Exhuma (2024) ขุดมันขึ้นมาจากหลุม

นักแสดง

Lee Do hyun (이도현) อี โด ฮย็อน

Kim Go-eun (김고은)

Choi Min-sik

Yoo Hae-jin

รีวิว Exhuma (2024) ขุดมันขึ้นมาจากหลุม

⭐ เม้าท์มอยทุกซีรีส์

🤩 คะแนน: 10/10 ดาว

สนุกมากกกกกกก 10000/10 ไปเลยค่ะ สมมงหนังทำรายได้สูงสุดในปี 2024 ที่เกาหลีใต้เลยค่ะตอนที่ดูชอบฟีลที่ค่อยๆพาคนดูดำดิ่งจมไปกับความน่าสะพรึง และบรรยากาศน่าขนลุกในเรื่องมากค่ะ ไม่มีความตุ้งแช่ให้ตกใจ แต่ค่อยๆสร้างความน่ากลัวแบบไต่ระดับขึ้นเรื่อยๆ สนุกแบบตื่นเต้นระทึกใจขั้นสุดค่ะ และที่ชอบมากๆอีกอย่างนึงคือเค้าไม่ทำร้ายจิตใจคนดูด้วยการทิ้งตัวละครหลัก ตอนจบก็ดีงามค่ะ เรื่องราวของเหล่าร่างทรงและซินแสที่ได้รับว่าจ้างให้ไปขุดหลุมศพของบรรพบุรุษครอบครัวร่ำรวยครอบครัวนึง แต่พอขุดขึ้นมาเท่านั้นแหละ สิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น ความน่าสะพรึงกลัวทุกอย่างเริ่มต้นขึ้นจากตรงนี้ เรื่องนี้ดูได้ทั้งพากย์ไทยและซับไทยใน Viu

⭐ ชอบเล่า

🤩 คะแนน: 10/10 ดาว

เรื่องราวของคู่หูร่างทรงหมอผีชื่อดัง (รับบทโดย คิมโกอึน) (รับบทโดย อีโดฮยอน) ที่ได้รับมอบหมายจากครอบครัวเศรษฐี ให้เข้ามาหาคำตอบเรื่องราวลี้ลับที่เกิดขึ้นกับครอบครัว กับอาการป่วยด้วยโรคประหลาดของลูกหลานในตระกูล ที่กำลังถูกดวงวิญญานชั่วร้ายก่อกวน โดยวิธีแก้มีเพียงวิธีเดียวคือต้องเคลื่อนย้ายหลุมศพของบรรพบุรุษ ทั้งคู่จึงขอความช่วยเหลือจากซินแสหรือผู้เชี่ยวชาญด้านฮวงจุ้ย (รับบทโดย ชเวมินชิก) และสัปเหร่อ (รับบทโดย ยูแฮจิน) ที่ต้องมาร่วมมือพร้อมเผชิญหน้ากับพลังเหนือธรรมชาติและความกลัวในจิตใจของพวกเขาในภารกิจอันตรายครั้งนี้ภาพยนตร์ที่มาแรงมากและกวาดรายได้เป็นกอบเป็นกำในประเทศเกาหลีใต้และยังสร้างปรากฏการณ์ในไทยโดยการสถิติหนังสยองขวัญสัญชาติเกาหลีที่ทำรายได้เปิดตัวสูงสุดในไทยในรอบ 3 ปี รองจาก Train to Busan และ Train to Busan: Peninsula ขณะเข้าฉายด้วย โดยยอดรวมรายได้เฉพาะในไทยน่าจะเกือบแตะ 70 ล้านบาทเลยทีเดียว (ใครมียอดตัวเลขเป๊ะๆ คอมเมนต์ แจ้งแอดได้เลยนะคะ) ถ้าใครกำลังโหยหาหนังสยองขวัญหลอนๆ สัญชาติเกาหลีใต้อยู่ล่ะก็เรื่องนี้ตอบโจทย์มากเลยค่ะ ส่วนตัวชอบพล็อตที่มันเหมือนจะเดาทางได้แต่กลับไม่ใช่เลย หนังมีอะไรสนุกๆ ซ่อนไว้อีกเพียบ บอกเลยว่า ถ้าคุณไม่เผลออ่านสปอยตอนจบไปก่อนคุณต้องเดาทางของหนังเรื่องนี้ไม่ถูกแน่ๆ

Exhuma หยิบยกเอาความเชื่อเหนือธรรมชาติเกี่ยวกับภูติผีปีศาจ หมอผี ร่างทรง พิธีกรรม มาเป็นจุดขายหลักในเรื่อง มาพร้อมบรรยากาศที่ชวนหลอนขั้นสุด ทั้งโลเคชั่น งานภาพ มุมกล้อง ซาวน์จากเครื่องดนตรีโบราณ ดูแล้วเสียวสันหลังและขนลุกตามตลอดเวลา จุดเด่นที่เห็นได้ชัดเลยคือเรื่องนี้เขาเน้นความเรียลสมจริง ซึ่งขัดกับหนังแนวนี้ที่ปกติต้องอัด CG จัดๆ เทคนิคพิเศษเยอะๆ ทำให้เรื่องนี้มันยิ่งดูเหมือนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงและทำให้เราคนดูอินตามได้ไม่น้อยนอกจากนี้ตัวหนังยังแทรกเรื่องราวบาดแผลทางประวัติศาสตร์เกี่ยวกับเกาหลีญี่ปุ่นเข้าไปด้วย ซึ่งจุดนี้เราว่าเป็นหนึ่งในเหตุผลสำคัญที่ทำให้หนังเรื่องนี้ได้รับความสนใจมากๆ จากชาวเกาหลีที่มีความเป็นชาตินิยมค่อนข้างสูง เลยทำให้หนังดูเข้มข้นจริงจังขึ้นและสัมผัสได้ถึงความตึงเครียดชวนอึดอัดตลอดเวลาที่รับชมสิ่งที่ดีงามที่สุดของหนังเรื่องนี้คือทีมนักแสดงที่อัดแน่นไปด้วยคุณภาพ #คิมโกอึน แสดงได้สุดตัวและทรงพลังมาก ซีนพิธีกรรมทำเอาเราขนลุกไปหมด #อีโดฮยอน แม้บทพูดจะน้อย แต่เต็มไปด้วยเสน่ห์เกินต้าน เพราะแค่ยืนท่องบทสวด ก็เท่เกินต้านแล้ว #ชเวมินชิก เป็นคุณลุงแสนอบอุ่นที่ทำเอาเราอมยิ้มได้ตลอด ส่วน #ยูแฮจิน แค่ยืนอยู่เฉยๆ ก็กลั้นขำไม่ได้แล้ว เป็นสีสันในเรื่องที่สุด สรุปโดยรวม เป็นหนังที่ควรค่าแก่การดูแบบ 1,000% สนุกเกินคาดมากๆ โปรดักชั่นดีงาม เซ็ตฉากบรรยากาศในหนังได้หลอนและสยดสยองได้ใจ เก็บรายละเอียดดี ทีมนักแสดงปังมากทั้งเรื่อง เป็นหนัง 135 นาที ที่ทำเอาเรานั่งไม่ติดที่ตลอดเวลาที่รับชม #Exhuma #ขุดมันขึ้นมาจากหลุม สามารถรับชมพากย์ไทยและซับไทยที่ Viu

⭐ Foutainoflife

🤩 คะแนน: 7/10 ดาว

พิธีกรรมของหมอผี คำสาป นิทานพื้นบ้าน ประวัติศาสตร์ ฮวงจุ้ย ลางบอกเหตุ การขุดหลุมฝังศพ ผี ปีศาจ และภาคต่อของเรื่องราวดั้งเดิม ภาพยนตร์เรื่องนี้มีครบทุกอย่าง พล็อตเรื่องแรกของภาพยนตร์เรื่องนี้หมุนรอบกลุ่มนักจิตวิญญาณที่พยายามช่วยทารกจากคำสาปที่คุกคามบุตรชายหัวปีของสายเลือดที่รุ่งเรือง เรื่องนี้อาจเป็นเรื่องราวที่แยกจากกัน แต่เมื่อคุณคิดว่าเรื่องราวได้ดำเนินไปจนครบวงจรแล้ว เราก็ได้พบกับเรื่องราวต่อเนื่องที่เจาะลึกลงไปในสาเหตุ นับเป็นเรื่องราวที่สนุกมากสำหรับฉันในฐานะคนทั่วไป ภาพยนตร์เรื่องนี้อาจดูสับสนเล็กน้อย เพราะฉันขาดความรู้เกี่ยวกับแง่มุมทางวัฒนธรรมและจิตวิญญาณของเกาหลีบางประการ ฉันอยากให้ทุกอย่างดำเนินไปช้าลงและอธิบายให้ดีขึ้น แต่ภาพยนตร์เรื่องนี้ก็ยาวเกินไปแล้ว ฉันอยากให้เป็นภาพยนตร์สองเรื่องเพื่อจะได้มีเวลาเจาะลึกและให้ข้อมูลเชิงลึกมากขึ้นสำหรับฉันถึงอย่างนั้น บรรยากาศก็จัดวางได้ดี มืดมิด และเข้ากันได้ดีกับเรื่องราว บางครั้งก็รู้สึกน่ากลัว นักแสดงทุกคนล้วนมีประสบการณ์สูง และเอฟเฟกต์ก็ทำให้ดื่มด่ำและน่าดึงดูดฉันสนุกกับมันมาก ดังนั้นหากคุณชอบหนังสยองขวัญเอเชีย คุณควรดูเรื่องนี้

⭐ imxhill

🤩 คะแนน: 7/10 ดาว

ครึ่งแรกของ Exhuma เป็นการผสมผสานระหว่างนิทานพื้นบ้านและตำนานของเกาหลีใต้ได้อย่างน่าสะพรึงกลัว น่ากลัว และตึงเครียด โดยสามารถกระตุ้นความกลัวและความลึกลับเกี่ยวกับชีวิตหลังความตายได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสิ่งที่พวกเราที่ยังมีชีวิตอยู่และเดินไปเดินมาบนโลกนี้สามารถและควรทำเกี่ยวกับเรื่องนั้นได้ สะพานแห่งจิตวิญญาณและเหนือธรรมชาติที่ห้อยระย้าอยู่ระหว่างสองโลก ถือเป็นภาพยนตร์สยองขวัญเหนือธรรมชาติที่ยอดเยี่ยม มีบรรยากาศที่ยอดเยี่ยม ไม่สูญเสียความน่าสนใจ และมีช่วงเวลาที่น่าจดจำพอสมควร แต่เมื่อถึงจุดกึ่งกลางของภาพยนตร์ มีบางอย่างเกิดขึ้นที่ทำให้ฉันไม่ค่อยแน่ใจว่ารู้สึกอย่างไรกับภาพยนตร์เรื่องนี้โดยรวม ขอชี้แจงว่า ฉันยังคงชอบภาพยนตร์เรื่องนี้มากและถึงแม้จะเป็นภาพยนตร์ที่แข็งแกร่ง แต่ความไม่สบายใจและความตึงเครียดที่กล่าวถึงข้างต้นก็หายไปอย่างรวดเร็ว และไม่เคยถึงจุดสูงสุดเท่ากับครึ่งเรื่องก่อนหน้าเลย เป็นการเปิดเผย/การตัดสินใจที่ฉันชื่นชม มันเป็นความทะเยอทะยาน สร้างสรรค์ และมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่เราไม่ค่อยเห็นในภาพยนตร์เกาหลีใต้ นอกจากนี้เอฟเฟกต์จริงที่นำมาใช้ประกอบก็ยอดเยี่ยมมาก อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนโทน/ลักษณะที่สะดุดหูทำให้ฉันรู้สึกไม่ดี ฉันแนะนำให้ดูภาพยนตร์เรื่องนี้แบบไม่รู้เนื้อเรื่องเลย!ฉันลังเลเล็กน้อยระหว่าง 3.5 ถึง 4 ดาว หากภาพยนตร์เรื่องนี้ถ่ายทอดจุดแข็งของสององก์แรกไปจนถึงองก์ที่สาม และรักษาความสม่ำเสมอของภาพยนตร์ไว้ได้ ภาพยนตร์เรื่องนี้จึงควรได้ 4 ดาว หรืออาจจะ 4.5 ​​ดาวก็ได้ ยังคงเป็นภาพยนตร์ที่ยอดเยี่ยมและฉันขอแนะนำภาพยนตร์เรื่องนี้ให้กับทุกคนที่สนใจภาพยนตร์สยองขวัญที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวของเกาหลี/เอเชีย

⭐ SAMTHEBESTEST

🤩 คะแนน: 6/10 ดาว

ภาพยนตร์เกาหลีได้กำหนดนิยามใหม่ให้กับแนวหนังสยองขวัญสำหรับคนรักภาพยนตร์ยุคใหม่อย่างแน่นอน ของจางแจฮยอนเป็นอีกตัวอย่างที่ดีของแนวหนังประเภทนี้ ภาพยนตร์เรื่องนี้ประสบความสำเร็จอย่างล้นหลามในบ็อกซ์ออฟฟิศ และฉันก็ไม่แปลกใจเลย ความพยายามในการเล่าเรื่องที่แปลกใหม่และเข้มข้นเช่นนี้สมควรได้รับการสนับสนุนจากผู้ชม ฉันดีใจที่ผู้ชมและนักวิจารณ์ชาวเกาหลีให้ สมกับที่ควรจะเป็น The Wailing ของนาฮงจินได้รับคำชมจากทั่วโลก และยังคงเป็นภาพยนตร์สยองขวัญที่ดีที่สุดในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ไม่เพียงแต่ในวงการภาพยนตร์เกาหลีเท่านั้น แต่ทั่วโลก ไม่ได้ดีขนาดนั้น แต่ก็ใกล้เคียง และเชื่อฉันเถอะว่ามันเป็นความสำเร็จในตัวมันเองในยุคปัจจุบันหมอผีชื่อดังชาวเกาหลีฮวาริม (คิมโกอึน) และลูกศิษย์ของเธอ บงกิล (อีโดฮยอน) ได้รับโทรศัพท์จากครอบครัวชาวอเมริกันเชื้อสายเกาหลีที่ร่ำรวยให้ไปสืบหาสาเหตุการเจ็บป่วยลึกลับของลูกชายแรกเกิดของครอบครัวที่กำลังดิ้นรนอยู่ในโรงพยาบาล ฮวาริมค้นพบคำสาปว่าเป็น “Grave’s Call” วิญญาณบรรพบุรุษผู้อาฆาตแค้นที่หลอกหลอนพวกเขา หัวหน้าครอบครัว ปาร์คจียง มอบหมายให้พวกเขาย้ายหลุมศพเพื่อปลอบโยนบรรพบุรุษซึ่งเป็นปู่ของเขา ฮวาริมขอความช่วยเหลือจากเพื่อนร่วมงาน อาจารย์ฮวงจุ้ย คิมซังด็อก (ชเวมินซิก) และนักชันสูตรพลิกศพ ยองกึน (ยูแฮจิน) โลงศพถูกเปิดออกโดยไม่ได้ตั้งใจ และวิญญาณก็ถูกปลดปล่อยออกมาเพื่อพรากชีวิตสมาชิกคนอื่นๆ ในครอบครัว หลังจากเผาโลงศพนั้นแล้ว ทีมก็พบวิญญาณที่ชั่วร้ายยิ่งกว่า ซึ่งถูกฝังอยู่ที่เดียวกันและเฝ้ารักษาสถานที่นั้นอยู่ มันไม่ใช่มนุษย์หรือสัตว์ และไม่สามารถกำจัดได้ ทีมจะจับวิญญาณ/สัตว์ประหลาดญี่ปุ่นตัวใหม่ที่กำลังต่อสู้เพื่อดินแดนนี้ได้หรือไม่?

ค่อนข้างยาวไปนิดถ้าเราพิจารณาจากเนื้อเรื่องโดยรวม ฉันอยากให้มันยาว 120 นาทีแทนที่จะเป็น 130 นาที 10 นาทีนั้นดูจะผ่านไปแล้ว ส่วนที่เหลือไม่มีอะไรจะบ่นเกี่ยวกับบทภาพยนตร์ มันชวนขนลุก น่ากลัว และน่าสนใจสุดๆ คุณจะไม่ได้เห็นใบหน้าผีๆ พวกนั้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า คุณเห็นพวกมันแค่สองหรือสามครั้งเท่านั้น แต่พวกมันก็ทำให้คุณกลัวจนตัวสั่น นั่นเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้เรารักภาพยนตร์เกาหลี พวกเขาไม่ได้ใส่เรื่องเหนือธรรมชาติมากเกินไปและพยายามให้น้อยที่สุดเพื่อให้เราให้ความสำคัญกับพวกมันมากขึ้น การเห็นสัตว์ประหลาดตัวเดิมซ้ำแล้วซ้ำเล่าช่วยลดความกลัวลง   มีเซอร์ไพรส์มากพอแล้ว เช่น ความสยองขวัญพื้นบ้าน คำสาปของครอบครัว ปัญหาที่ดิน เรื่องเหนือธรรมชาติที่หลอกหลอน เป็นต้น บทสนทนาอาจจะดีกว่านี้ได้ ฉันเดานะ แนวคิดทั้งหมดของสัตว์ประหลาด การฆ่า และการแก้แค้นอาจใช้คำพูดที่รุนแรงกว่านี้ได้ พวกเขาพลาดโอกาสนั้นไป Rest เป็นเรื่องราวที่ยอดเยี่ยมในโซนสยองขวัญยุคใหม่ฉันไม่ค่อยคุ้นเคยกับนักแสดงเกาหลีและผลงานก่อนหน้านี้ของพวกเขา ดังนั้นฉันจะพูดถึงภาพยนตร์เรื่องนี้โดยเฉพาะ ชเวมินซิก คิมโกอึน ยูแฮจิน และอีโดฮยอนดูยอดเยี่ยมมากในบทบาทของพวกเขา คิมซันยอง คิมแจชอล และคิมจีอันก็แสดงได้ค่อนข้างดีในบทบาทสมทบ ในภาพยนตร์สยองขวัญ ส่วนที่สำคัญที่สุดคือการแสดงออกที่น่ากลัวซึ่งถ่ายทอดออกมาโดยคนเหล่านี้ในภาพยนตร์ ไม่มีการแบ่งแยกใดๆ แต่มีโซนสยองขวัญหนึ่งโซน ซึ่งบางครั้งอาจยากเกินไป และบางครั้งอาจง่ายเกินไปสำหรับบางคน พยายามอย่างเต็มที่กับตัวละครของพวกเขา แม้ว่าจะต้องใช้เวลาพอสมควรในการทำให้ถึงจุดดึงดูดใจก็ตาม

ภาพยนตร์สยองขวัญนั้นขึ้นอยู่กับการออกแบบเสียงที่ช่วยสร้างบรรยากาศและความหวาดกลัวอันน่ากลัวรอบตัวคุณ ได้รับพรด้วยดนตรีประกอบและการออกแบบเสียงที่สมบูรณ์แบบสำหรับประเภทสยองขวัญ ดนตรีประกอบที่ต่อเนื่องกันในช่วง 15 นาทีสุดท้ายทำให้คุณหงุดหงิด และมีบางช่วงที่เสียงดังเกินไปจนไม่สามารถทำให้คุณสะดุ้งจากภายในได้ ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้รับพรจากอีกแง่มุมที่ทรงพลัง นั่นคือการถ่ายภาพที่ยอดเยี่ยม ฉากที่ตัดไปมา แสงสลัว และภาพสั่นไหวบอกให้คุณรู้ว่าภาพยนตร์สยองขวัญที่แท้จริงหมายถึงอะไร อย่ากระพริบตาในช่วงเวลาที่เข้มข้นและน่ากลัวเหล่านั้น สถานที่ของภูเขา คฤหาสน์เก่า หลุมศพ และหุบเขานั้นสวยงามมาก จางแจฮยอนทำหน้าที่ผู้กำกับได้อย่างน่าชื่นชม เขาควบคุมเรื่องราวทั้งหมดได้อย่างมั่นคง และเขาไม่ปล่อยให้คุณหลุดออกจากโลกของหมอผีและการฝังศพได้จริงๆ ช่วงเวลาที่มีข้อบกพร่องและดำเนินไปอย่างเชื่องช้าบางช่วงอาจหลีกเลี่ยงได้ แต่ไม่ได้ทำให้ประสบการณ์การรับชมโดยรวมลดลงมากนัก โดยรวมแล้ว เป็นภาพยนตร์สยองขวัญที่น่าสะพรึงกลัวและน่าทึ่งในรูปแบบการสร้างภาพยนตร์ยุคใหม่ที่ยืมสูตรเก่ามาพัฒนาใหม่สำหรับผู้ชมยุคใหม่ หากคุณกำลังมองหาภาพยนตร์สยองขวัญระทึกขวัญที่แท้จริง เรื่องนี้คือเวอร์ชันล่าสุด