อ่านรีวิวก่อน ดูหนัง
ทายาทแห่งวงการบันเทิงและจุดเริ่มต้นกับ The Goonies
จอช เจมส์ โบรลิน เกิดเมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1968 ที่ซานตาโมนิกา แคลิฟอร์เนีย เขาคือลูกชายของนักแสดงชื่อดัง เจมส์ โบรลิน (James Brolin) ซึ่งทำให้เขาเติบโตและคุ้นเคยกับโลกของฮอลลีวูดมาตั้งแต่เด็ก แต่เขาก็ไม่ได้ใช้เส้นทางของพ่อเป็นทางลัดสู่ความสำเร็จ
เขาแจ้งเกิดในวงการภาพยนตร์ตั้งแต่อายุ 17 ปี กับบทบาท “แบรนดอน ‘แบรนด์’ วอลช์” พี่ชายสุดเท่ในภาพยนตร์ผจญภัยระดับตำนานที่ครองใจเด็กๆ ทั่วโลกอย่าง The Goonies (1985) ซึ่งผลิตโดย สตีเวน สปีลเบิร์ก แม้ว่าหนังจะประสบความสำเร็จอย่างงดงาม แต่เส้นทางหลังจากนั้นของโบรลินกลับไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ เขาใช้เวลาเกือบ 20 ปีในการรับบทบาทสมทบในภาพยนตร์และซีรีส์โทรทัศน์ เพื่อรอคอยโอกาสครั้งสำคัญที่จะได้พิสูจน์ฝีมือ
การกลับมาครั้งยิ่งใหญ่แห่งยุค 2000s
ช่วงปี 2007-2008 คือปีทองที่เปลี่ยนแปลงอาชีพการแสดงของ จอช โบรลิน ไปตลอดกาล เขาได้กลับมาอย่างยิ่งใหญ่ด้วยผลงานภาพยนตร์คุณภาพถึง 3 เรื่องซ้อนที่ทำให้ทั้งโลกต้องหันมามองเขาในฐานะนักแสดงเจ้าบทบาท
No Country for Old Men (2007): ผลงานระดับมาสเตอร์พีซของพี่น้องโคเอน ที่เขาได้รับบทนำเป็น “ลูเวลลิน มอสส์” ทหารผ่านศึกที่บังเอิญไปเจอเงินล้านและต้องหนีการตามล่าสุดโหดจากฆาตกรโรคจิต (ฮาเวียร์ บาร์เด็ม) ภาพยนตร์เรื่องนี้คว้า รางวัลออสการ์ สาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยม และทำให้ชื่อของโบรลินกลับมาผงาดอีกครั้ง
American Gangster (2007): ร่วมแสดงในหนังเจ้าพ่อสุดเข้มข้นของผู้กำกับ ริดลีย์ สก็อตต์
Milk (2008): การแสดงที่ทรงพลังที่สุดครั้งหนึ่งในชีวิตของเขา กับบทบาท “แดน ไวท์” นักการเมืองคู่ปรับของ ฮาร์วีย์ มิลค์ (ฌอน เพนน์) ซึ่งบทบาทนี้ส่งให้เขาได้รับการเสนอชื่อเข้าชิง รางวัลออสการ์ สาขานักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม เป็นครั้งแรก
ไอคอนแห่งโลกภาพยนตร์: Thanos และ Cable
หลังจากพิสูจน์ฝีมือในสายดราม่าแล้ว จอช โบรลิน ก็ได้ก้าวขึ้นมาครองบัลลังก์ในโลกภาพยนตร์บล็อกบัสเตอร์ ด้วยการสวมบทบาทตัวละครจากคอมิกที่โด่งดังที่สุดสองตัวในเวลาไล่เลี่ยกัน
ธานอส (Thanos) – Marvel Cinematic Universe: เขาคือผู้ที่ให้เสียงและแสดงผ่านเทคโนโลยีโมชั่นแคปเจอร์เป็น “ธานอส” ไททันผู้บ้าคลั่ง มหาวายร้ายที่ทรงพลังที่สุดของจักรวาล MCU ใน Avengers: Infinity War (2018) และ Avengers: Endgame (2019) โบรลินไม่ได้แค่สร้างวายร้ายที่น่าเกรงขาม แต่เขาสร้างตัวละครที่มีมิติ, มีเหตุผล และมีความเจ็บปวด จนกลายเป็นหนึ่งในวายร้ายที่ยิ่งใหญ่และน่าจดจำที่สุดในประวัติศาสตร์ภาพยนตร์
เคเบิล (Cable) – Deadpool 2 (2018): ในปีเดียวกัน เขาก็ปรากฏตัวในบท “เคเบิล” ไซบอร์กนักเดินทางข้ามเวลาสุดโหด คู่ปรับสุดกวนของเดดพูล ซึ่งเป็นการโชว์ให้เห็นถึงความสามารถในการแสดงบทแอ็คชั่นสุดเท่ของเขา
ผลงานคุณภาพที่ต่อเนื่อง
จอช โบรลิน ยังคงมีผลงานคุณภาพออกมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสามารถอันหลากหลายของเขา ไม่ว่าจะเป็น Sicario (2015) และภาคต่อ Sicario: Day of the Soldado (2018) ในบทเจ้าหน้าที่ CIA สุดดุดัน, Dune (2021) และ Dune: Part Two (2024) ในบท “เกอร์นีย์ ฮัลเลค” นักรบผู้ภักดี และล่าสุดกับซีรีส์ไซไฟ-เวสเทิร์นสุดลึกลับ Outer Range (2022)
บทสรุป
เส้นทางของ จอช โบรลิน คือบทพิสูจน์ของความมุ่งมั่นและความไม่ย่อท้อ จากดาราวัยรุ่นที่เกือบจะเลือนหายไป เขากลับมาผงาดในฐานะนักแสดงเจ้าบทบาทที่ได้รับการยอมรับจากเวทีรางวัล และก้าวขึ้นสู่จุดสูงสุดในฐานะไอคอนของหนังบล็อกบัสเตอร์ เขาคือธานอสผู้ยิ่งใหญ่, คือเคเบิลสุดเท่ และคือนักแสดงคุณภาพที่พร้อมจะมอบการแสดงอันน่าทึ่งให้กับผู้ชมเสมอ
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
Q: จอช โบรลิน เป็นลูกชายของ เจมส์ โบรลิน จริงหรือไม่? แล้วเขาก็เป็นลูกเลี้ยงของ บาร์บรา สไตรแซนด์ ด้วยใช่ไหม?
A: ใช่ครับ เขาเป็นลูกชายแท้ๆ ของนักแสดง เจมส์ โบรลิน และหลังจากที่พ่อของเขาแต่งงานใหม่กับสุดยอดนักร้องดีว่า บาร์บรา สไตรแซนด์ (Barbra Streisand) เธอก็มีสถานะเป็นแม่เลี้ยงของเขานั่นเอง
Q: ทำไมเขาถึงได้รับบทเป็นตัวละครดังจาก Marvel ถึง 2 ตัวในเวลาเดียวกัน?
A: เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นไม่บ่อยนักในฮอลลีวูด แต่เนื่องจากตัวละคร ธานอส ใน MCU และ เคเบิล ใน Deadpool (ซึ่งตอนนั้นยังอยู่กับค่าย Fox) อยู่คนละจักรวาลภาพยนตร์กัน จึงทำให้เขาสามารถรับบททั้งสองได้ในเวลาไล่เลี่ยกัน ซึ่งเขาก็ทำออกมาได้ดีเยี่ยมทั้งสองบทบาท
Q: เขาเคยได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์กี่ครั้ง?
A: เขาเคยได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ 1 ครั้ง ในสาขานักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม จากภาพยนตร์เรื่อง Milk (2008)
Q: จะหาชมผลงานเด่นๆ ของ จอช โบรลิน ได้ที่ไหนบ้าง?
A: คุณสามารถรับชมบทบาทที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเขาใน Avengers: Infinity War และ Endgame รวมถึง Deadpool 2 และ Dune ได้ทางบริการสตรีมมิ่งชั้นนำ และแน่นอนว่าที่ Movie24HD เราได้รวบรวมผลงานคุณภาพที่แสดงให้เห็นถึงพลังการแสดงของเขา ไม่ว่าจะเป็น No Country for Old Men หรือ Sicario ไว้ให้คุณได้ชมกันครับ!
ผลงานภาพยนตร์
Men In Black III (2012) เอ็มไอบี 3 หน่วยจารชนพิทักษ์จักรวาล
เมนอินแบล็ค หน่วยจารชนพิทักษ์จักรวาล 3 เป็นภาพยนตร์อเมริกัน 3 มิติแนวนิยายวิทยาศาสตร์ตลกในปี 2012 ออกฉายในวันที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2555
Sicario Day of the Soldado (ทีมพิฆาตทะลุแดนเดือด 2)
การโจมตีฆ่าตัวตายของกลุ่ม ISISใน ร้านขายของชำใน เมืองแคนซัสซิตี้ทำให้มีผู้เสียชีวิต 15 ราย รัฐบาลสหรัฐฯ จึงสั่งการให้ เจ้าหน้าที่ CIAแมตต์ เกรเวอร์ ใช้มาตรการขั้นเด็ดขาดในการต่อสู้กับกลุ่มค้ายาของเม็กซิโกซึ่งต้องสงสัยว่าลักลอบขนผู้ก่อการร้ายข้ามพรมแดนระหว่างเม็กซิโกกับสหรัฐฯเกรเวอร์และกระทรวงกลาโหมตัดสินใจว่าทางเลือกที่ดีที่สุดคือการยุยงให้เกิดสงครามระหว่างกลุ่มค้ายารายใหญ่ และเกรเวอร์จึงคัดเลือกเจ้าหน้าที่อเลฮานโดร กิลลิกสำหรับภารกิจนี้ เกรเวอร์ยังได้พบกับ แอนดี้ วีลดอน ผู้ประกอบการ PMCเพื่อซื้อทหารรับจ้างเฮลิคอปเตอร์ และอุปกรณ์สื่อสารเข้ารหัสสำหรับสหรัฐฯ เพื่อรักษาการปฏิเสธความรับผิดชอบในขณะที่ต่อสู้กับกลุ่มค้ายาของเม็กซิโก
Sicario (2015)
ในเมืองแชนด์เลอร์ รัฐแอริโซนาเจ้าหน้าที่พิเศษเอฟบี ไอ เคท เมเซอร์ และเรจจี้ เวย์น นำทีมบุกค้น บ้านพักปลอดภัย ของกลุ่มค้ายาโซโนราซึ่งพวกเขาพบศพเน่าเปื่อยหลายสิบศพซ่อนอยู่ในกำแพง ด้านนอกมี กับดักระเบิด สังหารเจ้าหน้าที่ตำรวจสองนาย หลังจากบุกค้น เคทได้รับคำแนะนำให้เข้าร่วมหน่วยปฏิบัติการร่วม ภายใต้ การกำกับดูแลของ เจ้าหน้าที่ ซีไอเอแมตต์ เกรเวอร์ และอเลฮานโดร กิลลิก อดีตอัยการ ชาวเม็กซิกันที่ผันตัวมาเป็น นักฆ่าที่ได้รับการฝึกจากซีไอเอภารกิจของพวกเขาคือไล่ล่าและจับกุมมานูเอล ดิอาซ ร้อยโทแห่งโซโนรา ซึ่งปัจจุบันปฏิบัติการและซ่อนตัวอยู่ในสหรัฐอเมริกา
เมื่อ โจ (จอช โบรลิน) ผู้ชายธรรมดาคนหนึ่ง ถูกจับตัวและถูกขังเดี่ยวเป็นเวลานานถึง 20 ปี โดยไม่มีเหตุผลหรือคำอธิบายใดๆ เมื่อถูกปล่อยตัวออกมา สิ่งเดียวที่อยู่ในหัวของเขาก็คือการตามล่าหาตัวคนที่อยู่เบื้องหลัง แต่สิ่งหนึ่งที่ โจ ไม่รู้ก็คือการเคลียร์บัญชีแค้นของเขายังอยู่ในแผนการของบุคคลปริศนา ที่กำลังสร้างมหากาพย์แห่งลงทัณฑ์ ที่ทั้งเจ็บปวดและชวนให้ตกตะลึงเกินกว่าที่จะจินตนาการถึง ในปี 1993 โจ ดูเซตต์ ผู้บริหารโฆษณาเครื่องดื่ม แอลกอฮอล์เมามายหลังจากสูญเสียลูกค้ารายใหญ่ ก่อนที่เขาจะหมดสติ เขาเห็นผู้หญิงคนหนึ่งถือร่มสีเหลือง เมื่อเขาตื่นขึ้นมา เขาพบว่าตัวเองถูกขังไว้ในห้องพักของโรงแรม ผู้จับกุมที่มองไม่เห็นได้ให้อาหาร แอลกอฮอล์ และของใช้ส่วนตัวแก่เขา แต่ไม่ได้อธิบายว่าทำไมเขาถึงถูกจับกุม เขาเห็นรายงานข่าวที่ระบุว่าอดีตภรรยาของเขา ดอนน่า ถูกข่มขืนและฆาตกรรม และเขาเป็นผู้ต้องสงสัยหลัก และมีอา ลูกสาววัยทารกของพวกเขาถูกนำไปเลี้ยง ในช่วง 20 ปีถัดมา เขาเลิกดื่มเหล้าและพยายามปรับปรุงตัวเอง ตั้งใจที่จะหลบหนีและแก้แค้น เขารวบรวมรายชื่อผู้ที่ต้องการจับเขาขังคุก และเขียนจดหมายเพื่อส่งให้มิอาในที่สุด วันหนึ่ง เขาเห็นการสัมภาษณ์มิอา ซึ่งบอกว่าเธอจะให้อภัยพ่อของเธอถ้าเธอเห็นเขา