ทำความรู้จักทีมงานและนักแสดง
ผู้กำกับ: เจมส์ แอล. บรูกส์ (James L. Brooks)
นักแสดงนำ:
อยากติดตามผลงานอื่นๆ ของพวกเขาไหม? ลองค้นหาบนเว็บ Movie24HD ของเราได้เลย!
โปสเตอร์หนัง
รีวิวภาพรวม: ผลงานระดับมาสเตอร์พีซที่ครบรส
“As Good as It Gets” คือภาพยนตร์ที่สมบูรณ์แบบในทุกมิติอย่างแท้จริง บทภาพยนตร์ ของ เจมส์ แอล. บรูกส์ นั้นยอดเยี่ยมระดับอัจฉริยะ เต็มไปด้วยบทสนทนาที่ทั้งตลก, เจ็บแสบ, และซาบซึ้งใจได้อย่างไม่น่าเชื่อ หนังสามารถสร้างสมดุลระหว่างความฮาและความดราม่าได้อย่างลงตัว
แต่หัวใจสำคัญที่สุดคือ การแสดง ที่ไร้ที่ติของทีมนักแสดง แจ็ค นิโคลสัน มอบการแสดงที่ดีที่สุดครั้งหนึ่งในชีวิต เขาทำให้เราทั้งเกลียดและรักในตัวละครเมลวินได้อย่างสมบูรณ์แบบ ในขณะที่ เฮเลน ฮันต์ ก็ถ่ายทอดบทคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวผู้แข็งแกร่งและเปราะบางได้อย่างน่าทึ่งและสมจริง และ เกร็ก คินเนียร์ ก็ยอดเยี่ยมในบทศิลปินผู้ตกอับที่ยังคงมองโลกในแง่ดี
นี่คือหนังที่ดูแล้วทำให้เรารู้สึก “ดี” กับชีวิต เป็นหนังที่บอกเราว่าไม่มีใครสมบูรณ์แบบ แต่คนที่ไม่สมบูรณ์แบบเหล่านี้ก็สามารถเยียวยาและทำให้ชีวิตของกันและกันดีขึ้นได้
รางวัลการันตีคุณภาพ:
ชนะเลิศ 2 รางวัลออสการ์: สาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยม (แจ็ค นิโคลสัน) และสาขานักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม (เฮเลน ฮันต์)
คะแนนจากนักวิจารณ์:
IMDb: 7.7/10
Rotten Tomatoes: 86% (คะแนนจากฝั่งนักวิจารณ์)
หมื่นทิพ
ภาพยนตร์โคตรน่ารักแห่งปี 1997 เรื่องราวของ เมลวิน ยูดาล (Jack Nicholson) นักเขียนจอมจู้จี้และไร้ซึ่งมนุษยสัมพันธ์ใดๆ เขามีกิจวัตรที่เหมือนกันทุกวัน นั่นคือไปนั่งกินอาหารร้านประจำที่ต้องได้ แครอล (Helen Hunt) มาเสิร์ฟให้เท่านั้น แล้วก็กลับไปกัดไซม่อน บิชอป (Greg Kinnear) เกย์หนุุ่มเพื่อนบ้าน แต่แล้วชีวิตของเขาก็เริ่มเปลี่ยนไปเมื่อมีเจ้าหมาน้อย (ซึ่งน่ารักสุดๆ) นามเวอร์เดล เข้ามาในชีวิต นั่นล่ะ คือจุดเริ่มของเรื่องสนุกทั้งหลายที่ผมรับประกันว่าคุณจะยิ้มไปตั้งแต่ต้นจนจบ ไม่น่าแปลกใจที่ทั้ง Nicholson และ Hunt คว้าออสการ์สาขาแสดงนำไปได้ทั้งชายและหญิง ก็แสดงได้ดีสุดๆ น่ะครับ น่ารักและมีชีวิตชีวาอย่างมาก โดยเฉพาะ Nicholson กับฉากที่เขาจะต้องคืนเจ้าเวอร์เดลให้เจ้าของนั่นน่ะครับ ดูแล้วอึ้งเลยผม ไม่นึกครับว่ามันจะออกมาประมาณนี้ พาลจะร้องไห้เอาครับ ส่วน Hunt ก็อีก ท่าทางตอนที่เธอไม่รู้จะแสดงความขอบคุณต่อคุณหมออย่างไร (บทรับเชิญโดย Harold Ramis เจ้าของบทอีกอนแห่ง Ghostbusters และเขายังเป็นผู้กำกับ Groundhog Day อีกด้วย) ฉากที่ว่านี่ก็สุดยอดมากๆ ครับ ส่วน Kinnear ก็ตีบทเกย์หนุ่มได้แตกทีเดียว แววตาท่าทางแต่ละตอนมันสื่อถึงตัวตนของเขาได้ชัดมากๆ และอีกคนที่มาน้อยแต่เด่นได้เรื่อยๆ คือ Cuba Gooding Jr. ในบทเพื่อนซี้ของไซม่อน พี่ท่านก็ไม่ทำให้เสียชื่อรางวัลออสการ์จากหนัง Jerry Maguire ครับ แค่ดวงตาตอนมองเมลวินแบบจะเอาเรื่องนี่ก็ฮาแบบดุๆ แล้วล่ะครับ – ว่ากันว่าตอนแรกบทนี้จะเป็นของ Chris Rock ครับ แต่พอ Gooding Jr. ได้ออสการ์ผู้สร้างก็แทงเรื่องลงมาเลยว่า ต้องให้ Gooding Jr. มาแสดงให้จงได้
และอีกคนที่ขโมยซีนระยับเลยคือ Shirley Knight ในบทแม่ของแครอลครับ โผล่มาเด่นแบบเงียบๆ ยิ่งฉากท้ายเรื่องนี่เจ๊แกโผล่มานิดหน่อยก็เรียกเสียงฮาปนสะใจให้กับคนดูได้เต็มๆ แล้วล่ะครับ (โดยเฉพาะประโยคที่เธอพูดครับ ได้ยินแล้วมันปิ๊งขึ้นมาเลย เรื่องความรักน่ะ ว่ามันไม่มีสวยไปหมดหรอก มันต้องมีที่ผิดๆ ไม่ถูกบ้าง ไม่มีใครเจอความรักแบบที่ตรงตามตำราเป๊ะหรอกครับ) นอกจากนี้หนังยัง เป็นเจ้าของดนตรีประกอบสุดเสนาะหู จากฝีมือของ Hans Zimmer ที่ให้อารมณ์แจ่มใสได้อย่างไม่น่าเชื่อ ทุกองค์ประกอบของหนังและจังหวะจะโคนมันเจ๋งเป้งเหนือคำบรรยายจริงๆ – และตอนแรกหนังเรื่องนี้จะใช้ชื่อว่า Old Friends ครับ แต่ Zimmer นี่แหละที่กระซิบบอกผู้กำกับว่า “เปลี่ยนชื่อดีไหมครับ” แล้วหนังก็ได้ชื่อ As Good As It Gets ไปในที่สุด งวดนี้ผู้กำกับ James L. Brooks แก้มือได้อย่างงดงามครับ หลังจากไปไม่ค่อยสวยนักใน I’ll Do Anything สำหรับเรื่องนี้ก็เป็นหนังน่ารักๆ ดูแล้วอบอุ่นหัวใจ ทั้ง Feel Good และแฮปปี้ เป็นหนังที่มีความสุขทุกครั้งที่ได้ดูจริงๆ หนังประสบความสำเร็จทั้งเงินทั้งกล่องครับ ทำรายได้ไปราว $314 ล้านจากทั่วโลก ส่วนต้นทุนอยู่ที่ $50 ล้านครับ กำไรงามๆ เลยล่ะ สรุปได้ว่า หนังเรื่องนี้ โคตรยอดครับ
planktonrules
⭐ 5/10
หลายปีก่อน ภรรยาผมเคยดูหนังเรื่อง “As Good As It Gets” แล้วเธอก็บอกผมว่าเธอไม่ชอบหนังเรื่องนี้ ผมเลยเลี่ยงดูหนังเรื่องนี้มาหลายปี… และตอนนี้ผมเสียดายที่ไม่ได้ฟังเธอพูด ผมชอบหนังเรื่องนี้มาก—อย่าบอกเธอนะว่าผมพูดแบบนั้น! สำหรับผม หนังเรื่องนี้อาจจะให้ความรู้สึกที่แตกต่างจากคนดูทั่วไป ในฐานะอดีตนักจิตบำบัด ผมพยายามวิเคราะห์ตัวละครของแจ็ค นิโคลสันอยู่เรื่อยเพื่อทำความเข้าใจเรื่องราวให้มากขึ้น เขาดูเหมือนจะมีความผิดปกติทางบุคลิกภาพหลายอย่าง รวมถึงบุคลิกภาพแบบหลีกเลี่ยง (ที่เขาแสร้งทำเป็นเกลียดทุกคนและผลักไสพวกเขาออกไปเพื่อไม่ให้ถูกทำร้าย) บุคลิกภาพแบบย้ำคิดย้ำทำ (หรืออาจจะเป็นโรคย้ำคิดย้ำทำ) และอาจจะมีอาการแอสเพอร์เกอร์ร่วมด้วย หรือไม่ก็เป็นคนปัญญาอ่อนทางสังคม ถึงอย่างนั้น คนแบบนี้ก็มักจะมีชีวิตที่โดดเดี่ยวและเศร้าหมองอยู่เสมอ อย่างไรก็ตาม หนังเรื่องนี้ทำให้ดูน่าเชื่อถือว่าผู้ชายแบบนี้จะเปลี่ยนแปลง…บางอย่าง…และพบรักได้ ทุกอย่างดูเหลือเชื่อมาก แต่ก็มีเสน่ห์และอ่อนหวานมากเช่นกัน และช่วงท้ายเรื่องก็ออกแนวโรแมนติกแปลกๆ ยิ่งไปกว่านั้น หนังยังตลกอยู่บ้าง โดยรวมแล้วเป็นหนังที่แปลกและเขียนบทได้ดี มีการแสดงที่ยอดเยี่ยม มีเรื่องอื่นๆ อีกมากมายที่เขียนถึงหนังเรื่องนี้ที่ได้รับรางวัลออสการ์หลายรางวัล… ดังนั้นผมขอจบด้วยการบอกว่าภรรยาผมคิดผิด 100%…แต่ผมก็ยังคิดว่าเธอยอดเยี่ยมมาก
ภาพยนตร์ที่คล้ายกัน
หากคุณชื่นชอบหนังรอมคอม-ดราม่าที่ขับเคลื่อนด้วยตัวละคร เราขอแนะนำเรื่องเหล่านี้:
Jerry Maguire (1996) เทพบุตรรักติดดิน : เรื่องราวของเอเยนต์นักกีฬาที่ต้องสร้างตัวขึ้นมาใหม่จากศูนย์ พร้อมกับวลีเด็ด “You complete me.”
Silver Linings Playbook (2012) ลุกขึ้นใหม่ หัวใจมีเธอ : หนังรักของคนพังๆ สองคนที่มาช่วยเยียวยาซึ่งกันและกันได้อย่างน่ารักและลงตัว
About Schmidt (2002) : อีกหนึ่งผลงานสุดยอดเยี่ยมของ แจ็ค นิโคลสัน ในบทชายวัยเกษียณที่ออกเดินทางเพื่อค้นหาความหมายของชีวิต
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
Q: ทำไมหนังเรื่องนี้ถึงชนะรางวัลออสการ์ได้ทั้งนักแสดงนำชายและหญิง?
A: เพราะการแสดงของ แจ็ค นิโคลสัน และ เฮเลน ฮันต์ นั้นโดดเด่นและสมบูรณ์แบบอย่างยิ่ง ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ที่หาได้ยากมากในเวทีออสการ์ โดย “As Good as It Gets” เป็นภาพยนตร์เรื่องที่ 7 และเป็นเรื่องล่าสุด (ณ ปี 2025) ที่สามารถทำได้สำเร็จ
Q: วลีเด็ดที่สุดในเรื่องคืออะไร?
A: คือฉากที่เมลวินพยายามจะชมแครอล แต่ด้วยความเป็นคนปากไม่ตรงกับใจ เขาจึงพูดออกมาว่า “You make me want to be a better man.” (คุณทำให้ผมอยากเป็นคนที่ดีขึ้น) ซึ่งกลายเป็นหนึ่งในประโยคบอกรักที่คลาสสิกที่สุดในประวัติศาสตร์ภาพยนตร์
Q: หนังเหมาะกับผู้ชมกลุ่มไหน?
A: เหมาะสำหรับคนที่ชื่นชอบหนังรอมคอมที่มีบทภาพยนตร์ที่แข็งแรง, การแสดงที่ทรงพลัง, และเนื้อหาที่ลึกซึ้งกินใจ เป็นหนังสำหรับผู้ใหญ่ที่ครบรสทั้งตลกและดราม่า