ดูหนังใหม่ ดูหนังออนไลน์ หนังเต็มเรื่อง 2025 หนังอัพเดทใหม่ 2025 ดูหนังฟรีไม่มีโฆษณากวนใจ

ติดต่อเรา

I Robot (2004) พิฆาตแผนจักรกลเขมือบโลก

I Robot (2004) พิฆาตแผนจักรกลเขมือบโลก
หนังปีที่ฉาย : 2004
เสียง : พากย์ไทย
7.1
ระดับภาพ : HD

ดูหนัง I Robot (2004) พิฆาตแผนจักรกลเขมือบโลก

ทุกท่าน! “คุณไว้ใจหุ่นยนต์ได้แค่ไหน?” นี่คือคำถามที่เป็นหัวใจของ I, Robot ภาพยนตร์ที่หยิบเอาแนวคิด “กฎ 3 ข้อของหุ่นยนต์” อันโด่งดังของนักเขียนไซไฟในตำนาน ไอแซค อาซิมอฟ มาสร้างเป็นหนังแอ็คชั่น-สืบสวนสุดล้ำได้อย่างลงตัว! วันนี้เราจะมา “ดูหนัง” ที่เป็นมากกว่าแค่หนังบู๊ แต่คือการสำรวจเส้นแบ่งระหว่างมนุษย์กับปัญญาประดิษฐ์ ที่ยังคงทันสมัยและน่าสนใจมาจนถึงทุกวันนี้

 

เรื่องย่อ

 

ปี ค.ศ. 2035 ณ นครชิคาโกที่เต็มไปด้วยหุ่นยนต์รับใช้มนุษย์ ทุกอย่างถูกควบคุมด้วย “กฎ 3 ข้อของหุ่นยนต์” ที่รับประกันว่าพวกมันจะไม่มีวันทำร้ายมนุษย์ได้

  1. หุ่นยนต์ห้ามทำร้ายมนุษย์ หรือนิ่งเฉยปล่อยให้มนุษย์ตกอยู่ในอันตราย
  2. หุ่นยนต์ต้องเชื่อฟังคำสั่งมนุษย์ ยกเว้นคำสั่งนั้นขัดแย้งกับกฎข้อแรก
  3. หุ่นยนต์ต้องปกป้องตัวเอง ตราบใดที่ไม่ขัดกับกฎข้อแรกหรือข้อสอง

แต่ นักสืบ เดล ช้อนเนอร์ (วิลล์ สมิธ) I Robot   คือตำรวจเพียงคนเดียวที่ไม่เคยไว้ใจหุ่นยนต์เลยแม้แต่น้อย ปมในอดีตทำให้เขามองว่าหุ่นยนต์คือภัยคุกคามที่ซ่อนอยู่ แล้ววันหนึ่ง ฝันร้ายของเขาก็ดูเหมือนจะกลายเป็นจริง เมื่อ ดร.อัลเฟรด แลนนิง บิดาผู้สร้างหุ่นยนต์แห่งบริษัท U.S. Robotics ได้เสียชีวิตอย่างปริศนาจากการตกจากที่สูง และผู้ต้องสงสัยหนึ่งเดียวที่ช้อนเนอร์เชื่อว่าเป็นฆาตกรก็คือ “ซันนี่” (อลัน ทูดิค) หุ่นยนต์รุ่นใหม่ล่าสุดที่มีความรู้สึกนึกคิดเป็นของตัวเอง!

นี่คือคดีที่เป็นไปไม่ได้ เพราะมันหมายความว่าหุ่นยนต์ได้ละเมิดกฎข้อแรก! ช้อนเนอร์ต้องต่อสู้กับการสืบสวนที่ไม่มีใครเชื่อเขา โดยได้รับความช่วยเหลือจาก ดร.ซูซาน คาลวิน (บริดเจ็ต โมนาแฮน) นักจิตวิทยาหุ่นยนต์ เพื่อเปิดโปงแผนการสมคบคิดที่ยิ่งใหญ่และอันตรายกว่าที่ใครจะคาดคิด แผนการที่อาจจะเปลี่ยนแปลงอนาคตของมวลมนุษยชาติไปตลอดกาล movie24hd

[/read]

นักแสดงนำและผู้กำกับ

 

  • วิลล์ สมิธ (Will Smith) รับบทเป็น นักสืบเดล ช้อนเนอร์: การแสดงที่แบกหนังทั้งเรื่องไว้ด้วยเสน่ห์, ความเท่, และอารมณ์ขันอันเป็นเอกลักษณ์ของเขา
  • บริดเจ็ต โมนาแฮน (Bridget Moynahan) รับบทเป็น ดร.ซูซาน คาลวิน
  • อลัน ทูดิค (Alan Tudyk) ให้เสียงและแสดง Motion Capture เป็น ซันนี่: การแสดงที่ยอดเยี่ยมที่ทำให้หุ่นยนต์ตัวนี้มี “จิตวิญญาณ” และกลายเป็นหัวใจของเรื่อง
  • ผู้กำกับ: อเล็กซ์ โพรยาส (Alex Proyas) ผู้กำกับผู้มีวิสัยทัศน์ด้านภาพที่โดดเด่นจากผลงานขึ้นหิ้งอย่าง The Crow และ Dark City

โปสเตอร์หนัง

I Robot (2004) พิฆาตแผนจักรกลเขมือบโลก

I Robot (2004) พิฆาตแผนจักรกลเขมือบโลก

I Robot (2004) พิฆาตแผนจักรกลเขมือบโลก

รีวิวและบทวิเคราะห์

 

I, Robot คือความสำเร็จในการผสมผสานหนังบล็อกบัสเตอร์ที่ดูสนุก เข้ากับแนวคิดไซไฟที่ลึกซึ้งได้อย่างลงตัว

  • แอ็คชั่น-สืบสวนที่น่าติดตาม: หนังเรื่องนี้มีโครงสร้างเป็น “หนังฆาตกรรมสืบสวน” (Whodunnit) ที่แข็งแรงมาก ทำให้เราอยากจะรู้ความจริงไปพร้อมๆ กับตัวละครเอก และเมื่อถึงเวลาของฉากแอ็คชั่น มันก็ทำออกมาได้อย่างยิ่งใหญ่และน่าตื่นตาตื่นใจ
  • งานภาพและ CGI ที่ล้ำยุค: ในปี 2004 หนังเรื่องนี้มีงานวิชวลเอฟเฟกต์ที่น่าทึ่ง  I Robot  โดยเฉพาะตัวละคร “ซันนี่” ที่สร้างขึ้นจาก CGI แต่กลับสามารถแสดงอารมณ์และความรู้สึกได้อย่างน่าเชื่อถือ
  • ประเด็นที่ชวนขบคิด: หนังเรื่องนี้ไม่ได้มีแค่ความมันส์ แต่ยังตั้งคำถามที่น่าสนใจเกี่ยวกับปัญญาประดิษฐ์, เจตจำนงเสรี (Free Will), และอะไรคือสิ่งที่นิยาม “ความเป็นมนุษย์” ซึ่งเป็นประเด็นที่ยิ่งทวีความสำคัญมากขึ้นในยุคปัจจุบัน
  • IMDb: ให้คะแนน 7.1/10
  • Rotten Tomatoes: ได้รับคะแนนจากฝั่งนักวิจารณ์ที่ 56% ซึ่งเป็นคะแนนเสียงแตก แต่นี่คือหนังที่ประสบความสำเร็จอย่างถล่มทลายใน Box Office และเป็นที่รักของผู้ชมทั่วโลก

SnoopyStyle

⭐ 6/10

ปี 2035 หุ่นยนต์อยู่ทุกหนทุกแห่งในชีวิตของผู้คน เดล สปูนเนอร์ (วิล สมิธ) นักสืบตำรวจชิคาโกไม่ชอบหุ่นยนต์เนื่องจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีต เขาถูกส่งตัวไปสืบสวนคดีฆาตกรรม ดร. อัลเฟรด แลนนิง (เจมส์ ครอมเวลล์) นักวิทยาศาสตร์หุ่นยนต์ระดับท็อปของ U.S. Robotics สปูนเนอร์เชื่อว่าหุ่นยนต์ NS-5 ตัวใหม่ฆ่าเขา แต่กฎสามข้อของหุ่นยนต์ทำให้เป็นไปไม่ได้ ซูซาน คาลวิน (บริดเจ็ต มอยนาแฮน) นักวิทยาศาสตร์ประจำบริษัทไม่เชื่อเขาจนกระทั่งเรื่องวุ่นๆ เกิดขึ้น นี่คือภาพยนตร์ที่ดัดแปลงมาจากแนวคิดของไอแซค อาซิมอฟ แต่กลับกลายเป็นหนังฤดูร้อนที่ขายป๊อปคอร์นธรรมดาๆ เป็นอีกหนึ่งภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ของวิล สมิธ แต่มันน่าจะมีอะไรที่มากกว่านั้นได้ กฎสามข้อนี้ไม่เคยถูกนำเสนออย่างถูกต้อง มันถูกเขียนขึ้นเหมือนกับคำแนะนำการประกอบหลายๆ อย่าง นี่เป็นการดูถูกเหยียดหยามอย่างมากเพราะมันเป็นส่วนสำคัญของตอนจบที่หักมุม ฉากแอ็กชั่นและ CG นั้นสนุกและน่าประทับใจ ฉันแค่หวังว่ามันจะเป็นมากกว่าหนังระทึกขวัญเกี่ยวกับหุ่นยนต์ธรรมดาๆ

Dkish

⭐5/10

ผู้กำกับอเล็กซ์ โปรยาส ผู้กำกับภาพยนตร์คัลท์ชื่อดังอย่าง ‘Dark City’ และ ‘The Crow’ ก้าวเข้าสู่วงการฮอลลีวูดด้วยความพยายามครั้งแรกในการสร้างภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ฮอลลีวูด I, Robot บอกเล่าเรื่องราวของนักสืบเดล สปูนเนอร์ (วิล สมิธ) ผู้ซึ่งมีมุมมองต่ออุปกรณ์ใหม่ล่าสุดของโลกอย่างหุ่นยนต์ที่เหมือนจริง ซึ่งสร้างสรรค์โดยบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ระดับโลกอย่าง US Robotics ความเชื่อมโยงในอดีตของสปูนเนอร์เชื่อมโยงกับความหวาดกลัวต่อกระแสหุ่นยนต์ที่กำลังแผ่ขยายไปทั่วประเทศ US Robotics ระบุว่าในที่สุดแล้วจะมีหุ่นยนต์ 1 ตัวต่อมนุษย์ 5 คน สปูนเนอร์ถูกเรียกตัวมายังสำนักงานของ US Robotics เมื่อนักวิทยาศาสตร์ชั้นนำ (เจมส์ ครอมเวลล์) ผู้มีความเชื่อมโยงลับกับสปูนเนอร์ ได้ฆ่าตัวตาย การตายของเขาดูเหมือนจะมีเหตุการณ์ลึกลับที่อาจเชื่อมโยงกับหุ่นยนต์ได้ ด้วยความที่มนุษย์เชื่อมั่นในเทคโนโลยีหุ่นยนต์ใหม่นี้อย่างเต็มที่ จึงดูไร้สาระเกินไปสำหรับทุกคนยกเว้นสปูนเนอร์

เมื่อปริศนาทวีความรุนแรงขึ้น สปูนเนอร์ได้คลี่คลายแก่นแท้ของหุ่นยนต์ยักษ์ ปะทะคารมกับซีอีโอ ลอว์เรนซ์ โรเบิร์ตสัน (บรูซ กรีนวูด) และเรียนรู้เกี่ยวกับศัตรูหุ่นยนต์ของเขามากขึ้นด้วยความช่วยเหลือจากนักวิทยาศาสตร์ ดร. ซูซาน คาลวิน (บริดเจ็ต มอยนาแฮน) ตลอดเหตุการณ์เหล่านี้ เขาอาจได้เรียนรู้อะไรมากกว่าที่เขาจะจินตนาการได้ การจะปกป้องภาพยนตร์อย่าง ‘I, Robot’ นั้นเป็นเรื่องยาก แต่ผมจะพยายาม สำหรับผู้ที่ชื่นชอบนิยายวิทยาศาสตร์ ผลงานระดับตำนานของไอแซค อาซิมอฟ เกี่ยวกับหุ่นยนต์และวิธีที่มันจะเข้ามามีบทบาทในสังคมของเรานั้น เป็นที่จดจำของผู้อ่านมานานกว่า 50 ปี แต่ความคล้ายคลึงกันระหว่างภาพยนตร์ที่นำเสนอในที่นี้กับผลงานของเขานั้นมีอยู่น้อยมาก คล้ายกับการที่เจอร์รี บรัคไฮเมอร์ ‘King Arthur’ เข้าฉายเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ภาพยนตร์ทั้งสองเรื่องได้นำเอาประเด็นสำคัญมาสร้างสรรค์ใหม่ด้วยมุมมองใหม่ ผมต้องบอกว่า ‘I. Robot’ ดีกว่าในหลายๆ ด้าน

แก่นแท้ของภาพยนตร์เรื่อง I Robot  สะท้อนจิตวิญญาณของอาซิมอฟได้เป็นอย่างดี ด้วยกฎ 3 ข้อเกี่ยวกับหุ่นยนต์ที่ยังคงไว้ซึ่งความศักดิ์สิทธิ์ และภาพยนตร์ก็ยังคงยึดมั่นในกฎเหล่านั้น นอกจากนี้ ตัวละครหลายตัวยังมีชื่อคล้ายกับตัวละครในบทภาพยนตร์ เปรียบเสมือนการนำ ‘หลักการสำคัญ’ ของ Star Trek มาผสมผสานกับตัวละครคลาสสิกบางตัว แล้วนำมาวางไว้ในมุมมองใหม่เกี่ยวกับอนาคต แก่นแท้ของภาพยนตร์เรื่องนี้ยังคงอยู่ แต่ได้รับการปรับปรุงและปรับโฉมใหม่ในบางแง่มุม อย่างไรก็ตาม เรื่องราว เทคนิคพิเศษ และการกำกับที่มุ่งมั่นอย่างยิ่งยวด ล้วนถูกถ่ายทอดออกมาโดยทีมงานที่ร่วมกันสร้างสรรค์ภาพยนตร์เรื่องนี้ขึ้นมา อิทธิพลของ ‘Robocop’, ‘Short Circuit’, ‘Blade Runner’ และแม้แต่หนังสือการ์ตูนคลาสสิกอย่าง ‘Magnus: Robot Fighter’ ล้วนสะท้อนถึงสิ่งที่ทำให้ ‘I Robot’ น่าสนใจ น่ารับชม และน่าจดจำ

แน่นอนว่าเรื่องราวนี้ได้รับอิทธิพลและคำซ้ำซากจากไซไฟมากมาย นอกเหนือจากหนังหุ่นยนต์อย่าง ‘Star Wars’ และ ‘Planet of the Apes’ แต่หนังไซไฟมาตรฐานเหล่านี้ไม่ได้มีอิทธิพลต่อทุกสิ่งทุกอย่างที่กำลังจะมาถึงในยุคนี้เลยหรือ แม้กระทั่งคำซ้ำซากของไซไฟคลาสสิกที่ว่าคนนอกสังคมจะอ้างว่ามีการรุกรานเกิดขึ้น แต่ไม่มีใครเชื่อเขา แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่ควรดึงดูดเราให้เข้าสู่หนังเรื่องนี้ คุณต้องยกเครดิตให้กับผู้กำกับ Alex Proyas จริงๆ เพราะเวทมนตร์ของเขาในฐานะผู้สร้างภาพยนตร์คือสิ่งที่เชื่อมโยงหนังเรื่องนี้เข้าด้วยกัน เขารู้ว่าต้องเล่นบทไหนให้ตรงไปตรงมา และปล่อยให้นักแสดงนำแสดงเสน่ห์ตรงไหน นอกจากนี้ คุณต้องชื่นชมความสามารถทางเทคนิคของเขาด้วย การแทรกหุ่นยนต์เข้าไปในภาพได้อย่างยอดเยี่ยมนั้นน่าทึ่งมาก Proyas คือผู้กำกับระดับ A-list ที่กำลังอยู่ในขั้นตอนการสร้าง และ ‘I, Robot’ แสดงให้เห็นว่าเขาสามารถสร้างภาพยนตร์ฮอลลีวูดฟอร์มยักษ์ได้

ผมขอชื่นชมวิลล์ สมิธ ที่เริ่มต้นบทตัวละครของเขาด้วยบุคลิกที่เข้าถึงยาก แต่เมื่อหนังดำเนินไป เรากลับหลงใหลในฮีโร่ของเขาจริงๆ สปูนเนอร์ของสมิธมีฮีโร่ไซไฟในอดีตของเขามากมายแทรกอยู่ในสปูนเนอร์ แต่มันให้ความรู้สึกเหมือนการกลับบ้านมากกว่าความรำคาญ ในบางแง่มุม ผมคิดว่าโปรยาสมีส่วนสำคัญ โดยเฉพาะในฉากไล่ล่าในช่วงต้นเรื่อง มันให้ความรู้สึกเหมือน ‘Men in Black’ อีกครั้ง ส่วนนักแสดงร่วมของสมิธ แลนนิงที่รับบทโดยครอมเวลล์เป็นตัวละครที่เล่นแบบผิวเผิน ซึ่งส่วนใหญ่ใช้เพื่อสร้างเอฟเฟกต์ มอยนาแฮนดูขี้อายและบางครั้งก็ดูเหมือนหุ่นยนต์ แต่การแสดงก็แข็งแกร่ง ส่วนกรีนวูดก็ดูน่าเกรงขามและเหมาะกับการเผชิญหน้ากับสมิธจอมกบฏ เหตุผลที่ผมชอบ ‘I, Robot’ มากก็เพราะว่าในที่สุดมันก็เป็นหนังฤดูร้อนที่ไม่ได้ขอโทษที่พยายามสร้างความบันเทิง เอฟเฟกต์พิเศษ การแสดง และการกำกับ ล้วนเป็นสิ่งที่คนอยากเห็นในช่วงซัมเมอร์นี้ และหนังเรื่องนี้ก็สนุกมาก ๆ เลย เป็นหนังป๊อปคอร์นเรื่องใหญ่ที่ยอดเยี่ยม แฝงไปด้วยข้อความแฝงเบา ๆ

ภาพยนตร์ที่คล้ายกัน

 

หากคุณชื่นชอบหนังไซไฟ-แอ็คชั่นที่ฉลาดและมีสไตล์ เราขอแนะนำ:

  1. Minority Report (2002) หน่วยสกัดอาชญากรรมล่าอนาคต: หนังไซไฟ-ทริลเลอร์อีกเรื่องที่ว่าด้วยตำรวจในโลกอนาคตที่ต้องไขคดีสมคบคิด
  2. Blade Runner (1982): ต้นตำรับหนังไซไฟ-ฟิล์มนัวร์ ที่ว่าด้วยการตามล่าหุ่นยนต์ที่ตั้งคำถามถึงความเป็นมนุษย์
  3. Ex Machina (2014): หนังไซไฟยุคใหม่ที่เจาะลึกประเด็นเรื่องปัญญาประดิษฐ์ได้อย่างน่าทึ่งและน่าขนลุก
  4. The Matrix (1999): หากคุณชื่นชอบธีมเรื่องมนุษย์ปะทะเครื่องจักรและแอ็คชั่นสุดล้ำ เรื่องนี้คือคำตอบ

 

คำถามที่พบบ่อย (Q&A)

 

Q: หนังเรื่องนี้สร้างจากหนังสือของ ไอแซค อาซิมอฟ จริงเหรอ?

A: “ได้รับแรงบันดาลใจอย่างหลวมๆ” ครับ หนังไม่ได้ดัดแปลงจากเรื่องสั้นเรื่องใดเรื่องหนึ่งโดยตรง แต่ได้หยิบยืมเอา “จักรวาล” และแนวคิดที่สำคัญที่สุดของอาซิมอฟ นั่นคือ “กฎ 3 ข้อของหุ่นยนต์” มาสร้างเป็นพล็อตเรื่องฆาตกรรมสืบสวนขึ้นมาใหม่

Q: “กฎ 3 ข้อของหุ่นยนต์” คืออะไร?

A: คือกฎพื้นฐานที่หุ่นยนต์ทุกตัวในเรื่องต้องปฏิบัติตามเพื่อรับใช้มนุษย์อย่างปลอดภัยครับ (ตามที่ระบุไว้ในเรื่องย่อ) ซึ่งพล็อตของหนังก็คือการสำรวจว่าจะเกิดอะไรขึ้นเมื่อกฎเหล่านี้ถูกตีความใหม่หรือถูกทำลายลง

Q: หนังเรื่องนี้เป็นหนังแอ็คชั่นบู๊ล้างผลาญหรือเปล่า?

A: เป็นการผสมผสานที่ลงตัวครับ! แก่นของเรื่องคือ “ไซไฟ-สืบสวน” แต่ก็อัดแน่นไปด้วยฉากแอ็คชั่นฟอร์มยักษ์ที่น่าตื่นตาตื่นใจสมกับเป็นหนังของ วิลล์ สมิธ เป็นหนังแอ็คชั่นที่มีสมองครับ

บทสรุป: I, Robot คือหนังไซไฟ-แอ็คชั่นที่ทั้งสนุก, ฉลาด, และเท่ระเบิด เป็นผลงานบล็อกบัสเตอร์คุณภาพที่มอบทั้งความบันเทิงสุดมันส์และประเด็นที่น่าขบคิดได้อย่างลงตัว หากคุณเป็นแฟนของ วิลล์ สมิธ หรือชื่นชอบหนังไซไฟที่มีเรื่องราวที่แข็งแรง นี่คือหนังที่คุณไม่ควรพลาด

[/read]

หนังที่เกี่ยวข้อง