ดูหนัง Serendipity (2001) กว่าจะค้นเจอ ขอมีเธอสุดหัวใจ
คุณเชื่อใน “พรหมลิขิต” หรือเปล่า? เชื่อไหมว่าคนบางคนเกิดมาเพื่อคู่กัน แม้จะอยู่ห่างไกลกันคนละซีกโลก? หากคุณเป็นคนหนึ่งที่หัวใจเต้นแรงกับเรื่องราวแบบนี้ วันนี้เราจะมา “ดูหนัง” ที่เป็นตัวแทนของความเชื่อนั้นได้อย่างสมบูรณ์แบบ Serendipity คือภาพยนตร์ที่ทั้งอบอุ่น, มีเสน่ห์, และเต็มไปด้วยความมหัศจรรย์ของโชคชะตา นำแสดงโดยสองนักแสดงขวัญใจยุค 2000 จอห์น คูแซค และ เคต เบ็กคินเซล
เรื่องย่อ
ท่ามกลางความวุ่นวายในช่วงเทศกาลคริสต์มาสในนิวยอร์ก โจนาธาน เทรเกอร์ (จอห์น คูแซค) และ ซาร่า โธมัส (เคต เบ็กคินเซล) ได้พบกันโดยบังเอิญขณะที่กำลังจะซื้อถุงมือแคชเมียร์สีดำคู่สุดท้ายในห้างสรรพสินค้า แม้จะเป็นเพียงช่วงเวลาสั้นๆ แต่ทั้งสองกลับรู้สึกถึงแรงดึงดูดที่พิเศษต่อกัน และได้ใช้เวลายามค่ำคืนที่แสนมหัศจรรย์ร่วมกันที่ร้านของหวานชื่อ “Serendipity 3”
เมื่อถึงเวลาต้องจากลา โจนาธานอยากจะแลกเบอร์โทรศัพท์ แต่ซาร่าผู้เชื่อมั่นในพรหมลิขิตอย่างแรงกล้า กลับเสนอ “เกมวัดดวง” ขึ้นมาแทน เธอบอกให้โจนาธานเขียนชื่อและเบอร์โทรของเขาลงบนธนบัตร 5 ดอลลาร์ แล้วเธอก็ใช้มันซื้อของไป ส่วนเธอเองก็เขียนชื่อและเบอร์โทรของเธอไว้ในหนังสือเล่มหนึ่ง และจะนำไปขายต่อในร้านหนังสือมือสองในวันรุ่งขึ้น… เธอบอกว่า “ถ้าเราถูกลิขิตให้คู่กันจริงๆ” ธนบัตรและหนังสือเล่มนั้นจะหาทางกลับมาหาพวกเขาเอง
หลายปีผ่านไป… ทั้งโจนาธานและซาร่าต่างก็มีคู่หมั้นและกำลังจะแต่งงาน แต่ทั้งสองก็ไม่เคยลืมค่ำคืนอันแสนพิเศษนั้นได้เลย ก่อนที่ชีวิตจะเดินไปข้างหน้าอย่างถาวร ทั้งคู่จึงตัดสินใจออกตามหา “เบาะแสแห่งโชคชะตา” เป็นครั้งสุดท้าย ด้วยความหวังว่าพรหมลิขิตอาจจะมีอยู่จริง
อ่านรีวิวก่อน ดูหนัง
นักแสดงนำและผู้กำกับ
- จอห์น คูแซค (John Cusack) รับบทเป็น โจนาธาน เทรเกอร์
- เคต เบ็กคินเซล (Kate Beckinsale) รับบทเป็น ซาร่า โธมัส: ด้วยเสน่ห์และความสวยของเธอ ทำให้เราเชื่อว่าใครๆ ก็ยอมพลิกแผ่นดินตามหา
- มอลลี่ แชนนอน (Molly Shannon) และ เจเรมี พิเวน (Jeremy Piven) ในบทเพื่อนซี้สุดฮาของพระเอกนางเอก ที่คอยช่วยเหลือภารกิจตามหาหัวใจ
- ผู้กำกับ: ปีเตอร์ เชลซัม (Peter Chelsom)
โปสเตอร์หนัง



รีวิวและบทวิเคราะห์
Serendipity คือหนังรอมคอมที่ทำหน้าที่ของมันได้อย่างไม่มีที่ติ มันคือ “หนังฟีลกู้ด” ที่สมบูรณ์แบบ
- พล็อตเรื่องสุดชาร์มมิ่ง: แม้พล็อตเรื่องอาจจะดูเพ้อฝันและต้องอาศัยความบังเอิญมากมาย แต่นั่นคือหัวใจและเสน่ห์ของมัน หนังพาเราไปลุ้นและเอาใจช่วยตัวละครอย่างเต็มที่ และทำให้เรารู้สึกดีทุกครั้งที่ “โชคชะตา” เริ่มทำงาน
- เคมีของนักแสดงนำ: จอห์น คูแซค และ เคต เบ็กคินเซล คือคู่พระนางที่เคมีเข้ากันอย่างสมบูรณ์แบบ ทำให้การพบกันเพียงหนึ่งคืนของพวกเขาน่าเชื่อถือและน่าจดจำ
- นิวยอร์กในฤดูหนาว: หนังเรื่องนี้ถ่ายทอดภาพของนิวยอร์กในช่วงคริสต์มาสออกมาได้อย่างสวยงามและโรแมนติก จนกลายเป็นเหมือนตัวละครอีกตัวหนึ่งของเรื่อง
- IMDb: ให้คะแนน 6.8/10
- Rotten Tomatoes: แม้นักวิจารณ์จะเสียงแตก (59%) แต่คะแนนจากฝั่งผู้ชม (Audience Score) สูงถึง 88%! ซึ่งเป็นเครื่องยืนยันว่านี่คือหนังรักขวัญใจมหาชนอย่างแท้จริง
หมื่นทิพ
⭐7/10
จำได้ว่าสมัย Serendipity จะเข้าโรงนั้นผมรออยู่นานมากทีเดียวกว่าจะได้ดู เพราะโดนเลื่อนแล้วเลื่อนอีก เลื่อนหลายรอบมาก พอได้ดู อาการเหนื่อยจากการรอก็หายไปเยอะเลยครับ เป็นหนังคล้ายพวก Sleepless In Seattle หรือ Only You น่ะครับ ว่าด้วยพรหมลิขิตที่ชักนำให้โจนาธาน (John Cusack) กับซาร่า (Kate Beckinsale) ที่รู้จักกันโดยบังเอิญระหว่างเลือกซื้อถุงมืออยู่ ในวันนั้นพวกเขาก็แอบมีความรู้สึกดีๆ ให้กัน แต่แล้วก็มีเหตุให้พวกเขาต้องพลัดจากกันไป หลายปีต่อมา พวกเขาก็มีแฟนเป็นของตัวเองกันหมดแล้วครับ แต่จู่ๆ ก็เหมือนโชคชะตาจะเล่นตลก เมื่อมีเหตุให้พวกเขาต่างฝ่ายต่างก็นึกถึงกันจนถึงขั้นตัดสินใจเดินทางไปยังจุดที่พวกเขาพบกันในคืนนั้น แต่สุดท้ายแล้วพวกเขาจะได้เจอกันไหม ก็ต้องลองไปชมกันในหนังนะครับ Cusack กับ Beckinsale เล่นได้น่ารักดีครับ เคมีไปกันได้
บรรยากาศตอนพวกเขาเจอกันต้นเรื่องก็โรแมนติกมาก จนไม่น่าแปลกใจล่ะครับว่าทำไมพวกเขาถึงรู้สึกดีต่อกันในเวลาอันสั้น ทั้งอากาศเย็นๆ หิมะบางๆ ไฟประดับสวยๆ โรแมนซ์มั่กๆ ครับ ที่ขาดไม่ได้สำหรับหนังแนวนี้คือบทสมทบครับ เป็นตัวชูรสอย่างดี ถ้ามีล่ะหนังลื่นขึ้นมาก ซึ่งพอดีครับที่เรื่องนี้ก็ได้ Jeremy Piven มาเป็นเพื่อนพระเอก, Molly Shannon มาเป็นเพื่อนนางเอก และตัวฮาจอมแย่งซีนอย่าง Eugene Levy ก็มาฮาได้ใจทีเดียวตอนกลางเรื่อง ดนตรีของ Alan Silvestri คอมโพเซอร์จอมพริ้วคนนี้ก็สร้างความหวานให้หนังได้อีกพอตัว ในแง่ความโรแมนติกจัดว่าสวยงามครับ ช่วงกลางเรื่องตอนตามหากันก็เพลินดี ส่วนตอนจบก็น่ารักดีเช่นกัน โดยรวมแล้วถ้าใครอยากดูหนังรักหวานๆ บรรยากาศเหมาะๆ เรื่องนี้ก็น่าจะตอบโจทย์ได้ครับ ตัวหนังทำเงินพอตัวครับ ทำไปราว $77 ล้านจากทั่วโลก ในขณะที่ทุนสร้างอยู่ที่ $28 ล้าน ก็ถือว่าใช้ได้ครับ ปล. ระหว่างดูแอบคิดนิดๆ ว่าถ้าเราเป็นแฟนของพระเอก-นางเอกแล้วมาเจอเหตุทำนองนี้เข้า เราจะทำหน้ายังไงหว่า? เพราะแฟนเราที่คบมาเป็นปีกำลังจะไปหาใครอีกคนที่เคยพบแค่ไม่ถึงวัน – น่าคิดเหมือนกันนะครับ
MsPunch
⭐7/10
โอนาธานและซาร่าบังเอิญเจอกันขณะกำลังช้อปปิ้งคริสต์มาสที่ร้านบลูมมิงเดลส์ ทั้งคู่หยิบถุงมือแคชเมียร์สีดำคู่เดียวกันขึ้นมาพร้อมกัน ทั้งคู่ไปดื่มกาแฟที่ร้านกาแฟชื่อเซเรนดิพิตี้ ซึ่งโจนาธานค้นพบว่าเป็นคำโปรดของซาร่า เธอเชื่อมั่นในพลังของโชคชะตาอย่างแรงกล้า จึงปฏิเสธที่จะให้เบอร์โทรศัพท์กับโจนาธาน แต่กลับเขียนชื่อและเบอร์โทรศัพท์ของเธอไว้บนปกหนังสือเล่มหนึ่ง แล้วนำไปขายให้กับร้านหนังสือมือสอง บอกเขาว่าถ้าทั้งคู่ได้คู่กัน หนังสือเล่มนั้นจะหาทางไปหาเขาเอง เช่นเดียวกัน เธอให้เขาเขียนเบอร์โทรศัพท์ลงบนธนบัตร ซึ่งเธอก็รีบใช้ทันที บอกเขาว่าถ้าโชคชะตากำหนด ธนบัตรใบนั้นจะหาทางกลับมาหาเธอเอง ไม่กี่ปีต่อมา โจนาธานและซาร่าต่างก็หมั้นหมายกับคนอื่น แต่ทั้งคู่ก็ยังคงครุ่นคิดว่าอีกฝ่ายจะเป็นเนื้อคู่ที่แท้จริงหรือไม่ แล้วพวกเขาก็เริ่มเห็นสัญญาณบางอย่างที่พวกเขาตีความว่าเป็นโชคชะตาที่พยายามบอกอะไรบางอย่างกับพวกเขา…
นี่คือหนังรักโรแมนติกคอมเมดี้ที่มีเสน่ห์ จำเป็นต้องละทิ้งความเป็นจริงอย่างหนักหน่วง แต่นั่นก็เป็นส่วนหนึ่งของประเด็นสำคัญ ความเต็มใจของซาร่าที่จะปล่อยให้โชคชะตากำหนดอนาคตของเธอนั้นช่างน่าเหลือเชื่อ แต่เบ็คคินเซลก็สามารถทำให้ซาร่าดูน่าสนใจได้มากพอ การถ่ายทำสวยงามและจังหวะดำเนินเรื่องที่สมบูรณ์แบบ หนังไม่เคยสะดุด แต่ทุกอย่างดำเนินไปอย่างราบรื่นจนถึงบทสรุปที่หลีกเลี่ยงไม่ได้แต่ก็น่าพึงพอใจ (และยังคงรักษาความกระชับให้เหลือเพียง 90 นาที ซึ่งดูเหมือนจะไม่ธรรมดาในหนังสมัยใหม่) คูแซ็คก็ยังคงน่ารักน่าเอ็นดูเช่นเคย มีเสน่ห์เย้ายวนใจมากกว่าแบรด พิตต์ ร้อยเท่า เป็นการหลีกหนีจากความเป็นจริงที่สมบูรณ์แบบ
ภาพยนตร์ที่คล้ายกัน
หากคุณหลงใหลในหนังรักโรแมนติกที่ว่าด้วยเรื่องของพรหมลิขิต เราขอแนะนำ:
- Sleepless in Seattle (1993): ต้นตำรับหนังรักที่ว่าด้วยพรหมลิขิต ที่พระเอกนางเอกแทบไม่ได้เจอกันเลยจนถึงตอนท้าย
- When Harry Met Sally… (1989): หนังรอมคอมคลาสสิกที่เล่าเรื่องของ “จังหวะเวลา” และ “ความบังเอิญ” ในความรัก
- Before Sunrise (1995): เรื่องราวของคนแปลกหน้าสองคนที่ใช้เวลาหนึ่งคืนมหัศจรรย์ร่วมกัน และทิ้งอนาคตไว้ให้โชคชะตานำพา
คำถามที่พบบ่อย (Q&A)
Q: พล็อตเรื่องดูไม่สมจริงเลย จะดูสนุกเหรอ?
A: หนังเรื่องนี้ชวนให้เรา “เชื่อในความมหัศจรรย์” ครับ! มันคือหนังแนวโรแมนติกแฟนตาซี ไม่ใช่ดราม่าสมจริง ถ้าคุณสามารถเปิดใจและสนุกไปกับคอนเซปต์ “ถ้ามันจะใช่…มันก็ใช่เอง” คุณจะพบว่ามันเป็นหนังที่น่ารักและมีเสน่ห์มากครับ
Q: หนังเรื่องนี้เหมาะจะดูกับใคร?
A: เป็นหนังเดทที่สมบูรณ์แบบที่สุดเรื่องหนึ่ง! และยังเหมาะที่จะดูคนเดียวหรือกับเพื่อนๆ ในวันที่คุณอยากรู้สึกดีและอบอุ่นหัวใจ
Q: ร้าน “Serendipity 3” ในเรื่องมีอยู่จริงไหม?
A: มีอยู่จริงครับ! เป็นร้านอาหารและของหวานชื่อดังในนิวยอร์ก และหลังจากหนังเรื่องนี้ออกฉาย เมนู “Frrrozen Hot Chocolate” ของร้านก็ยิ่งโด่งดังไปทั่วโลกเลยทีเดียว
บทสรุป: Serendipity คือภาพยนตร์ที่หวานละมุนและมีเสน่ห์อย่างไม่เสื่อมคลาย เป็นจดหมายรักถึงคนที่เชื่อในพรหมลิขิต, การพบกันโดยบังเอิญ, และเวทมนตร์ของมหานครนิวยอร์ก หากคุณกำลังมองหาหนังที่จะทำให้หัวใจของคุณพองโตและกลับมาเชื่อในความรักอีกครั้ง นี่คือหนังที่คุณไม่ควรพลาด