ดูหนัง Rollerball (2002) โรลเลอร์บอล เกมส์ล่าเหนือมนุษย์ 2
ก่อนอื่นต้องขอแก้ความเข้าใจผิดจากชื่อไทยก่อนนะครับว่านี่ไม่ใช่ “ภาค 2” แต่เป็นหนัง “รีเมค” จากภาพยนตร์ไซไฟ-เสียดสีสังคมสุดคลาสสิกในชื่อเดียวกันเมื่อปี 1975 ครับ
วันนี้เราจะมา “ดูหนัง” และชันสูตรไปพร้อมๆ กันว่าเกิดอะไรขึ้นกับโปรเจกต์ฟอร์มยักษ์เรื่องนี้ ทำไมมันถึงกลายเป็นหนึ่งในหนังที่ถูกนักวิจารณ์และผู้ชมสับเละเทะจนแทบไม่เหลือชิ้นดี และถูกจดจำในฐานะจุดด่างพร้อยครั้งใหญ่ในประวัติศาสตร์หนังแอ็คชั่น
เรื่องย่อ
ในโลกอนาคตอันใกล้ กีฬาสุดโหดที่ชื่อว่า “โรลเลอร์บอล” ได้กลายเป็นความบันเทิงอันดับหนึ่งของโลก มันคือการผสมผสานระหว่างโรลเลอร์สเก็ต, ฮอกกี้, และมอเตอร์ไซค์วิบากในสนามเหล็กรูปเลข 8 ที่ไม่มีกฎกติกาใดๆ นอกจาก “ความรุนแรง”
โจนาธาน ครอสส์ (คริส ไคลน์) หนุ่มนักกีฬาเอ็กซ์ตรีมผู้แสวงหาความตื่นเต้น ได้ถูกทาบทามให้เข้าร่วมลีกโรลเลอร์บอลในเอเชียกลาง ซึ่งควบคุมโดย อเล็กซิส เปโตรวิช (ฌอง เรโน) โปรโมเตอร์ผู้ทรงอิทธิพลและไร้ความปรานี โจนาธานกลายเป็นดาวเด่นของลีกในทันทีด้วยลีลาที่เหนือชั้น พร้อมกับเพื่อนซี้ มาร์คัส ริดลีย์ (แอลแอล คูล เจ) และสาวสวยสุดลึกลับ ออโรร่า (รีเบคกา โรมิจิน)
แต่แล้วเขาก็ได้ค้นพบความจริงอันน่าสะพรึงกลัวว่า เปโตรวิชจงใจสร้าง “อุบัติเหตุ” สุดโหดในสนามเพื่อเรียกเรตติ้ง ยิ่งมีการนองเลือดมากเท่าไหร่ ผู้ชมก็ยิ่งคลั่งไคล้มากเท่านั้น โจนาธานตระหนักว่าเขาเป็นเพียงเบี้ยในเกมมรณะนี้ เขาจึงต้องลุกขึ้นสู้เพื่อเปิดโปงความชั่วร้ายของเปโตรวิชและหาทางเอาชีวิตรอดออกไปจากลีกนรกแห่งนี้
อ่านรีวิวก่อน ดูหนัง
นักแสดงนำและผู้กำกับ
คริส ไคลน์ (Chris Klein) รับบทเป็น โจนาธาน ครอสส์
ฌอง เรโน (Jean Reno) รับบทเป็น อเล็กซิส เปโตรวิช
แอลแอล คูล เจ (LL Cool J) รับบทเป็น มาร์คัส ริดลีย์
รีเบคกา โรมิจิน (Rebecca Romijn) รับบทเป็น ออโรร่า
ผู้กำกับ: จอห์น แม็คเทียร์แนน (John McTiernan) นี่คือจุดที่น่าเศร้าและน่าเหลือเชื่อที่สุด! จอห์น แม็คเทียร์แนน คือผู้กำกับระดับปรมาจารย์ ผู้อยู่เบื้องหลังหนังแอ็คชั่นขึ้นหิ้งตลอดกาลอย่าง Die Hard (ภาค 1, 3) , Predator , และ The Hunt for Red October การที่เขามากำกับหนังเรื่องนี้จึงกลายเป็นตราบาปครั้งใหญ่ในเส้นทางอาชีพของเขา
โปสเตอร์หนัง
รีวิวและบทวิเคราะห์: ชำแหละความพังพินาศ
Rollerball (2002) คือตัวอย่างที่สมบูรณ์แบบของการ “รีเมคที่ล้มเหลว” อย่างสิ้นเชิง
สูญเสียแก่นเรื่อง: ต้นฉบับปี 1975 เป็นหนังไซไฟที่ชาญฉลาด มันใช้กีฬาที่รุนแรงเป็นสัญลักษณ์เพื่อวิพากษ์วิจารณ์เรื่อง “บรรษัทครองโลก” และ “การสูญเสียความเป็นปัจเจก” แต่เวอร์ชั่นรีเมคนี้กลับโยนประเด็นเหล่านั้นทิ้งทั้งหมด แล้วแทนที่ด้วยความรุนแรงแบบกลวงโบ๋
ฉากแอ็คชั่นที่ดูไม่รู้เรื่อง: นี่คือความผิดพลาดที่ร้ายแรงที่สุดของหนัง ฉากการแข่งขันโรลเลอร์บอลถูกตัดต่อด้วยเทคนิค “Quick Cut” ที่สับเปลี่ยนมุมกล้องอย่างรวดเร็วจนน่าเวียนหัวและ “ดูไม่รู้เรื่อง” โดยสิ้นเชิง เราไม่สามารถติดตามได้เลยว่าใครกำลังทำอะไรหรือเกิดอะไรขึ้น มันคือความโกลาหลที่ไร้ซึ่งความน่าตื่นเต้น
บทและตัวละครที่แบนราบ: พล็อตเรื่องไม่มีอะไรน่าจดจำ และตัวละครก็ขาดมิติและความน่าสนใจโดยสิ้นเชิง
IMDb: ให้คะแนน 3.0/10
Rotten Tomatoes: ได้รับคะแนนจากฝั่งนักวิจารณ์เพียง 3% ! ซึ่งทำให้มันเป็นหนึ่งในภาพยนตร์ที่ได้รับเสียงวิจารณ์ยอดแย่ที่สุดตลอดกาล
หมื่นทิพ
⭐ 7/10
นี่คือ ฉบับรีเมคครับ รีเมคจาก Rollerball ฉบับเก่าปี 1975 นั่นน่ะแหละ เรื่องราวก็เหมือนเดิม ที่เปลี่ยนไปคือ ความฉับไวและดาราที่เป็นวัยรุ่นมากขึ้น ได้ Chris Klein มาเป็นโจนาธาน ครอส พระเอกของเรื่อง และได้ Rebecca Romijn-Stamos นาวแบบสาวสุดเซ็กซี่ เจ้าของบทมิสตี๊ค จาก X-Men มารับบทเป็นนางเอก และได้ LL Cool J กับ Jean Reno มารับบทสมทบ อีกทั้งได้ John McTiernan ผู้กำกับจาก Die hard ภาค 1 และ 3 มากำกับอีกด้วย …. แต่ทำไมหนังมันเลวร้ายได้ขนาดนี้ เนื้อเรื่องเหมือนของเก่าครับ ว่าด้วยเรื่องกีฬามหาโหด โรลเลอร์บอลทีไ่ด้รับความนิยมมากในโลกอนาคต พระเอกของเราโจนาธาน (Klein) มือวางอันดับ 1 ที่ไ้ดรับการชักนำจากมาร์คัส ริดลี่ย์ (Cool J) เพื่อนซี้ให้เขาสู่วงการ และยังได้เจอกับออโรร่า (Romijn-Stamos) สาวร่วมทีมที่มาเป็นแฟนเขาในเวลาต่อมา แต่การแข่งขันครั้งหลังๆ นี่ โจนาธานรู้สึกว่ามันชักจะมีอุบัติเหตุและความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ เขาเลยสืบครับ และพบว่าเรื่องร้ายๆ ที่เกิดมันไม่ใช่เรื่องบังเอิญแม้แต่น้อย และผู้อยู่เบื้องหลังเรื่องพวกนี้ก็คือ เพโทรวิช (Reno) ที่ต้องการจะเรียกเรตติ้งเกมให้สูงขึ้นเพื่อผลประโยชน์น่ะครับ งานนี้พระเอกก็ต้องขัดขวางตามสูตร
หนังไม่มันส์เลยนะครับ โอเค การเดินเรื่องเร็ว แล้วไงครับ เนื้อหาสาระแทบจะจับไม่ติดเลย ความน่าติดตามก็ไม่มี ฉบับก่อนว่าอืดแล้ว ฉบับนี้อืดกว่าครับ งงมั้ยฮะ ผมบอกว่าเรื่องราวมันรวดเร็ว แต่ทำไมมันอืดน่ะเหรอครับ ก็เพราะเนื้อเรื่องมันไม่ไปไหนเลยนี่ครับ ไม่มีอะไรใหม่ ไม่มีอะไรมันส์ ฉากแอ๊คชั่นไม่มียังพอทำเนา แต่ความน่าติดตามไม่มีนี่ เห็นทีจะอภัยไม่ได้ล่ะครับ ดาราแต่ละคนออกมาไม่มีอะไรน่าประทับใจ ในรายพี่ Reno นี่เขาขั้นขาดทุนเลยครับ เพราะพี่แกเล่นได้ดี หน้าตานี่เจ้าเล่ห์สุดๆ แต่ขาดมิติอ้ะ เลยได้แค่นั้น ส่วนพี่ Cool J ของผม แม้จะเรียกเสียงฮาได้ตามเคย แต่หนังมันไม่ไหวอ้ะคับ ดังนั้นแทนที่จะฮาผมเลยพาลจะน้ำตาไหลมากกว่า (เงินตู เอาคืนมา) จุดต่างอย่างหนึ่งระหว่างของใหม่กับของเก่า คือ ฉากจบครับ ของเก่าเขาจะจบแบบให้ไปคิดเอง แต่ของใหม่นี่เพิ่มฉากบู๊เข้ามาเพื่อความต่อเนื่อง แต่ผมว่ามันไม่ได้ช่วยหนังเลยครับ ตรงข้ามนะ ผมว่าจบแบบของเก่าน่ะดีแล้วอะ ไม่ต้องไปต่อเสริมอะไรแล้ว ถ้าว่าให้ถูกก็คือไม่น่าจะไปรีเมคเลยน่ะดีสุดแล้ว สรุปว่า หนังไม่ประทับใจด้วยประการทั้งปวงครับ ใครอยากเสี่ยงเชิญได้ฮะ แต่เราเตือนท่านแล้วเน้อ
christian123
⭐ 7/10
Rollerball เป็นหนังห่วยๆ ที่ล้มเหลวแทบทุกด้าน ตอนนี้เป็นปี 2005 และกีฬาใหม่ Rollerball กำลังได้รับความนิยมอย่างมาก Marcus Ridley {LL Cool J} ชักชวนเพื่อนของเขา Jonathan Cross {Chris Klein} ให้เข้าร่วมกีฬาอันตรายที่อาจไม่ใช่ความหรูหราอย่างที่เห็น หนึ่งในโปรโมเตอร์เกมจะทำทุกอย่างเพื่อให้เรตติ้งสูงขึ้นแม้ว่าจะหมายถึงความตายก็ตาม ฉันเคยดูต้นฉบับแล้วและหลังจากดูเรื่องนี้ฉันก็สงสัยว่าทำไมพวกเขาถึงเอาหนังที่ดีมากมาทำลายมัน Rollerball เป็นหนังที่เขียนบทได้แย่ขาดความระทึกขวัญและฉากแอ็คชั่นที่ดี หนังเรื่องนี้ไร้สาระมากบางครั้งจนยากที่จะจริงจัง บทสนทนาแย่มากและตัวละครก็ไม่มีการพัฒนามากนัก การแสดงแย่มากโดยที่แย่ที่สุดน่าจะเป็น Chris Klein ที่ไม่มีเสน่ห์เพียงพอที่จะเป็นพระเอก LL Cool J ก็โอเค แต่เขาดูเหมือนจะไม่ได้พยายามเลย Rebecca Romijn-Stamos และ Jean Reno ทั้งคู่แสดงได้ดี
แต่เช่นเดียวกับ LL Cool J พวกเขาดูเหมือนจะไม่ได้พยายามอย่างแท้จริง ฉันไม่โทษพวกเขาเลยเพราะบทภาพยนตร์แย่มากและพวกเขาไม่ได้รับเนื้อหามากนัก หนังมีความรุนแรงมากกว่าต้นฉบับมาก แต่ฉากแอ็กชั่นก็ยังไม่ค่อยน่าประทับใจนัก ยิ่งไปกว่านั้นสตูดิโอยังกลัวและจัดเรต PG-13 ทำให้การตัดต่อดูแย่มาก หนังยาวประมาณ 95 นาทีแต่ก็ยืดเยื้อไปเรื่อยเพราะเป็นหนังที่น่าเบื่อมาก หนังยังสับสนเพราะเหตุการณ์บางอย่างที่เกิดขึ้นในภาพยนตร์ไม่ค่อยสมเหตุสมผล เมื่อถึงจุดหนึ่งของภาพยนตร์คุณอาจจะไม่สนใจ ถ้าคุณได้ดูต้นฉบับแล้วคุณจะเกลียดหนังเรื่องนี้ ถ้าคุณยังไม่ได้ดูคุณอาจจะชอบเรื่องนี้ แต่ไม่น่าจะเป็นไปได้ การได้ดูต้นฉบับดีกว่า Rollerball เป็นภาพยนตร์ที่เสียงดังและแย่มากซึ่งควรค่าแก่การข้ามไป และยังเป็นหนึ่งในภาพยนตร์ที่แย่ที่สุดแห่งปี 2002 อีกด้วย ให้คะแนน 2/10 หลีกเลี่ยงภาพยนตร์เรื่องนี้โดยเด็ดขาด
ภาพยนตร์ที่คล้ายกัน
หากอยากชมภาพยนตร์แนว “กีฬาแห่งความตาย” ที่ทำได้ดีกว่า เราขอแนะนำ:
Rollerball (1975) : เวอร์ชั่นต้นฉบับสุดคลาสสิกที่ทุกคนควรดู
The Running Man (1987) คนเหล็กวิ่งทะลุมิติ : หนังแอ็คชั่นไซไฟยุค 80s ของอาร์โนลด์ ชวาร์เซเน็กเกอร์ ที่ว่าด้วยเกมโชว์สุดโหด
Death Race (2008) ซิ่งสั่งตาย : หนังรีเมคอีกเรื่องที่ประสบความสำเร็จมากกว่าในการมอบความบันเทิงและความมันส์
Alita: Battle Angel (2019) : หากอยากชมกีฬามรณะในโลกไซไฟยุคใหม่ “มอเตอร์บอล” ในเรื่องนี้คือคำตอบ
คำถามที่พบบ่อย (Q&A)
Q: หนังเรื่องนี้เป็นภาค 2 จริงๆ เหรอ?
A: ไม่ใช่ครับ และนี่คือความเข้าใจผิดที่พบบ่อยจากชื่อไทย หนังเรื่องนี้คือการ “รีเมค” หรือ “สร้างใหม่” จากหนังปี 1975 ไม่มีความเกี่ยวข้องกับเนื้อเรื่องเดิมเลย
Q: จริงเหรอว่าผู้กำกับคนเดียวกับ Die Hard? เกิดอะไรขึ้น?
A: เป็นเรื่องจริงที่น่าเศร้าครับ มีเรื่องเล่ากันว่าโปรเจกต์นี้มีปัญหาการถ่ายทำอย่างหนัก และสตูดิโอได้เข้ามาแทรกแซงการตัดต่อจนหนังออกมาเละเทะอย่างที่เห็น ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของช่วงขาลงในอาชีพของผู้กำกับจอห์น แม็คเทียร์แนน
Q: ฉากแอ็คชั่นในเรื่องแย่ขนาดนั้นเลยเหรอ?
A: ใช่ครับ หนังเรื่องนี้โด่งดัง (ในทางลบ) จากการตัดต่อที่วุ่นวายและรวดเร็วจนดูไม่รู้เรื่อง เป็นตัวอย่างชั้นดีของการใช้เทคนิคที่ผิดพลาดในการถ่ายทำฉากแอ็คชั่น
บทสรุป: Rollerball (2002) คือหายนะทางภาพยนตร์ที่น่าทึ่ง เป็นบทเรียนราคาแพงว่าการรีเมคหนังคลาสสิกโดยปราศจากความเข้าใจในแก่นเรื่องนั้นอันตรายเพียงใด มันคือหนังที่ทั้งเสียงดัง, วุ่นวาย, และน่าเบื่อ ซึ่งเป็นสิ่งที่หนังแอ็คชั่นไม่ควรจะเป็น แนะนำให้ดูเพื่อการศึกษาความผิดพลาด หรือเพื่อหัวเราะไปกับความพังพินาศของมันเท่านั้น