ดูหนัง Tell Me How I Die (2016) นิมิตมรณะ
ถ้าคุณเป็นแฟนตัวยงของหนังแนว Final Destination ที่ตัวละครเห็นภาพอนาคตความตายของตัวเอง วันนี้เรามีภาพยนตร์ที่จะมาเล่นกับพล็อตสุดคลาสสิกนี้ในรูปแบบใหม่ กับ “Tell Me How I Die” (2016) หรือในชื่อไทย “นิมิตมรณะ” หนังที่จะทำให้คุณต้องตั้งคำถามว่าถ้าคุณรู้ว่าตัวเองจะตายอย่างไร…คุณจะหนีมันพ้นหรือไม่?
เรื่องย่อ: การทดลองยาที่นำไปสู่ความตาย
เรื่องราวเล่าถึงกลุ่มนักศึกษาที่กำลังถังแตกและต้องการเงินด่วน พวกเขาจึงตัดสินใจเข้าร่วมโครงการทดลองยาตัวใหม่ที่มีชื่อว่า A9913 ซึ่งเป็นยาที่ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อช่วยเสริมสร้างและฟื้นฟูความทรงจำ โดยทั้งหมดต้องเข้าไปเก็บตัวอยู่ในศูนย์วิจัยที่ห่างไกลผู้คนและถูกตัดขาดจากโลกภายนอกท่ามกลางพายุหิมะที่โหมกระหน่ำ ในช่วงแรกทุกอย่างดูเหมือนจะเป็นไปด้วยดี แต่แล้วผู้เข้าร่วมทดลองก็เริ่มพบกับผลข้างเคียงสุดประหลาดของยา นั่นคือพวกเขาสามารถมองเห็น “ภาพนิมิต” อนาคตของตัวเองได้! แต่ภาพที่เห็นกลับไม่ใช่เรื่องดี มันคือภาพการตายสุดสยองของแต่ละคน และในไม่ช้า…ภาพที่เห็นก็เริ่มกลายเป็นความจริง เมื่อฆาตกรลึกลับคนหนึ่งเริ่มออกไล่ล่าและสังหารพวกเขาไปทีละคนตามลำดับและวิธีการที่พวกเขาเห็นในนิมิต! เหล่านักศึกษาที่เหลือรอดจึงต้องใช้ความสามารถในการมองเห็นอนาคตนี้เพื่อหาทางเอาชนะฆาตกรและเปลี่ยนแปลงชะตากรรมของตัวเองให้ได้
อ่านรีวิวก่อน ดูหนัง
แนะนำนักแสดง
เวอร์จิเนีย การ์ดเนอร์ (Virginia Gardner) รับบทเป็น แอนนา
นาธาน เครส (Nathan Kress) รับบทเป็น เด็น
เคียร์ซีย์ คลีมอนส์ (Kiersey Clemons) รับบทเป็น มาร์คัส
ไรอัน ฮิกะ (Ryan Higa) รับบทเป็น สแครตช์ : ยูทูปเบอร์ชื่อดัง (nigahiga) ที่มาร่วมแสดงในเรื่องนี้ด้วย
โปสเตอร์หนัง
รีวิวจัดเต็ม: ไอเดียดี แต่ไปไม่สุดทาง
Tell Me How I Die เป็นภาพยนตร์ที่มี “ไอเดีย” หรือ “คอนเซ็ปต์” ที่แข็งแรงและน่าสนใจอย่างยิ่ง การผสมผสานระหว่างหนังแนว “การทดลองที่ผิดพลาด” (Experiment Gone Wrong) เข้ากับ “การมองเห็นอนาคตความตาย” แบบ Final Destination ถือเป็นพล็อตที่มีศักยภาพที่จะสร้างความระทึกขวัญได้เป็นอย่างดี หนังประสบความสำเร็จในการสร้างบรรยากาศที่กดดันและไม่น่าไว้วางใจ การที่ตัวละครทั้งหมดถูกขังอยู่ในสถานที่ปิดตายท่ามกลางพายุหิมะทำให้รู้สึกถึงความสิ้นหวังและโดดเดี่ยวได้เป็นอย่างดี การใช้ภาพนิมิตที่ตัดเข้ามาเป็นระยะๆ ก็ช่วยสร้างความตื่นเต้นและทำให้คนดูอยากจะรู้ว่ามันจะเกิดขึ้นจริงหรือไม่ อย่างไรก็ตาม หนังกลับมีจุดอ่อนในด้านบทภาพยนตร์ที่ค่อนข้างเดินตามสูตรสำเร็จของหนังแนว “เชือด” (Slasher) ทั่วไป ตัวละครส่วนใหญ่มีลักษณะที่ค่อนข้างแบนราบและไม่มีมิติ ทำให้ผู้ชมไม่รู้สึกผูกพันหรือเอาใจช่วยได้เท่าที่ควร หนังไม่ได้ลงลึกไปกับกฎเกณฑ์หรือเงื่อนไขของพลังในการมองเห็นอนาคตมากนัก ทำให้ความน่าสนใจของพล็อตเรื่องถูกลดทอนลงไปอย่างน่าเสียดาย
คะแนนจากผู้ชม:
IMDb: 4.7/10
Rotten Tomatoes: 20% (จากนักวิจารณ์)
blackmirror
😍 4/10
หนังเริ่มต้นได้ดีมาก ตอนแรกเราคาดหวังหนังระทึกขวัญแบบ “ใครทำ?” ไว้สูง แต่แล้วเรื่องก็แย่ลงเมื่อผู้ต้องสงสัยฆ่าคนโดยไม่มีเหตุผลอันสมควร (ซึ่งก็เปิดเผยในหนังอยู่แล้ว) กลายเป็นไมเคิล ไมเยอร์สในหนังฮาโลวีนไปอย่างรวดเร็ว ผู้ต้องสงสัยเสนอทางเลือกให้นักวิทยาศาสตร์ แต่หลังจากฆ่าผู้เข้าร่วมการศึกษาไป 99% เขาก็ยังคงฆ่านักวิทยาศาสตร์อยู่ดี แล้วทำไมต้องฆ่าคนพวกนั้นทั้งหมด แล้วปล่อยให้คนที่มีปริมาณยาในร่างกายสูงที่สุดมีชีวิตอยู่ต่อไป หนังจบลงด้วยคำถามมากมาย แม้แต่แรงจูงใจของฆาตกรก็ยังไม่แน่ใจในตอนจบ
vasiln
😍 5/10
เด็กมหาวิทยาลัยที่หาเงินเข้าร่วมการพิจารณาคดียาเสพติด ผลข้างเคียงหลักคือการหยั่งรู้อนาคต และอนาคตก็ดูไม่สดใส บางครั้งหนังอาจจะดูเชื่องช้าไปหน่อย มีประโยคที่ว่า “ใครสนกัน” บ้าง แต่ Tell Me How I Die ก็มีเสน่ห์ในบางครั้ง และบทสนทนาก็น่าสนใจในบางครั้ง นี่ไม่ใช่หนังที่เข้าชิงรางวัลออสการ์ แต่เป็นหนังที่เน้นการนำเสนอสิ่งที่ดูง่ายและสนุกพอประมาณให้กับวัยรุ่น มันตอบโจทย์ความทะเยอทะยานเล็กๆ น้อยๆ เหล่านั้นได้ (และขอแย้งความเห็นของนักวิจารณ์คนก่อนๆ หน่อย ตอนจบก็สมเหตุสมผลมาก) ไม่ดีพอที่จะบอกว่า “ไปดู!” แต่มันก็ไม่แย่พอที่จะบอกว่า “อย่าไปดู” และในหนังเรื่องนี้ก็มีไอเดียใหม่ๆ มากพอที่ทำให้ผมตั้งตารอผลงานต่อไปของผู้สร้าง ถ้าพวกเขาสร้างโครงเรื่องที่ดีกว่านี้ได้อีกหน่อย บวกกับเนื้อเรื่องที่ยาวขึ้นอีกหน่อยให้เต็ม 90 นาที พวกเขาก็น่าจะสร้างผลงานที่ดีจริงๆ ได้
ภาพยนตร์แนวคล้ายกันที่แนะนำ
หากคุณชื่นชอบ Tell Me How I Die เราขอแนะนำภาพยนตร์ที่มีกลิ่นอายคล้ายกัน:
Final Destination (แฟรนไชส์ 2000-2011) เจ็ดต้องตาย โกงความตาย : ต้นตำรับหนังแนวเห็นภาพอนาคตความตายที่กลายเป็นตำนาน
Happy Death Day (2017) สุขสันต์วันตาย : เมื่อนักศึกษาสาวต้องติดอยู่ในลูปเวลาที่เธอถูกฆาตกรรมซ้ำแล้วซ้ำเล่าในวันเกิดของตัวเอง
Truth or Dare (2018) จริงหรือกล้า…เกมสยองท้าตาย : เรื่องราวของกลุ่มเพื่อนที่ต้องเล่นเกม “จริงหรือกล้า” เวอร์ชั่นคำสาปนรก
Escape Room (2019) กักห้องเกมโหด : เมื่อคนแปลกหน้า 6 คนต้องมาไขปริศนาในห้องสุดโหดเพื่อเอาชีวิตรอด
สำหรับใครที่เป็นแฟนหนังแนว Slasher และชอบพล็อตเรื่องที่น่าสนใจ Tell Me How I Die (2016) ก็ถือเป็นตัวเลือกที่ดูสนุกเพลินๆ ได้เรื่องหนึ่ง แม้จะมีจุดอ่อนอยู่บ้างก็ตาม สามารถรับชมได้แล้ววันนี้ที่ Movie24HD
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
Q: หนังเรื่องนี้เหมือนกับ Final Destination ไหม?
A: มีความคล้ายคลึงกันมากในแง่ของคอนเซ็ปต์หลัก คือ “ตัวละครเห็นภาพการตายของตัวเองล่วงหน้าและพยายามจะหนี” ครับ แต่ Tell Me How I Die จะแตกต่างตรงที่มีตัวตนของ “ฆาตกร” ที่เป็นคนจริงๆ มาไล่ฆ่า ในขณะที่ Final Destination จะเป็นเรื่องของการหนี “ความตาย” ที่เป็นเหมือนพลังงานลึกลับครับ
Q: หนังเรื่องนี้น่ากลัวระดับไหน?
A: เป็นหนังสยองขวัญ-ระทึกขวัญ ที่เน้นความตื่นเต้นจากการไล่ล่าและมีฉากฆาตกรรมตามสไตล์หนัง Slasher ครับ อาจจะมีฉากที่ทำให้ตกใจ (Jump Scare) บ้าง แต่ไม่ได้เน้นความสยองขวัญทางจิตวิทยาหรือภาพที่แหวะจนเกินไป
Q: ไรอัน ฮิกะ (nigahiga) มีบทบาทในเรื่องเยอะไหม?
A: ใช่ครับ เขารับบทเป็นหนึ่งในผู้เข้าร่วมการทดลองและเป็นตัวละครสำคัญคนหนึ่งของเรื่อง ซึ่งน่าจะเป็นที่ถูกใจของแฟนๆ ที่ติดตามผลงานของเขา