ทำความรู้จักทีมงานและนักแสดง
- ผู้กำกับ: ริชาร์ด ดอนเนอร์ (Richard Donner)
- ผู้เขียนบท: พี่น้องวาโชสกี้ (The Wachowskis), ไบรอัน เฮลเกลันด์ (Brian Helgeland)
- นักแสดงนำ:
อยากติดตามผลงานอื่นๆ ของพวกเขาไหม? ลองค้นหาบนเว็บ Movie24HD ของเราได้เลย!
โปสเตอร์หนัง



รีวิวภาพรวม: หนังแอ็กชัน-ทริลเลอร์สุดคลาสสิก
“Assassins” คือภาพยนตร์แอ็กชันที่มอบความบันเทิงให้กับผู้ชมได้อย่างครบเครื่องตามแบบฉบับของหนังในยุคนั้น หนังโดดเด่นอย่างมากในการสร้างคาแรคเตอร์ที่น่าจดจำของนักฆ่าสองคนที่แตกต่างกันสุดขั้ว การปะทะกันของความสุขุมเยือกเย็นของแรธ กับความบ้าคลั่งและทะเยอทะยานของเบน คือสิ่งที่ทำให้หนังเรื่องนี้น่าติดตาม
ฉากแอ็กชันในเรื่องทำออกมาได้สนุกและน่าตื่นเต้น ทั้งฉากไล่ล่า, การดวลปืน, และการวางแผนที่ซับซ้อน ซิลเวสเตอร์ สตอลโลน ถ่ายทอดบทบาทนักฆ่าผู้เหนื่อยล้าออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม ในขณะที่ อันโตนิโอ บันเดรัส ก็ขโมยซีนได้อย่างน่าทึ่งในบทนักฆ่ารุ่นน้องที่ทั้งมีเสน่ห์และจิตไม่ปกติ
แม้ว่าพล็อตเรื่องอาจจะเดินตามสูตรสำเร็จไปบ้าง แต่ด้วยการกำกับที่เฉียบคมและการแสดงที่แข็งแกร่งของนักแสดงนำ ก็ทำให้ “Assassins” เป็นหนังแอ็กชันอีกหนึ่งเรื่องที่ยังคงดูสนุกและเป็นที่ชื่นชอบของแฟนๆ มาจนถึงปัจจุบัน
คะแนนจากนักวิจารณ์:
- IMDb: 6.3/10
- Rotten Tomatoes: 16% (คะแนนจากฝั่งนักวิจารณ์)
jfictitional
⭐ 7/10
ช่วงเวลาอันแปลกประหลาดและสั้นอย่างน่าประหลาดในอาชีพของซิลเวสเตอร์ สตอลโลน ท่ามกลางมุกตลกสุดโต่งใน “Demolition Man” และมุกตลกสุดโต่งใน “Judge Dredd” เขาได้สร้างภาพยนตร์สองเรื่องเกี่ยวกับเหล่าหนุ่มนักบู๊ที่หลงไหลในหนังแอ็คชั่นสุดฮาที่ถูกล่อลวงให้มาอยู่ใน One Last Job ซึ่งพวกเขาบังเอิญตกหลุมรักและสงสัยว่าทั้งหมดนี้มันเพื่ออะไร แน่นอนว่าเรย์ ควิกชอบระเบิดทุกอย่างให้ระเบิด ในขณะที่โรเบิร์ต ราธแค่มีปืนเก็บเสียงขนาด .22 แต่ตอนนี้เรากำลังจับตาดูอยู่ ความแตกต่างที่สำคัญคือ ในขณะที่ “The Specialist” กลายเป็นหนังแอ็คชั่นสุดฮาที่สตอลโลนส่วนใหญ่เป็นตัวแทนออกมาได้ในไม่ช้า “Assassins” พยายามที่จะเป็นหนังระทึกขวัญที่เงียบกว่า (ตามตัวอักษร) และหนักแน่นกว่า น่าเศร้าที่มันไม่ได้ทำให้หนังดีขึ้นหรือแม้แต่ดี
ถึงอย่างนั้น มันก็สร้างความประทับใจแรกพบที่น่าสนใจ ฉากเปิดเรื่องนั้นโดดเด่นสะดุดตา เป็นภาพตัดต่อขาวดำที่ดูเป็นนามธรรม เน้นไปที่เสียงนาฬิกาเดินและท้องฟ้าครึ้มๆ มันแทบจะตัดขาดจากหนังที่เราได้ดูโดยสิ้นเชิง ซึ่งทำให้หนังน่าจดจำยิ่งขึ้น บางทีถ้าหนังดำเนินไปในแนวทางนี้ มันอาจจะมีอะไรน่าสนใจก็ได้ แต่แล้วหนังก็จำได้ว่าเป็นหนังของสตอลโลน “Assassins” แม้จะดูเรียบง่ายอย่างเหลือเชื่อ แต่ก็ซับซ้อนเกินไปสำหรับตัวมันเอง แต่แก่นเรื่องหลักคือเกมแมวไล่จับหนูระหว่างโรเบิร์ต แรธ อดีตทหารผ่านศึกผู้เหนื่อยล้าของสตอลโลน กับมิเกล เบน หนุ่มหน้าใหม่ไฟแรง เพื่อชิงตำแหน่งนักฆ่าอันดับ 1 ของประเทศหรือของโลกกันแน่ มีเรื่องอื่นๆ เกิดขึ้น เช่น แม็คกัฟฟินจากฝีมือของแฮกเกอร์สาวอีเล็กตร้า แต่ช่างเถอะ หนังยาว 132 นาที ถือว่ายาวเกินไปเมื่อเทียบกับเนื้อเรื่องจริงๆ มีอย่างน้อยสองฉากที่ไม่ได้มีอะไรโดดเด่นนอกจากการยัดเยียด ริชาร์ด ดอนเนอร์ ผู้เลี้ยงแกะแฟรนไชส์ ”Lethal Weapon” ขาดความคิดสร้างสรรค์ในเรื่องนี้ ฉากแอ็กชั่นของเขาสลับไปมาระหว่างความไร้สาระและธรรมดา และความฉูดฉาดที่มักพบเห็นได้ทั่วไป ทั้งภาพสโลว์โมชันที่เบลอๆ และการไล่ล่ารถที่ทำลายล้างอย่างรุนแรง ให้ความรู้สึกไม่เข้าที่เข้าทาง เขาเป็นผู้กำกับที่เน้น “ยิ่งมากยิ่งดี” อย่างมาก ซึ่งเป็นแนวทางที่ผิดสำหรับหนังเรื่องนี้ และมันแสดงให้เห็นอย่างชัดเจน
แน่นอนว่าทุกอย่างขึ้นอยู่กับบทภาพยนตร์ มีรายงานว่าฉบับร่างต้นฉบับของพี่น้องวาชอว์สกี้ถูกทิ้งและถูกเขียนขึ้นใหม่ทั้งหมดโดยไบรอัน เฮลเกลันด์ ผู้เขียนบทจาก “L.A. Confidential” และ “Conspiracy Theory” ตามคำสั่งของดอนเนอร์ หากเป็นเช่นนั้น เฮลเกลันด์ก็ถ่ายทอดสิ่งที่ไม่ได้ดึงเอาจุดเด่นของดอนเนอร์มาใช้ หรือมีกลิ่นอายความแปลกประหลาดของพี่น้องทั้งสองเลย ยกตัวอย่างเช่น ในฉบับร่างต้นฉบับ (ซึ่งคุณสามารถหาลิงก์ได้ในวิกิพีเดีย) มีการเปรียบเทียบหมากรุกปรากฏอยู่ตลอดทั้งเรื่อง ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของความสัมพันธ์ระหว่างราธกับนิโคไล อาจารย์ของเขา เฮลเกลันด์กล่าวถึงเรื่องนี้แบบขอไปที – แม้จะอยู่ในเหตุการณ์ไล่ล่ารถก็ตาม – และสุดท้ายก็ไม่ได้ผลอะไรเลย การหักมุมครั้งใหญ่คงจะได้ผลดีกว่านี้ถ้ามันสมเหตุสมผลกว่านี้ หรือไม่ก็ถูกปัดตกไปในทันที จังหวะของเรื่องราวที่ยังไม่สมบูรณ์แบบน่าจะเป็นปัญหาน้อยที่สุดอยู่แล้ว
ในด้านการแสดง เรื่องนี้มีความคล้ายคลึงกับ “The Specialist” มากขึ้นไปอีก สตอลโลนพยายามแสดงบทบาทที่หม่นหมองและเก็บกดมากขึ้นอีกครั้งจากบุคลิกปกติของเขา แม้จะดูหม่นหมองลง แต่ก็ล้มเหลวอย่างน่าใจหายเมื่อพยายามแทรกมุกตลกสั้นๆ (ที่แย่มาก) เข้าไป เรื่องนี้เป็นเพียงภาพแวบหนึ่งของผลงานอันยอดเยี่ยมของเขาใน “Cop Land” แต่ถูกขัดขวางโดยความพยายามของเขาที่จะเป็นดาราแอ็คชั่น มัวร์ ซึ่งอาชีพของเธอจะโด่งดังจาก “The Lost World” และ “Boogie Nights” ในไม่ช้า ก็ถูกขัดขวางเช่นกันด้วยเนื้อหาที่เธอได้รับ แม้บทบาทที่ดีที่สุดของเธอจะไม่ได้มีความลึกซึ้งทางอารมณ์อย่างที่มัวร์แสดงออกมา แต่ Elektra ก็ไม่ได้มีความลึกซึ้งทางอารมณ์อย่างที่มัวร์เคยแสดงออกมา เฮ้ ยังไงก็ต้องหาเงินมาจ่ายอยู่ดี
ไม่หรอก เหมือนกับเจมส์ วูดส์ใน “The Specialist” ตัวร้ายต่างหากที่ชนะ มิเกล เบน ก็เหมือนกับคนอื่นๆ นั่นแหละ แทบจะไม่ใช่ตัวละครหลัก แต่อันโตนิโอ แบนเดอราสกลับถ่ายทอดพลังอันบ้าคลั่งและทรงพลังออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม จนเขาสามารถเอาชนะบทสนทนาที่ซ้ำซากจำเจและโทนเสียงที่สั่นคลอน จนกลายเป็นสิ่งที่ดีที่สุดของภาพยนตร์เรื่องนี้ ต้องยกความดีความชอบให้กับแบนเดอราสที่ปล่อยให้ตัวเองออกไปกินข้าวนอกบ้านได้อย่างอิสระ และถึงแม้เขาจะไม่สามารถกอบกู้สถานการณ์ได้ แต่เขาก็แบกรับมันไว้ได้อย่างแน่นอน
ccthemovieman
⭐ 7/10
เพื่อที่จะสนุกกับหนังเรื่องนี้จริงๆ คุณต้องเอาสมองไปแช่ช่องฟรีซ 133 นาที และอย่าพยายามวิเคราะห์อะไรในหนังเรื่องนี้เลย เรื่องนี้มีจุดอ่อนมากกว่าแค่ชีสสวิสเสียอีก อย่างที่คนชอบพูดกัน ถึงอย่างนั้น ผมก็ชอบฉากแอ็คชั่นและการสลับฉากระหว่างสองนักฆ่า – “โรเบิร์ต รัธ” (ซิลเวสเตอร์ สตอลโลน) และ “มิเกล เบน” (อันโตนิโอ บันเดราส) – มากพอที่จะทำให้มันสนุกได้ ผมอาจจะให้คะแนนสูงกว่านี้อีกสักดาว ถ้ามีอะไรที่ไม่ทำให้สับสนและไม่มีคำตอบ หรือบันเดราสพูดภาษาอังกฤษได้ชัดเจนกว่านี้ ถึงอย่างนั้น มันก็ไม่ได้แย่ และสำหรับแฟนๆ “Sly” และหนังแอ็คชั่นแล้ว คุ้มค่าที่จะดู
ภาพยนตร์ที่คล้ายกัน
หากคุณชื่นชอบหนังแนวแอ็กชัน-นักฆ่า เราขอแนะนำเรื่องเหล่านี้:
- The Professional (Léon) (1994) ลีออง เพชฌฆาตมหากาฬ: ตำนานหนังแอ็กชัน-ดราม่าที่ว่าด้วยความสัมพันธ์ระหว่างนักฆ่าผู้โดดเดี่ยวกับเด็กสาวข้างบ้าน
- John Wick (2014) จอห์น วิค แรงกว่านรก: เมื่ออดีตนักฆ่าในตำนานต้องกลับมาล้างแค้นแก๊งมาเฟีย
- The Killer (1989) โหดตัดโหด: ผลงานสุดคลาสสิกของผู้กำกับ จอห์น วู ที่ว่าด้วยเรื่องราวของนักฆ่าผู้มีคุณธรรม
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
Q: จริงหรือไม่ที่บทภาพยนตร์เรื่องนี้เขียนโดยผู้สร้าง The Matrix?
A: จริงครับ! บทภาพยนตร์ดั้งเดิมของ “Assassins” เขียนโดย พี่น้องวาโชสกี้ (ผู้สร้าง The Matrix) แต่หลังจากนั้นบทก็ได้ถูกนำไปแก้ไขใหม่โดย ไบรอัน เฮลเกลันด์ (ผู้เขียนบท L.A. Confidential) ซึ่งทำให้บทในเวอร์ชันสุดท้ายมีความแตกต่างไปจากบทดั้งเดิมของพี่น้องวาโชสกี้ค่อนข้างมากครับ
Q: ทำไมนักวิจารณ์ถึงให้คะแนนน้อย?
A: นักวิจารณ์ในยุคนั้นมองว่าพล็อตเรื่องมีความซ้ำซากและเดินตามสูตรสำเร็จของหนังแอ็กชันมากเกินไปจนขาดความแปลกใหม่ แต่ถึงอย่างนั้นหนังก็ยังได้รับความนิยมจากผู้ชมที่ชื่นชอบการปะทะกันของสองนักแสดงนำและฉากแอ็กชันที่สนุกสนานครับ
Q: หนังเหมาะกับผู้ชมกลุ่มไหน?
A: เหมาะสำหรับคอหนังแอ็กชันตัวจริงที่ชื่นชอบเรื่องราวของนักฆ่า, การดวลปืน, และการชิงไหวชิงพริบ เป็นหนังที่ดูสนุกและให้ความบันเทิงได้เป็นอย่างดี