ดูหนัง Gold (2022)
ชายแปลกหน้าสองคนที่เดินทางผ่านทะเลทรายของออสเตรเลียไปด้วยกัน พวกเขาเจอแร่ทองคำที่ใหญ่ที่สุดที่เคยเจอมา ทั้งคู่จึงวางแผนร่วมกันที่จะขุดทอง โดยคนหนึ่งคอยเฝ้าทองคำเอาไว้ ส่วนอีกคนออกหาอุปกรณ์ที่จะใช้ขุดทองกลางทะเลทราย แซค เอฟรอน รับบทเป็นชายที่ต้องอยู่เฝ้าทองตามลำพังในทะเลทราย ผู้ต้องเผชิญกับความหฤโหดต่างๆ ทั้งจากตัวทะเลทรายเอง หมาป่าดุร้าย และ ผู้บุกรุกที่มองไม่เห็น ในอนาคตอันใกล้ซึ่งเป็นโลกดิสโทเปีย นักเดินทางคนเดียวชื่อเวอร์จิลมาถึงด่านหน้าและจ่ายเงินให้คีธ ชายในท้องถิ่นเพื่อพาเขาไปยังพื้นที่ที่เรียกว่าเดอะคอมพาวด์ ในระหว่างเดินทางผ่านทะเลทรายที่ไม่เอื้ออำนวย ทั้งสองค้นพบก้อนทองคำ ขนาดใหญ่ ในพื้นที่ห่างไกลในที่สุด หลังจากเวอร์จิลทำให้รถร้อนเกินไปโดยเปิดเครื่องปรับอากาศ หลังจากไม่สามารถนำทองคำออกมาได้โดยใช้อุปกรณ์พื้นฐานและรถบรรทุก คีธจึงเสนอให้เก็บทองคำไว้ในขณะที่เวอร์จิลออกเดินทางเพื่อพยายามค้นหารถขุดซึ่งบ่งบอกว่าเขาไม่มีสิ่งที่จำเป็นสำหรับการเอาชีวิตรอดเพียงลำพัง เวอร์จิลแย้งว่าเขาควรเป็นคนเก็บทองคำไว้แทนในตอนที่เขาพบมัน คีธปล่อยให้เวอร์จิลพร้อมกับเสบียงที่เหลือและคาดว่าจะกลับมาภายใน 5 วัน
อ่านรีวิวก่อน ดูหนัง
นักแสดง
Zac Efron แซ็ก เอฟรอน

Susie Porter

Anthony Hayes

ผู้กำกับ : แอนโธนี่ เฮย์ส
รีวิว Gold (2022)
entertainment
มาถึงคิวหนังระทึกขวัญเอาตัวรอดลำพังจากธรรมชาติ เป็นหนังแนวที่มีใครหลายคนชื่นชอบและฝั่งฮอลลิวูดก็มักจะสร้างออกมาเสิร์ฟให้เลือกชมกันเรื่อย ๆ คราวนี้เป็นตาของ ทองกู” หนังที่ได้พระเอกสุดหล่อ “แซค เอฟรอน” มาปล่อยของและลีลาการแสดงแบบยืนเดี่ยวกลางทะเลทรายอันแห้งแล้ง เพื่อต่อสู้กับธรรมชาติอันโหดและจิตใต้สำนึกของตัวเอง ที่น่าจะโหดร้ายยิ่งกว่าสิ่งอื่นใดเลย
ทองกู เป็นเรื่องราวของโลกอนาคตอันใกล้ เมื่อชายแปลกหน้า 2 คนที่เดินทางผ่านทะเลทรายด้วยกัน พวกเขาเจอแร่ทองคำที่ใหญ่ที่สุดที่เคยเจอมา ทั้งคู่จึงวางแผนร่วมกันที่จะขุดทอง โดยคนหนึ่งคอยเฝ้าทองคำเอาไว้ ส่วนอีกคนออกหาอุปกรณ์ ที่จะใช้ขุดทองกลางทะเลทราย แซค เอฟรอน รับบทเป็นชายที่ต้องอยู่เฝ้าทองตามลำพังในทะเลทราย ผู้ต้องเผชิญกับความหฤโหด ต่างๆ ทั้งจากตัวทะเลทรายเอง หมาป่าดุร้าย และ ผู้บุกรุกที่มองไม่เห็น
หนังเรื่องนี้เป็นผลงานการกำกับและร่วมเขียนบทของ “แอนโทนี เฮยส์” นักแสดงชาวออสเตรเลีย ที่เขาร่วมแสดงสมทบในหนังเรื่องนี้ด้วย รับหน้าที่ควบในหลายตำแหน่งเลยทีเดียว แน่นอนเรื่องนี้มีคอนเซ็ปต์และหน้าหนังที่น่าสนใจไม่เบา ใคร ๆ ก็ใคร่อยากรู้ว่าชายคนนี้จะเอาชีวิตรอดอย่างไรกลางพื้นที่แห้งแล้ง เพียงแต่น่าเสียดายเหลือเกินที่ว่า ทองกู กลายเป็นหนังที่เต็มไปได้พล็อตเรื่องที่เบาโหว่ง แทบจะไร้ซึ่งน้ำหนัก พลอยทำให้ความยาวชั่วโมงครึ่งของหนังที่ไม่ได้ยาวอะไร แต่กลับดูยาวนานเหลือเกิน
ปัญหาหลักของ ทองกู ก็คือพล็อตและความน่าสนใจของเรื่อง ยอมรับว่าในช่วง 30 นาทีแรกของหนังนั้น ปูทางและปูเรื่องมาได้ค่อนข้างดี เนรมิตโลกอนาคตที่ดูแห้งแล้งและสิ้นหวังได้อย่างน่าหดหู่ แต่เมื่อหนังเริ่มเลี้ยวเข้าสู่แกนหลักของหนังที่เป็นแนวเอาชีวิตรอดอย่างเดียวดาย กลับรู้ว่าหนังไม่รู้ว่าตัวเองจะทำอะไรต่อดี ดำเนินเรื่องไปแบบเรื่อยเปื่อย ไม่มีจุดพีคขึ้นลงให้รู้สึกสนใจ ติดตามตัวละครที่มีความคิดโลภมากไปเรื่อย ๆ แบบไร้แก่นสาร