ดูหนัง Into the Wild (2007) เข้าป่าหาชีวิต
ทุกท่าน! “คุณเคยฝันอยากจะทิ้งชีวิตที่วุ่นวาย แล้วออกไปเผชิญหน้ากับธรรมชาติเพียงลำพังหรือไม่?” Into the Wild คือภาพยนตร์ที่จะพาคุณไปสัมผัสกับความฝันนั้น… และผลลัพธ์ที่ตามมา นี่คือผลงานการกำกับอันยอดเยี่ยมของ ฌอน เพนน์ ที่จะทำให้การ “ดูหนัง” ของคุณในครั้งนี้ เป็นการเดินทางที่ทั้งสวยงามจนน่าทึ่ง, สร้างแรงบันดาลใจอย่างมหาศาล, และในขณะเดียวกันก็เจ็บปวดรวดร้าวจนยากจะลืมเลือน
เรื่องย่อ
หนังเล่าเรื่องจริงของ คริสโตเฟอร์ แม็คแคนด์เลส (เอมิล เฮิร์ช) บัณฑิตเกียรตินิยมจบใหม่จากครอบครัวฐานะดี ผู้มีอนาคตสดใสรออยู่ แต่แทนที่จะเดินตามเส้นทางที่สังคมขีดไว้… เขาตัดสินใจทำในสิ่งที่ไม่มีใครคาดคิด!
คริสได้ทำลายบัตรเครดิตและเอกสารสำคัญทั้งหมด, บริจาคเงินเก็บก้อนสุดท้าย (กว่า 24,000 ดอลลาร์!) ให้กับการกุศล, และออกเดินทาง “ตัวเปล่า” สู่โลกกว้าง โดยทิ้งอดีตและครอบครัวไว้ข้างหลัง เขาเปลี่ยนชื่อตัวเองเป็น “อเล็กซานเดอร์ ซูเปอร์แทรมป์” (Alexander Supertramp) และเริ่มต้นการเดินทางด้วยการ “โบกรถ” ข้ามอเมริกา
เป้าหมายสูงสุดของเขาคือการเดินทางไปยังดินแดน “อลาสก้า” อันห่างไกล เพื่อใช้ชีวิตอยู่อย่างสันโดษท่ามกลางธรรมชาติที่บริสุทธิ์ ปราศจากพันธนาการของวัตถุนิยมและสังคมจอมปลอม
ระหว่างการเดินทางนานกว่าสองปี เขาได้พบปะกับผู้คนหลากหลาย ทั้งคู่รักฮิปปี้, ชาวนาผู้ใจดี, หญิงสาวนักดนตรี, และชายชราผู้โดดเดี่ยว ซึ่งทุกคนต่างก็เข้ามาเติมเต็มและมอบบทเรียนชีวิตให้กับเขา แต่สุดท้ายแล้ว การเดินทางสู่ “ป่า” อันเป็นเป้าหมายสูงสุดของเขา จะมอบอิสรภาพที่แท้จริง… หรือจะนำมาซึ่งบทเรียนที่โหดร้ายที่สุดกันแน่? movie24hd
อ่านรีวิวก่อน ดูหนัง
นักแสดงนำและผู้กำกับ
- เอมิล เฮิร์ช (Emile Hirsch) รับบทเป็น คริสโตเฟอร์ แม็คแคนด์เลส / อเล็กซานเดอร์ ซูเปอร์แทรมป์: การแสดง “พลีชีพ” ที่ยอดเยี่ยมที่สุด! เฮิร์ชทุ่มเททั้งลดน้ำหนักและถ่ายทอดจิตวิญญาณอิสระและความเปราะบางของตัวละครออกมาได้อย่างน่าทึ่ง
- มาร์เซีย เกย์ ฮาร์เดน (Marcia Gay Harden) และ วิลเลียม เฮิร์ต (William Hurt) รับบทเป็นพ่อแม่ของคริส
- แคทเธอรีน คีเนอร์ (Catherine Keener), วินซ์ วอห์น (Vince Vaughn), คริสเตน สจ๊วต (Kristen Stewart) ในบทบาทสมทบที่น่าจดจำ
- ฮัล โฮลบรูก (Hal Holbrook) ในบท “รอน ฟรานซ์”: การแสดงที่แสนอบอุ่นและทรงพลัง จนทำให้เขาได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล ออสการ์ สาขานักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม!
- ผู้กำกับ/เขียนบท: ฌอน เพนน์ (Sean Penn) นักแสดงรางวัลออสการ์ ผู้หันมากำกับหนังเรื่องนี้ด้วยแพชชั่นและความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง
โปสเตอร์หนัง



รีวิวและบทวิเคราะห์
Into the Wild คือภาพยนตร์ที่ “งดงาม” ทั้งภาพและจิตวิญญาณ
- เรื่องจริงที่ทรงพลังและชวนขบคิด: หัวใจของหนังคือเรื่องราวที่ไม่ธรรมดาของ คริส แม็คแคนด์เลส ซึ่งจุดประกายให้เกิดการถกเถียงไปทั่วโลกว่าเขาคือ “ฮีโร่ผู้แสวงหาความจริง” หรือ “เด็กหนุ่มผู้ไร้เดียงสาและโง่เขลา”? หนังไม่ได้ตัดสินเขา แต่ปล่อยให้ผู้ชมหาคำตอบด้วยตัวเอง
- งานภาพระดับมาสเตอร์พีซ: หนังเรื่องนี้มีงานกำกับภาพที่ “สวยงามจนแทบหยุดหายใจ” ทิวทัศน์อันกว้างใหญ่และดิบเถื่อนของอเมริกาถูกถ่ายทอดออกมาได้อย่างยิ่งใหญ่และน่าเกรงขาม
- เพลงประกอบสุดไอคอนิก: เพลงประกอบทั้งหมดในเรื่อง แต่งและขับร้องโดย เอ็ดดี้ เวดเดอร์ (Eddie Vedder) นักร้องนำวง Pearl Jam คือจิตวิญญาณของหนังอย่างแท้จริง มันทั้งไพเราะ, ทรงพลัง, และเข้ากับบรรยากาศการเดินทางได้อย่างสมบูรณ์แบบ (และเพลง “Guaranteed” ก็คว้ารางวัลลูกโลกทองคำไปครอง!)
- IMDb: ให้คะแนนสูงถึง 8.1/10
- Rotten Tomatoes: ได้รับคะแนนจากฝั่งนักวิจารณ์ถึง 83% (Certified Fresh)
komic09
⭐ 5/10
สปอยล์
ผมไม่เข้าใจเลยว่าทำไมหนังเรื่องนี้ถึงโดนคนบางคนวิพากษ์วิจารณ์ (หรือด่าด้วยคีย์บอร์ด) ขนาดนี้… ส่วนใหญ่แล้วหนังจะบอกว่าตัวละครเอกเป็นคนเห็นแก่ตัวและเอาแต่ใจตัวเอง และหนังเรื่องนี้ก็สร้างเขาขึ้นมาเป็นฮีโร่… แต่ผมคิดว่านั่นไม่ใช่ประเด็น… ตลอดเรื่องผมคิดอยู่ว่า ในแง่หนึ่ง มันน่าชื่นชมที่เขาต้องการหลุดพ้นจากพันธนาการที่สังคมยุคใหม่ยัดเยียดให้เราด้วยวัตถุนิยมและเงินทอง แต่ในอีกแง่หนึ่ง เขากลับทำแบบนั้นอย่างไร้ความรับผิดชอบ เจ็บปวด และเห็นแก่ตัว… วิธีที่เขาละทิ้งพ่อแม่และน้องสาวที่รักโดยไม่มีข้อความหรือคำอธิบายทางโทรศัพท์ และจากผู้คนที่เขาพบเจอระหว่างทาง เช่น ชายชราใจดีกับความรักแบบหนุ่มสาว ยิ่งทำให้เรื่องนี้ยิ่งซับซ้อนขึ้นไปอีก… และท้ายที่สุด เขาก็ตระหนักได้ในตอนจบด้วยการเขียนลงในหนังสือว่า “ความสุขที่แท้จริงก็ต่อเมื่อได้แบ่งปัน” นั่นแหละคือบทเรียนจากเรื่องนี้! พฤติกรรมเห็นแก่ตัวและทำร้ายจิตใจของเขาในวัยรุ่นนั้นผิด และท้ายที่สุดเขาก็ต้องชดใช้กรรมอันแสนสาหัส ดังนั้นจงอย่าไปสนใจพวกเกลียดชัง…พวกเขากำลังมองเรื่องนี้ผิดทาง! คุ้มค่าแก่การรับชมอย่างเปิดใจอย่างยิ่ง!
jaredmobarak
⭐ 8/10
ภาพยนตร์เรื่องใหม่ของฌอน เพนน์ เรื่อง Into the Wild เกิดขึ้นจากนวนิยายชื่อดังที่เล่าเรื่องราวของบัณฑิตมหาวิทยาลัยผู้ซึ่งรู้สึกว่าความโกรธและความรุนแรงในสังคมที่เจริญแล้วนั้นหนักหนาสาหัสเกินกว่าจะรับไหว จึงเริ่มต้นการเดินทางฝ่าธรรมชาติเพื่อใช้ชีวิตอย่างที่ควรจะเป็น ภาพยนตร์เรื่องนี้สะท้อนภาพชีวิตของเด็กหนุ่มผู้เฉลียวฉลาดเกินวัย และสายสัมพันธ์ที่เขาสร้างขึ้นกับผู้คนตลอดเส้นทาง คริสโตเฟอร์ แม็คแคนด์เลส ผู้ตกเป็นเหยื่อของความมั่งคั่งเหลือล้นและความรักอันน้อยนิด ได้ซ่อนตัวอยู่ในจิตใจภายใต้ความรู้และปรัชญา ฝึกฝนทั้งสติปัญญาและร่างกาย เพื่อพิชิตเส้นทางชีวิตอันยาวไกล ซึ่งท้ายที่สุดนำพาเขาไปสู่อลาสก้า เพนน์ไม่เคยตกหลุมพรางของการแสดงความรักที่เจ็บปวดเกินควรต่อพ่อแม่ของแม็คแคนด์เลส เพราะเขาไม่อยากให้ผู้ชมต้องมานั่งคิดทบทวนการตัดสินใจของเขา ไม่มีการถกเถียงใดๆ ทั้งสิ้นในเรื่องนี้ ตัวเอกของเราไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องออกไปใช้ชีวิตบนผืนดิน มีเพียงการพึ่งพาตนเองได้อย่างสมบูรณ์เท่านั้นที่ทำให้เขาเข้าใจความหมายของชีวิต และสักวันหนึ่งเขาอาจจะกลับไปพร้อมกับความรู้ที่ได้เรียนรู้มาอย่างเต็มเปี่ยม
เอมิล เฮิร์ช โดดเด่นด้วยทัศนคติที่ดีต่อผู้อื่นและเสน่ห์ที่อ่อนโยน ตัวละครของเขาเชื่อว่าการได้พบปะกับมนุษย์นั้นไม่จำเป็นต่อความสุข และไม่เคยแสวงหาความสัมพันธ์ใดๆ อย่างไรก็ตาม ตัวละครของเขากลับน่ารักน่าเอ็นดูจนพวกเขาพบและผูกพันกับเขา ไม่ใช่เพื่อเปลี่ยนใจ แต่เพื่อสัมผัสถึงความเป็นตัวตนของเขา และหวังว่าจะได้เรียนรู้อะไรบางอย่างจากเขา และช่วยเพิ่มพูนคลังคำศัพท์ในชีวิตของเขา ผู้คนที่เขาพบเจอช่วยให้เขาเข้าใจการตัดสินใจของชีวิตในป่าอย่างถ่องแท้ และสามารถเอาชีวิตรอดได้ เฮิร์ชไม่เคยดูถูกเหยียดหยามผู้ที่เขาพบเจอ และมักจะยิ้มอยู่เสมอ ฉากหนึ่งที่เขาได้พบกับผู้คนจากยุโรปสองสามคน พิสูจน์ให้เห็นว่ามุมมองที่ชัดเจนต่อชีวิตโดยปราศจากปัญหาจากข้อจำกัดทางสังคมนั้นสามารถแพร่กระจายได้อย่างไร เด็กทั้งสามคนสนุกสนานกันมาก แม้จะเพียงไม่กี่นาทีก็ตาม โดยที่เฮิร์ชถูกตำรวจไล่ล่าเพราะล่องแพโดยไม่มีใบอนุญาต และมันทำให้เราต้องสงสัยว่าบางทีเราทุกคนควรออกเดินทางไปในธรรมชาติและสัมผัสถึงอิสรภาพและความอบอุ่นในหัวใจที่การไม่เครียดสามารถมอบให้ได้เพื่อให้ประสบความสำเร็จในโลกธุรกิจ
ภาพยนตร์ที่คล้ายกัน
หากคุณหลงใหลในหนังแนวเดินทาง-ค้นหาตัวเอง-เอาชีวิตรอด เราขอแนะนำ:
- Wild (2014) เดินป่าหาชีวิต: หนังอีกเรื่องที่สร้างจากหนังสือของ จอน คราเคาเออร์ (ผู้เขียน Into the Wild) ว่าด้วยผู้หญิงที่ออกเดินป่าเพื่อเยียวยาตัวเอง
- Nomadland (2020): หนังรางวัลออสการ์ที่ว่าด้วยการใช้ชีวิตแบบ “คนพเนจร” ในอเมริกายุคใหม่
- Captain Fantastic (2016): เรื่องราวของครอบครัวที่เลือกใช้ชีวิตนอกกรอบสังคมในป่า
- The Motorcycle Diaries (2004) บันทึกลูกผู้ชาย ชื่อ..เช: การเดินทางข้ามทวีปของ เช เกวารา ในวัยหนุ่ม ที่เปลี่ยนมุมมองชีวิตของเขาไปตลอดกาล
คำถามที่พบบ่อย (Q&A)
Q: หนังเรื่องนี้สร้างจากเรื่องจริง 100% หรือไม่?
A: ใช่ สร้างจากหนังสือ Non-fiction ขายดีถล่มทลายในชื่อเดียวกันของ “จอน คราเคาเออร์” (Jon Krakauer) ซึ่งได้รวบรวมเรื่องราว, บันทึก, และสัมภาษณ์ผู้คนที่เกี่ยวข้องกับชีวิตจริงของ “คริสโตเฟอร์ แม็คแคนด์เลส” มาเรียบเรียง
Q: หนังเรื่องนี้จบเศร้าไหม?
A: เป็นหนังที่มีตอนจบที่ “สะเทือนอารมณ์” และ “น่าเศร้า” อย่างแน่นอนครับ แต่ในขณะเดียวกัน การเดินทางทั้งหมดของเขาก็เต็มไปด้วย “ความสวยงาม” และ “การค้นพบ” ที่สร้างแรงบันดาลใจ เป็นความเศร้าที่มาพร้อมกับบทเรียนที่ยิ่งใหญ่
Q: ทำไม คริส แม็คแคนด์เลส ถึงตัดสินใจทำแบบนั้น?
A: เป็นคำถามที่ซับซ้อนมากครับ หนัง (และหนังสือ) นำเสนอว่าเขาเป็นคนที่มีอุดมการณ์แรงกล้า, ต่อต้านวัตถุนิยม, มีปัญหากับครอบครัว, และโหยหาอิสรภาพที่แท้จริงในธรรมชาติ แต่ในขณะเดียวกัน เขาก็อาจจะขาดประสบการณ์และประเมินความโหดร้ายของธรรมชาติผิดไป
บทสรุป: Into the Wild คือภาพยนตร์ระดับมาสเตอร์พีซที่ทั้งสวยงาม, ทรงพลัง, และจะติดอยู่ในใจของคุณไปอีกนาน เป็นการเดินทางที่อาจจะจบลงด้วยโศกนาฏกรรม แต่กลับมอบบทเรียนที่ยิ่งใหญ่เกี่ยวกับชีวิต, อิสรภาพ, และความหมายที่แท้จริงของ “ความสุข” นี่คือหนัง “ต้องดู” ที่จะทำให้คุณอยากออกไปค้นหา “ป่า” ในใจของคุณเอง