ดูหนัง Kung Fu Panda 4 (2024) กังฟูแพนด้า 4 จะพาเราไปพบกับโปในบทบาทใหม่ที่ยิ่งใหญ่กว่าเดิม หลังจากที่เขาได้พิสูจน์ตัวเองว่าเป็นนักรบมังกรผู้เก่งกาจ โปก็ได้กลายมาเป็นครูสอนศิลปะการต่อสู้ให้กับเหล่ากังฟูแพนด้ารุ่นใหม่ แต่แล้วก็เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น เมื่อมีวายร้ายตัวใหม่ปรากฏตัวขึ้น เขามีชื่อว่า เดอะ คาเมเลี่ยน ซึ่งเป็นกิ้งก่าที่สามารถแปลงกายได้อย่างอิสระ และมีความสามารถในการควบคุมผู้อื่นโปจึงต้องออกเดินทางไปยังเมืองใหญ่เพื่อตามล่าเดอะ คาเมเลี่ยน พร้อมกับเพื่อนใหม่ที่เป็นจิ้งจอกสาวสุดเก่งกาจ ในการผจญภัยครั้งนี้ โปจะต้องเผชิญหน้ากับความท้าทายใหม่ๆ มากมาย ทั้งการต่อสู้กับศัตรูที่แข็งแกร่ง และการค้นหาตัวตนที่แท้จริงของตัวเอง
อ่านรีวิวก่อน ดูหนัง
ไมค์ มิตเชล ⭐ Filmment 🤩 คะแนน: 6/10 ดาว หลังจากเปิดตัวสู่สายตาชาวโลกในปี 2008 พริบตาเดียวแฟรนไชส์อย่าง Kung Fu Panda ก็มีอายุได้ 16 ปี และเดินทางมาถึงภาคที่ 4 แล้วครับ แต่ด้วยระยะห่างกว่า 8 ปีจากภาคก่อน ยอมรับตามตรงว่าในแง่ของเนื้อเรื่องและรายละเอียดต่างๆ ของไตรภาคที่ผ่านมา ก็ได้หล่นหายออกไปจากความทรงจำของผมอยู่พอสมควรครับ การเข้าไปรับชม Kung Fu Panda 4 ของผมจึงเหมือนการเริ่มต้นใหม่ราวกับไม่เคยรับชมภาคอื่นมาก่อนเลย ซึ่งแม้ว่าจะจำบางตัวละครที่ปรากฏตัวขึ้นมาไม่ได้ แต่ด้วยความเป็นแอนิเมชั่นที่เน้นความบันเทิง เนื้อหาของมันจึงมีความ Stand Alone ที่ไม่ต้องพึ่งพาความเป็นแฟรนไชส์มากมายนัก และสามารถเข้าใจทุกอย่างได้แม้ไม่เคยดูภาคอื่นมาก่อนครับ สิ่งที่ผมชอบมากที่สุดของภาพยนตร์เรื่อง Kung Fu Panda 4 คือการสร้างพัฒนาการให้กับตัวละครหลักของเรื่องอย่าง โป ครับ โดยภาพยนตร์เลือกเล่าถึงความเปลี่ยนแปลงที่พุ่งเข้าใส่ตัวละครอย่างไม่ทันตั้งตัว ซึ่งเนื้อหาดังกล่าวนั้นเป็นสิ่งที่ทั้งผู้ชมวัยเด็กและผู้ใหญ่ต่างก็ต้องพบเจอ และล้วนมีวิธีการรับมือกับมันอย่างแตกต่างกัน สำหรับโปแล้วเขาไม่ชอบการเปลี่ยนแปลงครับ แต่ด้วยสถานการณ์และการเดินทางของเขาในภาพยนตร์ภาคนี้ทำให้โปได้เติบโตขึ้นอีกครั้ง เนื่องจากเขาถูกผลักออกจากพื้นที่ปลอดภัยของตัวเองอย่างหุบเขาสันติ และออกผจญภัยในโลกกว้าง ที่ซึ่งทำให้เขาได้รู้ว่าสถานะนักรบมังกรของเขาไม่ได้มีค่าอะไรกับผู้ที่ไม่รู้จัก และฝีมือกังฟูของเขาก็ไม่ได้เยี่ยมยุทธที่สุดในปฐพี ก่อนที่มันจะทำให้เขาค่อยๆ เปลี่ยนแปลงตัวเองจากภายใน สู่การเป็นผู้นำนักปราชญ์แห่งหุบเขาสันติตามคำมอบหมายของอาจารย์ชิฟูครับ รสชาติโดยรวมของ Kung Fu Panda 4 นั้นสามารถมอบความบันเทิงอันเพลิดเพลินให้กับผู้ชมได้ครับ มุกตลกแทบทุกมุกสามารถทำงานของตัวเองได้อย่างไร้ที่ติ ขณะที่ตัวละครใหม่ของภาคนี้อย่าง เจิน จิ้งจอกหัวขโมยจอมเจ้าเล่ห์ ก็เป็นตัวละครที่สามารถมอบเคมีที่ดีให้กับการผจญภัยได้ นอกจากนี้ยังเป็นส่วนสำคัญในการขับเน้นประเด็นที่เรื่องราวต้องการนำเสนออีกด้วย อีกหนึ่งจุดที่น่าชื่นชมก็คือฉากแอ็คชั่นของภาพยนตร์ครับ โดยจากข้อมูลระบุว่า Kung Fu Panda 4 ได้รับคำปรึกษาด้านฉากแอ็คชั่นจาก ดอน ธีระธาดา สตั๊นท์แมนชาวไทยในฮอลลีวูด ทำให้ทุกท่วงท่าของการต่อสู้นั้นดูพริ้วไหวและน่าตื่นตาตื่นใจ นอกจากนี้บางช่วงบางตอนยังให้ความรู้สึกเหมือนภาพยนตร์จีนกำลังภายใน ซึ่งเป็นรสชาติที่ไม่ค่อยได้สัมผัสจากยุคสมัยนี้ในด้านของงานแอนิเมชั่น แม้ว่าจะไม่ได้เป็นงานที่ขายความทะเยอทะยานในเชิงเทคนิคและนวัตกรรมงานสร้างเหมือนกับผลงานจากค่าย Pixar หรือขายความสวยงามของลายเส้นเหมือนกับอนิเมะญี่ปุ่น แต่นั่นไม่ได้หมายความว่างานด้านภาพของ Kung Fu Panda 4 จะออกมาขี้ริ้วขี้เหร่แต่อย่างใดครับ ภาพรวมของมันยังคงออกมาดูสวยงามสบายตา และมีการใช้เทคนิคขั้นสูงอยู่บ้างในช่วงเวลาที่จำเป็น โดยเฉพาะกับฉากแอ็คชั่นแทบทุกฉากของเรื่อง ที่มีการออกแบบการเคลื่อนกล้องได้อย่างยอดเยี่ยม รวมถึงการใช้เทคนิคของภาพวาด และความเป็นหนังสือการ์ตูนวาดของญี่ปุ่น ผสมผสานรวมกันจนกลายเป็นฉากแอ็คชั่นที่มีสไตล์และโดดเด่นในแบบของตัวเองครั กิ้งก่าแปลงกาย เป็นอีกหนึ่งตัวละครใหม่ของภาพยนตร์ภาคนี้ โดยนับเป็นครั้งแรกของแฟรนไชส์นี้ที่วายร้ายของเรื่องเป็นเพศหญิงอีกด้วย พลังอำนาจของเธอนั้นน่าสนใจมากๆ ครับ เธอสามารถแปลงกายให้กลายเป็นใครก็ได้ตามที่เธอต้องการ ขณะที่พละกำลังของเธอก็จะเปลี่ยนไปตามร่างจำแลงที่เธอเลือกจะเป็น ซึ่งเธอสามารถสำแดงเดชได้อย่างน่าสนใจในการต่อสู้ครั้งสุดท้ายของเรื่อง แต่น่าเสียดายครับที่พลังการแปลงกายของเธอนั้นไม่ได้ถูกหยิบมาใช้เป็นลูกล่อลูกชนในการเล่าเรื่องมากนัก นอกจากนี้เป้าประสงค์ของเธอยังดูอ่อนด้อยและขาดน้ำหนักอันน่าคล้อยตาม นอกจากนี้การที่ภาพยนตร์เลือกจะกระจายน้ำหนักไปยังหลายตัวละครมากขึ้น ยังเป็นจุดที่ภาพยนตร์ทำได้ไม่กลมกล่อมไหลลื่นมากนัก เนื่องจากการมีอยู่ของบางฉากเป็นเพียงการประคองแอร์ไทม์ของตัวละครสมทบ ด้วยการใส่เข้ามาเพื่อเรียกเสียงหัวเราะเท่านั้น หากแต่ไม่ได้มีผลต่อการพัฒนาของเรื่องราวมากเท่าที่ควรแต่ถึงกระนั้นผลงานล่าสุดจาก DreamWorks Animation ก็ยังคงอยู่ในมาตรฐานของพวกเขา ด้วยคุณภาพของงานสร้างที่ไว้ใจได้, เสียงพากย์ที่สามารถสร้างสีสันได้อย่างกลมกล่อม และความบันเทิงที่สามารถเข้าถึงผู้ชมได้ทุกเพศทุกวัย สุดท้ายนี้ Kung Fu Panda 4 ยังรับหน้าที่เป็นดั่งจดหมายรักของแฟรนไชส์ ด้วยการทำให้ผู้ชมหายคิดถึงกลุ่มตัวละครที่ต่างก็หล่นหายไปตามเนื้อหาสาระที่เปลี่ยนแปลงและเติบโตขึ้นในแต่ละภาค ตลอดระยะเวลากว่า 1 ชั่วโมงครึ่งของ Kung Fu Panda 4 มันจึงเป็นความเพลิดเพลินที่ทุกคนสามารถผ่อนคลายจากชีวิตอันแสนเคร่งเครียด และสามารถเปล่งเสียงหัวเราะออกมาได้อย่างที่ควรจะเป็นครับ ⭐ SoumikBanerjee1996 🤩 คะแนน: 5/10 ดาว ภาพที่สวยงาม การต่อสู้ที่สนุกสนาน และตัวละครที่หลากหลาย ฉันรู้สึกว่าเด็กๆ โดยเฉพาะเด็กที่มีอายุระหว่าง 5-10 ปี จะต้องสนุกกับมันอย่างแน่นอน อย่างไรก็ตาม วัยรุ่นหรือผู้ใหญ่ที่โตเป็นผู้ใหญ่แล้วอาจมีข้อสงวนเกี่ยวกับภาพยนตร์เรื่องนี้ โดยเฉพาะผู้ที่เติบโตมากับซีรีส์นี้และให้ความสำคัญกับแฟรนไชส์นี้มาก พวกเขาจะสังเกตเห็นเสน่ห์ที่ลดน้อยลง สาระสำคัญที่หายไป และเวทมนตร์ที่เลือนหายไปของการเล่าเรื่องที่เคยโดดเด่นแต่ตอนนี้หายไปแล้วน่าเสียดายที่แฟรนไชส์นี้ได้กลายเป็นแหล่งรายได้หลัก ซึ่งไม่มีประโยชน์อะไรเลยนอกจากการทำเงินให้สตูดิโอและผู้บริหาร ฉันคิดว่าพวกเขาควรหยุดได้แล้ว! ⭐ escatonn 🤩 คะแนน: 5/10 ดาว หนังเรื่องนี้ไม่เคารพภูมิหลังของภาคก่อนๆ หรือพัฒนาการของตัวละคร ทุกอย่างคาดเดาได้ง่ายมากและพื้นฐานมาก ตลกแย่ลงเรื่อยๆ ถึงแม้ว่าฉันจะชอบอารมณ์ขันของสองภาคแรกมากกว่า แต่ภาคที่สามทำให้ฉันหัวเราะได้บ้าง แต่ภาคนี้ไม่ได้ ฉันหวังว่าผู้กำกับจะเข้าใจว่าสิ่งที่ทำให้สองภาคแรกประสบความสำเร็จคือเรื่องราวที่ลึกซึ้งและตัวละครได้รับการพัฒนามาอย่างดี ซึ่งเป็นสิ่งที่หายไปในภาคนี้ ใช่แล้ว มันเป็นหนังสำหรับเด็ก แต่ภาคก่อนๆ ก็เป็นแบบนั้นเช่นกัน และยังสามารถพูดถึงประเด็นมืดหม่นและสนุกสนานสำหรับผู้ใหญ่ได้ ตอนนี้ฉันอายุ 22 ปีและไม่เคยเบื่อที่จะดู Kung Fu Panda 2 เลย หัวเราะ ร้องไห้ และซาบซึ้งเหมือนตอนที่ฉันอายุ 11 ขวบ แต่ภาคนี้ลืมได้ง่ายมาก ⭐ emwilliams-02657 🤩 คะแนน: 6/10 ดาว ฉันคิดว่าชื่อเรื่องรีวิวของฉันบอกทุกอย่างแล้ว ถ้าฉันต้องคิดคำมาบรรยายหนังเรื่องนี้ ฉันคงพูดแค่ว่า “พอใช้ได้” ฉันหัวเราะคิกคักสองสามครั้งและลูกๆ ของฉัน (6 และ 7 ขวบ) ก็ชอบมันมาก สุดท้ายแล้ว ฉันคิดว่านั่นเป็นเงินที่จ่ายไปอย่างคุ้มค่า อย่างไรก็ตาม ฉันเป็นแฟนตัวยงของแฟรนไชส์ DreamWorks หลายเรื่อง รวมถึง 3 ภาคแรกของ KFP โดยภาคที่ 3 เป็นภาคที่อ่อนแอที่สุด แต่ก็ยังเป็นหนังที่สนุกดี เมื่อเทียบกับ KP4 ซึ่งไม่ได้เพิ่มอะไรให้กับแฟรนไชส์เลย ภาคที่ 3 ถือเป็นผลงานชิ้นเอก ฉันพบว่าจังหวะและอารมณ์ขันของ KP4 นั้นกระจัดกระจายไปหมด รู้สึกเหมือนหนังกำลังเร่งเร้าผู้ชมโดยไม่มีเวลาที่จะรู้สึกถึงอารมณ์ใดๆ ที่ต้องการจริงๆ มันให้ความรู้สึกเหมือนการ์ตูนวันเสาร์ตอนเช้ามากกว่าเป็นส่วนเสริมที่น่าจดจำของภาพยนตร์ KFP สุดท้ายแล้ว ฉันดีใจที่ลูกๆ ของฉันชอบมัน เพราะฉันจะลืมทุกอย่างเกี่ยวกับหนังเรื่องนี้ในเร็วๆ นี้ เมื่อฉันนึกถึง KFP ฉากอย่างฉากที่โปพบกับความสงบภายในในซากปรักหักพังของหมู่บ้านใน KFP 2 จะผุดขึ้นมาในใจเสมอ ฉันจะยังคงหัวเราะกับมุกตลกใน 3 ภาคแรกต่อไป แต่ตอนนี้ฉันก็ยังนึกมุกตลกที่ดีที่สุดของ KFP4 ไม่ออกเลย และฉันเพิ่งดูไปเมื่อไม่ถึงชั่วโมงที่แล้วด้วยซ้ำ ส่วนที่ดีที่สุดและคงอยู่ยาวนานที่สุดของภาพยนตร์เรื่องนี้คือการย้อนอดีตไปยังตัวร้ายจากภาคก่อนๆ มิฉะนั้น มันก็เป็นเพียงฉาก “เฉยๆ” ที่มีสีสันและดำเนินเรื่องอย่างรวดเร็วแต่เด็กๆ จะสนุกไปกับมัน ⭐ BigDaddy4000 🤩 คะแนน: 6/10 ดาว คุณจะรู้สึกได้ถึงฝีมือการเขียนบทและนักแสดงในเรื่องนี้จริงๆ มันไม่ได้ *แย่* แต่ว่ามันแย่มากและด้อยกว่าหนัง KFP เรื่องก่อนๆ มาก ใช่แล้ว แม้แต่ภาคที่สามด้วยซ้ำ ไม่ได้ด้อยกว่า Megamind 2 เท่าไหร่ แต่ก็ถือว่ามีจุดเด่นอยู่บ้าง อันดับแรก พวกเขาตัดนักพากย์หลายคนจากซีรีส์ดั้งเดิมออกไป และสิ่งที่พวกเขาทำก็คือ ยัดเยียดนักพากย์เหล่านี้ออกไปจากเรื่องด้วยข้อแก้ตัวที่ไร้สาระ หรือไม่ก็ให้บทพูดกับพวกเขาและให้พวกเขาเงียบเฉยไปเลย ความลึกซึ้งทางอารมณ์นั้นมีอยู่ แต่ก็ลดลงจากสิ่งที่เราคาดหวังจาก Kung Fu Panda อยู่ดี หนังเรื่องนี้มีตัวเสริมและเนื้อเรื่องรองที่ไร้จุดหมายมากมาย โปถูกทำให้กลายเป็นเด็กน้อยขี้แงในช่วง 10 นาทีแรกของหนัง จังหวะก็ไม่ดี และตัวร้าย โอ้พระเจ้า ตัวร้ายนั้นอ่อนแอมาก อีกครั้ง ไม่ใช่สิ่งที่เลวร้ายที่สุดในโลก แต่แรงจูงใจของเธอขัดแย้งกับสิ่งที่สร้างขึ้นในจักรวาลภาพยนตร์ เธอไม่เคยถูกพรรณนาว่าเป็นภัยคุกคามที่แท้จริง (จำได้ไหมใน KFP 2 ที่มีการระบุว่าลอร์ดเฉินฆ่าราชาฟูมาสเตอร์ในช่วงต้นเรื่อง สิ่งที่แย่ที่สุดที่กิ้งก่าทำในภาพยนตร์เรื่องนี้คือการผลักคนลงบันได โอ้ ไม่) ฉันเดานะว่าฉากแอ็กชั่นอยู่ที่นั่น มีฉากแอ็กชั่นที่สร้างสรรค์และน่าตื่นเต้นพอสมควร แอนิเมชั่นโดยรวมค่อนข้างดี โดยเฉพาะกับการเปลี่ยนร่างของกิ้งก่า (อาจเป็นเพราะว่าไม่มี “การนัดหยุดงานของนักแอนิเมเตอร์” เกิดขึ้นด้วย) มันเป็นกังฟูแพนด้าอย่างแน่นอน แต่รู้สึกเหมือนว่าพวกเขาลืมส่วนผสมสองสามอย่างสำหรับสตูว์ พูดได้อย่างนั้น มันจบลงด้วยการลดลงจากสิ่งที่เราคาดหวังไว้ ไม่แย่ แค่ผิดหวัง ⭐ kevin_robbins 🤩 คะแนน: 6/10 ดาว เมื่อคืนนี้ฉันกับภรรยาได้ดู (2024) ในโรงภาพยนตร์ เนื้อเรื่องจะแนะนำตัวร้ายตัวใหม่ ซึ่งเป็นกิ้งก่าที่มีความสามารถในการเปลี่ยนรูปร่าง โดยมีเป้าหมายที่จะยึดครองโลก กิ้งก่าตัวนี้ต้องการใช้ไม้เท้าที่โปได้รับจาก Kung Fu Panda 3 เพื่อเปิดประตูสู่มิติอื่น เรียกปรมาจารย์กังฟูออกมา และขโมยพลังของพวกเขาเพื่อให้กลายเป็นคนที่ไม่อาจหยุดยั้งได้ ในเวลาเดียวกัน โปต้องหาคนมาแทนที่เพื่อฝึกฝนเป็นนักรบมังกรคนต่อไป โปจะสามารถกอบกู้โลกและค้นหาลูกศิษย์ของเขาไปพร้อมๆ กันได้หรือไม่?กำกับโดยไมค์ มิตเชลล์ (Trolls) และสเตฟานี สไตน์ (ภาพยนตร์เปิดตัวเรื่องใหญ่) ภาพยนตร์เรื่องนี้ให้เสียงพากย์โดยแจ็ค แบล็ก (School of Rock), วิโอลา เดวิส (The Help), อควาฟินา (Crazy, Rich, Asians), ดัสติน ฮอฟฟ์แมน (Tootsie), เจมส์ ฮ่อง (Big Trouble in Little China), ไบรอัน แครนสตัน (Breaking Bad) และเคอ ฮุย กวน (Indiana Jones and the Temple of Doom) แอนิเมชั่น จักรวาลของสัตว์ และการแนะนำตัววายร้ายใหม่นั้นยอดเยี่ยมเช่นเคย วิโอลา เดวิสเป็นส่วนเสริมที่ยอดเยี่ยม แต่การปรากฏตัวของอควาฟินานั้นดูน่าอึดอัดและน่ารำคาญ การไม่มีเดอะฟิวเรียสไฟว์นั้นสังเกตได้ชัดเจน และพล็อตย่อยเกี่ยวกับพ่อสองคนนั้นก็โอเค ภาพยนตร์เรื่องนี้สร้างสมดุลระหว่างบทเรียนและความตลกได้ดี และทำให้เราหัวเราะได้ตลอดทั้งเรื่อง แม้ว่าตอนจบจะคุ้มค่า แต่ก็ไม่ได้เทียบได้กับความยอดเยี่ยมของภาพยนตร์เรื่องก่อนๆ ในซีรีส์นี้โดยสรุปแล้ว เป็นภาพยนตร์แอนิเมชั่นที่สนุกสนานและเหนือระดับ แต่กลับเป็นจุดอ่อนที่สุดในซีรีส์นี้ ฉันให้คะแนน 6/10 และแนะนำให้ดูสักครั้งนักแสดง
Awkwafina ( อควาฟินา )
Viola Davis ( ไวโอลา เดวิส )
Dustin Hoffman ( ดัสติน ฮอฟแมน )ผู้กำกับ
รีวิว Kung Fu Panda 4 (2024) กังฟูแพนด้า 4