นักแสดงนำและผู้กำกับ
- ภาณุ สุวรรณโณ รับบทเป็น ผืน: การแสดงที่นิ่งและ “หน้าตาย” ของเขาคือหัวใจสำคัญที่ทำให้หนังเรื่องนี้ตลกและน่าขนลุกได้ในเวลาเดียวกัน
- อภิชญา ธนัตตนันท์ รับบทเป็น ดาว
- ผู้กำกับ: ภาณุ อารี และ ก้องเกียรติ โขมศิริ เกร็ดน่ารู้ที่สำคัญที่สุด: ใช่แล้วครับ! นี่คือหนึ่งในผลงานการกำกับภาพยนตร์เรื่องแรกๆ ของ “พี่โขม-ก้องเกียรติ โขมศิริ” ผู้กำกับมือฉมังที่ต่อมาได้สร้างสรรค์ผลงานแอ็คชั่นฟอร์มยักษ์อย่างไตรภาค ขุนพันธ์, Slice ตะบันหน้ากุ๊ก และ ลองของ!
โปสเตอร์หนัง



รีวิวและบทวิเคราะห์
Formalin Man คือหนังไทยอินดี้ที่ “กล้า” และ “แตกต่าง” อย่างแท้จริง
- ตลกร้ายที่คาดไม่ถึง: หนังหยิบเอาประเด็นที่น่าจะสยดสยองและเป็นเรื่องต้องห้ามอย่าง “การหลงรักศพ” (Necrophilia) มาเล่าในโทนของหนังตลกหน้าตาย (Deadpan Comedy) ได้อย่างน่าทึ่ง มันสร้างเสียงหัวเราะที่มาพร้อมกับความรู้สึกอึดอัดและขนลุก
- ภาพสะท้อนของความเหงา: ภายใต้ความตลกร้ายและความวิปริต หนังเรื่องนี้คือภาพสะท้อนที่เจ็บปวดของ “ความเหงา” ในสังคมเมืองสมัยใหม่ การกระทำของพระเอกคืออาการป่วยไข้ทางจิตใจที่เกิดจากการโหยหาใครสักคนที่จะมาเชื่อมต่อด้วย
- หมุดหมายของหนังไทยยุคใหม่: หนังเรื่องนี้คือส่วนหนึ่งของคลื่นลูกใหม่ของวงการหนังไทยในยุค 2000 ต้นๆ ที่เต็มไปด้วยความกล้าในการทดลองและนำเสนอเรื่องราวที่ไม่เคยมีใครกล้าทำมาก่อน
- IMDb: ให้คะแนน 6.7/10 ซึ่งสูงสำหรับหนังอินดี้ที่มีเนื้อหาเฉพาะกลุ่ม
- แม้จะไม่มีคะแนนใน Rotten Tomatoes แต่ คือหนังคัลท์คลาสสิกที่คอหนังอินดี้ไทยรู้จักและชื่นชมเป็นอย่างดี
หมื่นทิพ
ฟอร์มาลีน แมน รักเธอเท่าฟ้า เป็นหนังไทยอีกเรื่องที่ผมดูเมื่อนานมาแล้วครับ เพราะได้ยินคำชมลอยมาเหมือนกัน และถ้าดูจากแนวจากเนื้อเรื่องแล้ว ทำดีๆ ก็สามารถสร้างความประทับใจได้ เรื่องของนักร้องคนดี ฉัตรทอง มงคลทอง (เอกชัย ศรีวิชัย) เจ้าของวงดนตรีที่รักในเสียงเพลงและชาววงอย่างยิ่ง ทว่ากระแสความนิยมในวงนั้นก็ค่อยๆ จางหายไปตามกาลเวลา งานและเงินที่ได้เริ่มน้อยลง จนฉัตรทองจำใจต้องไปกู้เงินก้อนจากพ่อค้าเงินกู้หน้าเลือด (ดี๋ ดอกมะดัน) เพื่อประทังวงให้อยู่รอดต่อไป แต่เวรกรรมก็มาซ้ำซัดอีกครับ เพราะฉัตรทองประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต ทว่าด้วยพลังความมุ่งมั่น ความรักในวงดนตรีทำให้วิญญาณของเขาไม่ออกจากร่าง ยังคงทำหน้าที่เป็นหัวหน้าวงต่อไป จน เสนาะ (โหน่ง ชะชะช่า) มือขวาคนสนิทเริ่มเอะใจ แล้วก็ค้นจนพบความจริงจากพระรูปหนึ่งว่านายของตนได้ตายแล้ว แต่เสนาะก็รู้ว่าที่วิญญาณของฉัตรทองไม่ไปไหนก็เพราะยังมีห่วงอยู่ ก็เลยทำหน้าที่ลูกน้องที่ดีเก็บความลับและฉีดฟอร์มาลีนเข้าร่างของนายเพื่อให้ร่างของเจ้านายเน่าช้าที่สุด
แต่จะทำไงได้ล่ะครับ เมื่อถึงจุดหนึ่งทุกคนก็ต้องรู้ เพราะดันมีคนทรยศในวงซะอีก แล้วแบบนี้วงฉัตรทอง มงคลทองจะอยู่ได้อีกนานแค่ไหน… ผมชอบนะ เนื้อเรื่อง แง่คิด การแสดงก็ถือว่าผ่านน่ะครับ การเดินเรื่องก็ไม่เลว แม้จะไม่ได้สุดยอดอะไร แต่ผมก็ชอบที่หนังรู้ว่าตัวเองต้องการจะสื่ออะไรแล้วก็สื่อประเด็นนั้นๆ อย่างสม่ำเสมอ ไม่ได้แหวกไปขายขำล้วนๆ แบบหนังหลายเรื่องที่ทำให้หนังน่าจะดีกลายเป็นหนังธรรมดาไปอย่างน่าเสียดาย เรื่องความห่วงใยที่ฉัตรทองมีต่อวงและลูกน้องนั้นก็น่าประทับใจดีครับ แล้วการใช้เพลง “ฉันรักเธอเท่าฟ้า” มาใส่ในเรื่องก็เป็นการสื่อที่ตรงมากทีเดียวว่าฉัตรทองนั้นรักวงมากแค่ไหน
โดยส่วนตัวนะครับแม้ผมจะไม่ใช่คอเพลงลูกทุ่ง แต่ก็ฟังบ้างเพราะแม่ผมชอบฟัง แล้วก็ชอบฟังเรื่องราวการฟันฝ่าอุปสรรคของนักร้องลูกทุ่งแต่ละคน ว่ากว่าจะได้ร้องต้องประกวดกี่ที่ ต้องฝากตัวกับใคร ต้องแลกหยาดเหงื่อกับหยดน้ำตาไม่รู้เท่าไรต่อเท่าไร แล้วกว่าจะรวมวงได้อีก จนผมแทบจะพูดได้เลยว่าเส้นทางของนักร้องลูกทุ่งรุ่นเก่านั้น หนักหนา อุปสรรคเข้มข้น และลำบากอย่างยิ่ง – ถ้าคุณเคยฟังคนลูกทุ่งมาเล่าชีวิตตนตามชุมชนคนลูกทุ่ง หรือซอยบุปผาสวรรค์สมัยก่อนล่ะก็ จะรู้เลยครับว่าหลายอย่างมันโหดร้ายกว่าคอมเมนเตเตอร์ในยุคนี้มากมายนัก
แล้วคนที่มีวงอีกครับ การดูแลคนในวงก็ลำบากแล้ว ไหนจะมีคนดีคนไม่ดีปะปนกัน ไหนบางครั้งเงินทองก็ได้ไม่พอจ่ายอีก บอกตามตรงว่าเห็นใจและนับถือจริงๆ ครับว่าพวกเขาเหล่านี้สู้ชีวิตแท้ๆ เลย ไม่ได้ปลื้มเพลงลูกทุ่งเป็นพิเศษ แต่ปลื้มชาวลูกทุ่งว่างั้นเถอะ โดยรวมๆ ผมเลยค่อนข้างชอบหนังนะครับ เพราะดาราแสดงกันได้ดี พี่เอกชัยก็เล่นดีครับ พี่โหน่งก็เด็ดนะ ผมว่าแกเล่นหนังดราม่าได้สบายบรื๋อน่ะ น่าจะเล่นได้เข้ากว่าพี่หม่ำหรือพี่เท่งซะอีก หนังยังแอบจิกกัดพวกที่ชอบ “รวยทางลัด” บนความลำบากของคนอื่น ตั้งแต่คนทำเทปผี ไปจนถึงคนที่เกิดกิเลสครอบงำ ประมาณว่าอย่างประสบความสำเร็จแต่ทนรอไม่ไหว มีทางลัดอะไรเลยคว้าๆ ไว้ก่อน ไม่สนว่ามันจะถูกหรือผิด ซึ่งทุกวันนี้ต้องยอมรับนะครับว่ามีคนเลือกทางลัดกันมาจัง จนบ้านเมืองระส่ำระสายไปหมดแล้วเนี่ย
ดีเหมือนกันที่หนังแฝงสาระ เตือนสติคนด้วย คนที่หวังหนังฮาแตกก็อาจผิดหวังครับ เพราะมันแค่ขำๆ ไปเรื่อยๆ แต่ถ้าว่ากันถึงการเดินเรื่อง ผมว่าผ่านนะ แต่ก็บอกไม่ถูกนิดๆ เหมือนกัน เพราะหนังน่ะมีดี จริงๆ ก็ดีเป็นส่วนใหญ่น่ะแหละครับ เพียงแต่อาจยังขาดบางสิ่ง ยังไม่สุดๆ เต็มที่ในบางห้วงอารมณ์เท่านั้น จะยังไงก็เถอะ อย่างน้อยก็พูดได้ล่ะครับว่าหนังไทยเรื่องนี้มีดีให้น่าชื่นชมอยู่ และลูกทุ่งก็ไม่ใช่ของเชย แต่เป็นสิ่งมีค่าของประเทศเรานะครับ เป็นทั้งความบันเทิงของคนทั่วไป เป็นแรงใจให้คนทำงาน เป็นตัวอย่างให้คนสู้ชีวิต เป็นเอกลักษณ์อีกชนิดของบ้านเรา คนที่ยังดูถูกลูกทุ่งอยู่ จะเป็นการดูถูกรากเหง้าตัวเองหรือไม่… น่าพิจารณาเหมือนกัน
ภาพยนตร์ที่คล้ายกัน
หากคุณชื่นชอบหนังตลกร้ายที่มีพล็อตเรื่องแปลกใหม่ เราขอแนะนำ:
- Swiss Army Man (2016): หนังอินดี้จากฮอลลีวูดที่มีพล็อตคล้ายกันอย่างไม่น่าเชื่อ! เมื่อชายหนุ่มผู้โดดเดี่ยวผูกมิตรกับ “ศพ” ที่ตดได้!
- Lars and the Real Girl (2007): หนังสุดน่ารักที่ว่าด้วยชายหนุ่มผู้ขี้อายที่ไปมีความสัมพันธ์กับ “ตุ๊กตายาง”
- เรื่องตลก 69 (6ixtynin9) (1999): หนังตลกร้ายขึ้นหิ้งอีกเรื่องของไทย ที่เต็มไปด้วยสถานการณ์สุดเพี้ยนและความบังเอิญที่นองเลือด
คำถามที่พบบ่อย (Q&A)
Q: หนังเรื่องนี้เป็นหนังสยองขวัญหรือเปล่า?
A: ไม่ใช่หนังสยองขวัญครับ แต่เป็น “หนังตลกร้าย” (Black Comedy) แม้ว่าฉากหลังและเนื้อหาจะเกี่ยวข้องกับศพและห้องดับจิต แต่โทนของหนังเน้นไปที่ความตลกหน้าตายและความเหนือจริงของสถานการณ์ ไม่ได้สร้างมาเพื่อทำให้กลัว
Q: หนังเรื่องนี้น่าขยะแขยงไหม?
A: มีฉากที่เกี่ยวข้องกับการฉีดฟอร์มาลินและศพ ซึ่งอาจจะทำให้ผู้ชมบางท่านรู้สึกไม่สบายใจได้ แต่หนังไม่ได้เน้นความโหดร้ายเลือดสาดครับ โฟกัสหลักอยู่ที่เรื่องราวเชิงจิตวิทยาและคอเมดี้
Q: จริงเหรอว่านี่เป็นผลงานของผู้กำกับขุนพันธ์?
A: จริงแท้แน่นอนครับ! นี่คือหนึ่งในผลงานยุคแรกๆ ของพี่โขม ก้องเกียรติ โขมศิริ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความกล้าในการทำหนังและมุมมองที่ไม่เหมือนใครของเขามาตั้งแต่เริ่มต้น
บทสรุป: (รักเธอเท่าฟ้า) คือหนึ่งในภาพยนตร์ไทยที่แปลกใหม่, กล้าหาญ, และน่าจดจำที่สุดเรื่องหนึ่ง เป็นหนังตลกร้ายที่ทั้งช็อก, ตลก, และน่าเศร้าไปพร้อมๆ กัน หากคุณเป็นคอหนังที่ชอบความท้าทายและเบื่อหน่ายกับหนังรักแบบเดิมๆ นี่คือผลงานที่คุณไม่ควรพลาด