In This Corner of the World (2016) แค่วาดฝันให้โลกสวย

นักแสดง

Rena Nōnen เรนะ โนเนน

Yoshimasa Hosoya โยชิมาสะ โฮโซยะ

Daisuke Ono ไดสุเกะ โอโนะ

Megumi Han เมงุมิ ฮัน

ผู้กำกับ

Sunao Katabuchi

รีวิว In This Corner of the World (2016) แค่วาดฝันให้โลกสวย

⭐ หนังโปรดของข้าพเจ้า

🤩 คะแนน: 7/10 ดาว

หนังดีนะ แต่เราเอียนกับหนังผลกระทบจากสงครามแล้วอ่ะ เราชอบการทำตัวเป็นแอนิเมชั่นตลกใสซื่อให้เห็นความสวยงามของโลกมนุษย์แล้วก็ปิดท้ายอย่างโศกเศร้าเพราะพวกเขาเป็นคนธรรมดาที่อยู่ผิดเวลาดันมาเกิดในยุคสงครามโลกครั้งที่สอง อันนี้อาจจะเป็นความใหม่อย่างเดียวในสายตาเราเพราะการเล่าหนังมันพยายามจับต้องชีวิตประจำวันสุดแสนธรรมดาในชนบทของญี่ปุ่นเมืองที่ยังไม่ได้รับความเสียหายจากสงคราม ซึ่งท้ายที่สุดวันนั้นก็ย่อมมาถึงหนังเล่าเรื่องของ ‘ซึสึ’ เด็กสาววัย 18 ปีในเมืองฮิโรชิม่าที่อยู่ดี ๆ วันหนึ่งมีผู้ชายมาขอแต่งงานทำให้เธอต้องย้ายไปอยู่บ้านของสามี เธอมีหน้าที่ทำอาหารเลี้ยงดูคนในครอบครัวของสามีในช่วงที่การแบ่งปันอาหารเริ่มน้อยลงเรื่อย ๆ จากสภาวะสงคราม แต่ชีวิตยังคงต้องดำเนินต่อไป

เราชอบ In This Corner of the World ตรงที่อารมณ์หนังมันมาเรียบ ๆ ไม่ได้บิ๊วเมโลดราม่าหวังเค้นน้ำตา และตัวละครซึสึในหนังถึงแม้จะใสซื่อไร้เดียงสาแต่ไม่ได้ออกมาในลักษณะน่ารำคาญ ในทางกลับกันหนังสามารถใช้ประโยชน์จากความซื่อของเธอมาสร้างเสียงหัวเราะได้อย่างดีไม่ว่าจะก่อนหรือหลังระเบิดปรมาณูถูกทิ้งลงยังเมืองฮิโรชิม่า ซึ่งช่วยตอกย้ำให้เห็นความธรรมดาของชีวิตคนปกติในช่วงสงครามจะว่าไปก็ชอบชื่อไทยของหนังเหมือนกัน ‘แค่วาดฝันให้โลกสวย’ ดูเข้ากับหนังมากเพราะโลกและผู้คนในหนังมันดูสวยงามแม้อยู่ในยามสงคราม กระทั่งว่าประกายไฟจากกระสุนของเครื่องบินรบยังสามารถจินตนาการให้เป็นการแต่งแต้มลงสีพู่กันบนท้องฟ้าได้อย่างงดงามท่ามกลางความโหดร้ายสรุปแล้ว In This Corner of the World สำหรับเราก็คงจัดอยู่ในเกณฑ์แอนิเมชั่นที่ดีน่ะแหละ ดีทั้งในแง่การถ่ายทอดแง่มุมใสซื่ออบอุ่นไร้เดียงสาของครอบครัวหนึ่งในช่วงสงครามโลก, ดีทั้งการวางตัวเองให้เล่าเรื่องเรียบง่ายตามโทนของหนัง ไม่ได้ปรุงรสให้เศร้าเว่อร์ ไม่ได้อารมณ์ดีจนโลกสวยเกินไป แต่ในฐานะคนที่ดูหนังผลกระทบจากสงครามมาพอสมควร บางทีเราก็รู้สึกเอียนกับเนื้อหาประเภทนี้แล้วเท่านั้นเอง

⭐ austin0731

🤩 คะแนน: 8/10 ดาว

เรื่องราวการเติบโตในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 เล่าถึงเรื่องราวของซูซุ หญิงสาวที่ถูกบังคับให้แต่งงานจากบ้านเกิด ผู้ชมอาจพบความคล้ายคลึงกับ ‘Grave of the Fireflies’ ภาพยนตร์แอนิเมชั่นญี่ปุ่นอีกเรื่องที่เล่าถึงการต่อสู้ดิ้นรนของคนธรรมดาในช่วงสงคราม การต่อสู้ดิ้นรนของคนธรรมดาๆ ปรากฏให้เห็นอย่างชัดเจนในเรื่องราวของหญิงสาวที่ตกอยู่ในสถานการณ์ที่ปลาหลุดออกจากน้ำ แต่เธอยังคงความไร้เดียงสาโดยกำเนิดของเธอไว้ได้แม้จะต้องเผชิญกับความโหดร้ายของสงครามเป็นเรื่องที่น่าสนใจมากที่ตัวละครและรูปแบบงานแอนิเมชั่นที่อ่อนโยนนี้ทำให้เรื่องราวสงครามที่บรรยายถึงภาพอันน่าสยดสยองตั้งแต่การทิ้งระเบิด การระเบิด ไปจนถึงความตายดูไร้เดียงสาและสงบเสงี่ยม ฉากหนึ่งของการระเบิดในอากาศเปลี่ยนเป็นสีสันที่สาดกระเซ็นบนท้องฟ้า

ได้อย่างสมบูรณ์แบบในสายตาของตัวเอกของเรา ความไร้เดียงสาและความไร้เดียงสาของเธอถูกท้าทายตลอดทั้งเรื่อง แต่ผ่านความท้าทายมากมายที่เธอเผชิญ แต่ก็ยังคงรักษาไว้ได้อย่างต่อเนื่องสิ่งที่ยอดเยี่ยมเกี่ยวกับภาพยนตร์เรื่องนี้คือเนื่องจากลักษณะนิสัยดังกล่าว การต่อสู้ดิ้นรนในชีวิตประจำวันของเธอจึงดูเหมือนจะเท่าเทียมกับความน่ากลัวของสงคราม การเน้นไปที่การต่อสู้ดิ้นรนของทุกคนเป็นวิธีการใหม่และสร้างสรรค์ในการมองสงคราม การต่อสู้ดิ้นรนเพื่อหาทางและการจัดการเสบียง ตัวละครดังกล่าวดูเหมือนจะตรงข้ามกับสงครามและการนองเลือด เนื่องจากเธอสร้างโทนให้กับภาพยนตร์เรื่องนี้ ซึ่งดูไม่เหมือนภาพยนตร์ที่เน้นไปที่ฉากสงครามในมุมหนึ่งของโลกที่แยกจากกลุ่มคนทั่วไป แต่เรายังคงเห็นตัวละครเติบโตและเป็นผู้ใหญ่ขึ้นแม้ว่าเธอจะไม่สูญเสียจินตนาการและความบริสุทธิ์ แต่ก็เป็นแนวคิดที่ยากจะปรับสมดุลและขัดกับแนวคิดดั้งเดิมในเรื่องราวการเติบโตที่ตัวเอกหลักต้องเข้าใจ “สีสันที่แท้จริง” ของสังคม โลก และมนุษยชาติ เพื่อที่จะบรรลุผล การทำเช่นนี้ทำให้ตัวละครกลายเป็นสิ่งที่สำคัญที่สนับสนุนสันติภาพและความดีในการเป็นคนธรรมดา

⭐ tenshi_ippikiookami

🤩 คะแนน: 9/10 ดาว

เป็นหนึ่งในอนิเมะที่สวยงามที่สุดที่ฉันเคยดูมา มันเป็นเรื่องราวที่จะสัมผัสหัวใจของผู้ชม เรื่องราวที่บอกเล่าเรื่องราวที่ดูเหมือนเรียบง่าย แต่มีหลายชั้นหลายชั้น และจะอยู่ในความทรงจำของคุณไปอีกนานหลังจากเครดิตตอนจบเรื่องราวนี้เน้นที่ Suzu เด็กสาวจากฮิโรชิม่า ก่อน ระหว่าง และหลังสงครามโลกครั้งที่สอง เธอมีพี่ชายและน้องสาว เธอชอบวาดรูปและระบายสี (และเป็นศิลปินตัวจริง) เธอชอบสิ่งเรียบง่ายและยิ้มง่าย เธอเพียงต้องการมีความสุขและช่วยเหลือผู้คนรอบข้างเธออย่างไรก็ตาม ชีวิตไม่ง่ายอย่างนั้น และที่นี่ สงครามเข้ามามีบทบาท และ   ทำหน้าที่ได้ดีในการสร้างสมดุลระหว่างสิ่งเล็ก ๆ (Suzu) กับสิ่งใหญ่ ๆ (ฮิโรชิม่า สงคราม และผลที่ตามมา…) แม้ว่า Suzu จะอยู่ที่นั่นเกือบตลอดเวลา บนหน้าจอ รายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ มากมาย บทสนทนาเล็ก ๆ น้อย ๆ และการโต้ตอบระหว่างตัวละครก็แสดงให้เห็นถึงโลกแห่งความรุนแรง ความเกลียดชัง อำนาจ และ ความขัดแย้งที่ยังไม่ได้รับการแก้ไข มันเศร้า มันซาบซึ้ง และไม่ควรเป็นเรื่องน่าประหลาดใจถ้ามันทำให้คุณร้องไห้แอนิเมชั่นนั้นน่าทึ่งมาก มันน่ารักและมีรอยยิ้มมาก ซึ่งทำให้ช่วงเวลาที่ยากลำบากนั้นรุนแรงขึ้น ช่วงเวลาที่เศร้าก็ยิ่งเศร้ามากขึ้น และช่วงเวลาที่โกรธทำให้คุณโกรธมากขึ้น โทนสีและการแสดงออกของตัวละครช่วยนำเรื่องราวมาสู่ชีวิตและทำให้ทุกคนรู้สึกสมจริงและใกล้ชิด และความต้องการและความปรารถนาของพวกเขาก็เป็นจริงเป็นภาพยนตร์ที่ยอดเยี่ยมและคุ้มค่าแก่การชมอย่างยิ่ง ขอแนะนำอย่างยิ่ง

⭐ aurora121

🤩 คะแนน: 9/10 ดาว

นี่ไม่ใช่ภาพยนตร์แอนิเมชั่นเรื่องแรกจากญี่ปุ่นที่เล่าถึงชีวิตในประเทศนั้นในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง Grave of the Fireflies ของ Isao Takahata ออกฉายในปี 1988 แม้ว่าจะมีความคล้ายคลึงกัน แต่ก็มีความแตกต่างมากมายเช่นกัน ตัวละครหลักชื่อ Suzu และเราติดตามชีวิตของเธอในและรอบๆ Kure และ Hiroshima ก่อน ระหว่าง และหลังจากที่ญี่ปุ่นเข้าร่วมสงครามโลกครั้งที่สอง แม้ว่าจะไม่มีการกล่าวถึงการโจมตี Pearl Harbour แต่การโจมตีของญี่ปุ่นแผ่นดินใหญ่ของอเมริกาก็แสดงให้เห็นอย่างชัดเจน ความยากลำบากและความทุกข์ทรมานของประชาชนพลเรือนเป็นจุดสนใจหลักของภาพยนตร์เรื่องนี้และไม่มีการตอบโต้ใดๆ อย่างแน่นอนโดยรวมแล้วเป็นภาพยนตร์แอนิเมชั่นที่ยอดเยี่ยม ส่วนตัวแล้วฉันจะพยายามดูหนังที่กำกับโดย Sunao Katabuchi เพิ่มเติม

⭐ Tweekums

🤩 คะแนน: 10/10 ดาว

ภาพยนตร์เรื่องนี้ซึ่งมีเนื้อเรื่องหลักเกี่ยวกับซูสุ อูราโนะ เริ่มต้นด้วยตอนที่เธอยังเป็นเด็กในญี่ปุ่นช่วงก่อนสงคราม เธออาศัยอยู่ในเมืองเล็กๆ แห่งหนึ่งซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเมืองฮิโรชิม่า เธอช่วยพ่อแม่ทำไร่สาหร่าย และในเวลาว่าง เธอก็เริ่มหลงใหลในงานศิลปะ เมื่อเธออายุได้ 18 ปีในปี 1943 เธอได้รับคำขอแต่งงานจากชายคนหนึ่งในเมืองคุเระ ซึ่งเป็นท่าเรือของกองทัพเรือที่อยู่ห่างออกไป 15 ไมล์ เธอจึงตกลงใจและย้ายไปคุเระ ซึ่งเธอได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวเขา ในตอนแรก พวกเขาไม่ได้ได้รับผลกระทบจากสงคราม แต่ปัญหาขาดแคลนค่อยๆ ทวีความรุนแรงขึ้น และเมืองนี้ก็ตกเป็นเป้าหมายของเครื่องบินทิ้งระเบิดของอเมริกา ส่งผลให้เกิดการทำลายล้างในวงกว้างและโศกนาฏกรรมในชีวิต

เมื่อนั่งดูเรื่องนี้ ฉันคิดว่ามันคงเป็นหนังที่บีบหัวใจเป็นบางครั้ง และก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ สิ่งที่ฉันไม่คาดคิดคือความสนุกสนานในครึ่งแรกของภาพยนตร์ส่วนใหญ่ ญี่ปุ่นก่อนสงครามดูสวยงามราวกับอยู่ในฝัน และแม้กระทั่งในช่วงสงคราม แม้ว่าสงครามจะอยู่ไกลออกไป แต่ก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไรมากนัก นอกจากปัญหาการขาดแคลนและเรือรบจำนวนมากในอ่าวโคเระ มีฉากที่น่าดึงดูดใจมากมายเมื่อซูซุได้รู้จักบ้านใหม่ของเธอ โดยเฉพาะฉากที่เธอคุยกับฮารุมิ หลานสาวคนใหม่ของเธอ แอนิเมชั่นนั้นน่ารื่นรมย์ สไตล์สีน้ำของแอนิเมชั่นนั้นสะท้อนถึงผลงานศิลปะของซูซุอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเปรียบเทียบกับ ‘Grave of the Fireflies’ เนื่องจากทั้งสองเรื่องมีฉากหลังเป็นญี่ปุ่นในช่วงสงคราม ภาพยนตร์เรื่องนี้ให้ความรู้สึกที่แตกต่างกันมาก แม้ว่าเรื่องนี้จะมีช่วงเวลาที่น่าเศร้า แต่ตอนจบนั้นไม่ได้บอกอะไรชัดเจนนัก โดยรวมแล้ว ฉันขอแนะนำภาพยนตร์ที่ชวนคิดเรื่องนี้อย่างแน่นอน แค่เตรียมใจไว้ว่าคุณจะต้องเสียน้ำตาสักเล็กน้อย