อ่านรีวิวก่อน ดูหนัง
จากสนามอเมริกันฟุตบอลสู่วงการนายแบบ
โจชัว เดวิด เดอเมล เกิดเมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน ค.ศ. 1972 ที่เมืองไมนอต รัฐนอร์ทดาโคตา สหรัฐอเมริกา ในวัยหนุ่ม ความฝันแรกของเขาคือการเป็น “ทันตแพทย์” แต่ด้วยพรสวรรค์ด้านกีฬา ทำให้เขาได้เป็นควอเตอร์แบ็กตัวจริงของทีมอเมริกันฟุตบอลในมหาวิทยาลัย
แต่แล้วโชคชะตาก็พลิกผัน เมื่อแมวมองได้ค้นพบหน้าตาอันหล่อเหลาและรูปร่างที่โดดเด่นของเขา ทำให้เขาตัดสินใจเบนเข็มเข้าสู่วงการนายแบบ และประสบความสำเร็จอย่างงดงาม เขาคว้ารางวัล “นายแบบแห่งปี” จากการประกวด International Modeling and Talent Association (IMTA) ในปี 1997 ซึ่งเป็นการเปิดประตูสู่เส้นทางสายการแสดงให้กับเขาในเวลาต่อมา
ก้าวแรกในวงการแสดงและบทบาทที่สร้างชื่อ
จอช เดอเมล เริ่มต้นเส้นทางสายการแสดงจากการปรากฏตัวในมิวสิกวิดีโอของศิลปินชื่อดังอย่าง ดอนน่า ซัมเมอร์ และ คริสตินา อากีเลรา ก่อนที่จะได้รับโอกาสครั้งสำคัญที่ทำให้เขาเป็นที่รู้จักไปทั่วอเมริกา นั่นคือการรับบท “ลีโอ ดู เพรส” ในละครน้ำเน่า (Soap Opera) เรื่องดัง All My Children ซึ่งบทบาทนี้ทำให้เขาคว้ารางวัล Daytime Emmy Award มาครอง และกลายเป็นใบเบิกทางชั้นดีให้เขาก้าวเข้าสู่โลกของฮอลลีวูด
หลังจากนั้น เขาก็ได้รับบทนำในซีรีส์เรื่อง Las Vegas (2003-2008) ในบทบาท “แดนนี่ แมคคอย” หัวหน้าทีมรักษาความปลอดภัยของคาสิโน ซึ่งก็ยิ่งทำให้ชื่อเสียงของเขาโด่งดังมากขึ้นไปอีก
Transformers: นายทหารสุดเท่ขวัญใจมหาชน
บทบาทที่ทำให้ จอช เดอเมล กลายเป็นซูเปอร์สตาร์ระดับโลกอย่างแท้จริง คือการรับบท “ร้อยเอก (ต่อมาเป็นพันเอก) วิลเลียม เลนน็อกซ์” (Captain William Lennox) นายทหารหน่วยพิเศษผู้ร่วมรบเคียงบ่าเคียงไหล่กับเหล่าออโต้บอทส์ ในมหากาพย์ภาพยนตร์แอ็คชั่น-ไซไฟของผู้กำกับ ไมเคิล เบย์ เรื่อง Transformers (2007)
ด้วยมาดสุดเท่, ความเป็นผู้นำ และความกล้าหาญ ทำให้ตัวละครเลนน็อกซ์กลายเป็นที่รักของแฟนหนังทั่วโลก เขาปรากฏตัวในแฟรนไชส์นี้ถึง 4 ภาค (ภาค 1, 2, 3 และ 5) และกลายเป็นหนึ่งในภาพจำที่แยกไม่ออกจากความสำเร็จของภาพยนตร์ชุดนี้ไปโดยปริยาย
พระเอกหนังรอมคอมและผลงานที่หลากหลาย
นอกเหนือจากบทบาทแอ็คชั่นสุดมันส์แล้ว จอช เดอเมล ยังมีผลงานในภาพยนตร์แนวโรแมนติก-คอมเมดี้อีกมากมาย ซึ่งทำให้เขาได้แสดงเสน่ห์ในมุมที่อบอุ่นและเข้าถึงง่าย จนกลายเป็นพระเอกขวัญใจสาวๆ
Win a Date with Tad Hamilton! (2004): รับบทเป็นดาราดังที่สาวธรรมดาตกหลุมรักWhen in Rome (2010): ประกบคู่กับ คริสเตน เบลล์ ในหนังรอมคอมสุดป่วนLife as We Know It (2010): แสดงร่วมกับ แคทเธอรีน ไฮเกล ในบทหนุ่มสาวที่ไม่ถูกกันแต่ต้องมาเป็นผู้ปกครองเด็กทารกกำพร้าSafe Haven (2013): รับบทนำในภาพยนตร์ที่ดัดแปลงจากนิยายของ นิโคลัส สปาร์กส์
นอกจากนี้ เขายังมีผลงานการพากย์เสียงในวิดีโอเกม Call of Duty: WWII (2017) และลองชิมลางงานกำกับในภาพยนตร์เรื่อง Buddy Games (2019) อีกด้วย
ชีวิตส่วนตัว
จอช เดอเมล เคยใช้ชีวิตคู่กับนักร้องสาวซูเปอร์สตาร์ เฟอร์กี้ (Fergie) แห่งวง The Black Eyed Peas และมีลูกชายด้วยกันหนึ่งคนคือ แอ็กเซิล แจ็ค เดอเมล แม้ว่าปัจจุบันทั้งคู่จะแยกทางกันแล้ว แต่ก็ยังคงทำหน้าที่พ่อและแม่ที่ดีร่วมกัน ล่าสุดเขาได้แต่งงานใหม่กับ ออดรา มารี และเพิ่งต้อนรับสมาชิกใหม่ของครอบครัวไปเมื่อไม่นานมานี้
บทสรุป
จอช เดอเมล คือนักแสดงที่ประสบความสำเร็จในการสร้างสมดุลระหว่างบทบาทแอ็คชั่นสุดเท่กับบทบาทพระเอกหนุ่มเจ้าเสน่ห์ได้อย่างลงตัว ด้วยรูปลักษณ์ที่หล่อเหลา, ความสามารถในการแสดงที่เข้าถึงได้ และความเป็นกันเอง ทำให้เขายังคงเป็นนักแสดงที่แฟนๆ ทั่วโลกให้การต้อนรับและมีผลงานออกมาให้เราได้ติดตามอย่างต่อเนื่อง
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
Q: จอช เดอเมล จะกลับมารับบท เลนน็อกซ์ ใน Transformers อีกหรือไม่?
A: แม้ว่าในภาคล่าสุดอย่าง Rise of the Beasts จะไม่มีตัวละครของเขา แต่ก็ยังมีความเป็นไปได้เสมอในอนาคตหากเนื้อเรื่องเอื้ออำนวย แฟนๆ คงต้องรอติดตามข่าวจากทางผู้สร้างกันต่อไปครับ
Q: เขาเคยแต่งงานกับ เฟอร์กี้ นักร้องวง Black Eyed Peas จริงหรือไม่?
A: จริงครับ ทั้งคู่เคยเป็นหนึ่งในคู่รักคนดังที่โด่งดังที่สุดคู่หนึ่งของฮอลลีวูด พวกเขาแต่งงานกันในปี 2009 และมีลูกชายด้วยกัน 1 คน ก่อนจะประกาศแยกทางกันในปี 2017
Q: เขามีผลงานกำกับภาพยนตร์ด้วยใช่ไหม?
A: ใช่ครับ เขาได้กำกับและร่วมแสดงนำในภาพยนตร์คอมเมดี้เรื่อง Buddy Games (2019) และภาคต่อ Buddy Games: Spring Awakening (2023) ซึ่งเป็นโปรเจกต์ที่เขาได้โชว์ความสามารถในอีกบทบาทหนึ่งนอกเหนือจากการแสดง
Q: จะหาชมผลงานเด่นๆ ของ จอช เดอเมล ได้ที่ไหนบ้าง?
A: คุณสามารถรับชมบทบาทแจ้งเกิดของเขาได้ในแฟรนไชส์ Transformers และสัมผัสเสน่ห์ของเขาในหนังรอมคอมอย่าง Life as We Know It และ Safe Haven ได้ตามบริการสตรีมมิ่งชั้นนำ และแน่นอนว่าที่ Movie24HD เราได้รวบรวมผลงานภาพยนตร์ของพระเอกสุดหล่อคนนี้ไว้ให้คุณได้ชมกันอย่างจุใจครับ!
ผลงานภาพยนตร์ สงครามบนโลกมนุษย์ได้ยุติลง แต่ทว่าสงครามในห้วงจักรวาลนั้นเพิ่งจะเริ่มต้น หลังจากการกลับมาถึง ไซเบอร์ทรอน สตาร์สครีม ได้รับคำสั่งของเจ้าแห่งฝ่ายดีเซปติคอนส์ และได้ตัดสินใจกลับมาบุกรุกโลกพร้อมกองกำลังจักรกลสังหาร ฝ่ายออโต้บอทส์ ที่เชื่อมั่นในสันติภาพได้พบว่า ซากหุ่นที่ถูกทำลายของ เมกาทรอน ได้ถูกขโมยไปจากกองทัพสหรัฐฯ โดย สคอร์ ฟิน็อกซ์ และทำให้คืนชีพขึ้นมาอีกครั้ง ตอนนี้เมกาทรอนจึงกลับมาเพื่อแก้แค้น พร้อมสตาร์สครีมผู้ภักดี และกองทัพจักรกลสังหารฝ่ายดีเซฟติคอนส์ที่เดินทางมาสมทบอีกจำนวนมาก มหาสงครามแค้นครั้งนี้จึงเป็นงานใหญ่สำหรับฝ่ายออโต้บอทส์ ที่จะต้องรับศึกอันยิ่งใหญ่เกินกว่าที่ใครจะคาดคิดได้
เมื่อโลกเปลี่ยนเป็นสมรภูมิรบของพวกมัน เหล่าจักรกลสังหารที่มาจากจักรวาลอันไกลโพ้น ฝ่าย เมกาทรอน ผู้พิทักษ์รักสันติ ซึ่งมี ออพติมัส ไพรม์ เป็นผู้นำ และฝ่ายดีเซปติคอนส์ ผู้ทำลายล้าง ซึ่งมีเมกาทรอน เป็นผู้นำและหวังจะยึดครองแหล่งพลังงานบนโลก
สงครามของทั้งสองฝ่ายได้เกิดขึ้นจึงเกิดขึ้นบนโลกของเรา ซึ่งกุญแจสำคัญของสุดยอดพลังอำนาจที่ฝ่ายทำลายล้างต้องการครอบครองนั้นอยู่ที่เด็กหนุ่มที่ชื่อ แซม วิทวิคกี้ (ไชอา ลาบัฟ) ที่ยังไม่รู้ว่าเขาคือความหวังสุดท้ายของโลก แซมและแฟนสาวสวย มิคาเอลล่า (เมแกน ฟ็อกซ์) ต้องตกอยู่ในวงล้อมของอภิมหาสงครามจักรกลนี้ เมื่อถูกต้อนในอยู่ในสถานการณ์ที่อันตรายถึงชีวิต จากเด็กหนุ่มที่ยังไม่ประสีประสาในเรื่องราวใด ๆ ก็กลับทำให้แซมเข้าใจถึง คติประจำครอบครัวของตนเองที่ว่า “ถ้าไม่มีการเสียสละ ก็ไม่มีวันได้มาซึ่งชัยชนะ!”
Shotgun Wedding (2022)
เรื่องราวสุดวายป่วงเกิดขึ้นระหว่างงานแต่งงานของ ดาร์ซี่ (เจนนิเฟอร์ โลเปซ) และ ทอม (จอช ดูฮาเมล) คู่บ่าวสาวที่กำลังเตรียมตัวเข้าพิธีวิวาห์ ทั้งสองจึงเชิญครอบครัวและแขกมาร่วมฉลองในความรักของทั้งคู่ แต่บรรยากาศในงานกลับกลายเป็นความตึงเครียดเมื่อญาติของทั้งสองฝ่ายต่างไม่ลงรอยกัน ท่ามกลางความวุ่นวายกลับมีเหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้น เมื่อมีกลุ่มก่อการร้ายปรากฏตัวและจับแขกในงานเป็นตัวประกัน ดาร์ซี่และทอมต้องเจอกับบททดสอบรักสุดบ้าคลั่ง เพื่อจับมือกันฝ่างานวิวาห์สุดระห่ำนี้ไปให้ได้ ตราบใดที่พวกเขายังไม่หันมาฆ่ากันเองเสียก่อน
Love, Simon (2018)
ทุกคนควรจะมีเรื่องราวความรักอันงดงามของตัวเอง แต่สำหรับ “ไซมอน สไปเออร์” หนุ่มน้อยวัยสิบเจ็ดปีนั้นซับซ้อนกว่า เขาไม่เคยบอกใครว่าเขาเป็นเกย์ ไม่ว่าจะเป็นคนในครอบครัว หรือเพื่อน ๆ และเขาไม่รู้ว่าตัวตนที่แท้จริงของเพื่อนร่วมห้องนิรนามที่เขาตกหลุมรักในโลกออนไลน์นั้นคือใครกันแน่ การแก้ปัญหาทั้งสองข้อนั้นก่อให้เกิดเรื่องราวอันแสนสนุกสนาน น่าหวาดหวั่น และเปลี่ยนชีวิตในเวลาเดียวกัน
Transformers: The Last Knight (2017)
มนุษย์และทรานส์ฟอร์เมอร์สเข้าสู่สงคราม ออพติมัส ไพรม์ (พากย์เสียง ปีเตอร์ คัลเลน) จากไป กุญแจที่จะรักษาอนาคตขึ้นอยู่กับความลับในอดีต ประวัติศาสตร์ทรานส์ฟอร์เมอร์สบนโลกที่ยังไม่ถูกเปิดเผย การปกป้องการล่มสลายของโลก ตกเป็นหน้าที่ของพันธมิตรที่ไม่น่าจะเป็นไปได้ อย่าง เดค เยเกอร์ (มาร์ค วอห์ลเบิร์ก) บัมเบิ้ลบี (พากย์เสียง อีริค อาดัลห์) เซอร์เอ็ดมันด์ เบอร์ตัน (แอนโทนี่ ฮ็อปกินส์) ขุนนางอังกฤษ และ ศาสตราจารย์จากออกซ์ฟอร์ด วิเวียน เวมบลีย์ (ลอร่า แฮดด็อก)
