ทำความรู้จักทีมงานและนักแสดง
- ผู้กำกับ/เขียนบท: รอน เชลตัน (Ron Shelton)
- นักแสดงนำ:
อยากติดตามผลงานอื่นๆ ของพวกเขาไหม? ลองค้นหาบนเว็บ Movie24HD ของเราได้เลย!
โปสเตอร์หนัง



รีวิวภาพรวม: หนังเบสบอลที่ “ฉลาด” และ “เซ็กซี่” ที่สุด
“Bull Durham” คือภาพยนตร์ที่แตกต่างจากหนังกีฬาทั่วไปอย่างสิ้นเชิง หัวใจสำคัญที่ทำให้หนังเรื่องนี้เป็นอมตะคือ “บทภาพยนตร์” ที่ยอดเยี่ยมและได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์! บทสนทนาในเรื่องนั้นทั้ง “ฉลาด”, “ตลก”, “คมคาย”, และ “เซ็กซี่” อย่างไม่น่าเชื่อ
หนังประสบความสำเร็จอย่างงดงามในการถ่ายทอดโลกของเบสบอลได้อย่างสมจริงและมีเสน่ห์ มันไม่ใช่เรื่องราวของชัยชนะที่ยิ่งใหญ่ แต่เป็นเรื่องราวของ “ชีวิต” ของเหล่านักกีฬาที่ต้องดิ้นรนเพื่อความฝัน
เคมีของนักแสดงนำทั้งสามคนนั้นสมบูรณ์แบบ เควิน คอสต์เนอร์ ถ่ายทอดบทบาทแคชเชอร์ผู้เก๋าเกมได้อย่างมีเสน่ห์และน่าจดจำ, ซูซาน ซาแรนดอน ก็ยอดเยี่ยมในบทหญิงสาวผู้ซับซ้อนและน่าหลงใหล, และ ทิม ร็อบบินส์ ก็มอบการแสดงที่ตลกขบขันในบทดาวรุ่งสุดทึ่มได้อย่างน่ารัก
รางวัลการันตีคุณภาพ:
- ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิง 1 รางวัลออสการ์ ในสาขาบทภาพยนตร์ดั้งเดิมยอดเยี่ยม
คะแนนจากนักวิจารณ์:
- IMDb: 7.1/10
- Rotten Tomatoes: 97% (คะแนนจากฝั่งนักวิจารณ์)
หมื่นทิพ
ผมเคยดู Bull Durham รอบแรกเมื่อสมัยเป็นวัยรุ่น ดูเพราะเขาว่าเป็นหนังดีครับ ครั้นพอดูแล้วก็รู้สึกเรื่อยๆ ไม่ถึงกับชอบอะไรมาก จากนั้นหลายสิบปีต่อมาหลังจากมีครอบครัวมีลูกมีเต้าและวัยเริ่มย่างก้าวเข้าสู่ครึ่งหลังของชีวิต พอได้ดูอีกทีหนนี้โดนเลยครับ เหมือนสาส์นในหนังมันกระแทกเข้าเบ้าตาอย่างจัง เรื่องราวว่าด้วยเอ็บบี้ ลาลูช (Tim Robbins) นักเบสบอลมือขว้างหน้าใหม่ที่ดูท่าจะมีอนาคตไกล แต่เนื่องจากฝีมือยังไม่เข้าฝักและชีวิตเหมือนยังไม่ค่อยมีหลักเท่าไร ผู้ใหญ่ของทีมเลยให้นักเบสบอลมือเก๋าอย่างแครช เดวิส (Kevin Costner) มาช่วยชี้ทางให้เอ็บบี้เข้ารูปเข้ารอย โดยที่ระหว่างนั้น 2 หนุ่มนี่ก็อยู่ในสายตาของแอนนี่ ซาวอย (Susan Sarandon) สาวสวยเสน่ห์แรงที่มีเป้าหมายในการคบหากับนักเบสบอลฤดูกาลละ 1 คน และสุดท้ายแล้วหนุ่มคนไหนที่จะชนะใจเธอ คำตอบรออยู่ในหนังครับ
ก็เป็นหนังโรแมนติกเบาสมองว่าด้วยโลกของเบสบอลครับ เขียนบทและกำกับโดย Ron Shelton ซึ่งชื่อของเขาอาจไม่ใช่ผู้กำกับแถวหน้า แต่ผมกล้าพูดได้อย่างเต็มปากเต็มคำว่าถ้าเขาคนนี้จับหนังเกี่ยวกับกีฬาเมื่อไร เรื่องนั้นรับรองว่าสนุก ได้รสได้ชาติพร้อมทั้งได้แง่คิดดีๆ ติดหัวกลับมา และนี่ก็คืองานกำกับเรื่องแรกของเขาครับ ซึ่งผมยกให้เป็นงานที่ดีอันดับต้นๆ ของเขาเลย หนังเล่าเรื่องได้ลื่นไหลครับ ตัวบทมีความสนุกและมีมุกให้ดูเพลินอยู่เรื่อยๆ เมื่อมาบวกกับฝีมือดาราระดับไว้ใจได้อย่าง Costner, Robbins และ Sarandon แล้ว
หนังเลยออกมาสนุก มีอะไรให้ติดตามตลอด ซึ่งแม้ท่านจะไม่ใช่่คอกีฬาเบสบอลก็ยังสนุกกับหนังได้ครับ เพราะเรื่องหลักๆ มันจะว่าด้วยความสัมพันธ์และวิธีคิดของตัวละครมากกว่า และที่ผมบอกว่าสาส์นในหนังมันกระแทกเข้าเบ้าตาก็เพราะ เมื่อลองมาดูๆ แล้ว หนังถ่ายทอดให้เห็นถึงช่วงชีวิตคน 2 แบบ แบบแรกคือแบบที่กำลังทะยานไปสู่จุดสูงสุดของอาชีพ ซึ่งก็คือเอ็บบี้ ส่วนแบบที่ 2 คือ ชีวิตที่เคยไปถึงจุดสูงสุดของเส้นกราฟแล้ว และกำลังเข้าสู่ขาลง ซึ่งก็คือชีวิตของแครชนั่นแหละครับ
ในเรื่องเอ็บบี้คือคนหนุ่มดาวรุ่งที่กำลังพุ่งแรง แต่กระนั้นแม้เขาจะมาแรงแค่ไหนแต่หากไม่มีใครคอยขัดเกลาเขาก็ยากจะไปถึงจุดสูงสุดได้ ซึ่งก็ยังดีที่เขาได้แครชมาช่วย ตอนแรกเอ็บบี้ก็ฟังบ้างไม่ฟังบ้าง แต่พอถึงจุดที่เขาพร้อมที่จะเรียนรู้และหันมารับฟัง ฝีมือของเขาก็เข้าฝักดีขึ้นตามลำดับ สิ่งนี้ก็เหมือนเป็นการสอนให้คนที่กำลังมีโอกาสรุ่งๆ ได้รู้จักที่จะเรียนรู้ อย่าคิดว่าเราเก่งที่สุดจนไม่ฟังใคร อย่าหยิ่งผยองจนลืมมองสิ่งรอบตัว – แม้เราจะเก่งจริงๆ ก็ตาม แต่มันก็ไม่เลวไม่ใช่หรือที่เราจะหาทางทำให้ตัวเองเก่งขึ้นอีก โดยการซึมซับความรู้และทักษะดีๆ จากคนที่มีประสบการณ์มากกว่า คนที่เคยเจอเคยเห็นอะไรมามากกว่า แบบนั้นจะเท่ากับเรากำลังติดปีกเพิ่มพลังภายในให้กับตนเอง อันจะทำให้เราทะยานได้ไกลและทะยานอย่างมั่นคง
ส่วนแครชนั้นก็คือดาวดวงเก่าที่เคยได้รับการจับตาครับ แต่เมื่อช่วงเวลานั้นผ่านไปแล้ว เมื่อมีดาวดวงใหม่ขึ้นมาแทนที่แล้ว เขาก็ไม่ต่างจากดาวที่กำลังจะลับขอบฟ้า ซึ่งจริงๆ แล้วแครชน่เล่นดีนะครับ เป็นหนึ่งในคนทำคะแนนให้ทีม ไหนจะช่วยสอนมวยให้เอ็บบี้อีก แต่พอเอ็บบี้ถึงฝั่งแล้ว เขาก็ถูกคัดออกจากทีม ซึ่งก็ทำเอาแครชเสียศูนย์ไปพักหนึ่ง แต่ก็ยังดีที่ท้ายสุดแล้วเขาก็ยอมรับในสิ่งที่เกิดขึ้น ก่อนจะตั้งหลักและเดินทางสายใหม่เพื่อใช้ชีวิตต่อ นั่นคือถ้าเป็นผู้เล่นไม่ได้ก็ผันตัวไปเป็นโค้ช ไปเป็นผู้จัดการทีม
caspian1978
⭐ 8/10
เป็นเรื่องดีที่ได้ดูหนังที่ดึงดูดผู้ชมได้มากกว่าหนึ่งประเภท เรื่องนี้เป็นทั้งหนังตลกและหนังรัก หนังสามารถจัดอยู่ในประเภทเบสบอลหรือดราม่าการเติบโตเป็นผู้ใหญ่ได้ หนังส่วนใหญ่มักจะอ้างว่าเป็นแนวใดแนวหนึ่ง แต่บางครั้งก็ล้มเหลว แต่ในทางกลับกัน เมื่อหนังดีๆ ประสบความสำเร็จอย่างถล่มทลาย มันไม่เพียงแต่สร้างรายได้และรายได้ถล่มทลายเท่านั้น แต่มันยังสามารถกลายเป็นอมตะได้อีกด้วย ก่อนที่พวกเขาจะโด่งดังในฮอลลีวูด เควิน คอสต์เนอร์, ซูซาน ซาแรนดอน และทิม ร็อบบินส์ ต่างแสดงในหนังเรื่องนี้ ในฐานะตัวละครที่น่าสนใจแต่เรียบง่ายที่สุด คอสต์เนอร์รับบทเป็นนักเบสบอลวัยชราที่ได้พบกับทิม ร็อบบินส์ นักขว้างมือใหม่ที่กำลังจะก้าวขึ้นเป็นตำนานเมเจอร์ลีก ซูซาน ซูแรนดอน ปรากฏตัวขึ้นจากคานไม้ เธอเปรียบเสมือนเทพธิดาแห่งศาสนาเบสบอล ทั้งสามเรื่องนี้นำเสนอโลกที่แตกต่างกันสามแบบให้กับผู้ชม แต่ละตัวละครล้วนเป็นตัวละครที่น่าเชื่อถือ ถึงแม้ว่าในแง่มุมหนึ่งจะคล้ายกับแฟนตาซีก็ตาม Bull Durham เป็นเรื่องราวที่ยอดเยี่ยมพร้อมตอนจบที่สมบูรณ์แบบ ถือเป็นหนึ่งในภาพยนตร์ที่หาชมได้ยากซึ่งสามารถเอาใจผู้ชมแทบทุกคน
ภาพยนตร์ที่คล้ายกัน
หากคุณชื่นชอบหนังดราม่า-กีฬาที่ยอดเยี่ยม เราขอแนะนำเรื่องเหล่านี้:
- Field of Dreams (1989) สุสานฝัน: อีกหนึ่งหนังเบสบอลสุดคลาสสิกของ เควิน คอสต์เนอร์ ที่ผสมผสานเรื่องราวแฟนตาซีและดราม่าครอบครัวได้อย่างลงตัว
- Jerry Maguire (1996) เทพบุตรรักติดดิน: เรื่องราวของเอเยนต์นักกีฬาที่ต้องสร้างตัวขึ้นมาใหม่จากศูนย์
- Moneyball (2011) เกมล้มยักษ์: หนังดราม่า-เบสบอลสุดเข้มข้นที่ว่าด้วยเรื่องของการใช้สถิติเข้ามาเปลี่ยนแปลงวงการกีฬา
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
Q: ไม่รู้กติกาเบสบอลเลย จะดูหนังเรื่องนี้สนุกไหม?
A: สนุกแน่นอนครับ! เพราะแก่นแท้ของหนังไม่ใช่เรื่องของกติกา แต่เป็นเรื่อง “ความสัมพันธ์” ของตัวละครและความรักที่พวกเขามีต่อเกม ทำให้ทุกคนสามารถเข้าใจและอินไปกับเรื่องราวได้อย่างง่ายดาย
Q: หนังเรื่องนี้สร้างจากเรื่องจริงหรือไม่?
A: ไม่ได้สร้างจากเรื่องจริงโดยตรงครับ แต่ผู้กำกับ/ผู้เขียนบท รอน เชลตัน เคยเป็น “นักเบสบอลลีกรอง” มาก่อน! ทำให้เขาสามารถถ่ายทอดเรื่องราวและบรรยากาศที่สมจริงออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม
Q: ทำไมหนังถึงได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในหนังที่ดีที่สุดตลอดกาล?
A: เพราะเป็นหนังที่สมบูรณ์แบบในทุกด้าน ทั้งบทภาพยนตร์ที่ยอดเยี่ยม, การแสดงที่น่าจดจำ, และการผสมผสานระหว่างกีฬา, ความรัก, และปรัชญาชีวิตได้อย่างลงตัว ซึ่งหาได้ยากในหนังเรื่องอื่นๆ