ดูหนัง Last Man Standing (1996) คนอึดตายยาก
ถ้าคุณชื่นชอบภาพยนตร์ที่มีกลิ่นอายของหนังเวสเทิร์น, ความดิบเถื่อนของหนังแก๊งสเตอร์, และพระเอกที่พูดน้อยต่อยหนัก “Last Man Standing” คือผลงานสุดเท่ของผู้กำกับในตำนาน วอลเตอร์ ฮิลล์ ที่จับเอา บรูซ วิลลิส มาอยู่ในบทบาทที่สมบูรณ์แบบ!
เรื่องย่อ
เรื่องราวเกิดขึ้นที่เมืองเจริโค (Jericho) เมืองร้างแถบชายแดนเท็กซัสในยุคต้องห้าม (Prohibition Era) ที่ซึ่งกฎหมายไม่มีความหมาย และถูกควบคุมโดยแก๊งมาเฟียคู่อริสองแก๊งที่ลักลอบค้าเหล้าเถื่อน: แก๊งชาวไอริชที่นำโดย ดอยล์ และแก๊งชาวอิตาเลียนที่นำโดย สโตรซซี่ แต่แล้ววันหนึ่ง จอห์น สมิธ (รับบทโดย บรูซ วิลลิส) ชายแปลกหน้าผู้ลึกลับและไร้ที่มา ก็ได้เดินทางเข้ามาในเมืองแห่งนี้ เขาคือมือปืนพเนจรผู้มีฝีมือฉกาจและไม่เกรงกลัวใคร ด้วยไหวพริบและฝีมือการยิงปืนที่เหนือชั้น เขาก็ได้เข้าไปทำงานรับจ้างให้กับทั้งสองแก๊งสลับกันไปมา โดยมีเป้าหมายเพื่อยุให้แก๊งทั้งสองฝ่ายห้ำหั่นกันเองจนพินาศไปข้างหนึ่ง เพื่อกอบโกยผลประโยชน์ให้ได้มากที่สุด แต่เมื่อเขาได้เข้าไปพัวพันกับหญิงสาวผู้เป็นสมบัติของดอยล์ เกมที่เขาเป็นคนควบคุมก็เริ่มจะอันตรายเกินกว่าที่คาดคิด และอาจจะทำให้เขาไม่ได้เป็น “ผู้ที่ยืนหยัดเป็นคนสุดท้าย” อย่างที่ตั้งใจไว้
อ่านรีวิวก่อน ดูหนัง
อยากติดตามผลงานอื่นๆ ของพวกเขาไหม? ลองค้นหาบนเว็บ Movie24HD ของเราได้เลย! “Last Man Standing” คือภาพยนตร์ที่โดดเด่นอย่างมากในด้าน “สไตล์” และ “บรรยากาศ” วอลเตอร์ ฮิลล์ สร้างสรรค์เมืองเจริโคออกมาให้ดูทั้งดิบเถื่อน, สิ้นหวัง, และเต็มไปด้วยฝุ่นควันในแบบฉบับของหนังเวสเทิร์น แต่ในขณะเดียวกันก็มีกลิ่นอายของหนังฟิล์มนัวร์ (Film Noir) อยู่เต็มเปี่ยม หนังเต็มไปด้วยฉากแอ็กชันดวลปืนที่ดุเดือดและมีสไตล์ การออกแบบงานสร้างและเครื่องแต่งกายทำออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม บรูซ วิลลิส ถ่ายทอดบทบาทของ จอห์น สมิธ ชายผู้ลึกลับและพูดน้อยออกมาได้อย่างสมบูรณ์แบบ เขาคือแอนตี้ฮีโร่ที่เท่และน่าจดจำ แต่ที่โดดเด่นไม่แพ้กันคือ คริสโตเฟอร์ วอลเคน ในบทนักฆ่าสุดโหด ฮิคกี้ ที่ออกมาไม่กี่ฉากแต่กลับขโมยซีนได้อย่างน่าขนลุก แม้ว่าบทภาพยนตร์อาจจะเดินเรื่องเป็นเส้นตรงและไม่ได้มีความซับซ้อนมากนัก แต่ด้วยสไตล์ที่จัดจ้าน, บรรยากาศที่ยอดเยี่ยม, และฉากแอ็กชันที่น่าจดจำ ก็ทำให้ “Last Man Standing” เป็นหนังแอ็กชันอีกหนึ่งเรื่องที่คอหนังไม่ควรพลาด คะแนนจากนักวิจารณ์: ⭐ 7/10 Last Man Standing กำกับโดยวอลเตอร์ ฮิลล์ ซึ่งดัดแปลงบทภาพยนตร์จากเรื่องราวที่เขียนโดยริวโซ คิคุชิมะ และอากิระ คุโรซาวะ นำแสดงโดยบรูซ วิลลิส, บรูซ เดิร์น, วิลเลียม แซนเดอร์สัน, คริสโตเฟอร์ วอล์คเคน, เดวิด แพทริค เคลลี, คารินา ลอมบาร์ด และเน็ด ไอเซนเบิร์ก ดนตรีประกอบโดยไรย์ คูเดอร์ และภาพโดยลอยด์ อาเฮิร์น โยจิมโบฉบับดัดแปลงของวอลเตอร์ ฮิลล์ นำเสนอวิลลิสในบทบาทจอห์น สมิธ ชายพเนจรที่หลังจากเดินทางมาถึงเมืองเจริโคอันแสนฝุ่นตลบ เขาก็รีบหาเงินก้อนโตด้วยการให้แก๊งสองแก๊งในเมืองต่อสู้กัน สมิธเป็นชายแกร่ง ปืนพกอันตรายที่ไม่กลัวอะไรเลย ซึ่งเป็นเหตุผลที่หัวหน้าแก๊งทั้งสองต้องการให้เขาทำงานให้ เรื่องราวตึงเครียด เลือดสูบฉีด เรื่องราวสงบลง และแอนตี้ฮีโร่ก็ถือกำเนิดขึ้น พร้อมกับสีหน้าบึ้งตึงและคำบรรยายที่แห้งแล้ง ทั้งภาพและเสียงนั้นยอดเยี่ยมมาก เสียงพูดที่แฝงไปด้วยความหดหู่ของคูเดอร์นั้นแทรกซึมอยู่ทั่วเนื้อเรื่อง ขณะที่ภาพก็สอดประสานกันระหว่างภูมิประเทศที่ร้อนระอุจากแสงแดดและเมืองร้างเจริโคที่ปกคลุมด้วยหมอก ฮิลล์ได้ถ่ายทอดความรุนแรงอันเป็นเอกลักษณ์ของเขาออกมาได้อย่างน่าประทับใจ ทั้งภาพสโลว์โมชันและการยิงปืนรัวเร็ว ขณะเดียวกัน ทักษะการสร้างบรรยากาศแบบโบราณของเขาก็เห็นได้ชัดเจน น่าเสียดายที่การเล่าเรื่องยังไม่ดีเท่าที่ควร ขาดขอบเขตและตัวละครก็ดูมีตัวตนอยู่จริง ทำให้หนังเรื่องนี้เน้นสไตล์มากกว่าเนื้อหาสาระ นอกจากนี้ยังหมายความว่านักแสดงส่วนใหญ่ได้รับแต่สิ่งเล็กๆ น้อยๆ ให้หากิน น่าเสียดายจริงๆ ที่เห็นวอล์คเคนและเคลลีทำงานอย่างหนักบนหน้าจอ มันเป็นการผสมผสานที่แปลกประหลาดระหว่างภาพยนตร์ตะวันตกกับตัวละครในยุคห้ามสุรา แต่ก็เป็นหนังของวอลเตอร์ ฮิลล์อย่างชัดเจน สำหรับแฟนๆ ของเขา มีสิ่งที่น่าชอบอยู่บ้าง แต่ก็ยอมรับว่ามันดูธรรมดาไปหน่อย สำหรับแฟนหนังอาชญากรรม/แอ็คชั่นทั่วไป หนังเรื่องนี้อาจจะดูไร้สาระไปหน่อย 7/10 ⭐ 7/10 หนังเรื่องนี้เป็นหนังคัลท์คลาสสิกที่แม้จะดูซ้ำซากจำเจแต่ก็ยังคงดึงดูดผู้ชมได้ หนังอัดแน่นไปด้วยภาพจำแบบตะวันตกเก่าๆ แต่กลับมีฉากอยู่ในยุคห้ามขายสุรา ปืนหกกระบอกถูกแทนที่ด้วยปืน 1911 และม้าก็ถูกแทนที่ด้วยรถ Model T แรงกระแทกที่เกินจริง ปฏิกิริยาของร่างกายเมื่อโดนยิง ประกอบกับกระสุนที่ไม่มีวันหมดซึ่งแทบจะไม่ต้องเติมเลย ล้วนสร้างความรำคาญ แต่ถึงอย่างนั้น ผู้ชมก็ยังคงอินไปกับหนังคลาสสิก A Fistful Of Dollars ฉบับร่วมสมัยของคลินต์ อีสต์วูด การตัดต่อ บทสนทนา การถ่ายภาพ ดนตรีประกอบ กำกับ และการแสดง ล้วนยอดเยี่ยม ทุกอย่างดูเกินจริงอย่างเหลือเชื่อแต่ก็ไม่ถึงกับไร้สาระ ตัวหนังเองนั้นดูว่างเปล่า แต่อารมณ์และโทนของหนังกลับดูแปลกและห่างเหิน ซึ่งผมชอบมาก การกำกับของวอลเตอร์ ฮิลล์ส ผสมผสานอย่างลงตัวระหว่างแซม เพคคินพาห์และจอห์น วู และดนตรีประกอบของ Cooder จะพาคุณเข้าสู่ภาพยนตร์ได้อย่างสมบูรณ์แบบ แม้จะดูเป็นภาพยนตร์เดี่ยวๆ ก็ตาม แน่นอนว่าภาพยนตร์เรื่องนี้มีข้อบกพร่องอยู่บ้าง มีภาพยนตร์น้อยมากที่ไม่มีข้อบกพร่องเหล่านี้เลย ยกตัวอย่างเช่น ตัวละคร Hickey ที่รับบทโดย Christopher Walken ถูกสร้างให้กลายเป็นตัวร้ายสุดโหดในช่วงสามช่วงแรกของเรื่อง แต่เมื่อปรากฏตัวจริง เขากลับดูจืดชืดไปหน่อย อันที่จริง เขายังบอกตัวละครของ Willis ที่ชื่อ Smith ว่าอย่าไปเชื่อเรื่องร้ายๆ ที่เขาได้ยินมาเกี่ยวกับตัวเขาเลย บางทีเขาอาจจะเป็นตัวร้ายของตัวร้ายที่รับบทโดย Smith ก็เป็นได้ โดยรวมแล้ว นี่คือภาพยนตร์ที่ควรค่าแก่การชมอย่างยิ่ง แม้ว่าคุณจะไม่คุ้นเคยกับเรื่องราวในสองเวอร์ชันก่อนหน้าก็ตาม ⭐ 7/10 หนังเรื่องนี้มีฉากแอ็คชั่นที่ดีพอสมควร ฉากยิงปืนอันมืดหม่นที่จอห์น สมิธ (บรูซ วิลลิส) เล่าให้เราฟังอย่างน้อยที่สุด บุกเข้าไปในเมืองนี้และเรียนรู้ได้อย่างรวดเร็วว่าต้องเล่นเป็นสองแก๊งศัตรูกันอย่างสุดความสามารถ ยอมฆ่าให้ตายในระหว่างนั้น ซึ่งแน่นอนว่าเขาทำได้อย่างเชี่ยวชาญด้วยปืนโคลท์ .45 1911 สองกระบอกอย่างเชี่ยวชาญ หนังเรื่องนี้ชวนให้นึกถึงหนังคาวบอยยุค 60 ทั้งสองเรื่อง หนึ่งในนั้นคือ For a Fistful of Dollars ซึ่งเป็นอีกเรื่องที่ดัดแปลงมาจากต้นฉบับของหนังเรื่องนี้อย่าง Yojimbo ของอากิระ คุโรซาวา รวมถึงหนังนัวร์ยุค 40 ซึ่งอาจถูกใจบางคน แต่ก็ให้ความรู้สึกแปลกๆ ทั้งในแง่ดีและแง่ร้าย บรูซ วิลลิส ถ่ายทอดอารมณ์ดิบและหม่นหมองออกมาได้อย่างสมบูรณ์แบบระหว่างการปะทะกัน คำบรรยายนี้ รวมถึงเครื่องแต่งกายของตัวละคร หมวกเฟโดรา และอื่นๆ ล้วนเป็นเครื่องเตือนใจอันสดใสถึงภาพยนตร์แนวฟิล์มนัวร์ในอดีต เพื่อแสดงให้เห็นว่าบางทีภาพยนตร์แนวนี้อาจจะยังมีชีวิตชีวาอยู่บ้าง ฉากทะเลทรายที่เมืองร้างสไตล์ยุค 1860 ซึ่งแก๊งคู่ปรับทั้งสองเผชิญหน้ากัน โดยได้รับความช่วยเหลือจากตัวละครหลักของเรา ก็เป็นเครื่องเตือนใจหลักถึงภาพยนตร์แนวตะวันตกของเรื่องนี้เช่นกัน เนื้อเรื่องโดยพื้นฐานแล้วคือตัวละครของบรูซ วิลลิสที่เล่นทั้งสองฝ่ายเพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง เขาดูเย็นชาอย่างน่าเกรงขามในแบบฉบับของเขาเอง แก๊งเหล่านี้คือชาวไอริช นำโดยดอยล์ และชาวอิตาเลียน นำโดยสตรอซซี แก๊งเหล่านี้แทบจะเหมือนกันทุกอย่าง ยกเว้นชื่อ สำเนียง และบางทีก็หน้าตา ความแตกต่างเพียงอย่างเดียวคือดอยล์มีรองหัวหน้าที่มีอาการทางจิต หรืออย่างน้อยก็อย่างที่เราได้ยินกันในตอนต้นเรื่อง เขาในฐานะคนโรคจิต รับบทโดยแม่ที่แท้จริงของนักแสดงที่เล่นเป็นโรคจิตทั้งหมด… คุณเดาถูกแล้ว คริสโตเฟอร์ วอล์คเคน ซึ่งรับบทโดยคริสโตเฟอร์ วอล์คเคน ผู้อยู่อาศัยคนอื่นๆ ในเมืองนั้นมีเพียงนายอำเภอ บาร์เทนเดอร์ และสัปเหร่อ ท้ายที่สุดแล้ว หนังเรื่องนี้เป็นหนังที่มืดมน แต่ก็ไม่ได้จริงจังกับความสมจริงเท่าไหร่ บรรยากาศมืดมนและหดหู่อย่างยิ่ง ตัวละครหลายตัวถูกฆ่าโดยวิลลิสและวอล์คเคน จริงๆ แล้วอาจดูหดหู่ในช่วงท้ายเรื่อง แต่ในทางกลับกัน ความรุนแรงมักจะค่อนข้างตลกขบขัน ในกรณีหนึ่งต้องใช้กระสุนมากถึงสี่สิบนัดเพื่อล้มตัวละคร และในบางกรณี คนที่ถูกยิงด้วยปืนพกจะกระเด็นกลับขึ้นไปในอากาศหลายหลา แน่นอนว่าหนังเรื่องนี้จะถูกใจทุกคนที่ได้ดู แต่จะมีบางคนเท่านั้นที่จะรู้สึกพึงพอใจกับทุกแง่มุมที่ผสมผสานกันนี้เมื่อนำมารวมกันอย่างที่เห็น หนังเรื่องนี้ใช้สไตล์ที่โดดเด่น ทั้งการยิงปืนและสไตล์ภาพ ในบางช่วงของหนังเรื่องนี้ สีสันถูกปรับให้เจือจางลงจนดูมีมิติมากขึ้น เช่นใน Sin City แต่ก็ไม่ได้เป็นเช่นนั้นเสมอไป วิธีนี้น่าจะถูกใจทั้งแฟนหนังแนวฟิล์มนัวร์และคนที่ชอบสไตล์ที่จัดจ้านแต่แปลกใหม่ แต่บางคนอาจพบว่ามันยิ่งทำให้หนังดูหม่นหมองมากขึ้นไปอีก ฉากยิงปืนเป็นส่วนที่ดีที่สุดของหนังเรื่องนี้อย่างปฏิเสธไม่ได้ และสิ่งเดียวที่คุณต้องการคือฉากแอ็คชั่นดีๆ หนังเรื่องนี้ก็ตอบโจทย์ความต้องการนั้นได้เป็นอย่างดี ถึงแม้หนังเรื่องนี้จะเน้นความมืดมากกว่าความสนุก แต่สไตล์และความรุนแรงของการยิงปืน รวมถึงสไตล์ที่มืดหม่นจะดึงดูดใจใครหลายคน ซึ่งผมก็ชอบเหมือนกัน 7/10 หากคุณชื่นชอบหนังแนวแอ็กชัน-เวสเทิร์น หรือหนังที่พระเอกต้องปะทะกับแก๊งมาเฟีย เราขอแนะนำเรื่องเหล่านี้: Q: หนังเรื่องนี้เป็นเวอร์ชันรีเมคใช่หรือไม่? Q: ทำไมนักวิจารณ์ถึงให้คะแนนไม่สูงนัก? Q: หนังเหมาะกับผู้ชมกลุ่มไหน?ทำความรู้จักทีมงานและนักแสดง
โปสเตอร์หนัง



รีวิวภาพรวม: หนังแอ็กชัน-นัวร์ที่สไตล์จัดจ้าน
ภาพยนตร์ที่คล้ายกัน
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
A: ใช่แล้วครับ! “Last Man Standing” เป็นการรีเมคอย่างเป็นทางการจากภาพยนตร์ซามูไรระดับตำนานเรื่อง “Yojimbo” (1961) ของผู้กำกับ อากิระ คุโรซาวา โดยได้เปลี่ยนฉากหลังจากหมู่บ้านซามูไรในญี่ปุ่น มาเป็นเมืองแก๊งสเตอร์ในยุคต้องห้ามของอเมริกาครับ
A: นักวิจารณ์ส่วนใหญ่มองว่าหนังเน้นสไตล์ที่จัดจ้านมากเกินไปจนทำให้เนื้อเรื่องขาดความลึกซึ้ง และไม่สามารถเทียบชั้นกับเวอร์ชันต้นฉบับอย่าง Yojimbo หรือเวอร์ชันรีเมคก่อนหน้าอย่าง A Fistful of Dollars ได้ แต่ถึงอย่างนั้นหนังก็ยังได้รับความนิยมจากผู้ชมที่ชื่นชอบในความเท่ของบรูซ วิลลิส และฉากแอ็กชันที่ดุเดือดครับ
A: เหมาะสำหรับคนที่ชื่นชอบหนังแอ็กชันที่มีสไตล์, หนังแก๊งสเตอร์, หนังเวสเทิร์น, และแฟนๆ ของบรูซ วิลลิส ครับ หนังมีความรุนแรงในระดับสูง ไม่เหมาะสำหรับผู้ชมที่เป็นเด็กและเยาวชน
