ดูหนัง Body Jumper (2001) ปอบหวีดสยอง
หากจะพูดถึงหนังไทยที่เป็น “ทอล์ค ออฟ เดอะ ทาวน์” ในปี พ.ศ. 2544 ชื่อของ ปอบหวีดสยอง จะต้องเป็นเรื่องแรกๆ ที่ทุกคนนึกถึง นี่คือภาพยนตร์ที่ปลุกตำนาน “ผีปอบ” ของไทยให้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้งในรูปแบบที่ทั้งทันสมัย, น่ากลัว, และฮาจนกรามค้าง! วันนี้เราจะมา “ดูหนัง” ที่เป็นเหมือนหมุดหมายสำคัญของหนังแนวสยองขวัญ-คอเมดี้ของไทย และยังเป็นผลงานในยุคแรกๆ ของซูเปอร์สตาร์สาว “ชมพู่ อารยา” อีกด้วย
เรื่องย่อ
เรื่องราวสุดป่วนเกิดขึ้นที่หอพักนักศึกษาเกษตรแห่งหนึ่งในต่างจังหวัด ที่ซึ่งแก๊งค์เพื่อนซี้อย่าง เคอ (ดนัย สมุทรโคจร), วิท (ชัยพล จามร), และเพื่อนๆ กำลังใช้ชีวิตวัยรุ่นสุดเห่ยไปวันๆ แต่แล้วความสงบสุขของพวกเขาก็ถูกทำลายลง เมื่อ ฟ้า (แองเจล่า แกรนท์) นักศึกษาสาวสวยลูกครึ่งไทย-อเมริกันได้ย้ายเข้ามาใหม่
แต่ความสวยของฟ้ากลับมาพร้อมกับความสยอง เมื่อเธอได้พา “ผีปอบ” หรือที่หนังเรียกว่า “กระสืออเมริกา” ติดตามมาด้วย! ปอบตัวนี้กำลังตามหาคนรักเก่าในชาติปางก่อน ซึ่งมันเชื่อว่าเป็นหนึ่งในนักศึกษาชายที่นี่ เมื่อใดก็ตามที่ปอบเข้าสิงร่างฟ้า มันจะบังคับให้เธอสำรอกเอาไส้ออกมาทางปากเพื่อออกไปหาของดิบกินอย่างน่าสยดสยอง!
แก๊งค์นักศึกษาจึงต้องรวมตัวกันอย่างเฉพาะกิจเพื่อหาวิธีกำจัดปอบและช่วยเหลือเพื่อนใหม่ให้ได้ ท่ามกลางความโกลาหล, ความเข้าใจผิด, และสถานการณ์สุดฮาที่เกิดขึ้นไม่หยุดหย่อน โดยมี แซม (ดอน ธีระธาดา) รุ่นพี่สุดเท่เข้ามาเป็นความหวังในการต่อสู้ครั้งนี้
อ่านรีวิวก่อน ดูหนัง
นักแสดงนำและผู้กำกับ
- ดนัย สมุทรโคจร รับบทเป็น เคอ
- แองเจล่า แกรนท์ รับบทเป็น ฟ้า
- ชมพู่ อารยา เอ ฮาร์เก็ต รับบทเป็น มิ้นท์: ในบทบาทนางร้ายเพื่อนหญิงที่แอบชอบพระเอก ซึ่งเป็นผลงานยุคแรกๆ ที่น่าจดจำของเธอ
- ดอน ธีระธาดา รับบทเป็น แซม: พระเอกนักบู๊ที่มาพร้อมลีลาสุดเท่
- ชัยพล จามร รับบทเป็น วิท: ตัวสร้างเสียงหัวเราะหลักของเรื่อง
- ผู้กำกับ: เหมันต์ เชตมี
โปสเตอร์หนัง



รีวิวและบทวิเคราะห์
ปอบหวีดสยอง คือความสำเร็จที่สมบูรณ์แบบในการจับเอาสองแนวทางที่ดูเหมือนจะเข้ากันไม่ได้อย่าง “สยองขวัญ” และ “ตลก” มาผสมกันได้อย่างลงตัวที่สุด
- การผสมผสานแนวหนังที่ยอดเยี่ยม: หนังสามารถสร้างฉากที่น่ากลัวและน่าขยะแขยงได้อย่างมีประสิทธิภาพ (โดยเฉพาะฉากการเข้าสิงและฉากสำรอกไส้) แต่ในวินาทีต่อมาก็สามารถตัดเข้าสู่มุกตลกแบบ Slapstick ของเหล่าตัวละครที่กำลังหนีตายได้อย่างหน้าตาเฉย ซึ่งสร้างเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนใคร
- การปลุกตำนานผีปอบ: หนังได้นำผีไทยที่คนรู้จักกันดีอย่าง “ปอบ” มาตีความใหม่ให้ทันสมัยและเข้าถึงกลุ่มวัยรุ่นในยุคนั้นได้เป็นอย่างดี แนวคิด “กระสืออเมริกา” คือความสร้างสรรค์ที่ทั้งน่ากลัวและตลก
- ปรากฏการณ์ทางวัฒนธรรม: หนังเรื่องนี้ประสบความสำเร็จอย่างถล่มทลายในแง่รายได้ และกลายเป็นหนังที่ถูกพูดถึงในวงกว้าง สร้างวลีฮิตและฉากที่น่าจดจำมากมาย
- IMDb: ให้คะแนน 5.5/10
- แม้จะไม่มีคะแนนใน Rotten Tomatoes แต่ความสำเร็จในประเทศไทยคือเครื่องยืนยันคุณภาพความบันเทิงได้เป็นอย่างดี
ภาพยนตร์ที่คล้ายกัน
หากคุณชื่นชอบหนังไทยแนวสยองขวัญ-คอเมดี้ เราขอแนะนำ:
- บุปผาราตรี (2003): อีกหนึ่งมาสเตอร์พีซของหนังแนวนี้จากผู้กำกับ ยุทธเลิศ สิปปภาค ที่ทั้งหลอนและฮาไม่แพ้กัน
- พี่มาก..พระโขนง (2013): หนังผีตลกพันล้านที่สืบทอดจิตวิญญาณของหนังแนวนี้และยกระดับไปอีกขั้น
- Shaun of the Dead (2004): หนังซอมบี้-คอเมดี้จากฝั่งอังกฤษที่เป็นตัวอย่างชั้นเยี่ยมของการผสมผสานสองแนวทางนี้
คำถามที่พบบ่อย (Q&A)
Q: หนังเรื่องนี้น่ากลัวหรือตลกมากกว่ากัน?
A: เป็นส่วนผสมที่ลงตัว 50/50 เลยครับ! หนังมีฉากที่ทำให้คุณต้องปิดตาเพราะความสยองและแหวะ แต่ในฉากถัดไปคุณก็อาจจะหัวเราะออกมาดังๆ ได้ นั่นคือเสน่ห์ที่เป็นเอกลักษณ์ของเรื่องนี้
Q: “ปอบ” คือผีอะไร?
A: “ปอบ” เป็นผีตามความเชื่อของไทยครับ มีลักษณะคือจะเข้าสิงร่างคนและชอบกินของดิบของคาว โดยเฉพาะไส้ของมนุษย์ ซึ่งหนังเรื่องนี้ได้นำความเชื่อนี้มาสร้างเป็นเรื่องราวได้อย่างสนุกสนาน
Q: หนังเรื่องนี้ยังดูสนุกอยู่ไหมในปัจจุบัน?
A: สนุกแน่นอนครับ! แม้ว่าแฟชั่นหรือเทคนิคพิเศษอาจจะดูเก่าไปบ้างตามกาลเวลา แต่แก่นของความฮาและความน่ากลัวที่สร้างสรรค์ยังคงทำงานได้ดีเสมอ เป็นหนังไทยคลาสสิกที่ดูกี่ครั้งก็ยังสนุก
บทสรุป: ปอบหวีดสยอง คือหลักไมล์สำคัญของวงการภาพยนตร์ไทย และเป็นมาสเตอร์พีซของหนังแนวสยองขวัญ-คอเมดี้อย่างแท้จริง มันคือความบันเทิงที่ครบรส, กล้าหาญ, และสะท้อนภาพของยุคสมัยได้อย่างยอดเยี่ยม หากคุณอยากรำลึกถึงความหลังหรืออยากรู้จักกับหนึ่งในหนังไทยที่ประสบความสำเร็จที่สุด เรื่องนี้คือคำตอบที่คุณห้ามพลาด