ดูหนัง Flat Girls (2025) แฟลตเกิร์ล ชั้นห่างระหว่างเรา ในแฟลตตำรวจที่มีครอบครัวตำรวจนับร้อยอยู่ร่วมกัน เจน เด็กสาวจากครอบครัวนายตำรวจยศสูง แม่ เป็นเจ้าแม่เงินกู้ประจำแฟลตที่ทุกคนต้องเกรงใจ ส่วน แอน เด็กสาวที่พ่อเสียชีวิตในหน้าที่ ทำให้เธอต้องช่วย แม่ ทำงานหาเลี้ยงน้องอีก 3 คน เจน กับ แอน แบ่งปันทุกโมเมนต์ร่วมกันและยังตัวติดกันเสมอ หลังเลิกเรียน พวกเธอมักจะมาตีแบดด้วยกันที่สนามแบดกลางแฟลต กับเพื่อนร่วมแก๊งสุดซี้อย่าง ไนซ์ เจนหวังว่าจะได้อยู่ที่แฟลตนี้ โดยมีแอนเคียงข้างกันไปตลอด จนกระทั่งการเข้ามาของ อาตอง ตำรวจหนุ่มที่เพิ่งย้ายมาอยู่แฟลต ที่ไม่เพียงสั่นคลอนมิตรภาพของทั้งคู่ แต่ยังทำให้เจนและแอน ต้องเผชิญหน้ากับความจริงที่ว่า ครอบครัวที่ไร้พ่อผู้เป็นตำรวจเช่นครอบครัวของแอน อาจมีเวลาที่จะอยู่ในแฟลตแห่งนี้เหลือน้อยลงไปทุกที
ในการผกผันของเรื่อง รอยร้าวแห่งมิตรภาพเริ่มชัดขึ้น เมื่อทั้งคู่ต้องเผชิญหน้ากับ “ความจริง” ของโลกผู้ใหญ่ที่ซับซ้อนมากขึ้น แอนที่รู้สึกถูกกดดันเพราะฐานะยากจนและอาจสูญเสียที่อยู่อาศัย คล้ายต้องแบกรับภาระครอบครัวในช่วงที่พ่อเสียชีวิตและแม่ติดการพนัน ในทางกลับกัน เจนที่มีเสถียรภาพมากกว่า แต่อาจจมอยู่กับจุดรอคอยที่แฟลตนี้อาจเป็นแค่ “ที่พำนักชั่วคราว” เมื่อความเสียใจ ความสูญเสีย และความแตกต่างขยายตัวอย่างไม่อาจย้อนกลับ ทั้งเจนและแอนได้เรียนรู้บทเรียนชีวิตครั้งใหญ่เกี่ยวกับความเป็นวัยรุ่นช่วงเปลี่ยนผ่านที่เต็มไปด้วยฝัน ความรัก ความไม่แน่นอน และแรงกดดันทางสังคม
ผู้กำกับ แคลร์–จิรัศยา วงษ์สุทิน ถ่ายทอดเรื่องราว“แฟลต”ในฐานะพื้นที่แห่งชีวิตและความฝัน แม้จะถ่ายทอดผ่านภาพยนตร์แล้วจบภายใน 130 นาที แต่เธอใช้ภาพของแฟลตตำรวจ—ชุมชนที่แวดล้อมกัน แม้ไม่สมบูรณ์แต่มีชีวิตชีวา—เป็นสัญลักษณ์ของการแบ่งชนชั้นและการไม่มีทางเลือกที่ชัดเจน ตัวบทพยายามผสมผสานเรื่อง growth, identity, first love/friction และการเรียนรู้ชีวิตจริงที่มากกว่าโปสเตอร์สีหวานแบบ typical rom‑com
งานภาพงานเสียงถูกชมว่าถ่ายทอดบรรยากาศแฟลตได้อย่างสมจริง แม้บางคนเห็นว่าบทพูดบางจุดยังคงมี gap และหนังไม่ down‑to‑earth เท่าที่ควร แต่การแสดงของนักแสดงหน้าใหม่แฟร์รี่–เอินเอิน ก็สามารถสื่ออารมณ์ได้อย่างธรรมชาติ จนผู้ชมหลายคนยกย่องว่าพวกเธอทำให้เรื่องสมจริง ไม่ over‑act ในขณะที่นักแสดงสมทบ เช่น ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์, วชิรากร รักษาสุวรรณ, น้ำฝน ภักดี และจอยซ์ กรภัสสรณ์ ก็ช่วยเสริมสีสันและความกลมกล่อมให้ฉากชีวิตของแฟลตดูมีมิติขึ้น
ถึงแม้ไม่มีการสปอยล์สัมพันธ์รักแบบ explicit แต่มิติของ girl love ใส่เข้ามาผ่านมุมมอง subtle ราวกับความสัมพันธ์แบบ first crush หรือเพื่อนสนิทที่มี emotional depth — เป็นจุดที่หนังถูกชมว่ามีความกล้าและหลุดจากสูตรรอมคอมทั่วไป แต่ก็ทำแบบไม่ overt รีวิวหลายสำนักระบุว่าหนังไม่หวือหวา แต่นักแสดงทำให้ผู้ชมรู้สึกเหมือนเพิ่งก้าวเข้ามาในโลกของมิตรภาพวัยรุ่นจริง ๆ
สรุปโดยรวม “Flat Girls” ไม่ใช่หนังวายแบบเน้นจุดจู๋ แต่เป็น coming‑of‑age drama ที่ใช้มิตรภาพความใกล้ชิดในพื้นที่แชร์เป็นจุดเริ่มต้นสู่มิติชนชั้น ความฝัน และการเปลี่ยนผ่านวัย แสดงให้เห็นว่า “แฟลต” ไม่ใช่แค่ที่สูงต่ำ แต่เป็นพื้นที่ที่สะท้อนชีวิตจริงของเด็กผู้หญิงที่เติบโตในโลกกำหนดพื้นที่และโอกาสให้แตกต่าง การเรียนรู้ว่าความสัมพันธ์บางอย่างจำเป็นต้องปรับตัว หรือบางความฝันอาจไม่เป็นจริง ยังสร้างความเจ็บปวดและหวังดีไปพร้อมกัน แม้หนังอาจไม่สมบูรณ์ในการเล่าเรื่อง แต่ก็เป็น “หนังฆ่าเวลา” ที่ส่งอารมณ์อบอุ่น ทะเล้น และทิ้งให้คนดูทบทวนชีวิตหลังออกจากโรง — จึงขอแนะนำให้ชมและทดลองฟังหัวใจตัวเองผ่านบทหนังจาก GDH เรื่องนี้




