Keanu Reeves คีอานู รีฟส์

ชีวิตช่วงต้น: การเดินทางและการสูญเสีย

เกิดเมื่อวันที่ 2 กันยายน ค.ศ. 1964 ณ กรุงเบรุต ประเทศเลบานอน โดยมีบิดาเป็นชาวอเมริกันเชื้อสายฮาวาย-จีน และมารดาเป็นชาวอังกฤษ ทำให้เขามีรากฐานทางวัฒนธรรมที่หลากหลาย ชื่อ   เป็นภาษาฮาวาย มีความหมายว่า “สายลมเย็นที่พัดจากภูเขา”

ชีวิตในวัยเด็กของเขาเต็มไปด้วยการเดินทางและการเปลี่ยนแปลง หลังจากพ่อแม่หย่าร้างกัน เขาย้ายตามแม่ไปอาศัยในหลายประเทศ ทั้งซิดนีย์, นิวยอร์ก ก่อนจะลงหลักปักฐานที่โทรอนโต ประเทศแคนาดา ซึ่งเขาก็ได้รับสัญชาติแคนาดาในเวลาต่อมา ชีวิตที่ต้องย้ายโรงเรียนบ่อยครั้ง ประกอบกับภาวะดิสเล็กเซีย (Dyslexia) หรือภาวะบกพร่องในการอ่าน ทำให้เขาไม่ประสบความสำเร็จด้านการเรียนนัก แต่กลับค้นพบพรสวรรค์และความหลงใหลในกีฬาฮอกกี้น้ำแข็งและการแสดง

ก้าวแรกสู่โลกมายาและบทบาทแจ้งเกิด

รีฟส์ตัดสินใจทิ้งการเรียนและมุ่งหน้าสู่วงการบันเทิงอย่างเต็มตัวเมื่ออายุ 17 ปี เขาเริ่มต้นจากงานแสดงละครเวทีและโฆษณในโทรอนโต ก่อนจะย้ายไปลอสแอนเจลิสเพื่อตามหาโอกาสที่ใหญ่กว่า เขาเริ่มเป็นที่รู้จักจากภาพยนตร์วัยรุ่นเรื่อง “River’s Edge” (1986) แต่บทบาทที่ทำให้เขาโด่งดังและกลายเป็นขวัญใจวัยรุ่นอย่างแท้จริงคือบท “เท็ด โลแกน” ในภาพยนตร์คอมเมดี้เรื่อง “Bill & Ted’s Excellent Adventure” (1989)

สู่บัลลังก์แอ็คชั่นสตาร์แห่งยุค 90s

ในทศวรรษ 1990   ได้สลัดภาพหนุ่มวัยรุ่นและพิสูจน์ตัวเองในฐานะพระเอกหนังแอ็คชั่นแถวหน้า เขาพลิกบทบาทเป็นเจ้าหน้าที่ FBI ใน “Point Break” (คลื่นบ้ากระแทกคลื่นบ้า, 1991) และโด่งดังเป็นพลุแตกกับบท “แจ็ค เทรเวน” ตำรวจหนุ่มผู้ต้องกู้วิกฤตระเบิดบนรถบัสในภาพยนตร์เรื่อง “Speed” (สปีด เร็วกว่านรก, 1994) ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างถล่มทลายทั่วโลก

แต่ผลงานที่เป็นหมุดหมายสำคัญที่สุดในชีวิตการแสดงของเขามาถึงในปี ค.ศ. 1999 กับภาพยนตร์ไซไฟ-แอ็คชั่นแห่งทศวรรษเรื่อง “The Matrix” (เพาะพันธุ์มนุษย์เหนือโลก 2199) ในบทบาท “นีโอ” (Neo) แฮกเกอร์หนุ่มผู้ถูกเลือกให้เป็นผู้ปลดปล่อยมวลมนุษยชาติ ภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่เพียงแต่ปฏิวัติวงการเทคนิคพิเศษ แต่ยังส่งให้ กลายเป็นไอคอนระดับโลกและเป็นหนึ่งในนักแสดงที่มีค่าตัวสูงสุดในขณะนั้น

โศกนาฏกรรมชีวิตและความดีงามที่ถูกกล่าวขาน

แม้จะประสบความสำเร็จอย่างสูงในอาชีพการงาน แต่ชีวิตส่วนตัวของ กลับต้องเผชิญกับโศกนาฏกรรมครั้งใหญ่อย่างต่อเนื่อง ในปี 1999 เขาและแฟนสาว เจนนิเฟอร์ ไซม์ ต้องสูญเสียลูกสาวที่เสียชีวิตตั้งแต่ยังอยู่ในครรภ์ และเพียงสองปีต่อมา ไซม์ก็เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ เหตุการณ์เหล่านี้ได้ทิ้งบาดแผลลึกไว้ในใจของเขาและทำให้เขากลายเป็นคนเก็บตัวมากขึ้น

อย่างไรก็ตาม เรื่องราวความสูญเสียกลับยิ่งขับเน้นให้เห็นถึงความดีงามในตัวเขา มีเรื่องเล่ามากมายจากผู้คนทั่วไปและทีมงานในวงการถึงความเป็นคนถ่อมตน ใจดี และมีน้ำใจของเขา ทั้งการสละที่นั่งบนรถไฟใต้ดินให้ผู้อื่น, การให้เงินช่วยเหลือทีมงานเบื้องหลัง, และการบริจาคเงินจำนวนมหาศาลให้กับโรงพยาบาลเด็กและองค์กรการกุศลอย่างเงียบๆ โดยไม่หวังชื่อเสียง ภาพลักษณ์เหล่านี้ทำให้เขากลายเป็นที่รักและเคารพจากผู้คนทั่วโลก

การกลับมาอย่างยิ่งใหญ่ในบทบาท “จอห์น วิค”

หลังจากห่างหายจากบทบาทแอ็คชั่นที่โดดเด่นไปพักใหญ่ ในปี ค.ศ. 2014   ได้กลับมาทวงบัลลังก์เจ้าพ่อหนังแอ็คชั่นอีกครั้งอย่างสมศักดิ์ศรีใน “John Wick” (จอห์น วิค แรงกว่านรก) ภาพยนตร์ที่เริ่มต้นจากโปรเจกต์หนังทุนต่ำ แต่ด้วยการแสดงที่ทุ่มเทและฉากแอ็คชั่นที่ออกแบบมาอย่างยอดเยี่ยม ทำให้หนังประสบความสำเร็จเกินคาดและถูกสร้างต่อมาอีกหลายภาค ส่งให้ “จอห์น วิค” กลายเป็นอีกหนึ่งบทบาทในตำนานที่แฟนหนังทั่วโลกจดจำ

คือบทพิสูจน์ของนักแสดงที่ไม่เคยหยุดนิ่ง เขาคือศิลปินผู้ผ่านมรสุมชีวิตมานับไม่ถ้วน แต่ยังคงยืนหยัดและมอบความสุขให้กับผู้ชมผ่านผลงานการแสดง ขณะเดียวกันก็ยังคงเป็นแบบอย่างของความเป็นมนุษย์ที่เรียบง่าย มีเมตตา และเป็นที่รักของทุกคนอย่างแท้จริง