Kodi Smit-McPhee โคดี้ สมิธ-แม็คฟี

ผลงานภาพยนตร์

ดูหนัง The Road (2009) เดอะโร้ด ข้ามแดนฝ่าอำมหิต

พ่อและลูกชายเดินตามลำพังท่ามกลางพื้นที่อเมริกาที่ถูกไฟไหม้ ไม่มีสิ่งใดเคลื่อนไหวในภูมิประเทศที่ถูกทำลายล้างได้ ยกเว้นเถ้าถ่านที่ปลิวไปตามลมและน้ำ อากาศหนาวพอที่จะทำให้หินแตก และเมื่อหิมะตกลงมา จะเป็นสีเทา ท้องฟ้ามืดครึ้ม จุดหมายปลายทางของพวกเขาคือทางใต้ที่อบอุ่นกว่า แม้ว่าพวกเขาจะไม่รู้ว่ามีอะไรรอพวกเขาอยู่ที่นั่นหรือไม่ก็ตามชายคนหนึ่งและลูกชายตัวน้อยของเขาต้องดิ้นรนเอาชีวิตรอดหลังจากเกิดภัยพิบัติที่ไม่สามารถระบุได้ซึ่งส่งผลให้เกิดเหตุการณ์สูญพันธุ์ซึ่งทำให้พืชและสัตว์แทบทุกชีวิตต้องตาย ชายคนหนึ่งและเด็กชายเดินทางไปตามถนนสู่ชายฝั่งด้วยความหวังว่าพวกเขาจะพบที่ปลอดภัย หาเสบียงระหว่างการเดินทาง และหลีกเลี่ยงแก๊งกิน เนื้อคนเร่ร่อน ที่พกอาวุธปืนมาด้วย

Maria (2024 film)

ในปี 1977 Maria Callas อาศัยอยู่ในอพาร์ตเมนต์ในปารีสกับ Ferruccio พ่อบ้านของเธอและ Bruna แม่บ้าน เธอพยายามร้องเพลงอีกครั้งหลังจากพักอาชีพโอเปร่าของเธอไปหลายปีเนื่องจากสุขภาพของเธอที่แย่ลง ในขณะที่ Ferruccio ยืนกรานว่าเธอต้องพบแพทย์และทานยาในปริมาณที่เหมาะสม Maria ยังคงใช้ยา Mandrax มากเกินไป ซึ่งเธออ้างว่าช่วยเธอได้แม้จะมีผลข้างเคียง Maria แจ้ง Ferruccio และ Bruna ว่าทีมงานโทรทัศน์จะมาสัมภาษณ์เธอเกี่ยวกับชีวิตของเธอ ทีมงานมาถึง นำโดยผู้สร้างภาพยนตร์สาวชื่อ “Mandrax” เห็นได้ชัดว่า Mandrax และช่างกล้องของเขาเป็นภาพหลอนที่เกิดจากยา โดยที่ Ferruccio และ Bruna ไม่เห็นพวกเขา ตลอดสัปดาห์ Maria ยังเข้าร่วมเซสชันส่วนตัวกับJeffrey Tate ผู้ควบคุมวง เพื่อดูว่าเธอสามารถแสดงได้อีกครั้งหรือไม่

จาก “การสัมภาษณ์” และภาพหลอนของแมนดรักซ์ มาเรียจึงเริ่มนึกถึงความทรงจำเกี่ยวกับความรักครั้งก่อนของเธอกับอริสโตเติล โอนาสซิส เจ้าพ่อธุรกิจชาวกรีก ซึ่งต่อมาได้แต่งงาน กับ แจ็กกี้ เคนเนดีแม้ว่าในตอนแรกเธอจะปฏิเสธความสัมพันธ์ของเขาในปี 2500 แต่เธอก็ตกหลุมรักเขาอย่างรวดเร็วและทิ้งจิโอวานนี บัตติสตา เมเนกีนี สามีของเธอ ในที่สุดเธอก็ทิ้งโอนาสซิสไป เนื่องจากเขาและการจับจ้องของสาธารณชนเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของพวกเขาทำให้เธอรู้สึกอึดอัด อย่างไรก็ตาม เธอยังคงเห็นเขาบนเตียงมรณะในความลับและยอมรับว่าเธอรักเขาตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา มาเรียยังคงเห็นภาพหลอนเนื่องจากเธอใช้ยา Mandrax มากเกินไป ภาพหลอนดังกล่าวทำให้เธอจำได้ว่าตัวเองเป็นวัยรุ่นในช่วงสงครามโลกครั้งที่สองซึ่งแม่บังคับให้เธอร้องเพลงให้เจ้าหน้าที่ชาวอิตาลีและเยอรมันฟังเพื่อแลกกับเงิน วันหนึ่ง เธอได้พบกับยาคินธี พี่สาวของเธอ และทั้งคู่ก็ปรับความเข้าใจกันถึงวิธีที่แม่ปฏิบัติต่อพวกเขา

Memoir of a Snail

เกรซ ปูเดล เป็นเด็กสาวในเมืองเมลเบิร์นประเทศออสเตรเลีย ในช่วงทศวรรษ 1970 ซึ่งอาศัยอยู่กับกิลเบิร์ต พี่ชายฝาแฝดของเธอ และเพอร์ซี พ่อชาวฝรั่งเศสของพวกเขา ซึ่งเคยเป็นนักเล่นกลมาก่อน แต่ปัจจุบันกลายเป็น อัมพาต ครึ่งล่างและติด สุรา เธอมีงานอดิเรกคือการสะสมหอยทากซึ่งเธอทำร่วมกับแม่ของเธอที่เสียชีวิตขณะคลอดบุตร ฝาแฝดทั้งสองมีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดและคอยสนับสนุนกัน และกิลเบิร์ตปกป้องเกรซจากเพื่อนร่วมชั้นเรียนที่แกล้งเธอเรื่องริมฝีปากแหว่ง

เมื่อเพอร์ซีเสียชีวิตขณะหลับ ฝาแฝดทั้งสองก็ถูกแยกจากกันและถูกส่งไปยังบ้านอุปถัมภ์ในต่างแดน เกรซถูกส่งไปที่แคนเบอร์ราซึ่งเธอได้รับการเลี้ยงดูโดยเอียนและนาเรลล์ ซึ่งทั้งคู่เป็นคนดีแต่ก็มักจะไม่อยู่บ้านเพราะชอบสวิงเกอร์กิลเบิร์ตถูกส่งไปยังครอบครัวชาวไร่ที่เคร่งศาสนาในเมืองเพิร์ธซึ่งปฏิบัติต่อเขาอย่างโหดร้ายและทารุณ โดยเฉพาะจากรูธ ผู้เป็นแม่ของตระกูล ตลอดหลายปีที่ผ่านมา กิลเบิร์ตเขียนจดหมายถึงเกรซ โดยสัญญาว่าจะตามหาและกลับมาคืนดีกับเธอเมื่อเขาโตขึ้น แม้ว่าความหวังนี้จะทำให้เธอก้าวต่อไปได้ แต่เกรซก็ไม่สามารถสร้างความสัมพันธ์และความหลงใหลใดๆ ในชีวิตของเธอในแคนเบอร์ราได้ ส่งผลให้เธอหมกมุ่นอยู่กับการซื้อและสะสมผลิตภัณฑ์และของสะสมที่มีธีมหอยทากที่เธอพบ

ในช่วงวัยรุ่น เกรซได้ผูกมิตรกับหญิงชราผู้แปลกประหลาดแต่ใจดีชื่อพิงกี้ ซึ่งมักจะมองเห็นด้านดีในชีวิตอยู่เสมอ แม้จะประสบกับความโชคร้ายบางอย่าง เช่น การสูญเสียสามีสองคนและงานมากมาย เมื่อเอียนและนาเรลล์เกษียณอายุเพื่อเข้าร่วมกลุ่มเปลือยกาย พิงกี้ก็กลายมาเป็นแม่บุญธรรมของเกรซ โดยยังคงช่วยเหลือเธอตลอดช่วงวัยรุ่น แม้ว่าเธอจะยังคงรู้สึกหดหู่และไร้จุดหมาย ในขณะเดียวกัน กิลเบิร์ตยังคงถูกครอบครัวอุปถัมภ์ทารุณกรรม โดยมีเพียงเบ็น ลูกชายคนเล็กเท่านั้นที่ปฏิบัติต่อเขาด้วยความรักใคร่และชื่นชมในความดื้อรั้นของเขา

Elvis (2022 film)

เอลวิส เพรสลีย์เติบโตมากับกลาดิส ผู้เป็นแม่ที่เอาใจใส่เขา เขา ใช้ชีวิตวัยเด็กในสลัมของเมืองทูเพโล รัฐมิสซิสซิป ปี้ โดยค้นหาความสงบในดนตรีและหนังสือการ์ตูน หลังจากย้ายไปอยู่กับพ่อแม่ที่เมืองเมมฟิส รัฐเทนเนสซีเขาก็ถูกเพื่อนๆ ล้อเลียนเนื่องจากเขาหลงใหลในดนตรีแอฟริกัน-อเมริกันของวงบี ลสตรี ท พันเอกทอม ปาร์กเกอร์ซึ่งในขณะนั้นเป็น นัก ต้มตุ๋นขายของ ในงานคาร์นิวัล ทำหน้าที่เป็นผู้จัดการให้กับ แฮงค์ สโนว์ นักร้องคันทรีแต่เขาได้ตระหนักถึงศักยภาพของเอลวิสเมื่อได้ยินเพลง ” That’s All Right ” ซึ่งตอนแรกเขาคิดว่าศิลปินคนนี้เป็นคนผิวสี คืนนั้น หลังจากได้เห็นเสน่ห์ทางเพศอันเย้ายวน ของเขา ในการแสดง ” Louisiana Hayride ” พาร์คเกอร์ก็เชิญเอลวิสไปทัวร์กับเขา และโน้มน้าวให้เอลวิสปล่อยให้เขาควบคุมอาชีพของเขา ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการเติบโตอย่างก้าวกระโดดของเอลวิส เขาตัดสินใจย้ายจากค่าย Sun Recordsไปอยู่ที่RCA Recordsโดยเวอร์นอน พ่อของเขาได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้จัดการธุรกิจของElvis Presley Enterprisesและครอบครัวก็พ้นจากความยากจน

ประชาชนในภูมิภาคนี้แตกแยกกันเพราะรู้สึกว่าดนตรีของเขาจะทำให้เด็กผิวขาวเสื่อมเสียและก่อให้เกิดความขัดแย้งทางเชื้อชาติเจมส์ อีสต์แลนด์วุฒิสมาชิกมิสซิส ซิปปี้ ผู้แบ่งแยกเชื้อชาติ จากภาคใต้ ได้เรียกปาร์คเกอร์มาฟังการพิจารณาคดีอย่างไม่เป็นทางการและสืบหาอดีตอันลึกลับของเขา เมื่อเอลวิสฝ่าฝืนคำเตือนของทางการและแสดงท่าเต้นที่ยั่วยุในคอนเสิร์ต เขาก็ต้องเผชิญกับปัญหาทางกฎหมาย ปาร์คเกอร์โน้มน้าวรัฐบาลให้เกณฑ์เอลวิสเข้ากองทัพแทนที่จะลงโทษเขา เอลวิสกลับมาจากการฝึกขั้นพื้นฐานแต่กลับเสียใจมากเมื่อแม่ของเขาเสียชีวิตจากการดื่มเหล้า ระหว่างที่รับราชการทหารในเยอรมนีตะวันตก เขาได้พบกับ พริสซิลลา โบลิเยอลูกสาวของ นักบิน กองทัพอากาศวัย 14 ปีหลังจากปลดประจำการ เขาเริ่มต้นอาชีพนักแสดงและต่อมาแต่งงานกับพริสซิลลา