อ่านรีวิวก่อน ดูหนัง
เจาะลึกประวัติ Ethan Hawke (อีธาน ฮอว์ก) ศิลปินแห่งฮอลลีวูด ผู้ไม่เคยหยุดนิ่งที่บทบาทเดียว
ในวงการฮอลลีวูดที่เต็มไปด้วยซูเปอร์สตาร์ มีนักแสดงอยู่คนหนึ่งที่ยืนหยัดด้วยความสามารถอันหลากหลายและจิตวิญญาณของความเป็นศิลปินอย่างแท้จริง เขาคือ ชายผู้เป็นทั้งนักแสดงที่ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์, นักเขียนนวนิยาย, ผู้กำกับภาพยนตร์ และนักแสดงละครเวที ด้วยผลงานที่ครอบคลุมตั้งแต่หนังโรแมนติกในตำนาน, หนังไซไฟคลาสสิก, ไปจนถึงหนังสยองขวัญที่ชวนขนลุก วันนี้ Movie24HD จะพาคุณไปรู้จักทุกมิติของผู้ชายคนนี้
จาก Dead Poets Society สู่การเป็นไอคอนแห่งยุค 90s
เกิดเมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน 1970 ณ เมืองออสติน รัฐเท็กซัส สหรัฐอเมริกา เขาเริ่มต้นเส้นทางสายการแสดงตั้งแต่อายุ 14 ปี แต่ผลงานที่ทำให้ชื่อของเขาเป็นที่รู้จักไปทั่วโลกคือภาพยนตร์ดราม่าสุดคลาสสิก Dead Poets Society (ครูครับ เราจะสู้เพื่อฝัน) (1989) ในบท “ท็อดด์ แอนเดอร์สัน” นักเรียนขี้อายที่ได้แรงบันดาลใจจากครูจอห์น คีตติ้ง (รับบทโดย โรบิน วิลเลียมส์) ภาพยนตร์เรื่องนี้ประสบความสำเร็จอย่างงดงามและกลายเป็นใบเบิกทางชั้นเยี่ยมให้แก่ ในวงการฮอลลีวูด
หลังจากนั้น เขาก็ได้ตอกย้ำสถานะการเป็นนักแสดงหนุ่มขวัญใจชาว Gen X แห่งยุค 90s ด้วยผลงานอย่าง Reality Bites (1994) และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ภาพยนตร์ไซไฟ-ทริลเลอร์ที่กลายเป็นหนังคัลท์คลาสสิกอย่าง Gattaca (1997) ที่เขาได้แสดงประกบคู่กับ อูมา เธอร์แมน อดีตภรรยา
บทบาทที่อยู่ในความทรงจำ: Jesse แห่งไตรภาค Before
หากจะพูดถึงผลงานที่เปรียบเสมือนลายเซ็นของ คงหนีไม่พ้นบทบาท “เจสซี่” ในภาพยนตร์ไตรภาค Before ของผู้กำกับ ริชาร์ด ลิงเคลเตอร์ ซึ่งประกอบไปด้วย:
Before Sunrise (1995): เรื่องราวการพบกันโดยบังเอิญของนักท่องเที่ยวหนุ่มชาวอเมริกัน (เจสซี่) และนักศึกษาสาวชาวฝรั่งเศส (เซลีน รับบทโดย จูลี เดลพี) ที่ใช้เวลาหนึ่งคืนร่วมกันในกรุงเวียนนา บทสนทนาที่เป็นธรรมชาติและเคมีที่ลงตัวของทั้งคู่ทำให้หนังเรื่องนี้กลายเป็นตำนานหนังโรแมนติกที่อยู่ในใจของใครหลายคน
Before Sunset (2004): การกลับมาพบกันอีกครั้งในอีก 9 ปีให้หลังที่กรุงปารีส ซึ่งในภาคนี้ และจูลีได้ร่วมเขียนบทด้วย และส่งให้พวกเขาได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์สาขาบทภาพยนตร์ดัดแปลงยอดเยี่ยม
Before Midnight (2013): บทสรุปของความสัมพันธ์ในอีก 9 ปีต่อมา ที่พาผู้ชมไปสำรวจความรักในชีวิตจริงที่ไม่ได้มีแต่ความหวานชื่นเพียงอย่างเดียว และพวกเขาก็ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์สาขาบทภาพยนตร์ดัดแปลงยอดเยี่ยมอีกครั้ง
นักแสดงเจ้าบทบาท: การันตีด้วยรางวัลออสการ์
นอกเหนือจากบทบาทหนุ่มโรแมนติก ยังพิสูจน์ตัวเองในฐานะนักแสดงมากฝีมือที่สามารถเล่นได้ทุกบทบาท และได้รับการยอมรับจากเวทีรางวัลใหญ่อย่างออสการ์ถึง 4 ครั้ง (2 ครั้งในฐานะนักแสดง, 2 ครั้งในฐานะผู้เขียนบท)
Training Day (ตำรวจระห่ำ…คดไม่เป็น) (2001): พลิกบทบาทครั้งสำคัญในบท “เจค ฮอยต์” ตำรวจหนุ่มหน้าใหม่ผู้มีอุดมการณ์ ที่ต้องมาประกบกับตำรวจรุ่นพี่สุดฉาว (เดนเซล วอชิงตัน) การแสดงอันทรงพลังในเรื่องนี้ส่งให้เขาได้เข้าชิง รางวัลออสการ์ สาขานักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม เป็นครั้งแรก
Boyhood (บอยฮูด) (2014): โปรเจกต์ภาพยนตร์สุดทะเยอทะยานที่ใช้เวลาถ่ายทำยาวนานถึง 12 ปี เพื่อติดตามชีวิตของเด็กคนหนึ่งจนโตเป็นผู้ใหญ่ รับบทเป็นพ่อของตัวเอก และการแสดงที่เป็นธรรมชาติของเขาก็ส่งให้เขาได้เข้าชิง รางวัลออสการ์ สาขานักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม อีกครั้ง
ศิลปินผู้ไม่หยุดนิ่ง: นักเขียนและผู้กำกับ
ไม่ได้จำกัดตัวเองอยู่แค่หน้ากล้อง เขาคือนักเขียนนวนิยายตัวยง มีผลงานตีพิมพ์มาแล้วหลายเล่ม เช่น “The Hottest State” (ซึ่งเขานำมากำกับเป็นภาพยนตร์เองในปี 2006) และ “Ash Wednesday” นอกจากนี้ เขายังมีผลงานกำกับภาพยนตร์และสารคดีอีกหลายเรื่อง รวมถึงเป็นผู้กำกับละครเวทีอีกด้วย
ในช่วงหลัง เขายังหันมาจับงานแสดงในหนังสยองขวัญและประสบความสำเร็จอย่างสูงใน Sinister (2012) และ The Black Phone (สายหลอน ซ่อนวิญญาณ) (2021) ซึ่งการแสดงเป็น “เดอะแกร็บเบอร์” ฆาตกรสวมหน้ากากของเขาก็ได้รับการชื่นชมว่าน่าขนลุกและน่าจดจำอย่างยิ่ง
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
Q: เคยแสดงในจักรวาลมาร์เวล (MCU) หรือไม่?
A: เคยครับ เขาได้รับบทเป็น “อาเธอร์ แฮร์โรว์” วายร้ายหลักในซีรีส์ Moon Knight (2022) ของ Disney+ ซึ่งเป็นการปรากฏตัวครั้งแรกของเขาในจักรวาล MCU และได้รับเสียงชื่นชมอย่างมาก
Q: หนังเรื่องไหนของ ที่เหมาะสำหรับคนเพิ่งเริ่มติดตามผลงานของเขา?
A: หากคุณชอบแนวโรแมนติก ต้องเริ่มที่ Before Sunrise แต่ถ้าชอบแนวแอ็กชัน-ทริลเลอร์ที่เข้มข้น แนะนำ Training Day แต่ถ้าอยากเห็นการแสดงที่ทรงพลังในหนังสยองขวัญ ต้องไม่พลาด The Black Phone ซึ่งคุณสามารถค้นหาผลงานเด็ดๆ ของเขาได้ที่ https://www.movie24hd.net/
Q: นอกจากงานแสดงแล้ว เขามีผลงานอะไรอีกบ้าง?
A: เขาเป็นทั้งนักเขียนนวนิยาย, ผู้กำกับภาพยนตร์, ผู้กำกับสารคดี (เช่น The Last Movie Stars เกี่ยวกับ พอล นิวแมน และ โจแอนน์ วูดเวิร์ด) และนักแสดงละครเวที เรียกได้ว่าเป็นศิลปินเต็มตัวอย่างแท้จริง
คือบทพิสูจน์ของนักแสดงที่ไม่เคยยึดติดกับความสำเร็จเดิมๆ เขากล้าที่จะทดลองบทบาทใหม่ๆ และทุ่มเทให้กับงานศิลปะในทุกแขนงที่เขารัก ทำให้เขายังคงเป็นนักแสดงที่น่าสนใจและน่าติดตามผลงานมาจนถึงทุกวันนี้
ผลงานภาพยนตร์
ฮอว์กกำกับภาพยนตร์เรื่อง Chelsea Walls (2001), The Hottest State (2006) และBlaze (2018) รวมถึงสารคดีเรื่องSeymour: An Introduction (2014) เขาเป็นผู้สร้าง ร่วมเขียนบท และแสดงเป็นจอห์น บราวน์ในซีรีส์จำกัดของShowtime เรื่อง The Good Lord Bird (2018) และกำกับซีรีส์สารคดีเรื่อง The Last Movie Stars (2022) ของ HBO Max เขายังแสดงใน มินิซีรีส์ทางโทรทัศน์ของ Marvel เรื่อง Moon Knight (2022) ในบทบาทอา ร์เธอร์ แฮร์โรว์ นอกเหนือจากผลงานภาพยนตร์แล้ว ฮอว์กยังได้ปรากฏตัวในละครเวทีหลายเรื่อง เขาเปิดตัวบนบรอดเวย์ในปี 1992 ในเรื่องThe SeagullของAnton Chekhovและได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลโทนี่สาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยมในละครเวทีในปี 2007 จากการแสดงในThe Coast of UtopiaของTom Stoppardในปี 2010 ฮอว์กได้กำกับ เรื่อง A Lie of the MindของSam Shepardซึ่งทำให้เขาได้รับ การเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล Drama Desk Awardสาขาผู้กำกับละครเวทียอดเยี่ยมในปี 2018 เขาได้แสดงใน ละครเวที เรื่อง True WestของSam Shepardซึ่ง นำกลับมาสร้างใหม่โดย Roundabout Theatre Company
Gattaca (1997) ฝ่ากฏโลกพันธุกรรม
ในอนาคตอันใกล้นี้การปรับปรุงพันธุกรรมจะเป็นเรื่องปกติ ฐานข้อมูลทะเบียนพันธุกรรมใช้ข้อมูลชีวมาตรในการจัดประเภทบุคคลที่ได้รับการสร้างขึ้นให้เป็น “บุคคลที่ถูกต้องตามกฎหมาย” ในขณะที่บุคคลที่มีกำเนิดตามธรรมชาติและมีแนวโน้มที่จะเกิดความผิดปกติทางพันธุกรรมมากกว่าจะเรียกว่า “บุคคลที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย” การเลือกปฏิบัติ ทางพันธุกรรมถือเป็นสิ่งผิดกฎหมาย แต่ในทางปฏิบัติ โปรไฟล์ จีโนไทป์จะใช้ในการระบุบุคคลที่ถูกต้องตามกฎหมายเพื่อให้มีคุณสมบัติสำหรับการจ้างงานระดับมืออาชีพ ในขณะที่บุคคลที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมายจะถูกผลักไสให้ไปทำงานที่ต่ำต้อย
Daybreakers (2009) วันแวมไพร์ครองโลก
โรคระบาดที่เกิดจากค้างคาวแวมไพร์ ที่ติดเชื้อ ทำให้ประชากรส่วนใหญ่ของโลกกลายเป็นแวมไพร์ เมื่อประชากรมนุษย์ลดลง แวมไพร์ต้องเผชิญกับการขาดแคลนเลือด โดยผู้ที่ขาดเลือดจะกลายร่างเป็น “สัตว์อสูร” ที่น่ากลัว เนื่องจากแสงแดดเป็นอันตรายต่อแวมไพร์ แวมไพร์จึงออกหากินเวลากลางคืน ในขณะที่ทางเดินใต้ดินและ รถยนต์ ที่กรองแสงยูวีถูกสร้างขึ้นสำหรับการเดินทางในเวลากลางวัน มนุษย์ถูกจับและรักษาให้มีชีวิตอยู่เพื่อเอาเลือดมาเลี้ยงในขณะที่นักวิทยาศาสตร์กำลังค้นคว้าสารทดแทนเลือดสังเคราะห์ในฐานะหัวหน้าผู้เชี่ยวชาญด้านโลหิตวิทยาของ Bromley Marks ซึ่งเป็นผู้จัดหาเลือดมนุษย์รายใหญ่ที่สุด Edward Dalton และเพื่อนร่วมงานของเขา Christopher Caruso ได้พัฒนาสารทดแทนเลือด
Assault on Precinct 13 (2005) สน.13 รวมหัวสู้
ในคืนส่งท้ายปีเก่า ภายในสถานีตำรวจที่กำลังจะถูกปิดถาวร เจ้าหน้าที่ตำรวจเจค โรนิคต้องรวบรวมกำลังที่ประกอบด้วยตำรวจและอาชญากรเพื่อช่วยเหลือตนเองจากกลุ่มอาชญากรที่ต้องการฆ่ามาริออน บิชอป นักเลงอันธพาล หลังจากปฏิบัติการล่อซื้อที่ล้มเหลว ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ตำรวจลับ 2 นายถูกฆ่าตายเมื่อหลายเดือนก่อน จ่าสิบเอกเจค โรเอนิค แห่งกรมตำรวจดีทรอยต์เริ่มใช้แอลกอฮอล์และยาแก้ปวดในทางที่ผิดเป็นประจำในขณะที่ยังคงยึดมั่นกับงานประจำที่ไม่ทะเยอทะยานของเขาในฐานะจ่าสิบเอกประจำสถานีตำรวจสายที่ 13 ซึ่งจะถูกปลดประจำการ ในคืนส่งท้ายปีเก่า โรเอนิค เจ้าหน้าที่ตำรวจแจสเปอร์ โอเชีย และเลขานุการไอริส เฟอร์รี ทำงานกะปกติ จิตแพทย์อเล็กซานดรา เซเบียนมาถึงเพื่อประเมินความเหมาะสมในการปฏิบัติหน้าที่ของโรเอนิค หัวหน้าแก๊งอาชญากรแมเรียน บิชอปถูกจับกุมหลังจากฆ่าตำรวจนอกเครื่องแบบ และเตรียมถูกส่งตัวเข้าเรือนจำพร้อมกับอาชญากรอีกสามคน ได้แก่ เบ็ค แอนนา และสไมลีย์ เมื่อพายุหิมะทำให้ถนนปิด รถรับส่งของเรือนจำจึงถูกเปลี่ยนเส้นทางไปที่เขต 13 ซึ่งโรเอนิกซึ่งไม่ได้เตรียมตัวมาก่อนได้นำนักโทษไปขังไว้ในห้องขัง
Sinister (2012) เห็นแล้วต้องตาย
เป็นเรื่องราวของ เอลลิสัน (อีธาน ฮอว์ค) นักเขียนนิยายฆาตกรรม ที่ออกเดินทางไปทั่วประเทศเสาะหาเหตุฆาตกรรม เพื่อมาใช้เป็นแรงบันดาลใจในการเขียนหนังสือ แต่หลังจากที่เขาเข้าไปอยู่ในบ้านที่เคยเกิดเหตุฆาตกรรมยกครัว เอลลิสัน ก็ค้นพบฟิลม์บันทึกภาพที่เผยให้เห็นถึงหลักฐานชิ้นสำคัญของการฆาตกรรม ซึ่งสิ่งนี้ก็ทำให้ เอลลิสัน และครอบครัวต้องตกอยู่ในวงจรความสยองขวัญนั้นซะเองเมื่อพบว่าสิ่งที่กำลัง คุกคามชีวิตของพวกเขานั้นเป็นปีศาจร้ายที่ยากจะต่อกร