นักแสดงนำและทีมงานเบื้องหลัง
- ไรอัน ควอนเทน (Ryan Kwanten) รับบทเป็น เจมี่ แอสเชน
- แอมเบอร์ วัลเลตตา (Amber Valletta) รับบทเป็น เอลล่า แอสเชน
- ดอนนี่ วอห์ลเบิร์ก (Donnie Wahlberg) รับบทเป็น นักสืบลิปตัน
- คู่หูผู้สร้างในตำนาน:
- ผู้กำกับ: เจมส์ วาน (James Wan)
- เขียนบท: ลีห์ แวนเนลล์ (Leigh Whannell) เกร็ดที่สำคัญที่สุด: ใช่แล้วครับ! นี่คือผลงานของคู่หูผู้สร้างปรากฏการณ์ Saw (เกมต่อตาย..ตัดเป็น)! ซึ่งหนังเรื่องนี้เป็นเหมือนการ “พัก” จากความโหดเลือดสาด มาสู่หนังสยองขวัญเหนือธรรมชาติสไตล์คลาสสิก ก่อนที่พวกเขาจะไปสร้างจักรวาล Insidious และ The Conjuring อันยิ่งใหญ่!
โปสเตอร์หนัง



รีวิวและบทวิเคราะห์
Dead Silence คือหนังผีที่มี “สไตล์” และ “บรรยากาศ” ที่เป็นเอกลักษณ์อย่างยิ่ง
- บรรยากาศสุดหลอน: จุดแข็งที่สุดของหนังคือการสร้างบรรยากาศของเมือง “เรเวนส์ แฟร์” ให้ออกมาดูเก่าแก่, วังเวง, และน่าขนลุกได้อย่างสมบูรณ์แบบ โดยเฉพาะฉากใน “โรงละครร้าง” คือมาสเตอร์พีซของการสร้างความน่ากลัว
- หุ่นเชิดคือฝันร้าย: การออกแบบ “หุ่นเชิด” ในเรื่องนี้ทำออกมาได้น่ากลัวและติดตาอย่างยิ่ง โดยเฉพาะ “บิลลี่” ที่กลายเป็นไอคอนของหนังเรื่องนี้ไปโดยปริยาย
- ตอนจบหักมุมสไตล์ วาน-แวนเนลล์: สมกับเป็นลายเซ็นของคู่หูนี้ หนังมีตอนจบที่ “หักมุม” และจะทำให้คุณต้องอ้าปากค้าง!
แม้ว่าหนังอาจจะได้รับคำวิจารณ์ที่ไม่สวยหรูเท่าผลงานเรื่องอื่นๆ ของพวกเขา แต่มันก็ยังคงเป็นหนังสยองขวัญที่ “สนุก”, “น่ากลัว”, และ “มีสไตล์” ที่แฟนๆ ของเจมส์ วาน ไม่ควรพลาด
- IMDb: ให้คะแนน 6.1/10
- Rotten Tomatoes: ได้รับคะแนนจากฝั่งนักวิจารณ์เพียง 21% แต่กลับเป็นหนัง “คัลท์คลาสสิก” ที่แฟนหนังสยองขวัญชื่นชอบและพูดถึงอยู่เสมอ
หมื่นทิพ
⭐ 6/10
จาก James Wan และ Leigh Whannell คู่หูผู้สร้างหนังสยองขวัญเรื่องดังแห่งยุคอย่าง Saw นะครับ หลังจาก Saw ดังพวกพี่แกก็นั่งแท่นอำนวยการสร้างภาคต่อไปเรื่อยๆ ส่วนฝีมือการกำกับของแกนั้น สงวนไว้ให้โปรเจคท์นี้โดยเฉพาะครับ ประมาณว่า Wan ถือว่าทำ Saw ภาคแรกจบก็พอแล้ว ไปทำอย่างอื่นต่อดีกว่า แล้วผลที่ได้ก็คือ Dead Silence เรื่องนี้ครับ เจมี่ แอสเช่น (Ryan Kwanten) หนุ่มหล่อที่กำลังมีชีวิตสุดแสนสวยงามกับแฟนสาว (Laura Regan) แต่แล้ววันหนึ่งทุกอย่างก็พังทลาย เมื่อมีใครก็ไม่รู้ส่งตุ๊กตาหุ่นไม้มาถึงห้อง ตอนแรกเขาเองก็พยายามไม่คิดอะไรมาก เลยออกไปทำธุระ ทิ้งให้เมียรักอยู่กับบ้านไป แต่พอเขากลับมา กลับพบว่าเมียตัวเองเป็นศพไปแล้ว ซ่ำสภาพศพก็ยังสยองมากๆ ด้วย
นายตำรวจลิปตัน (Donnie Wahlberg) สงสัยทันทีว่าเจมี่จะเป็นคนฆ่าเมียด้วยตัวเอง แต่เจมี่แน่ใจว่าฆาตกรแท้จริงคือเจ้าหุ่นไม้นั่น อันเป็นตำนานสยองเก่าแก่ของเมืองเรเวนส แฟร์ บ้านเกิดที่เขาหันหลังให้มาหลายปี เขาเลยต้องรีบกลับเข้าเมืองไปเพื่อตามสืบหาความจริง พอขุดค้นเรื่องราวก็ได้ความว่าเจ้าตุ๊กตาไม้นี่ต้องมีส่วนเกี่ยวข้องกับคำสาปประจำเมือง และเกี่ยวกับแมรี่ ชอว์ (Judith Roberts) หญิงชราที่เสียชีวิตไปเมื่อนานมาแล้ว และว่ากันว่าเธออยู่เบื้องหลังการตายอันสุดสยองของชาวเมือง… แล้วเจมี่จะเป็นอย่างไรต่อไป เขาจะต้องเจอกับอะไร คำตอบก็อยู่ในหนังแล้วครับ ไปดูกันเร้ว
ความที่หนังไม่ดังนัก ในแง่รายได้ต้องถือว่าน้อยครับ ลงทุน $20 ล้าน แต่ทำเงินไปเพียง $22 ล้านจากทั่วโลก ซ้ำมาบ้านเราก็ยังลงแผ่นเรียบร้อยโรงเรียนฝรั่ง ผมเลยไม่คิดจะคาดหวังอะไรกับมันนักในตอนแรก… แต่ขอโทษ หนังออกมาสนุกแฮะ ผมประทับใจหนังในหลายๆ อย่างครับ ตั้งแต่สไตล์ภาพที่ทำออกมาดีตั้งแต่ฉากแรก ที่ทำออกมาเป็นภาพเกรนแตกๆ ดูเก่าๆ ภาพก็ดูเคลื่อนที่แบบแปลกๆ สยองๆ ดนตรีของ Charlie Clouser คอมโพเซอร์ขาประจำของหนังชุด Saw ก็ยังออกมาน่าขนลุกเป็นระยะๆ แฝงความอลังการแบบอาบเลือดเอาไว้ แค่ช็อตแรกตรงเครดิตก็ได้ใจผมไปเยอะแล้วครับ
ตามด้วยสไตล์เรื่องที่ไม่ได้ใหม่นะ มันออกแนวหนังสยองคล้ายๆ พวก Darkness Falls และหนังแนวสยองอิงตำนานอีกสารพัด แต่จุดที่ทำให้เรื่องนี้เข้าท่ากว่าคือบรรยากาศที่ทำได้ถึงจริง มุมกล้องที่ชวนกดดันตลอด โทนสีก็หม่นมืด ชวนหดหู่แล้วหมดหวังอย่างแรง และจุดเด็ดของหนังคือการปล่อยปม ทิ้งเรื่องให้ชวนลุ้นตลอด เหมือนว่า Wan จะรู้จังหวะการผ่อนหนังเป็นอย่างดี คือมีผ่อนแต่ไม่ให้มากเกินไป พอรู้ว่าคนดูน่าจะเบื่อแล้วนะช่วงนี้ก็รีบเอาฉากสยองใส่ลงไป หรือไม่ก็เอาปมมาทิ้ง ไม่ก็คลายปริศนาไป เรียกว่ามีการดึงความสนใจตลอด
หนังค่อนข้างสดในแง่ของสไตล์ครับ เนื้อหากับโครงอาจเดิมๆ แต่มันมาพร้อมการขัดเกลาจนได้หนังดีมาอีกหนึ่งเรื่อง ยิ่งช่วงท้ายนี่ลุ้นกันแหลกครับว่าเรื่องมันจะไปทางไหนได้ หรือการเผชิญหน้าวายร้ายตรงไคลแม็กซ์ก็สยองดี พวกหุ่นไม้นี่ก็เลือกมาได้สยองครับ หน้าตานิ่งดูผิดธรรมชาติจริงๆ (มีการรับเชิญหุ่นจาก Saw มาด้วยนะครับ ขำดี เขามีแต่ดารารับเชิญ นี่หุ่นรับเชิญครับ) ดาราในเรื่องก็แสดงได้ยอดครับ Kwanten ก็ดูเหมาะกับบทพระเอก ส่วน Wahlberg ก็ไปได้ดีมากๆ กับบทตำรวจที่ตามสืบแบบกัดไม่ปล่อย ช่วงท้ายหนังได้พี่แกช่วยให้ความลุ้นมากขึ้นเยอะครับ, Bob Gunton มาสวมบทพ่อของเจมี่ รายนี้แค่นั่งนิ่งๆ ก็กินขาดแล้ว และ Amber Valletta สาวสวยที่มารับบทแม่ใหม่ของเจมี่ หรือเมียใหม่ของพ่อเจมี่นั่นเอง เธอก็บทไม่เยอะครับ แต่แสดงดีไม่เลว
ผมว่า Wan แกเก่งพอตัวครับ ทำหนังแนวไม่ใหม่ได้น่าดูขนาดนี้ ถือว่าคุ้มเลยล่ะครับสำหรับคอหนังสยอง ฉากการตายก็โหดเหมือนกัน สภาพศพก็น่าขนลุกดีแท้ แต่ก็อย่างว่าครับ หนังไม่ทำเงิน ตอนแรกจริงๆ มีแผนจะทำภาคต่อ แต่พอรายได้ไม่ปัง การทำภาคต่อก็เลยพังพาบไป และได้ข่าวว่า Whannell เองก็ไม่ใคร่จะพอใจกับผลลัพธ์ของหนังสักเท่าไร เพราะอะไรหลายๆ อย่างถูกสตูดิโอแทรกแซงจนหนังไม่ได้ออกมาในแบบที่เขาต้องการ พอได้ยินแบบนี้แล้วก็อยากรู้เหมือนกันครับว่าแบบที่ Whannell ต้องการนั้นหนังจะออกมาเป็นแบบไหน แต่สำหรับผมแล้ว หนังถือว่าดูได้เพลินดีครับ ไม่น่าพลาดครับหากคุณเป็นคอหนังสยอง โดยเฉพาะฉากจบที่ … ต้องดูเองครับ ตอนดูจบนี่คิดในหัวแค่คำเดียวว่า “คิด ได้ ไง!”
spire
⭐ 5/10
อย่างแรกเลย เนื้อเรื่องไม่ได้แย่เลย แม้ว่าจะแทบไม่ได้รางวัลเลยก็ตาม หนังสยองขวัญที่ยังคงความแปลกใหม่ได้นั้นค่อนข้างยาก และแน่นอนว่าเรื่องนี้ก็มีบางช่วงที่มันดูแปลกๆ ตัวร้ายดูเหมือนจะมีความแปลกใหม่อยู่บ้าง ไม่ได้เลียนแบบชัคกี้ เนื้อเรื่องขาดมิติ และตัวละครก็ดูไม่เข้มข้นเอาเสียเลย จุดประสงค์ที่แท้จริงของหนังเรื่องนี้คือการเป็นหนังสยองขวัญ ไม่มีอะไรมากไปกว่านั้น หลังจากฉากแรกๆ (ที่แย่) ไม่กี่ฉาก หนังเรื่องนี้กลับทำสองอย่าง คือ ทำให้คุณรอจนสะดุ้ง หรือพยายามทำให้คุณสะดุ้ง จากปฏิกิริยาของผู้ชมที่เหลือ ผมคิดว่าหนังเรื่องนี้ทำได้ดีทีเดียว การแสดงไม่ได้น่าประทับใจอะไร แต่สำหรับหนังแนวนี้ ถือว่าดีมากกว่าแย่ โดยรวมแล้ว ผมมองว่านี่เป็นหนังสยองขวัญที่ควรค่าแก่การไปดูในโรง เมื่อเทียบกับหนังสยองขวัญเศร้าๆ หลายเรื่องที่ออกฉาย หนังเรื่องนี้ก็ไม่ได้แย่เกินไป และไม่ได้เน้นฉากเลือดสาดมากมายเหมือนหนังเรื่องอื่นๆ
ภาพยนตร์ที่คล้ายกัน
หากคุณหลงใหลในความน่ากลัวของตุ๊กตาผี เราขอแนะนำ:
- Annabelle (แฟรนไชส์): จักรวาลตุ๊กตาผีสุดเฮี้ยนจากทีมสร้างเดียวกัน
- Child’s Play : ตำนานตุ๊กตาชัคกี้สุดโหด
- The Boy (2016) ตุ๊กตาซ่อนผี: หนังตุ๊กตาผีอีกเรื่องที่มีบรรยากาศน่าขนลุก
- Insidious (2010) วิญญาณตามติด: หากอยากชมผลงานสยองขวัญเหนือธรรมชาติชิ้นเอกของ เจมส์ วาน
คำถามที่พบบ่อย (Q&A)
Q: หนังเรื่องนี้น่ากลัวมากไหม?
A: เป็นหนังผีที่เน้น “บรรยากาศ” และ “Jump Scare” ที่ได้ผลครับ ความน่ากลัวมาจากดีไซน์ของหุ่นเชิด, ตำนานที่น่าขนลุก, และกฎง่ายๆ ที่ว่า “ห้ามกรีดร้อง” ซึ่งสร้างความกดดันได้ดี
Q: เกี่ยวข้องกับเรื่อง Saw หรือเปล่า?
A: ไม่เกี่ยวข้องกันในด้านเนื้อเรื่องครับ แต่เป็นผลงานของ “ทีมผู้สร้าง” (ผู้กำกับ เจมส์ วาน และ ผู้เขียนบท ลีห์ แวนเนลล์) เดียวกัน ซึ่งเป็นเหตุผลที่ทำให้หนังมีสไตล์ภาพและตอนจบหักมุมที่คล้ายคลึงกัน
Q: “แมรี่ ชอว์” คือใคร?
A: คือตัวละคร “ผี” หลักของเรื่องครับ เธอเป็นอดีตนักพากย์หุ่นเชิดชื่อดังที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นฆาตกรและถูกชาวบ้านฆ่าตายโดยตัดลิ้น วิญญาณของเธอจึงกลับมาแก้แค้นโดยการสิงสู่หุ่นเชิดและจะฆ่าทุกคนที่กรีดร้องเมื่อเห็นเธอ
บทสรุป: Dead Silence คือภาพยนตร์สยองขวัญที่เต็มไปด้วยบรรยากาศน่าขนลุก, หุ่นเชิดสุดหลอน, และตอนจบที่จะทำให้คุณช็อก เป็นผลงานที่แฟนๆ ของ เจมส์ วาน และ ลีห์ แวนเนลล์ ไม่ควรพลาด และเป็นเครื่องเตือนใจว่า… บางครั้ง ความเงียบก็อาจจะน่ากลัวกว่าเสียงกรีดร้องเสียอีก