ดูหนัง Montana Story (2021) มอนทานา สายเลือดสายใยรัก
จากผลงานของผู้เขียนบทและผู้กำกับ สก็อต แม็กเกฮีและเดวิด ซีเกล (WHAT MAISIE KNEW, THE DEEP END) มาเป็นภาพยนตร์ตะวันตกยุคใหม่ ที่เต็มไปด้วยความสะเทือนอารมณ์ เรื่องราวของสองพี่น้องที่ห่างเหิน (เฮลีย์ ลู ริชาร์ดสันและโอเวน ทีค) กลับมาบ้านไร่กว้างใหญ่ที่พวกเขาเคยรู้จักและรัก พร้อมเผชิญหน้ามรดกที่ขมขื่นและบาดลึก ท่ามกลางฉากหลังของอเมริกันที่สุดแสนมีเสน่ห์ แคลและเอริน พี่น้องต่างมารดา ที่ห่างเหิน กันมา 20 ปีกลับมาที่ฟาร์มขนาดใหญ่ในมอนทาน่าซึ่งครั้งหนึ่งพวกเขาเคยเรียกว่าบ้านหลังจากที่พ่อของพวกเขาตกอยู่ในอาการโคม่าและตอนนี้ต้องใช้เครื่องช่วยชีวิตแม่ของเอรินเสียชีวิตขณะคลอดบุตร ในขณะที่แม่ของแคลเสียชีวิตเมื่อสองปีก่อน วาเลนตินา แม่บ้านและเพื่อนของครอบครัว คอยดูแลบ้าน พยาบาลผู้อพยพ ชาวเคนยาเอซ (ชื่อเล่นที่เขาใช้เนื่องจากคนในสหรัฐฯมีปัญหาในการออกเสียงชื่อจริงของเขา) ดูแลพ่อของพี่น้องทั้งสองเพื่อให้มีชีวิตอยู่ต่อไป เนื่องจากคาดว่าพ่อของพวกเขาจะไม่ฟื้นตัว แคลจึงเริ่มขายและบริจาคทรัพย์สินของฟาร์ม เขามีความรู้สึกขัดแย้งต่อพ่อของเขาเนื่องจากการถูกทารุณกรรม ในอดีต เอรินซึ่งยังคงโกรธแค้นเกี่ยวกับ การ ทารุณกรรม วางแผนที่จะพามิสเตอร์ ที ม้าแก่ของครอบครัว กลับบ้านของเธอในฮัดสันวัลเลย์นิวยอร์ก
อ่านรีวิวก่อน ดูหนัง
นักแสดง
Haley Lu Richardson เฮลี่ย์ ลู ริชาร์ดสัน

Owen Teague

Gilbert Warrenton

ผู้กำกับ : สก็อตต์ แม็คกี
รีวิว Montana Story (2021) มอนทานา สายเลือดสายใยรัก
entertainment
ถึงคิวของหนังดราม่ารสชาติดีที่บางสื่อในต่างประเทศยกให้เป็นหนึ่งในหนังขึ้นหิ้งเชยชมในช่วงครึ่งแรกของปี 2022 นี้ทีเดียว หนังที่อาจจะอยู่นอกสายตาผู้ชม แต่มาพร้อมกับงานขายการแสดงและเทคนิคโปรดักชั่นที่เรียบง่ายแต่เฉียบคม นี่คือ มอนทานา สายเลือดสายใยรัก” ความเข้มข้นของดราม่าที่ค่อย ๆ กัดกินผู้ชม ที่เคยเป็นที่กล่าวถึงไม่เบาในเทศกาลหนังโตรอนโตเมื่อปีที่แล้ว
เป็นเรื่องราวซาบซึ้งสะเทือนอารมณ์ของพี่น้องที่ห่างเหินกัน อย่าง เอริน กับ คาล ที่พวกเขากลับมาที่บ้านฟาร์มที่อยู่ท่ามกลางดินแดนอันเวิ้งว้างของรัฐมอนทาน่า เป็นสถานที่ที่พวกเขาเคยชอบในวัยเด็ก แต่กลับเกลียดชังเมื่อเติบโตขึ้น พร้อมกับเลือกที่จะหนีจากสถานที่แห่งนี้ไป การกลับมาเหยียบที่ของพวกเขาได้มาเผชิญหน้ากับมรดกที่แสนขมขื่นที่เป็นบาดแผลฝังลึกเอาไว้ในใจของครอบครัวเล็ก ๆ ของชาวอเมริกันแท้
นี่คือผลงานของ 2 คู่หูผู้กำกับ “สก็อต แม็กกีห์” กับ “เดวิด ซีเกิล” ที่เคยสร้างความประทับใจให้ผู้ชมมาแล้วในหนัง Bee Season เมื่อเกือบจะ 20 ปีก่อน พวกเขากลับมาหยิบจับสร้างสรรค์งานหนังดราม่าสไตล์ถนัด พร้อมกับพ่วงตำแหน่งเขียนบทหนังเรื่องนี้กันเองด้วย แม้ว่าภาพหน้าหนังอาจจะดูไม่ได้โดดเด่นน่าสนใจอะไร แต่เนื้อในของหนังเรื่องนี้ค่อนข้างลึกซึ้งและเป็นเหมือนน้ำหยดลงบนหินในทุก ๆ วันอะไรทำนองนั้น
อาจจะต้องบอกตามตรงว่า ไม่น่าจะใช่หนังที่เหมาะกับผู้ชมทุกคน เพราะสไตล์ของหนังเรื่องนี้นั้น มีการเล่าเรื่องในรูปแบบค่อนข้างเนื่อยและเดินไปข้างหน้าแบบช้า ๆ ช้าชนิดที่ใครที่ชอบดูหนังแอคชั่นระห่ำพวกนั้นน่าจะปิดหนีและเลิกดูไปเลยก็ได้ แต่บนพื้นฐานของการเล่าเรื่องที่แสนจะขัดใจนั้น เต็มไปด้วยรายละเอียดที่ผู้สร้างพยายามจะใส่ความละเอียดอ่อนทางอารมณ์และค่อย ๆ เพิ่มมิติให้กับคาแรกเตอร์ตัวละครเหล่านั้นเพิ่มขึ้นอย่างมีชั้นเชิง
หนังเรื่องนี้อาจจะไม่ได้มีบทหนังที่คมคายเป็นหนึ่ง แต่ก็แฝงด้วยชั้นเชิงทับซ้อนที่กลายเป็นจุดตกตะกอนความคิดและความรู้สึกออกมาได้อย่างละเมียดละไม มันมีทั้งอารมณ์แห่งความหดหู ความเศร้า ความสิ้นหวัง และความหวัง ประดับประดาอยู่ในเรื่องนี้เต็มไปหมด และเมื่อมาผนวกเข้ากับงานโปรดักชั่นดีไซน์ที่ง่าย ๆ แต่งานออกมาสวยบาดตาแบบในเรื่องนี้ ถือว่าเป็นรสชาติที่เพิ่มความละมุนแบบสโลว์ไลฟ์ดีไปอีกอย่าง