ดูหนัง Made in Italy (2020) บ้านแสนรัก ณ อิตาลี
ถ้าคุณกำลังมองหาภาพยนตร์ที่ดูแล้วสบายใจ อบอวลไปด้วยบรรยากาศสวยๆ ของอิตาลี และเรื่องราวความสัมพันธ์ในครอบครัวที่น่าประทับใจ “Made in Italy” คือภาพยนตร์ที่จะตอบโจทย์คุณได้อย่างแน่นอน นำแสดงโดย เลียม นีสัน และลูกชายแท้ๆ ของเขา ไมเคิล ริชาร์ดสัน ที่จะมาถ่ายทอดเรื่องราวการเยียวยาบาดแผลในใจของพ่อลูก
เรื่องย่อ
เรื่องราวของ โรเบิร์ต (รับบทโดย เลียม นีสัน) ศิลปินโบฮีเมียนผู้มีชื่อเสียงที่อาศัยอยู่ในลอนดอน และ แจ็ค (รับบทโดย ไมเคิล ริชาร์ดสัน) ลูกชายของเขาที่กำลังจะหย่าร้างและต้องการเงินเพื่อซื้อแกลเลอรีจากอดีตภรรยา ทั้งสองมีความสัมพันธ์ที่ไม่ค่อยจะลงรอยกันนักหลังจากโศกนาฏกรรมที่พรากภรรยาของโรเบิร์ต (และแม่ของแจ็ค) ไปเมื่อหลายปีก่อน
เพื่อหาเงิน แจ็คจึงตัดสินใจจะขายบ้านพักตากอากาศในแคว้นทัสกานี ประเทศอิตาลี ที่พวกเขาเคยอยู่ด้วยกันพร้อมหน้าพร้อมตาในอดีต แต่เมื่อทั้งสองเดินทางไปถึง ก็พบว่าบ้านหลังงามได้กลายเป็นซากปรักหักพังที่ถูกทิ้งร้างมานานหลายสิบปี สองพ่อลูกจึงต้องจำใจร่วมมือกันซ่อมแซมบ้านหลังนี้ให้กลับมาสวยงามอีกครั้ง ซึ่งการได้ใช้เวลาอยู่ด้วยกันท่ามกลางฝุ่นและเศษปูน ก็ได้เปิดโอกาสให้พวกเขาได้ซ่อมแซม “ความสัมพันธ์” ที่พังทลาย และเผชิญหน้ากับความทรงจำอันเจ็บปวดที่พวกเขาต่างพยายามหลีกหนีมาโดยตลอด
อ่านรีวิวก่อน ดูหนัง
ทำความรู้จักทีมงานและนักแสดง
ผู้กำกับ/เขียนบท: เจมส์ ดาร์ซีย์ (James D’Arcy) (ผลงานการกำกับเรื่องแรกของเขา)
นักแสดงนำ:
อยากติดตามผลงานอื่นๆ ของพวกเขาไหม? ลองค้นหาบนเว็บ Movie24HD ของเราได้เลย!
โปสเตอร์หนัง
รีวิวภาพรวม: หนังฟีลกู้ดที่อบอุ่นและทิวทัศน์สวยงาม
“Made in Italy” เป็นภาพยนตร์ที่ดูง่ายและย่อยง่าย เสน่ห์ของหนังอยู่ที่บรรยากาศอันงดงามของแคว้นทัสกานีที่ถูกถ่ายทอดออกมาได้อย่างน่าหลงใหล ทั้งไร่องุ่น, ตลาดท้องถิ่น, และสถาปัตยกรรมที่สวยงาม ทำให้ผู้ชมรู้สึกเหมือนได้ไปเที่ยวพักผ่อนจริงๆ ในด้านเนื้อหา แม้พล็อตเรื่องจะเดินตามสูตรสำเร็จของหนังแนว “ค้นพบตัวเอง” และ “เยียวยาจิตใจ” แต่สิ่งที่ทำให้หนังเรื่องนี้มีความพิเศษและลึกซึ้งยิ่งขึ้นคือการที่นักแสดงนำเป็นพ่อลูกกันในชีวิตจริง เลียม นีสัน และ ไมเคิล ริชาร์ดสัน สามารถถ่ายทอดความรัก ความห่างเหิน และความเจ็บปวดที่ซ่อนอยู่ลึกๆ ออกมาได้อย่างเป็นธรรมชาติและน่าเชื่อถือ โดยเฉพาะเมื่อได้รู้ว่าในชีวิตจริงพวกเขาก็เคยผ่านโศกนาฏกรรมการสูญเสียภรรยาและแม่ (นาตาชา ริชาร์ดสัน) มาเช่นเดียวกัน ยิ่งทำให้เรื่องราวในหนังสะเทือนอารมณ์และกินใจมากยิ่งขึ้น โดยสรุป “Made in Italy” เป็นหนังที่มอบความอบอุ่นหัวใจและแรงบันดาลใจ เหมาะสำหรับคนที่อยากดูหนังเบาสมองที่ให้ความรู้สึกดีๆ และหลีกหนีจากความวุ่นวายไปสู่ดินแดนที่สวยงาม
คะแนนจากนักวิจารณ์:
IMDb: 6.1/10
Rotten Tomatoes: 44% (คะแนนจากฝั่งนักวิจารณ์)
eternallyafar
⭐ 5/10
ในฐานะคนที่รักอิตาลี รักวัฒนธรรมอิตาลี พูดภาษาอิตาลี และชอบดูหนังแนวนี้อยู่แล้ว ผมค่อนข้างคาดหวังไว้มากกว่านี้ จริงๆ แล้วหนังก็สวยงามน่าดู แต่ฉากแอ็คชั่นยังขาดๆ อยู่ รู้สึกว่านักแสดงน่าจะทำได้ดีกว่านี้อีกหน่อย และเนื้อเรื่องก็น่าจะมีอะไรเพิ่มเติมเข้าไปอีก แต่สำหรับผมแล้ว ภาพทัสคานีอันงดงามและบ้านเรือนก็เกินพอแล้ว ความสัมพันธ์ระหว่างพ่อลูกยังไม่พัฒนาเท่าที่คิดไว้ แต่ตอนจบก็ทำเอาผมน้ำตาซึม จบได้อย่างสวยงาม โดยรวมแล้ว หนังตลก/ดราม่าอบอุ่นหัวใจ รับรองว่าคุณจะต้องชอบ โดยเฉพาะถ้าฝันอยากไปเที่ยวหรือใช้ชีวิตในทัสคานี!
harry_tk_yung
⭐ 5/10
มีสองสิ่งที่ดึงดูดความสนใจของฉันเกี่ยวกับหนังเรื่องนี้ที่ไม่ค่อยมีใครรู้จักนัก อย่างแรกคือหลังจากที่เลียม นีสัน ปรากฏตัวอย่างกล้าหาญในบทบาทอัล กูล ของรา รวมถึงการปรากฏตัวของตัวละครแอ็กชั่นอื่นๆ มากมาย การเปลี่ยนแปลงจึงเป็นเรื่องน่ายินดี อย่างที่สองคือเสน่ห์ของอิตาลีที่ดึงดูดใจฉัน และในเรื่องนี้ฉันนึกถึงภาพตัดต่อจากภาพยนตร์เรื่อง “Under the Tuscan sun” (2003) ของไดแอน เลน ข้อมูลเบื้องหลังที่เกี่ยวข้องจะเป็นประโยชน์ในเรื่องนี้ การรับบทพ่อลูก (ทั้งคู่เป็นศิลปิน) คือการจับคู่พ่อลูกในชีวิตจริง คือเลียม นีสัน และไมเคิล ริชาร์ดสัน นอกจากนี้ นาตาชา ริชาร์ดสัน ภรรยาของนีสัน (แม่ของริชาร์ดสัน) ได้พบกับความตายอันน่าเศร้า ซึ่งสะท้อนให้เห็น (เฉพาะความตาย ไม่ใช่สภาพแวดล้อม) ในภาพยนตร์ เธอเป็นลูกสาวของวาเนสซา เรดเกรฟ หากคุณยังไม่ทราบ
โครงเรื่องของ “Made in Italy” ถูกร่างขึ้นภายในสองนาทีแรกของภาพยนตร์ แจ็ค (ริชาร์ดสัน) กำลังจะหย่าร้าง ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเศร้า แต่ไม่ใช่ในแบบที่คุณคิด การหย่าร้างครั้งนี้หมายถึงการต้องแยกทางกับแกลเลอรีศิลปะของญาติฝ่ายสามี ซึ่งสำหรับเขาแล้วมันคือ “ชีวิตของฉัน” ความรอดคือการซื้อแกลเลอรีจากญาติฝ่ายสามี แหล่งเงินทุนเดียวที่พอจะหาได้คือการขายบ้านของครอบครัวในทัสคานี หรือจะพูดให้ถูกคือโน้มน้าวโรเบิร์ต (นีสัน) พ่อของเขาให้ขายมัน ส่วนที่เหลือของหนังจะวนเวียนอยู่กับบ้านโทรมๆ ไร้ค่าหลังนี้ที่ถูกทิ้งร้างมานาน 20 ปี แจ็คไม่ได้เห็นบ้านหลังนี้ตั้งแต่อายุเจ็ดขวบ ครึ่งแรกของหนังมีโทนเบาๆ (ซึ่งถูกจัดอยู่ในหมวด “ตลก” ใน IMDb) แต่กลับมีอารมณ์ขันจากการพยายามขายบ้านผ่านเอเจนต์สุดเท่ เคท (ลินเซย์ ดันแคน) ซึ่งยืนยันว่าเธอคือ “เคท” ธรรมดาๆ และไม่ควรเรียกเธอว่า “เคธี่” โชคลาภของแจ็คดีเกินจริงเมื่อได้พบกับนาตาลี (วาเลเรีย บิเลลโล) เจ้าของร้านอาหารที่หย่าร้างแล้ว ซึ่งมีครบทุกอย่าง ทั้งหน้าตา อารมณ์ขัน ความอ่อนโยน รวมไปถึงวิธีการทำริซอตโต้หรือพาสต้าที่คุณจะต้องหลงรัก
ภาพยนตร์ที่คล้ายกัน
หากคุณชื่นชอบภาพยนตร์ที่ว่าด้วยการเดินทางเพื่อค้นพบตัวเองในสถานที่สวยงาม เราขอแนะนำเรื่องเหล่านี้:
Under the Tuscan Sun (2003) ทัสคานี สวรรค์นี้ที่ฉันสร้าง : เรื่องราวของนักเขียนสาวที่ตัดสินใจซื้อบ้านในทัสกานีเพื่อเริ่มต้นชีวิตใหม่หลังจากหย่าร้าง เป็นหนังที่ทำให้หลายคนอยากไปเที่ยวอิตาลี
Eat Pray Love (2010) อิ่ม มนต์ รัก : การเดินทางค้นหาตัวเองของหญิงสาวคนหนึ่งผ่านสามประเทศ อิตาลี (เพื่อการกิน), อินเดีย (เพื่อการสวดมนต์), และอินโดนีเซีย (เพื่อความรัก)
A Good Year (2006) อัศจรรย์แห่งชีวิต : นักธุรกิจหนุ่มจากลอนดอนได้รับมรดกเป็นไร่องุ่นในฝรั่งเศส และการเดินทางไปจัดการมรดกครั้งนี้ก็ได้เปลี่ยนแปลงชีวิตของเขาไปตลอดกาล
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
Q: หนังเรื่องนี้สร้างจากเรื่องจริงหรือไม่?
A: ไม่ได้สร้างจากเรื่องจริงครับ แต่เรื่องราวในหนังมีความคล้ายคลึงกับชีวิตจริงของ เลียม นีสัน และ ไมเคิล ริชาร์ดสัน ที่ต้องสูญเสีย นาตาชา ริชาร์ดสัน (ภรรยาของเลียมและแม่ของไมเคิล) ไปจากอุบัติเหตุสกีในปี 2009 ซึ่งผู้กำกับก็ได้นำแรงบันดาลใจจากความสัมพันธ์ของทั้งคู่มาใส่ไว้ในหนังด้วย
Q: หนังเรื่องนี้เป็นหนังแอ็กชันของ เลียม นีสัน หรือไม่?
A: ไม่ใช่เลยครับ แม้เราจะคุ้นเคยกับภาพของเลียม นีสัน ในหนังแอ็กชัน แต่เรื่องนี้เขาพลิกบทบาทมาแสดงแนวดราม่า-คอมเมดี้ที่อบอุ่นหัวใจครับ
Q: หนังเหมาะจะดูกับครอบครัวหรือไม่?
A: เหมาะสมครับ เป็นหนังที่ดูได้ทุกเพศทุกวัย เนื้อหาพูดถึงความสัมพันธ์ในครอบครัวที่สามารถสร้างความประทับใจและแง่คิดดีๆ ให้กับทุกคนได้