของไมล์ส และพวกเขากลับมาติดต่อกันอีกครั้ง แบ่งปันการต่อสู้ของพวกเขาและบอกเป็นนัยถึงความรู้สึกดึงดูดซึ่งกันและกัน

