Jamie Foxx เจมี่ ฟ็อกซ์

จาก “เอริก มาร์ลอน บิชอป” สู่ “เจมี่ ฟ็อกซ์”

 

มีชื่อจริงว่า เอริก มาร์ลอน บิชอป (Eric Marlon Bishop) เกิดเมื่อวันที่ 13 ธันวาคม ค.ศ. 1967 ที่เมืองเทอร์เรลล์ รัฐเท็กซัส สหรัฐอเมริกา ชีวิตในวัยเด็กของเขาไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ หลังจากพ่อแม่แยกทางกันได้ไม่นาน เขาก็ถูกรับเลี้ยงโดยคุณตาคุณยาย ผู้ซึ่งปลูกฝังให้เขารักในดนตรีและศาสนามาตั้งแต่เด็ก แววอัจฉริยะทางดนตรีของเขาฉายชัดตั้งแต่อายุ 5 ขวบเมื่อเขาเริ่มเรียนเปียโน และต่อมาได้กลายเป็นหัวหน้าคณะนักร้องประสานเสียงและนักดนตรีในโบสถ์ท้องถิ่น

จุดเปลี่ยนสำคัญในชีวิตของเขาเกิดขึ้นเมื่อก้าวเข้าสู่โลกของสแตนด์อัพคอมเมดี้ เขาค้นพบว่านักแสดงตลกหญิงมักจะถูกเรียกขึ้นแสดงก่อน เขาจึงตัดสินใจใช้ชื่อในวงการที่ฟังดูเป็นได้ทั้งชายและหญิงอย่าง “Jamie Foxx” โดยนามสกุล “Foxx” นั้นเป็นการแสดงความเคารพต่อนักแสดงตลกในตำนานอย่าง Redd Foxx

 

เส้นทางสู่ดวงดาว: ตลก, ซิตคอม, และจอเงิน

 

ความสามารถในการแสดงและสร้างเสียงหัวเราะของ โดดเด่นจนไปเข้าตาผู้สร้างรายการทีวีชื่อดังอย่าง “In Living Color” (1991-1994) ที่ซึ่งเขาได้ร่วมงานกับดาวตลกชื่อดังมากมายและแจ้งเกิดในวงการโทรทัศน์อย่างเต็มตัว

ความสำเร็จนี้ต่อยอดให้เขามีซิตคอมเป็นของตัวเองในชื่อ “The Jamie Foxx Show” (1996-2001) ซึ่งไม่เพียงแต่สร้างชื่อเสียงให้เขาในวงกว้าง แต่ยังเปิดโอกาสให้เขาได้โชว์ความสามารถทางดนตรีไปพร้อมๆ กัน

แต่  ไม่ได้หยุดอยู่แค่ความสำเร็จในจอแก้ว เขาเบนเข็มเข้าสู่วงการภาพยนตร์อย่างจริงจัง และเริ่มพิสูจน์ตัวเองในบทบาทที่หลากหลายมากขึ้น ผลงานที่ทำให้เขาได้รับการยอมรับในฐานะนักแสดงมากฝีมือคือ “Any Given Sunday” (1999) ของผู้กำกับ โอลิเวอร์ สโตน และ “Ali” (2001) ที่เขาได้แสดงร่วมกับ วิลล์ สมิธ

 

จุดสูงสุดแห่งอาชีพ: รางวัลออสการ์และแกรมมี่

 

ปี 2004 ถือเป็นปีทองของ  อย่างแท้จริง เขาได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ถึง 2 สาขาในปีเดียวกัน คือ นักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยมจากภาพยนตร์เรื่อง “Collateral” ที่เขาประชันบทบาทกับ ทอม ครูซ และนักแสดงนำชายยอดเยี่ยมจาก “Ray”

และในที่สุด เขาก็สามารถคว้ารางวัลออสการ์ สาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยม มาครองได้สำเร็จ จากบทบาทการแสดงเป็น “เรย์ ชาร์ลส์” นักดนตรีตาบอดในตำนานในภาพยนตร์เรื่อง “Ray” ซึ่งการแสดงของเขาได้รับการยกย่องว่าเป็นการสวมวิญญาณตัวละครได้อย่างสมบูรณ์แบบ และบทบาทนี้เองยังส่งให้เขาคว้ารางวัลลูกโลกทองคำ, BAFTA, และ SAG Awards มาครองได้อีกด้วย

ไม่เพียงแต่งานแสดง แต่ในด้านดนตรี  ก็ประสบความสำเร็จอย่างงดงาม เขามีอัลบั้มเพลงที่ฮิตติดชาร์ตมากมาย และคว้ารางวัลแกรมมี่มาครองได้สำเร็จจากเพลง “Blame It” ในปี 2010 ยืนยันถึงความเป็นศิลปินที่ครบเครื่องอย่างแท้จริง

 

ผลงานเด่นที่ไม่ควรพลาด

 

• Ray (2004): ภาพยนตร์ชีวประวัติที่ทำให้เขาคว้ารางวัลออสการ์
• Collateral (2004): บทบาทคนขับแท็กซี่ที่ชีวิตต้องพลิกผันเมื่อเจอกับนักฆ่ามืออาชีพ
• Django Unchained (2012): การร่วมงานกับผู้กำกับ เควนติน ทารันติโน ในบท “จังโก้” ทาสผู้ต้องการอิสรภาพ
• Spider-Man: No Way Home (2021): กลับมารับบท “อิเล็คโตร” อีกครั้งในจักรวาลมาร์เวล
• Day Shift (2022): ภาพยนตร์แอ็คชั่นคอเมดี้บน Netflix กับบทบาทนักล่าแวมไพร์

 

รีวิวและเสียงวิจารณ์

 

ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางจากนักวิจารณ์ทั่วโลก เว็บไซต์ Rotten Tomatoes ให้คะแนนภาพยนตร์ “Ray” สูงถึง 80% โดยยกย่องการแสดงของเขาว่า “ทรงพลังและน่าทึ่ง” ขณะที่ IMDb ให้คะแนนภาพยนตร์เรื่องนี้สูงถึง 7.7/10 ซึ่งสะท้อนถึงความประทับใจของผู้ชมที่มีต่อผลงานชิ้นเอกของเขา

 

ภาพยนตร์ที่คล้ายกัน

 

หากคุณชื่นชอบผลงานการแสดงที่ทรงพลังและหลากหลายของ คุณอาจจะสนใจภาพยนตร์เหล่านี้:

• Training Day (2001): ผลงานที่ส่งให้ เดนเซล วอชิงตัน คว้าออสการ์ กับบทบาทตำรวจสุดเข้ม
• The Pursuit of Happyness (2006): เรื่องราวสร้างแรงบันดาลใจของ วิลล์ สมิธ ในบทคุณพ่อสู้ชีวิต
• Forrest Gump (1994): การแสดงระดับตำนานของ ทอม แฮงค์ส ที่จะพาคุณซาบซึ้งไปกับเรื่องราวชีวิตที่ไม่ธรรมดา

---

 

คำถามที่พบบ่อย (FAQ)

 

Q:   เริ่มต้นอาชีพในวงการบันเทิงได้อย่างไร?

A: เขาเริ่มต้นจากการเป็นนักแสดงตลกสแตนด์อัพคอมเมดี้ ก่อนจะโด่งดังจากรายการทีวี “In Living Color” และมีซิตคอมเป็นของตัวเองในชื่อ “The Jamie Foxx Show” ครับ

Q: ภาพยนตร์เรื่องไหนที่ทำให้  ได้รับรางวัลออสการ์?

A: เขาได้รับรางวัลออสการ์ สาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยม จากภาพยนตร์เรื่อง “Ray” ในปี 2005 ซึ่งเขารับบทเป็น เรย์ ชาร์ลส์ นักดนตรีระดับตำนานครับ

Q: นอกจากงานแสดงแล้ว มีผลงานด้านอื่นอีกไหม?

A: มีครับ! เขาเป็นนักร้องและนักดนตรีที่ประสบความสำเร็จมาก มีอัลบั้มที่ฮิตติดชาร์ตและเคยได้รับรางวัลแกรมมี่อีกด้วย

Q: สามารถติดตามชมผลงานล่าสุดของ ได้ที่ไหน?

A: คุณสามารถติดตามชมภาพยนตร์และซีรีส์ของเขาได้ทาง Movie24HD ซึ่งมีผลงานของเขาให้เลือกชมอย่างหลากหลายครับ นอกจากนี้ยังสามารถติดตามข่าวสารและไลฟ์สไตล์ของเขาได้จากช่อง Youtube ที่น่าสนใจอย่าง Malagorman หรือ GreaterThanStudio ครับ

Q:  เคยมีปัญหาสุขภาพร้ายแรงใช่หรือไม่?

A: ใช่ครับ ในปี 2023 เขามีอาการป่วยกะทันหันซึ่งเป็นภาวะแทรกซ้อนทางการแพทย์ที่ร้ายแรง แต่ด้วยกำลังใจและการรักษาที่ดีเยี่ยม เขาสามารถฟื้นตัวและกลับมาทำงานที่เขารักได้อีกครั้ง ซึ่งเป็นเรื่องที่น่ายินดีสำหรับแฟนๆ ทั่วโลกครับ