ทำความรู้จักทีมงานและนักแสดง
ผู้กำกับ: โรเบิร์ต รอดริเกซ (Robert Rodriguez)
ผู้เขียนบท: เควิน วิลเลียมสัน (Kevin Williamson)
นักแสดง (กลุ่มนักเรียน):
เอไลจาห์ วูด (Elijah Wood) รับบท เคซีย์ คอนเนอร์
จอช ฮาร์ทเน็ตต์ (Josh Hartnett) รับบท ซีค ไทเลอร์
จอร์ดานา บรูว์สเตอร์ (Jordana Brewster) รับบท ดีไลลาห์ โพรฟิตต์
เคลีย ดูวัลล์ (Clea DuVall) รับบท สโตคลีย์ “สโตกส์” มิตเชลล์
ลอร่า แฮร์ริส (Laura Harris) รับบท แมรี่เบ็ธ หลุยส์ ฮัตชินสัน
ชอว์น ฮาโทซี่ (Shawn Hatosy) รับบท สแตน โรซาโด
นักแสดง (กลุ่มอาจารย์): โรเบิร์ต แพทริค, ไปเปอร์ ลอรี่, ฟามเก้ แจนเซ่น, ซัลมา ฮาเย็ค
อยากติดตามผลงานอื่นๆ ของพวกเขาไหม? ลองค้นหาบนเว็บ Movie24HD ของเราได้เลย!
โปสเตอร์หนัง
รีวิวภาพรวม: ไซไฟ-สยองขวัญยุค 90s ที่สนุกและลงตัว
“The Faculty” คือภาพยนตร์ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากหนังไซไฟคลาสสิกอย่าง Invasion of the Body Snatchers แต่ถูกนำมาปรุงรสใหม่ให้เข้ากับยุคสมัยได้อย่างยอดเยี่ยม หนังเต็มไปด้วยบรรยากาศของความหวาดระแวง, การไม่ไว้ใจใคร, และการล้อเลียนขนบของหนังวัยรุ่นและหนังสยองขวัญ ซึ่งเป็นลายเซ็นของเควิน วิลเลียมสัน หนังประสบความสำเร็จในการสร้างความบันเทิงให้กับผู้ชมอย่างครบเครื่อง ทั้งความน่ากลัวของเหล่าปรสิต, ความลึกลับของเรื่องราว, และที่สำคัญคืออารมณ์ขันและเคมีที่เข้ากันของเหล่านักแสดงนำ ซึ่งแต่ละคนต่างก็เป็นตัวแทนของคาแรคเตอร์วัยรุ่นในยุคนั้นได้อย่างสมบูรณ์แบบ แม้ว่าสเปเชียลเอฟเฟกต์อาจจะดูเก่าไปบ้างตามกาลเวลา แต่ด้วยพล็อตเรื่องที่สนุกและน่าติดตาม ก็ทำให้ “The Faculty” ยังคงเป็นหนังไซไฟ-สยองขวัญในดวงใจของใครหลายๆ คนมาจนถึงปัจจุบัน
คะแนนจากนักวิจารณ์:
IMDb: 6.5/10
Rotten Tomatoes: 55% (คะแนนจากฝั่งนักวิจารณ์)
หมื่นทิพ
⭐ 6/10
เป็นหนังที่ตอนเข้าโรงนี่ผมอยากดูมากเลยครับ เพราะหน้าหนังออกแนวมนุษย์ต่างดาวบุกโลกผสมกับแนววัยรุ่น ซึ่งถ้าทำออกมาดีๆ นี่สนุกสนานแน่นอน อย่างน้อยก็ดูเพลินล่ะครับ แล้วยังได้ Robert Rodriguez แห่ง El Mariachi, Desperado และ From Dusk Till Dawn มากำกับด้วย ก็น่าสนใจล่ะครับว่าหนังจะออกมาแบบไหน The Faculty เนื้อเรื่องคือ เมื่อจู่ๆ มีเอเลี่ยนต่างดาวที่สามารถสิงร่างของคน ควบคุมจิตใจและร่างกายคนๆ นั้นได้ ค่อยๆ แทรกซึมบุกยึดโรงเรียนเฮอร์ริงตัน ไฮสคูล ขณะที่ทุกคนไม่ได้สังเกตความผิดปกติ แต่เด็กกลุ่มหนึ่งเริ่มจับตาพบความผิดปกตินั้น ได้แก่ ซีค เทย์เลอร์ (Josh Hartnett) เด็กนักเรียนหัวดีแต่ชอบผลิตยาเสพติดมาขายให้เพื่อนนักเรียนเพื่อความสะใจ, สแตน โรซาโด (Shawn Hatosy) หนุ่มนักกีฬา, เดไลลาห์ โปรฟิตต์ (Jordana Brewster) สาวดาวโรงเรียน, สโตคลี่ย์ มิทเชลล์ (Clea DuVall) สาวแปลกฉายาลูกเป็ดขี้เหร่, เคซีย์ คอนเนอร์ (Elijah Wood) ไอ้หน้าอ่อนประจำโรงเรียนที่ชอบโดนพวกอันธพาลแกล้งทุกวัน และ แมรี่เบธ หลุยส์ ฮัทชินสัน (Laura Harris) นักเรียนหญิงหน้าใหม่ที่ย้ายมากลางเทอม
พวกเขาเริ่มสังเกตเห็นว่าอาจารย์หลายคนเริ่มทำตัวแปลกๆ บางครั้งก็มองทุกคนด้วยสายตาที่น่ากลัว หรือไม่บางทีอวัยวะก็เริ่มผิดที่ผิดทาง แล้วพวกเขายังค้นพบสิ่งมีชีวิตประหลาดที่เติบโตได้เมื่อสัมผัสน้ำ… แล้วพวกเขาจะหยุดยั้งเอเลี่ยนพวกนี้ได้อย่างไรล่ะนี่ เนื้อเรื่องนี่สูตรโคตรๆ ครับ เอาแนวทางของ Invasion of the Body Snatcher กับ The Thing มาผสมเข้ากับแนวหนังวัยรุ่นประเภท The Breakfast Club ที่รวมเด็กแปลกแยกไว้ด้วยกัน แต่ยอมรับเลยครับว่าทำออกมาได้เข้าท่า สนุก ดูได้เรื่อยๆ สีสันสำคัญมาจากพลังดาราวัยรุ่นที่แต่ละเจ้านี่เล่นหนังได้เนียน มีเอกลักษณ์เด่นไปคนละแบบ คอยขโมยซีนกันบ้าง ช่วยดันกันให้เด่นบ้าง ทำให้หนังน่าติดตามขึ้นเยอะครับ ไหนจะดาราสมทบระดับหน้าคุ้น ทั้ง Salma Hayek, Famke Janssen, Piper Laurie, Robert Patrick แล้วก็ Daniel von Bargen พวกดารารุ่นเล็กนี่ทำให้หนังเดินเรื่องไปได้ ส่วนรุ่นใหญ่นี่ก็เป็นสีสันชั้นดี
ดาราเข้าท่าแล้ว เรามาดูบทดีกว่า คือหนังมันอาจจะเดาได้ไม่ยากนะครับ ตอนแรกก็แนะนำตัวละคร ก่อนจะเริ่มเผยปม เผยตัวประหลาดทีละนิดๆ จนพอพวกเขาแน่ใจว่ามีตัวบ้าอะไรโผล่มาแน่ๆ ก็เริ่มรวมตัวกัน แต่พอรวมตัวไปก็เกิดระแวงกันว่าจะมีใครเป็นหนึ่งในพวกมันแฝงตัวมาหรือเปล่า จากนั้นก็ปิดท้ายด้วยการหาทางสยบเหล่าเอเลี่ยนให้หมดสิ้นไป ด้วยอาวุธที่คาดไม่ถึง – ครบสูตรหนังแนวมนุษย์ต่างดาวบุกโลกเลยครับ ตอนออกฉายหนังได้รับคำชมแบบกลางๆ รายได้ก็ถือว่าพอได้ (ได้ไป $40 ล้าน จากงบลงทุน $15 ล้าน) แต่ผมชอบครับ หนังถือว่าเน้นบันเทิง ดูสนุก คือถ้าคุณชอบดูหนังแนวมนุษย์ต่างดาวบุกแบบแอบๆ ซ่อนๆ ค่อยๆ แทรกซึมเนี่ย เรื่องนี้เข้าท่ามากครับ มีตื่นเต้น มีสยอง และลุ้นกันเป็นพักๆ
Rodriguez คุมหนังออกมาได้เมามันส์ดีครับ สนุกไม่แพ้ From Dusk Till Dawn ผมว่ามันก็ไม่ใช่ของง่ายนะครับ ผสมเอาหนังวัยรุ่นกับหนังเอเลี่ยนเข้าด้วยกัน แต่หนังก็ถือว่าเวิร์กครับ ฉากในโรงเรียนมันให้อารมณ์เป็นห้องเรียนอเมริกันตามแบบฉบับจริงๆ ครั้นพอเอเลี่ยนโผล่ก็ตื่นเต้น แต่โทนก็ไม่หลุดครับ ยังดูเป็นหนังว่าด้วยวัยรุ่นในโรงเรียนอยู่นั่นแหละ เพียงแต่มีความเป็นไซไฟแทรกเข้ามา ทำได้ไม่เลวครับ ซ้ำยังมีการแอบคารวะหนังเอเลี่ยนบุกยุคก่อนด้วย เช่น ตอนพูดถึง Invasion of the Body Snatcher หรือแอบแซว Steven Spielbreg ว่าทำไมชอบทำหนังมนุษย์ต่างดาวบ่อยจัง ผมชอบฉากที่เคซี่ย์ถกกับสโต๊คลี่ย์เรื่องนี้มากเลยครับ มันดูเนียนมาก เหมือนวัยรุ่นสองคนมานั่งถกความคิดเกี่ยวกับเรื่องที่สงสัย (ซึ่งพอดีมันเป็นเรื่องเอเลี่ยน) อันเป็นเอกลักษณ์ที่ไม่เลวของนักเรียนเมืองลุงแซมนะครับ เขาจะโต้แย้งถกเพื่อเรียนรู้และหาคำตอบ พร้อมทั้งพยายามจำกัดอารมณ์ให้มีผลน้อยที่สุดเพราะเขาต้องการข้อสรุปไม่ใช่ข้อพิพาท
อันนี้เด็กไทยก็น่าลองนะครับ ถกเพื่อรู้ เอาหลายๆ หัวมาช่วยกันคิด แต่อย่าขัดขากันเอง อย่าเอาอารมณ์ตนเองเป็นที่ตั้งจะดีที่สุด อีกฉากที่ชอบคือตอนที่ซีคกับพวกต้องรับมืออาจารย์คนหนึ่งที่โดนเอเลี่ยนสิงครับ ทำได้ลุ้นมาก ดนตรีของ Marco Beltrami ก็ยังเร้าได้มันส์อีก จังหวะมันประมาณว่าเหล่าวัยรุ่นกำลังจะเอาดาบทิ่มลงบนร่างของจอมมารน่ะครับ ให้อารมณ์ขนาดนั้นจริงๆ ยิ่งใหญ่มาก แต่หนังมาพร่องไปนิดตรงตอนจบที่ลงง่ายไปหน่อย อุตส่าห์ลุ้นแทบแย่ ไหงวายร้ายรายใหญ่ไปง่ายจัง
แต่มาคิดอีกที ผมว่า Rodriguez แกฝากอะไรไว้ในหนังที่ทำเสมอ ส่วนมากหนังยุคแรกของเขามักจบแบบง่ายๆ นึกจะจบก็จบไม่ต้องอารัมภบทหรือแลนดิ้งให้งดงาม อยากจบจบเลย แบบ El Mariachi เป็นต้น หัวหน้าตายง่ายมาก ตอนแรกผมก็หงุดหงิดนะ จะจบเร็วทำไม แต่พอนึกไปก็อดคิดไม่ได้เหมือนกัน ว่าโลกเราจริงๆ เรื่องต่างๆ มันก็ไม่ได้เหมือนหนัง บางครั้งกว่าหนังจะจบก็ต้องบิ้วอารมณ์ ให้มันยิ่งใหญ่ แต่ในชีวิตจริงเรื่องใหญ่อาจจบง่าย หรือเรื่องง่ายๆ ก็อาจจบยากก็ได้เหมือนกัน อาจไม่ใช่คติชีวิตที่แกแฝงไว้ แต่เราก็น่าเก็บไปคิดนะครับ บางครั้งปัญหาอาจจะใหญ่ แต่การแก้ไขก็ไม่จำเป็นต้องเล่นใหญ่เท่าขนาดของปัญหา เอาเถอะครับ ถ้าไม่คิดมากหนังก็จบแบบใช้ได้ อีกอย่างดูเพลินมาทั้งเรื่องแล้ว ตอนจบก็ไม่ถึงกับขี้ริ้วครับ แค่ง่ายเท่านั้นเอง ถ้าไม่คิดมากก็โอเคแหละ
แฟนพันธุ์แท้ : หนังสยองขวัญ
ดูกันยัง นี่คือโรงเรียนสยอง คุณครูและนักเรียนพากันทำตัวแปลกๆ สุดท้ายพอรู้คำตอบเท่านั้นแหละ…. | The Faculty (1998) มันเกิดอะไรขึ้นกับโรงเรียนแห่งนี้กันแน่ คืออยู่ดีๆแต่ละคนก็เริ่มทำตัวแปลกๆ เริ่มจากคุณครูในโรงเรียนก่อนเลย ทุกคนล้วนมีบุคลิกที่แปลกเปลี่ยนไป จากคนร่าเริงสดใส ก็เริ่มมีพฤติกรรมนิ่งเงียบ สายตาเยือกเย็น ไปไหนจะพากันไปเป็นกลุ่มๆ ชอบทำตัวลับๆล่อๆเหมือนกำลังปกปิดอะไรอยู่ และจะพาดื่มน้ำตลอดเวลา คือดื่มน้ำแทบจะ 24 ชั่วโมงเลย จากนั้นคุณครูก็ประกาศเรียกนักเรียนให้เข้าไปพบในห้องทีละคนๆ และพอนักเรียนคนนั้นออกมาก็จะกลายเป็นอีกคนที่มีพฤติกรรมแปลกเปลี่ยนไปเหมือนดั่งคุณครู เอาละสิ…ว่าแต่มันเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นกันแน่ ทำไมคุณครูถึงแปลกเปลี่ยนไป กินแต่น้ำทั้งวี่ทั้งวัน แล้วทำไมต้องเรียกนักเรียนเข้าไปพบในห้องด้วย ใครยังไม่เคยดูเรื่องนี้ก็ลองไปหามาดูกันได้นะ เป็นหนังเก่าแล้วแต่เปิดดูกี่ทีต่อกี่ทีก็สะพรึงทุกทีเลย โรงเรียนนี้มันสยองจริงๆ
ภาพยนตร์ที่คล้ายกัน
หากคุณชื่นชอบหนังแนวไซไฟ-สยองขวัญในรั้วโรงเรียน เราขอแนะนำเรื่องเหล่านี้:
Scream (1996) หวีดสุดขีด : ผลงานขึ้นหิ้งของ เควิน วิลเลียมสัน ที่ปฏิวัติวงการหนังสยองขวัญวัยรุ่น
Disturbing Behavior (1998) สะกดนรกร.ร.สยอง : เรื่องราวของกลุ่มนักเรียนที่พบว่าเพื่อนๆ ของพวกเขากำลังถูกล้างสมองในโครงการลับของโรงเรียน
The Craft (1996) สี่แหววพลังแม่มด : เรื่องราวของสี่สาวนอกคอกที่หันมาฝึกฝนเวทมนตร์คาถาจนนำไปสู่เรื่องราวที่อันตรายเกินควบคุม
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
Q: หนังเรื่องนี้ได้รับแรงบันดาลใจจากเรื่องอะไร?
A: ได้รับแรงบันดาลใจหลักๆ มาจากนวนิยายไซไฟเรื่อง “The Body Snatchers” ของ แจ็ค ฟินนีย์ และภาพยนตร์คลาสสิกเรื่อง “Invasion of the Body Snatchers” (1956) ที่ว่าด้วยการที่เอเลี่ยนค่อยๆ เข้ายึดร่างมนุษย์โดยไม่มีใครรู้ตัว
Q: ทำไมยาเสพติดถึงฆ่าเอเลี่ยนในเรื่องได้?
A: ในเรื่องให้เหตุผลว่า ปรสิตต่างดาวต้องการน้ำเพื่อความอยู่รอด แต่ยาเสพติดที่ซีคผลิต (ซึ่งเป็นยาขับปัสสาวะ) ทำให้ร่างกายของโฮสต์ขาดน้ำอย่างรุนแรง ซึ่งเป็นสภาพที่ไม่เอื้ออำนวยต่อการอยู่รอดของปรสิตครับ
Q: หนังเรื่องนี้ถือเป็น “คัลท์คลาสสิก” หรือไม่?
A: ใช่! แม้ในตอนแรกหนังจะได้รับคำวิจารณ์ที่ผสมปนเปกันไป แต่ด้วยทีมนักแสดงที่เป็นไอคอนของยุค, พล็อตเรื่องที่สนุกสนาน, และสไตล์ที่โดดเด่น ทำให้หนังกลายเป็นที่ชื่นชอบและถูกพูดถึงในหมู่คอหนังสยองขวัญมาจนถึงปัจจุบัน