ดูหนัง The Desperate Hour (2022) ฝ่าวิกฤต วิ่งหนีตาย
เตรียมตัวพบกับความตื่นเต้นระทึกขวัญที่บีบหัวใจใน The Desperate Hour (2022) ฝ่าวิกฤต วิ่งหนีตาย ภาพยนตร์ทริลเลอร์ที่พาคุณไปสัมผัสสถานการณ์สุดเลวร้ายของแม่คนหนึ่งที่ต้องแข่งกับเวลาเพื่อช่วยชีวิตลูก! หากคุณชื่นชอบหนังที่เต็มไปด้วยความกดดัน การเอาชีวิตรอด และการแสดงอันทรงพลังของผู้หญิงคนเดียวที่ต้องแบกรับเรื่องราวทั้งหมด พลาดเรื่องนี้ไม่ได้เลยค่ะ!
เรื่องย่อ: นาทีวิกฤตของแม่ที่ต้องวิ่งสู้เพื่อลูก
The Desperate Hour (2022) บอกเล่าเรื่องราวของ เอมี่ คาร์ (Amy Carr รับบทโดย Naomi Watts) คุณแม่ผู้เพิ่งผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากในชีวิต และกำลังพยายามฟื้นฟูจิตใจและใช้ชีวิตอย่างปกติ เธอตัดสินใจออกไปวิ่งจ็อกกิ้งในป่าใกล้บ้าน เพื่อผ่อนคลายและปลดปล่อยความเครียด แต่แล้ว ความสงบสุขของเธอก็ต้องพังทลายลงในชั่วพริบตา เมื่อเธอได้รับโทรศัพท์สายสำคัญที่แจ้งข่าวร้ายเกี่ยวกับเหตุการณ์บางอย่างที่เกิดขึ้นในเมือง ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อ ลูกชายวัยรุ่นของเธอ เหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันนี้ทำให้เอมี่ต้องเผชิญกับสถานการณ์สุดเลวร้าย เธออยู่ห่างจากลูกชายหลายไมล์ และไม่มีทางอื่นนอกจากต้อง วิ่งไปให้ถึงตัวลูกให้เร็วที่สุด ภาพยนตร์จะพาเราไปติดตามการเดินทางที่เต็มไปด้วยความสิ้นหวังและความกลัวของเอมี่ ในขณะที่เธอกำลังวิ่งหนีตายและพยายามสื่อสารกับโลกภายนอกผ่านโทรศัพท์มือถือที่แบตเตอรี่เหลือน้อย เธอยังต้องเผชิญหน้ากับความจริงอันน่าตกใจที่ค่อยๆ เปิดเผยออกมาเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และความพยายามที่จะตัดสินใจในสถานการณ์ที่ไม่มีทางเลือก The Desperate Hour เป็นหนังที่ถ่ายทอดความรู้สึกกดดันได้อย่างยอดเยี่ยม โดยเน้นไปที่การแสดงของ Naomi Watts ที่ต้องแบกรับอารมณ์ความรู้สึกทั้งหมดของตัวละคร ในขณะที่เธอต้องเผชิญหน้ากับความตื่นตระหนก ความสิ้นหวัง และความมุ่งมั่นที่จะช่วยลูก ฉากการวิ่งในป่าที่ดูเหมือนไม่มีที่สิ้นสุด จะยิ่งเพิ่มความตึงเครียดให้กับผู้ชม ทำให้คุณลุ้นระทึกไปกับการผจญภัยของเธอในทุกย่างก้าว
อ่านรีวิวก่อน ดูหนัง
นักแสดงและผู้กำกับ
- Naomi Watts รับบท Amy Carr: นักแสดงมากฝีมือผู้ถ่ายทอดบทบาทคุณแม่ที่เต็มไปด้วยความสิ้นหวังแต่ก็มุ่งมั่นได้อย่างยอดเยี่ยม
- Colton Gobbo รับบท Noah Carr: ลูกชายของเอมี่
- Sierra Maltby รับบท Emily Carr: ลูกสาวของเอมี่
- Josh Bond รับบท Deputy Halford
- ผู้กำกับ: Phillip Noyce ผู้กำกับที่เคยฝากผลงานทริลเลอร์เข้มข้นมาแล้วหลายเรื่อง
- ผู้เขียนบท: Chris Sparling
โปสเตอร์หนัง

รีวิวจากนักวิจารณ์และผู้ชม
The Desperate Hour (2022) ฝ่าวิกฤต วิ่งหนีตาย ได้รับเสียงวิจารณ์ที่หลากหลาย โดยส่วนใหญ่มักจะชื่นชมการแสดงอันทรงพลังของ Naomi Watts
- Rotten Tomatoes: ได้คะแนนจากนักวิจารณ์เพียง 45% และคะแนนจากผู้ชม 27% ซึ่งสะท้อนความคิดเห็นที่แตกต่างกัน
- IMDb: ได้คะแนนเฉลี่ยประมาณ 5.2/10
นักวิจารณ์หลายคนยกย่องการแสดงของ Naomi Watts ว่าสามารถแบกรับภาพยนตร์ทั้งเรื่องไว้ได้ และสามารถถ่ายทอดความรู้สึกของความตื่นตระหนกและความกลัวของแม่ได้อย่างน่าเชื่อถือ อย่างไรก็ตาม บางส่วนก็ตั้งข้อสังเกตว่าพล็อตเรื่องอาจจะยังขาดความแปลกใหม่ และการดำเนินเรื่องอาจจะเน้นไปที่ตัวละครหลักมากเกินไปจนทำให้ขาดมิติอื่นๆ
โดยรวมแล้ว ฝ่าวิกฤต วิ่งหนีตาย เป็นภาพยนตร์ที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความตื่นเต้นจากสถานการณ์กดดัน และชื่นชอบการแสดงของนักแสดงนำที่ต้องเผชิญหน้ากับสถานการณ์สุดขีด
ferguson
⭐4/10
สวัสดีอีกครั้งจากความมืดมิด ด้วยเหตุการณ์กราดยิงในโรงเรียนที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งและน่าเศร้าจนไม่อาจให้อภัยได้ จึงเป็นที่ถกเถียงกันว่าควรนำประเด็นนี้มาเป็นพื้นฐานของภาพยนตร์หรือไม่ แม้ว่าจะเน้นไปที่ความปั่นป่วนทางอารมณ์ระหว่างแม่และนักเรียนก็ตาม ไม่ว่าใครจะคิดเห็นอย่างไร ผู้ชมกลับพบว่าภาพยนตร์เรื่องนี้แทบไม่มีคุณค่าอะไรเลย นอกจากความพยายามของนาโอมิ วัตต์ส หนังไม่ได้ให้ความบันเทิงในฐานะหนังระทึกขวัญเท่าไหร่นัก และรายละเอียดบางอย่างที่ปรากฏออกมาในเรื่องนี้คงจะตลกขบขัน หากไม่ใช่เพราะเนื้อเรื่อง นาโอมิ วัตต์ส ผู้เข้าชิงรางวัลออสการ์สองครั้ง รับบทเป็นเอมี่ คาร์ คุณแม่เลี้ยงเดี่ยวหม้าย ครบรอบหนึ่งปีของอุบัติเหตุทางรถยนต์ที่คร่าชีวิตสามีของเธอมาถึงแล้ว และภาพหลอนเหล่านั้นยังคงทำให้เธอสะดุ้งตื่นจากการนอนหลับสนิท หลังจากโทรไปทำงานเพื่อพักผ่อนส่วนตัว ปลุกโนอาห์ (โคลตัน กอบโบ) ลูกชายวัยรุ่นของเธอให้ตื่นจากเตียงไม่ได้ และต้องแน่ใจว่าเอมิลี่ (เซียร์รา มอลต์บี) ลูกสาวตัวน้อยปลอดภัยอยู่บนรถโรงเรียน เอมี่จึงออกไปวิ่งออกกำลังกายในตอนเช้า
นับจากนั้นเป็นต้นมา สิ่งที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่ก็เกินขอบเขตของความน่าเชื่อถือไปมากจนการกลอกตาสักสองสามครั้งก็เป็นเรื่องที่ยอมรับได้ การวิ่งเหยาะๆ ของเอมี่ทำให้เธอต้องวิ่งเข้าไปในป่าเป็นระยะทางหลายไมล์ แต่เธอก็ยังสามารถคุยโทรศัพท์ได้มากกว่าพนักงานรับสายโทรศัพท์รุ่นเก่าเสียอีก จนกระทั่งเธอได้รู้เรื่องมือปืน ซึ่งทำให้สัญญาณโทรศัพท์ขาดๆ หายๆ ตอนนี้เธอมีแล้ว ตอนนี้เธอไม่มีแล้ว โทรศัพท์วิเศษของเธอให้ข้อมูล GPS ที่รวดเร็วและละเอียดอย่างเหลือเชื่อ แถมยังเป็นคำสั่ง LYFT ที่ไร้สาระที่สุดเท่าที่เคยมีมาอีกด้วย เห็นได้ชัดว่าคนขับรถทุกคนในเมืองเคยประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ และเห็นได้ชัดว่าพวกเขาทุกคนเคยเจอกับอู่ซ่อมรถฝั่งตรงข้ามโรงเรียน ซึ่งพนักงานที่ให้ความช่วยเหลือดีที่สุดในประวัติศาสตร์รับสายของเอมี่ เช่นเดียวกันนี้กับพนักงานรับสาย 911 ที่เธอติดต่อหลายครั้ง แม้ว่าจะอยู่ในสถานการณ์เร่งด่วนและอันตรายในพื้นที่ และถ้าฉันยังไม่ได้ใช้คำว่าไร้สาระ นั่นคือคำอธิบายที่ดีที่สุดสำหรับปฏิสัมพันธ์ของเอมี่กับเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายในพื้นที่ … หลังจากที่ข้อเท้าแพลงและอาการกระทบกระเทือนทางสมองเล็กน้อยของเธอ
ข้อดีคือคุณวัตต์สทุ่มเทให้กับบทบาทอย่างเต็มที่ และเนื่องจากเป็นหนังเกี่ยวกับ “โรคระบาด” เกือบทุกฉากจึงทำให้เธอต้องแสดงเดี่ยว เธอเป็นมืออาชีพตัวจริงที่ไม่สามารถกอบกู้เนื้อหาไว้ได้ ฟิลลิป นอยซ์ กำกับหนึ่งในภาพยนตร์ระทึกขวัญที่หลายคนมองข้ามไปอย่าง DEAD CALM (1989) และเป็นที่รู้จักมากที่สุดจากภาพยนตร์ระทึกขวัญของแฮร์ริสัน ฟอร์ดและแจ็ค ไรอันอย่าง PATRIOT GAMES (1992) และ CLEAR AND PRESENT DANGER (1994) ส่วนคริส สปาร์ลิง ผู้เขียนบทภาพยนตร์อยู่เบื้องหลังภาพยนตร์ “นักแสดงคนเดียว” ที่เหนือกว่ามากอย่าง BURIED (2010) การวิจารณ์ภาพยนตร์เรื่องนี้ทำให้รู้สึกผิดอยู่บ้างเมื่อพิจารณาจากประเด็น อย่างไรก็ตาม ลักษณะของภาพยนตร์ที่เอารัดเอาเปรียบและลูกเล่นที่มากเกินไปทำให้ไม่สามารถนำเสนอในรูปแบบอื่นได้ ตอนจบเป็นการนำเสนอโซเชียลมีเดียที่ไร้สาระ พร้อมกับเสียงตะโกนที่คุ้นเคยว่า “เรื่องนี้ต้องหยุด” ภาพยนตร์ของนอยซ์ทำให้เราเห็นได้ว่าเหตุการณ์กราดยิงในโรงเรียนนั้นเลวร้าย นี่เป็นข้อความที่ฉันมั่นใจว่าพวกเราส่วนใหญ่คงได้รับไปแล้ว แม้ว่าจะยังไม่ได้ชมนาโอมิ วัตต์ วิ่ง 80 นาทีก็ตาม
ทำไมคุณถึงควรดู The Desperate Hour (2022) ฝ่าวิกฤต วิ่งหนีตาย?
- การแสดงของ Naomi Watts: หากคุณเป็นแฟนของ Naomi Watts หรือชื่นชอบการแสดงอันทรงพลังของนักแสดงเพียงคนเดียวที่แบกรับทั้งเรื่อง คุณไม่ควรพลาด
- ความตื่นเต้นแบบเรียลไทม์: ภาพยนตร์พยายามสร้างความรู้สึกของการแข่งกับเวลาและการตัดสินใจในสถานการณ์คับขันที่น่าตื่นเต้น
- เรื่องราวที่บีบหัวใจ: การต่อสู้ของแม่เพื่อช่วยชีวิตลูกในสถานการณ์วิกฤต เป็นพล็อตที่สามารถกระตุ้นอารมณ์และสร้างความห่วงใยได้
- หนังแนวเอาชีวิตรอดที่เน้นจิตวิทยา: นอกจากสถานการณ์ภายนอกแล้ว ยังได้เห็นการต่อสู้กับจิตใจและความหวาดกลัวของตัวละครหลัก
ภาพยนตร์ที่คล้ายกันที่คุณอาจจะชอบ
หากคุณชอบ The Desperate Hour (2022) ฝ่าวิกฤต วิ่งหนีตาย ที่มีเรื่องราวของสถานการณ์วิกฤต การเอาชีวิตรอด และการแสดงที่เน้นตัวละครหลักเพียงคนเดียว คุณอาจจะสนใจภาพยนตร์เหล่านี้ด้วยค่ะ:
- Buried (2010): ภาพยนตร์ทริลเลอร์ที่ Ryan Reynolds ต้องติดอยู่ในโลงศพใต้ดินและพยายามหาทางรอด
- Locked Down (2021): ภาพยนตร์ที่ถ่ายทำในช่วงล็อกดาวน์ โดยมี Anne Hathaway และ Chiwetel Ejiofor รับบทคู่รักที่ต้องติดอยู่ในบ้านเดียวกันในช่วงโรคระบาด
- Open Water (2003): ภาพยนตร์ที่สร้างจากเรื่องจริงของคู่รักที่ถูกทิ้งไว้กลางทะเลกับฝูงฉลาม
- The Shallows (2016): หนังเอาชีวิตรอดจากฉลามที่ Blake Lively ต้องติดอยู่บนโขดหินกลางทะเล
คุณคิดว่าเอมี่ คาร์ จะไปช่วยลูกชายของเธอได้ทันเวลาหรือไม่คะ? มาลุ้นระทึกไปกับทุกย่างก้าวของเธอเลย
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
Q: The Desperate Hour (2022) ฝ่าวิกฤต วิ่งหนีตาย เป็นหนังแนวไหน?
A: ฝ่าวิกฤต วิ่งหนีตาย เป็นภาพยนตร์แนวทริลเลอร์ ดราม่า และระทึกขวัญเอาชีวิตรอด ค่ะ
Q: หนังเรื่องนี้เกี่ยวกับอะไร?
A: เกี่ยวกับ เอมี่ คาร์ คุณแม่ที่ต้องออกวิ่งแข่งกับเวลาเพื่อไปช่วยลูกชายของเธอที่ตกอยู่ในอันตรายในเมือง หลังจากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันค่ะ
Q: ตัวละครหลัก “เอมี่ คาร์” ทำไมถึงต้องวิ่ง?
A: เธออยู่ห่างจากลูกชายหลายไมล์ในขณะที่เกิดเหตุการณ์วิกฤต และการวิ่งคือวิธีเดียวที่จะทำให้เธอไปถึงตัวลูกได้เร็วที่สุดค่ะ
Q: สามารถดู The Desperate Hour (2022) ฝ่าวิกฤต วิ่งหนีตาย ได้ที่ไหน?
A: คุณสามารถค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมหรือรับชมภาพยนตร์เรื่องนี้ได้ที่ movie24hd