ดูหนัง Run Fatboy Run (2007) เต็มสปีด พิสูจน์รัก
ทุกท่าน! “คุณเคยวิ่งหนี ‘ความรับผิดชอบ’ ที่ใหญ่ที่สุดในชีวิตหรือไม่?” นี่คือจุดเริ่มต้นสุดป่วนของ Run Fatboy Run ภาพยนตร์ที่จะทำให้การ “ดูหนัง” ของคุณในครั้งนี้ เป็นการเดินทางที่ทั้งฮา, อบอุ่นหัวใจ, และสร้างแรงบันดาลใจได้อย่างน่าประหลาดใจ! นี่คือผลงานการกำกับภาพยนตร์เรื่องแรกของนักแสดงที่คุณคาดไม่ถึง… เดวิด ชวิมเมอร์ (รอส จาก Friends )!
เรื่องย่อ
เดนนิส ดอยล์ (ไซมอน เพ็กก์) คือชายหนุ่มธรรมดาๆ ที่เคยทำผิดพลาดครั้งใหญ่หลวงที่สุดในชีวิต… นั่นคือการ “วิ่งหนี” ออกจากงานแต่งงานของตัวเอง ทิ้ง ลิบบี้ (แธนดิเว นิวตัน) คู่หมั้นสาวสวยที่กำลังตั้งท้องเอาไว้หน้าแท่นพิธี! ห้าปีต่อมา… เดนนิสยังคงเป็นชายหนุ่มผู้ล้มเหลว ทำงานเป็นยามรักษาความปลอดภัยในร้านชุดชั้นในสตรี และยังคงรักลิบบี้อยู่เสมอ แต่ลิบบี้ได้ก้าวต่อไปแล้ว เธอมี วิท (แฮงค์ อาซาเรีย) แฟนใหม่ชาวอเมริกันผู้ร่ำรวย, ประสบความสำเร็จ, และที่สำคัญคือ… เป็นนักวิ่งมาราธอน!
เมื่อเดนนิสตระหนักว่าเขากำลังจะสูญเสียลิบบี้และลูกชายไปตลอดกาล เขาจึงตัดสินใจทำในสิ่งที่บ้าบิ่นที่สุด… เพื่อพิสูจน์ให้ลิบบี้เห็นว่าเขาไม่ใช่คนขี้แพ้ที่ชอบวิ่งหนีอีกต่อไป… เขาประกาศว่าจะลง “วิ่งแข่งลอนดอนมาราธอน” ให้ได้! ทั้งที่ไม่เคยออกกำลังกายเลยแม้แต่น้อย!
โดยได้รับความช่วยเหลือ (และคำดูถูก) จาก กอร์ดอน (ดีแลน โมแรน) เพื่อนซี้สุดกวน และ คุณโกชดาสทิดาร์ เจ้าของบ้านเช่าสุดแปลก เดนนิสจึงเริ่มต้นการฝึกซ้อมสุดโหด (และฮา) เพื่อเอาชนะใจตัวเอง, เอาชนะใจคนที่เขารัก, และที่สำคัญคือ… วิ่งเข้าเส้นชัยให้ได้! movie24hd
อ่านรีวิวก่อน ดูหนัง
นักแสดงนำและผู้กำกับ
ไซมอน เพ็กก์ (Simon Pegg) รับบทเป็น เดนนิส ดอยล์ (และยังร่วมเขียนบทภาพยนตร์เรื่องนี้ด้วย!)
แธนดิเว นิวตัน (Thandiwe Newton) (Thandie Newton ในขณะนั้น) รับบทเป็น ลิบบี้
แฮงค์ อาซาเรีย (Hank Azaria) รับบทเป็น วิท
ดีแลน โมแรน (Dylan Moran) รับบทเป็น กอร์ดอน
ผู้กำกับ: เดวิด ชวิมเมอร์ (David Schwimmer) เกร็ดน่ารู้สุดเซอร์ไพรส์: ใช่แล้วครับ! นี่คือผลงานการกำกับภาพยนตร์ยาวเรื่องแรกของ “รอส เกลเลอร์” จากซีรีส์ซิตคอมในตำนาน Friends !
โปสเตอร์หนัง
รีวิวและบทวิเคราะห์
Run Fatboy Run คือหนังรอมคอมสไตล์อังกฤษที่ “มีหัวใจ” อย่างแท้จริง
พระเอก Underdog ที่น่าเอาใจช่วย: หัวใจของหนังคือตัวละคร “เดนนิส” ของ ไซมอน เพ็กก์ เขาคือตัวแทนของคนธรรมดาที่เคยทำผิดพลาดและอยากจะแก้ไขอดีต เราทั้งขำในความเปิ่นและอยากจะเอาใจช่วยให้เขาทำสำเร็จ
อารมณ์ขันแบบอังกฤษ: หนังเต็มไปด้วยมุกตลกแบบ “Self-deprecating” (ตลกที่ล้อเลียนตัวเอง) และสถานการณ์ที่น่าอับอาย ซึ่งเป็นเสน่ห์ของหนังตลกอังกฤษ
มากกว่าแค่เรื่องตลก: ภายใต้ความฮา หนังยังแฝงไปด้วยข้อคิดดีๆ เกี่ยวกับการเผชิญหน้ากับความกลัว, ความสำคัญของความมุ่งมั่น, และการพิสูจน์คุณค่าของตัวเอง
IMDb: ให้คะแนน 6.6/10
Rotten Tomatoes: แม้นักวิจารณ์จะเสียงแตก (46%) แต่คะแนนจากฝั่งผู้ชม (Audience Score) กลับสูงถึง 68% ซึ่งพิสูจน์ได้ว่านี่คือหนังที่ “โดนใจ” ผู้ชมในวงกว้าง
Chris_Docker
⭐ 6/10
บางครั้งเมื่อบรรณาธิการส่งรายชื่อภาพยนตร์ใหม่และภาพยนตร์ที่จะเข้าฉายให้นักวิจารณ์ ความเหนื่อยล้าจากสงครามก็อาจเกิดขึ้นได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อสัญชาตญาณบอกเป็นนัยถึงความแตกต่างอย่างชัดเจนระหว่างภาพยนตร์ที่คุ้มค่ากับภาพยนตร์ตลกที่พลาดชมอย่างล้นหลาม ยิ่งไปกว่านั้นเมื่อภาพยนตร์ที่กำลังพูดถึงไม่ได้เสี่ยงต่อการถูกวิจารณ์จากนักข่าวด้วยการฉายล่วงหน้า ผมไม่ใช่หนึ่งในหลายคนที่ตื่นเต้นกับผลงานของไซมอน เพ็กก์ใน Shaun of the Dead หรือ Hot Fuzz และผมยิ่งประทับใจน้อยลงไปอีกในครั้งสุดท้ายที่เขาร่วมงานกับเดวิด ชวิมเมอร์ใน Big Nothing ดังนั้นผมจึงอาสานั่งดูหนัง Run, Fat Boy, Run ด้วยความรู้สึกที่แทบจะเรียกได้ว่าเสียสละตัวเอง ซึ่งไม่มีฉากไล่ล่าด้วยรถยนต์หรือซอมบี้ให้ชมเลย ที่น่าประหลาดใจคือหนังเรื่องนี้ค่อนข้างดี
ไซมอน เพ็กก์เรียนการแสดงที่มหาวิทยาลัย แต่ได้รับแรงผลักดันจากชีวิตการทำงานในฐานะนักแสดงตลกเดี่ยวไมโครโฟน ซึ่งอาจเป็นเหตุผลว่าทำไมจังหวะเวลาของเขาจึงสมบูรณ์แบบในเสี้ยววินาที มุกตลกใน Run, Fat Boy, Run ไม่ได้น่าทึ่งอะไรนัก บางครั้งคุณก็เห็นมันกำลังจะเกิดขึ้น แต่การแสดงและการนำเสนอที่เชี่ยวชาญนั้นยอดเยี่ยมมากจนทำให้ความบันเทิงยังคงอยู่ Run, Fat Boy, Run ใช้สูตรสำเร็จที่ได้ผลดีกับเพ็กก์และฐานแฟนคลับที่กำลังเติบโตของเขา นั่นคือเขาเป็นเด็กเนิร์ดที่ในที่สุดก็กลายเป็นฮีโร่ เรารู้สึกสงสารเขา หงุดหงิดเขา และรังเกียจเขา เขาคือคดีสิ้นหวังที่หวังดีที่เราแค่อยาก ‘แก้ไข’ ดังนั้นผู้ชมจึงโล่งใจและเชียร์เขาเมื่อเขาทำสำเร็จ เราสนับสนุนเขาอย่างเต็มที่เมื่อเขาตั้งปณิธานว่าเขา “เบื่อกับการเป็น ‘ผู้ชายที่เกือบจะเป็นผู้ชาย'” ในภาคนี้ เพ็กก์ (เดนนิส) เกิดอาการประหม่าอย่างรุนแรงก่อนแต่งงาน เขาวิ่งหนีลิบบี้ (รับบทโดยแธนดี นิวตัน) ภรรยาคนสวยของเขาออกไปจริงๆ ขณะที่เธอยืนอยู่บนถนนในชุดเจ้าสาวเต็มยศและกำลังตั้งครรภ์
ห้าปีต่อมา เดนนิสทำงานเป็นพนักงานรักษาความปลอดภัยที่ร้านเสื้อผ้าสตรี มุกตลกที่คาดเดาได้กลับถูกป้อนให้เราอย่างไม่มีที่ติ เพ็กก์ช่วยกอบกู้สถานการณ์ใดๆ ที่ดูเหมือนจะกลายเป็นเรื่องไร้สาระเกินไปด้วยสายตาที่จริงใจอย่างเปิดเผย (เหมือนกับที่ริกกี้ เจอร์เวสทำกับอารมณ์ขันทางการเมือง) แต่เพ็กก์ดูเหมือนจะมีสัญชาตญาณด้านภาพยนตร์ที่ทำให้เขาสามารถดึงเอาผลลัพธ์ที่ดีที่สุดออกมาจากผลงานของเขาได้ ในบ่ายวันเสาร์ที่ร้อนอบอ้าว และด้วยการแข่งขันที่ดุเดือดจากภาพยนตร์ที่เป็นข่าวดังมากมาย หอประชุมจึงแน่นขนัดไปด้วยผู้คน
ธีมที่สองจากชื่อภาพยนตร์มาจากการตัดสินใจของเดนนิสที่จะวิ่งมาราธอนลอนดอน ซึ่งส่วนใหญ่แล้วเป็นการ ‘พิสูจน์’ บางอย่างให้กับลิบบี้ (ซึ่งตอนนี้เขาได้ค้นพบรักนิรันดร์ให้แล้ว) แต่ก็เพื่อชนะพนันให้เพื่อนๆ และพิสูจน์ตัวเองให้ทัดเทียมกับวิต ชายหนุ่มรูปร่างกำยำ รวยสุดๆ และหล่อสุดๆ ของลิบบี้ ลูกชายวัยห้าขวบของเขาคือกาววิเศษที่เชื่อมทุกองค์ประกอบของเรื่องราวเข้าด้วยกัน หากเลือกอย่างชาญฉลาด ผู้สร้างภาพยนตร์จะหลีกเลี่ยงสิ่งที่อาจทำให้การวิ่งมาราธอนดูด้อยค่าลง (เนื่องจากผู้ชมชาวอังกฤษหลายคนอาจเคารพสถาบันนี้อย่างลึกซึ้ง) แต่พวกเขาก็นำภาพลอนดอนระหว่างทางที่ไม่ค่อยได้ใช้และน่าถ่ายรูปมาให้ดูด้วย โดยเฉพาะในย่านด็อกแลนด์ส
ด้วยโครงเรื่องที่เรียบง่าย Run, Fat Boy, Run จึงอาศัยชื่อเสียงของ Pegg เพื่อดึงดูดผู้ชม ผมคิดว่าแฟนๆ ของเขาหลายคนอาจเป็นแค่คนดูหนังชั่วคราวที่ต้องการแค่หนังเบาๆ ที่ไม่หนักเกินไป เขาสามารถทำให้การไล่ล่าชุดชั้นในผู้หญิงที่ขโมยมาอย่างไร้ประโยชน์ดูตลกขบขันได้ เมื่อเขากำลังถูตัวกับหุ่นโชว์ในร้าน มันอาจเป็นแค่ภาพตลกๆ ที่ดูน่าสมเพชหรือดูไม่น่าสนใจสำหรับคนอื่น แต่สีหน้าเบิกกว้างและจังหวะที่รวดเร็วของเขาทำให้เราเปลี่ยนจากมุกตลกหนึ่งไปสู่มุกตลกอีกมุกหนึ่งได้ก่อนที่เราจะมีเวลาวิเคราะห์
ภาพยนตร์ที่คล้ายกัน
หากคุณหลงใหลในหนังรอมคอมสไตล์อังกฤษ หรือหนัง Underdog สร้างแรงบันดาลใจ เราขอแนะนำ:
Shaun of the Dead (2004) / Hot Fuzz (2007) : หากอยากชมความฮาในสไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์ของ ไซมอน เพ็กก์ และ เอ็ดการ์ ไรท์
Notting Hill (1999) รักบานฉ่ำที่น็อตติ้งฮิลล์ : หนังรอมคอมอังกฤษสุดคลาสสิก
Brittany Runs a Marathon (2019) : หนังยุคใหม่ที่มีธีมเรื่องคล้ายกันมาก เมื่อหญิงสาวผู้ไม่เคยออกกำลังกายตัดสินใจจะวิ่งมาราธอนเพื่อเปลี่ยนแปลงตัวเอง
คำถามที่พบบ่อย (Q&A)
Q: หนังเรื่องนี้เป็นหนังเกี่ยวกับกีฬาวิ่งอย่างเดียวเลยเหรอ?
A: ไม่ใช่ แก่นของเรื่องคือ “โรแมนติก-คอเมดี้” การวิ่งมาราธอนเป็นเพียง “เครื่องมือ” ที่พระเอกใช้ในการพิสูจน์ตัวเองและเอาชนะใจนางเอก ไม่ใช่หนังดราม่ากีฬาสมจริง
Q: จริงเหรอว่า รอส จาก Friends เป็นผู้กำกับ?
A: จริงแท้แน่นอน! และนี่คือผลงานการกำกับภาพยนตร์ยาวเรื่องแรกของเขา ซึ่งเขาก็ทำออกมาได้น่ารักและมีเสน่ห์ทีเดียว
Q: หนังเรื่องนี้ตลกเหมือน Shaun of the Dead ไหม?
A: เป็นตลกคนละสไตล์ครับ! Shaun of the Dead จะเป็นตลกล้อเลียนและมีสไตล์การกำกับที่จัดจ้านกว่า ส่วน Run Fatboy Run จะเป็นตลกแนว “รอมคอม” ที่เน้นความน่ารักและสถานการณ์เปิ่นๆ ของตัวละครมากกว่า
บทสรุป: Run Fatboy Run คือภาพยนตร์รอมคอมที่ทั้งตลก, น่ารัก, และสร้างแรงบันดาลใจได้อย่างลงตัว เป็นผลงานที่แฟนๆ ของ ไซมอน เพ็กก์ จะต้องชื่นชอบ และเป็นเครื่องเตือนใจที่ยอดเยี่ยมว่า… มันไม่เคยสายเกินไปที่จะ “วิ่ง” ตามสิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิต