ดูหนัง Heros Shed No Tears (1980) ฤทธิ์ดาบหยดน้ำตา
ทุกท่าน! หากคุณคือแฟนพันธุ์แท้ของนิยาย “โกวเล้ง” และหลงใหลในสไตล์การกำกับอันเป็นเอกลักษณ์ของ “ชอว์ หยวน” (ราชาหนังกำลังภายในยุค 70s) นี่คือภาพยนตร์ที่คุณ “ห้ามพลาด” ด้วยประการทั้งปวง! Heroes Shed No Tears (คนละเรื่องกับหนังปืนโหดของ จอห์น วู นะครับ!) คือการ “ดูหนัง” ที่จะพาคุณดำดิ่งสู่ยุทธภพที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายของความเหงา, ปรัชญา, และการหักเหลี่ยมเฉือนคมที่คาดเดาไม่ได้
เรื่องย่อ
เรื่องราวติดตาม เกาเจี้ยนเฟย (ฟู่เซิง) จอมยุทธ์หนุ่มผู้ซื่อสัตย์และยึดมั่นในคุณธรรม เขาได้รับมอบหมายภารกิจสำคัญจากอาจารย์ ให้เดินทางท่องยุทธภพเพื่อค้นหาและรวบรวมเหล่าจอมยุทธ์ที่ซ่อนเร้น เพื่อต่อต้านแผนการร้ายของ ซือหม่าเชา หัวหน้าพรรคอธรรมที่วางแผนจะยึดครองยุทธภพ
ภารกิจครั้งนี้ทำให้เขาได้พบกับ จั๊วะอี้ (เอ๋อตงเซิน) จอมดาบหนุ่มผู้เย็นชาและลึกลับ ทั้งสองต้องร่วมมือกันฝ่าฟันอุปสรรค, เผชิญหน้ากับนักฆ่าฝีมือดี, และไขปริศนาที่ซับซ้อน แต่ในโลกของโกวเล้ง… มิตรอาจกลายเป็นศัตรู และศัตรูอาจกลายเป็นมิตรได้ในพริบตา และที่สำคัญที่สุดคือตำนานของ “ดาบหยดน้ำตา” Heros Shed No Tears อาวุธสังหารในตำนานที่ว่ากันว่าเมื่อมันถูกชักออกมา… แม้แต่หยดน้ำตาของเหยื่อก็ยังไม่ทันได้ร่วงหล่น! movie24hd
อ่านรีวิวก่อน ดูหนัง
นักแสดงนำและผู้กำกับ
- ฟู่เซิง (Alexander Fu Sheng) รับบทเป็น เกาเจี้ยนเฟย: ซูเปอร์สตาร์นักบู๊ตลอดกาลของชอว์บราเดอร์ส ที่มาพร้อมเสน่ห์และความคล่องแคล่วอันเป็นเอกลักษณ์ (และนี่คือหนึ่งในผลงานช่วงท้ายๆ ของเขา ก่อนจะเสียชีวิตอย่างน่าเศร้า)
- เอ๋อตงเซิน (Derek Yee) รับบทเป็น จั๊วะอี้: (ใช่แล้วครับ เขาคือผู้กำกับมือทองในปัจจุบันนั่นเอง!) ในยุคที่เขาเป็นพระเอกสุดหล่อ
- เยี่ยหัว (Yueh Hua) และ กุ๊ฟง (Ku Feng) สองนักแสดงระดับตำนานของค่าย
- ผู้กำกับ: ชอว์ หยวน (Chor Yuen) ปรมาจารย์ผู้สร้าง “จักรวาลโกวเล้ง” ให้มีชีวิตบนจอภาพยนตร์! ลายเซ็นของเขาคือการใช้ฉากในสตูดิโอที่สวยงามราวกับภาพวาด, บรรยากาศที่เต็มไปด้วยหมอกควัน, และการเล่าเรื่องที่ซับซ้อน
โปสเตอร์หนัง



รีวิวและบทวิเคราะห์
Heroes Shed No Tears คือตัวอย่างที่สมบูรณ์แบบของ “หนังชอว์ หยวน ที่ดัดแปลงจาก โกวเล้ง”
- โลกที่เต็มไปด้วยปริศนา: นี่ไม่ใช่หนังกำลังภายในที่เน้นการบู๊ล้างผลาญ แต่คือ “Wuxia Noir” ที่เน้นการสืบสวน, การหักหลัง, และบทสนทนาเชิงปรัชญาที่คมคาย
- สไตล์ภาพอันเป็นเอกลักษณ์: หนังเต็มไปด้วยฉากที่สวยงามราวกับความฝัน (แม้ทั้งหมดจะถ่ายทำในสตูดิโอ) ซึ่งเป็นเสน่ห์ที่หาไม่ได้อีกแล้วในยุคปัจจุบัน
- การแสดงที่น่าจดจำ: การปะทะบทบาทกันของ ฟู่เซิง ผู้ร้อนแรง และ เอ๋อตงเซิน ผู้เย็นชา คือเคมีที่ลงตัวและน่าติดตาม
แม้ว่าฉากแอ็คชั่นอาจจะไม่ได้หวือหวาเท่าหนังในยุคหลังๆ แต่ Heros Shed No Tears “ความขลัง” และ “ชั้นเชิง” ในการเล่าเรื่อง คือสิ่งที่ทำให้หนังเรื่องนี้ยังคงเป็นที่รักของแฟนๆ มาจนถึงทุกวันนี้
- IMDb: ให้คะแนน 7.0/10
- Rotten Tomatoes: (ไม่มีคะแนนทางการ) แต่เป็นที่ยอมรับในหมู่คอหนังคลาสสิก
bastos
⭐ 6/10
นี่เป็นหนังที่แปลกมาก มันเริ่มต้นจากจุดที่ดูเหมือนไคลแม็กซ์ของหนังที่เราไม่ได้ดู และต่อยอดจากตรงนั้นจนทำให้เราได้ดูหนังเกี่ยวกับภารกิจแบบลูกผู้ชาย ซึ่งภารกิจนั้นเกิดขึ้นแล้ว… ดังนั้นกลุ่ม Rotten Magnificent Basterds จึงต้องหลบหนี และตลอดการเดินทางพวกเขาได้อุ้มเด็กและแม่ของเขาขึ้นมาเพื่อสร้างความผูกพันทางอารมณ์ให้กับเรา เอกลักษณ์เฉพาะตัวของผู้กำกับ Woo ยังคงอยู่ ยกเว้นอย่างเดียวที่เห็นได้ชัดคือไม่มีนกพิราบ! แต่ถ้าคุณอยากได้ความรุนแรงแบบสโลว์โมชัน ระเบิดเยอะๆ การบังคับทางอารมณ์อย่างรุนแรงกับเด็กและสาวๆ และการนับศพจำนวนมหาศาล นี่คือหนังที่ใช่สำหรับคุณ ผมค่อนข้างประหลาดใจกับความรุนแรงที่เกิดขึ้น และยังมีฉากเซ็กส์แบบหลอนประสาทที่ให้ความรู้สึกไม่เข้าพวก เพราะ John Woo มักจะหลีกเลี่ยงฉากแบบนี้ ยังไม่รวมถึงฉากการพนันสุดแปลกที่โผล่มาแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย สรุปแล้ว นี่คือหนังยุคแรกๆ ของ John Woo ที่ดิบเถื่อน มีเสน่ห์ในตัว แต่กลับไม่ผ่านการขัดเกลา และเป็นที่จดจำในเรื่องความแปลกประหลาดมากกว่าความดีความชอบ
Fella_shibby
⭐ 6/10
เพิ่งได้ดูเรื่องนี้เป็นครั้งแรกเมื่อเร็วๆ นี้หลังจากอ่านรีวิวที่ชื่นชมมากมาย โดยเฉพาะของ Ba_Harrison ชื่อ John Woo ก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่ง แต่หนังเรื่องนี้ก็ยังเทียบไม่ได้กับหนังเรื่องอื่นๆ ของผู้กำกับคนนี้เลย หนังเรื่องนี้ไม่สมควรได้รับคำวิจารณ์ที่ดีนัก กลุ่มทหารรับจ้างจับเจ้าพ่อค้ายาแล้วล่าถอย แต่กลับได้รับการตอบโต้อย่างรุนแรงจากลูกน้องของเจ้าพ่อค้ายา ระหว่างทางพวกเขาช่วยหญิงสาวและทำร้ายพันเอกชาวเวียดนามผู้โหดเหี้ยม ทำให้เกิดศัตรูเพิ่มขึ้นตามรอย หนังเรื่องนี้มีฉากแอ็คชั่นมากมาย ทั้งระเบิด กระสุน ปืนกล ระเบิดมือ ฯลฯ แต่กลับเต็มไปด้วยการแสดงที่โหดร้ายและการตัดต่อที่แย่มาก
มีฉากหนึ่งที่เจ้าพ่อค้ายาขว้างเศษจี้คอไปมาขณะขับรถจี๊ปตามสไตล์ของ Hansel n Greetel ซึ่งลูกน้องของเขาสามารถจับตัวเขาได้ด้วยเท้า ในฉากหนึ่งมีคนอุ้มร่างผู้หญิงคนหนึ่ง แล้วจู่ๆ อีกฉากหนึ่งเขาก็กำลังยิงปืน ก่อนที่ระเบิดจะตกถึงพื้น/เป้าหมาย ผู้คนสะดุ้งสุดตัวราวกับถูกพัดหายไป หนังมีฉากเซ็กซ์ห่วยๆ สองฉากที่โผล่มาแบบไม่ทันตั้งตัว ความคิดของเด็กที่ขุดตัวเองขึ้นมาในขณะที่ถูกไฟเผาไปทั่วนี่มันฮาจริงๆ ฉันรู้สึกเศร้าใจแทนทหารอเมริกันที่ต้องใช้ชีวิตอย่างสงบสุขอยู่กลางป่ารก แถมยังมีสาวสวยสามคนอีกต่างหาก
phanthinga
⭐ 8/10
หลังจาก A Better Tomorrow ภาพยนตร์แอ็คชั่นสุดยิ่งใหญ่ที่นำชื่อจอห์น วู เข้าสู่หอเกียรติยศภาพยนตร์แอ็คชั่น เขาได้สร้างภาพยนตร์แอ็คชั่นแนวใหม่ขึ้นมา นั่นคือ “Heroic Blooshed” และ “Gun-fu” ซึ่งทั้งสองแนวนี้กลายเป็นปัจจัยหลักในภาพยนตร์แอ็คชั่นยุคใหม่ ก่อนที่เขาจะกลับมาพร้อมกับภาคต่อที่ยิ่งใหญ่และดุเดือดกว่า A Better Tomorrow 2 จอห์น วู กำกับภาพยนตร์แอ็คชั่นเรื่อง Heroes Shed No Tears ซึ่งผมมองว่ามันดูยากมาก ไม่ใช่เพราะเลือดสาดและความรุนแรง แต่เป็นเพราะหนังเรื่องนี้เหยียดเชื้อชาติอย่างน่ารังเกียจเมื่อนำเสนอภาพชาวเวียดนามในยุค 80 จริงอยู่ที่การพูดถึงความสมจริงในภาพยนตร์นั้นค่อนข้างแปลก และภาพยนตร์แอ็คชั่นสงครามเกรดบีส่วนใหญ่ก็เป็นแบบนี้ในสมัยก่อน แต่เมื่อพูดถึงการนำเสนอภาพลักษณ์ประเทศของผมและหนึ่งในผู้กำกับคนโปรดของผม แน่นอนว่าผมให้ความสำคัญกับประเทศของผมเป็นอันดับแรก ถึงอย่างนั้น Heroes Shed No Tears ยังคงเป็นภาพยนตร์แอ็คชั่นที่สนุกและเกินจริงที่แฟนๆ Woo และแฟนแอ็คชั่นทุกคนควรดู
ภาพยนตร์ที่คล้ายกัน
หากคุณหลงใหลในหนังแนวนี้ เราขอแนะนำ:
- The Sentimental Swordsman (1977) ฤทธิ์มีดสั้น: มาสเตอร์พีซอีกเรื่องของ ชอว์ หยวน ที่ดัดแปลงจากโกวเล้ง
- Clans of Intrigue (1977) ชอลิ้วเฮียง: อีกหนึ่งตำนานการสืบสวนในยุทธภพ
- The Avenging Eagle (1978) ฤทธิ์อินทรีมหากาฬ: หากคุณชื่นชอบการแสดงของ ฟู่เซิง
คำถามที่พบบ่อย (Q&A)
Q: หนังเรื่องนี้ใช่เรื่องเดียวกับ ‘Heroes Shed No Tears’ ของ จอห์น วู (1986) หรือเปล่า?
A: ไม่ใช่โดยสิ้นเชิง! นั่นคือความสับสนที่เกิดขึ้นบ่อยที่สุด Heroes Shed No Tears (1986) ของ จอห์น วู เป็นหนัง “สงคราม-แอ็คชั่น” ยิงกันระห่ำในป่า แต่เรื่องนี้ (1980) เป็นหนัง “กำลังภายใน-Wuxia” ต่อสู้ด้วยดาบ (ชื่อภาษาอังกฤษดันเหมือนกัน แต่ชื่อจีนและเนื้อเรื่องคนละเรื่องเลย)
Q: หนังเรื่องนี้บู๊เยอะไหม?
A: มีฉากต่อสู้ตามแบบฉบับชอว์บราเดอร์ส แต่หัวใจของหนังคือ “พล็อตเรื่อง” ที่ซับซ้อนและการสืบสวน ไม่ใช่หนังบู๊ทั้งเรื่อง
Q: “โกวเล้ง” คือใคร?
A: เขาคือนักเขียนนิยายกำลังภายในระดับตำนาน (เทียบเท่ากับ กิมย้ง) แต่สไตล์ของเขาจะแตกต่างออกไป โดยเน้นเรื่องราวที่ “ดาร์ก” กว่า, เน้น “มิตรภาพลูกผู้ชาย”, และ “การหักเหลี่ยม” ที่คาดเดาไม่ได้
บทสรุป: Heroes Shed No Tears (1980) คืออัญมณีเม็ดงามแห่งยุคชอว์บราเดอร์ส เป็นผลงานที่แฟนพันธุ์แท้ของ “โกวเล้ง” และ “ชอว์ หยวน” “ต้องดู” เพื่อสัมผัสกับความคลาสสิกที่แท้จริงของหนังกำลังภายใน!