Jerry Seinfeld เจอร์รี่ ไซน์เฟลด์

จากเวทีสแตนด์อัพสู่ราชาแห่งซิตคอม

 

เจอโรม อัลเลน ไซน์เฟลด์ เกิดเมื่อวันที่ 29 เมษายน ค.ศ. 1954 ที่เมืองบรุกลิน นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา เขาค้นพบแพชชั่นในการสร้างเสียงหัวเราะตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัย และตัดสินใจเดินเข้าสู่เส้นทางสายตลกอย่างเต็มตัวหลังเรียนจบ โดยเริ่มจากการตระเวนแสดงสแตนด์อัพคอมเมดี้ตามคลับต่างๆ ในนิวยอร์ก

ด้วยสไตล์การเล่าเรื่องที่เป็นเอกลักษณ์ เขาสามารถหยิบยกเรื่องราวเล็กๆ น้อยๆ ที่ทุกคนมองข้ามในชีวิตประจำวัน เช่น การต่อแถวในซูเปอร์มาร์เก็ต การหาที่จอดรถ หรือความน่ารำคาญของถุงเท้าที่หายไปหนึ่งข้าง มาขยี้ให้กลายเป็นเรื่องตลกขบขันได้อย่างน่าทึ่ง ความสามารถนี้ส่งให้เขาได้ไปปรากฏตัวในรายการทอล์กโชว์ชื่อดังอย่าง The Tonight Show Starring Johnny Carson ในปี 1981 ซึ่งถือเป็นการแจ้งเกิดและเปิดประตูสู่ความสำเร็จในวงกว้าง

จุดเปลี่ยนครั้งประวัติศาสตร์ในชีวิตของเขาเกิดขึ้นในปี 1988 เมื่อเขาได้ร่วมมือกับเพื่อนซี้อย่าง แลร์รี เดวิด (Larry David) สร้างสรรค์ซิตคอมเรื่อง “Seinfeld” ให้กับสถานีโทรทัศน์ NBC โดยมีคอนเซ็ปต์สุดพิลึกในยุคนั้นคือ “การสร้างโชว์ที่ไม่มีแก่นเรื่องอะไรเลย” เป็นการนำเสนอชีวิตประจำวันของเจอร์รี่ (ที่เล่นเป็นตัวเองในเวอร์ชั่นสมมติ) และผองเพื่อนสุดเพี้ยนอีก 3 คนในนิวยอร์ก

 

Seinfeld: ปรากฏการณ์ “โชว์ที่ไม่มีอะไร”

 

“Seinfeld” ออกอากาศครั้งแรกในปี 1989 และค่อยๆ สร้างฐานผู้ชมจนกลายเป็นปรากฏการณ์ทางวัฒนธรรมระดับโลกในช่วงทศวรรษที่ 90 ซีรีส์เรื่องนี้ฉีกทุกกฎเกณฑ์ของซิตคอมในยุคนั้นที่มักจะเน้นเรื่องราวครอบครัวหรือการให้ข้อคิดสอนใจ แต่ “Seinfeld” กลับนำเสนอความยุ่งเหยิง ความน่ารำคาญ และความเห็นแก่ตัวเล็กๆ น้อยๆ ของมนุษย์ปุถุชนผ่านบทสนทนาที่เฉียบคมและสถานการณ์ที่ “จริงเสียยิ่งกว่าจริง”

ตลอด 9 ซีซั่นที่ออกอากาศ “Seinfeld” ไม่เพียงแต่กวาดเรตติ้งถล่มทลายและคว้ารางวัลมานับไม่ถ้วน แต่ยังสร้างวลีฮิตติดปากและส่งอิทธิพลต่อซิตคอมรุ่นหลังมาจนถึงปัจจุบัน การตัดสินใจจบซีรีส์ในปี 1998 ขณะที่ยังโด่งดังถึงขีดสุด ได้สร้างตอนจบในตำนานที่มีผู้ชมในสหรัฐอเมริกาสูงถึง 76.3 ล้านคน

 

ชีวิตหลัง Seinfeld: กาแฟ รถยนต์ และการกลับสู่รากเหง้า

 

แม้จะประสบความสำเร็จอย่างมหาศาลและกลายเป็นหนึ่งในบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในวงการบันเทิง แต่เจอร์รี่ ไซน์เฟลด์ ก็ไม่เคยทิ้งความรักแรกของเขา นั่นคือ “สแตนด์อัพคอมเมดี้” เขากลับสู่เวทีอีกครั้งและยังคงออกทัวร์แสดงสดมาจนถึงปัจจุบัน

ในปี 2012 เขาได้สร้างสรรค์โปรเจกต์ที่ผสมผสานสองสิ่งที่เขารักได้อย่างลงตัว นั่นคือรถยนต์คลาสสิกและบทสนทนาที่น่าสนใจ ในเว็บซีรีส์สุดฮิต “Comedians in Cars Getting Coffee” ซึ่งเขารับหน้าที่เป็นพิธีกร ขับรถสวยๆ ไปรับเพื่อนนักแสดงตลกชื่อดังเพื่อพูดคุยแลกเปลี่ยนมุมมองเกี่ยวกับชีวิตและวงการตลก ซีรีส์นี้ประสบความสำเร็จอย่างสูงและได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลเอ็มมีหลายครั้ง

ผลงานล่าสุดของเขาคือภาพยนตร์ทาง Netflix เรื่อง “Unfrosted” (2024) ที่เขาทั้งกำกับ เขียนบท และนำแสดงเอง เป็นการเล่าเรื่องราวการแข่งขันของสองบริษัทอาหารเช้ายักษ์ใหญ่ในการคิดค้นขนม Pop-Tarts ด้วยสไตล์ตลกที่เป็นเอกลักษณ์ของเขา

 

ผลงาน/นักแสดงที่คล้ายกัน

 

หากคุณชื่นชอบอารมณ์ขันที่เกิดจากการสังเกตสิ่งรอบตัวอย่างชาญฉลาดของ เจอร์รี่ ไซน์เฟลด์ เราขอแนะนำ:

• แลร์รี เดวิด (Larry David): ผู้ร่วมสร้าง “Seinfeld” และนักแสดงนำในซีรีส์ “Curb Your Enthusiasm” ซึ่งมีสไตล์การตลกที่เน้นความน่าอึดอัดใจในสถานการณ์สังคมที่คล้ายคลึงกัน
• เรย์ โรมาโน (Ray Romano): นักแสดงนำจากซิตคอม “Everybody Loves Raymond” ที่นำเสนอเรื่องราวครอบครัวในชีวิตประจำวันได้อย่างตลกขบขันและเข้าถึงง่าย
• ริกกี เจอร์เวส (Ricky Gervais): นักแสดงตลกชาวอังกฤษ ผู้สร้างซีรีส์ “The Office” (UK) และ “After Life” ที่มีสไตล์การตลกแบบสังเกตการณ์และตลกร้ายที่เฉียบคม

 

คำถามที่พบบ่อย (FAQ)

 

Q: ทำไมซีรีส์ “Seinfeld” ถึงถูกเรียกว่า “โชว์ที่ไม่มีอะไร”?

A: เพราะตัวซีรีส์มีจุดเด่นคือการนำเสนอสถานการณ์เล็กๆ น้อยๆ ในชีวิตประจำวันของตัวละคร โดยไม่มีเส้นเรื่องหลักที่ยิ่งใหญ่หรือการพัฒนาตัวละครที่ชัดเจนเหมือนซิตคอมทั่วไป แต่เน้นที่ความตลกขบขันจากบทสนทนาและเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครับ

Q: เจอร์รี่ ไซน์เฟลด์ ร่ำรวยมากจริงหรือไม่?

A: จริงครับ เขาได้รับการจัดอันดับให้เป็นหนึ่งในนักแสดงตลกที่ร่ำรวยที่สุดในโลก โดยรายได้ส่วนใหญ่มาจากค่าลิขสิทธิ์ของซีรีส์ “Seinfeld” ที่ยังคงถูกนำไปฉายซ้ำทั่วโลกอย่างต่อเนื่อง

Q: เขายังแสดงสแตนด์อัพคอมเมดี้อยู่ไหม?

A: ยังคงแสดงอยู่ครับ สแตนด์อัพคอมเมดี้คือรากเหง้าและความรักที่แท้จริงของเขา เขายังคงมีผลงานสแตนด์อัพสเปเชียลทาง Netflix และออกทัวร์แสดงสดอยู่เสมอ

เจอร์รี่ ไซน์เฟลด์ ไม่ใช่แค่ดาวตลก แต่เขาคือ “นักปราชญ์แห่งเรื่องธรรมดา” ผู้สอนให้เรามองเห็นความตลกขบขันที่ซ่อนอยู่ในทุกอณูของชีวิต และมรดกที่เขาสร้างไว้กับซีรีส์ “Seinfeld” จะยังคงสร้างเสียงหัวเราะให้กับผู้ชมไปอีกหลายทศวรรษอย่างแน่นอน ติดตามผลงานคลาสสิกและเรื่องราวสนุกๆ ในวงการภาพยนตร์ได้ที่ Movie24HD ครับ!