ดูหนัง The Family Stone (2005) สะไภ้พลิกล็อค
ทุกท่าน! หากคุณกำลังมองหาหนังคริสต์มาสที่ไม่ได้มีแต่ความหวานแหวว แต่สะท้อนภาพ “ความจริง” ของการรวมญาติในช่วงวันหยุดได้อย่างถึงแก่น… ทั้งความรัก, ความอบอุ่น, ความอึดอัด, และความโกลาหล… วันนี้คุณมาถูกทางแล้ว! The Family Stone คือภาพยนตร์รวมดาราชั้นยอด ที่จะทำให้การ “ดูหนัง” ของคุณในครั้งนี้ เป็นประสบการณ์ที่ทั้งตลก, น่ารัก, และสะเทือนอารมณ์ไปพร้อมๆ กัน
เรื่องย่อ
เมเรดิธ มอร์ตัน (ซาราห์ เจสสิกา พาร์เกอร์) คือสาวนักธุรกิจสุดเนี้ยบจากแมนฮัตตัน เธอเป็นคนเจ้าระเบียบ, หัวโบราณ, และเกร็งไปหมดทุกอิริยาบถ ในวันหยุดคริสต์มาสนี้ เธอต้องเผชิญหน้ากับภารกิจที่น่าสะพรึงกลัวที่สุดในชีวิต นั่นคือการเดินทางไปพบกับครอบครัวของ เอเวอเรตต์ สโตน (เดอร์มอท มัลโรนีย์) แฟนหนุ่มของเธอเป็นครั้งแรก
แต่ครอบครัว “สโตน” นั้นแตกต่างจากเธออย่างสิ้นเชิง! พวกเขาคือครอบครัวศิลปินหัวเสรีนิยมที่อบอุ่น, เสียงดัง, และ “สนิทกัน” เกินเบอร์! นำโดยคุณแม่สุดจี๊ด ซิบิล (ไดแอน คีตัน) และคุณพ่อสุดชิล เคลลี่ (เคร็ก ที. เนลสัน) พร้อมด้วยเหล่าพี่น้องสุดแสบ โดยเฉพาะ เอมี่ (ราเชล แม็กอดัมส์) น้องสาวคนเล็กผู้ปากจัดและไม่คิดจะต้อนรับเธอเลยแม้แต่น้อย
วันหยุดสุดสัปดาห์ที่ควรจะมีความสุขจึงกลายเป็น “ฝันร้าย” ของเมเรดิธ เธอพยายามจะทำตัวให้เข้ากับครอบครัวนี้ แต่ทุกอย่างกลับผิดพลาดและน่าอับอายไปหมด! ด้วยความกดดัน เธอจึงต้องโทรเรียก จูลี่ (แคลร์ เดนส์) น้องสาวสุดสวยนิสัยดีของเธอมาเป็นกำลังเสริม แต่การมาถึงของจูลี่กลับยิ่งทำให้เรื่องราว “พลิกล็อค” และวุ่นวายยิ่งกว่าเดิม! movie24hd
อ่านรีวิวก่อน ดูหนัง
นักแสดงนำและผู้กำกับ
หนังเรื่องนี้คือการรวมพลนักแสดงคุณภาพอย่างแท้จริง!
ซาราห์ เจสสิกา พาร์เกอร์ (Sarah Jessica Parker) รับบทเป็น เมเรดิธ มอร์ตัน
ไดแอน คีตัน (Diane Keaton) รับบทเป็น ซิบิล สโตน
ราเชล แม็กอดัมส์ (Rachel McAdams) ในบทบาทน้องสาวตัวแสบที่น่าจดจำ
แคลร์ เดนส์ (Claire Danes) รับบทเป็น จูลี่ มอร์ตัน
เดอร์มอท มัลโรนีย์ (Dermot Mulroney) รับบทเป็น เอเวอเรตต์ สโตน
ลุค วิลสัน (Luke Wilson) รับบทเป็น เบน สโตน พี่ชายคนเล็กสุดชิล
เคร็ก ที. เนลสัน (Craig T. Nelson) รับบทเป็น เคลลี่ สโตน
ผู้กำกับ: โธมัส เบซูชา (Thomas Bezucha)
โปสเตอร์หนัง
รีวิวและบทวิเคราะห์
The Family Stone คือหนังคริสต์มาสที่ “จริง” อย่างที่สุด มันไม่ได้นำเสนอภาพครอบครัวในอุดมคติ แต่เป็นครอบครัวที่เต็มไปด้วยความไม่สมบูรณ์แบบ… และนั่นคือสิ่งที่ทำให้มันสวยงาม
ส่วนผสมที่ลงตัวระหว่างตลกและดราม่า: หนังเรื่องนี้คือ “Dramedy” ชั้นดี มันมีฉากที่ตลกขบขันจากความน่าอึดอัดใจของสถานการณ์มากมาย แต่ในขณะเดียวกันก็มีฉากดราม่าที่ทรงพลังและสามารถเรียกน้ำตาจากผู้ชมได้อย่างง่ายดาย (โดยเฉพาะประเด็นที่เกี่ยวกับตัวละครของคุณแม่ซิบิล)
การแสดงที่ยอดเยี่ยม: ด้วยทีมนักแสดงระดับนี้ ทำให้ตัวละครทุกตัวมีชีวิตชีวาและน่าเชื่อถือ การแสดงของ ซาราห์ เจสสิกา พาร์เกอร์ ในบทบาทที่น่าอึดอัดและน่าเห็นใจนั้นยอดเยี่ยมมาก และ ไดแอน คีตัน กับ ราเชล แม็กอดัมส์ ก็โดดเด่นไม่แพ้กัน
หนังคริสต์มาสคัลท์คลาสสิก: เมื่อเวลาผ่านไป หนังเรื่องนี้ได้กลายเป็นหนังคริสต์มาสที่หลายครอบครัวต้องหยิบมาดูซ้ำทุกปี เพราะมันสะท้อนภาพความวุ่นวายที่แสนจะคุ้นเคยของพวกเขาได้เป็นอย่างดี
IMDb: ให้คะแนน 6.3/10
Rotten Tomatoes: แม้นักวิจารณ์จะเสียงแตก (53%) แต่หนังเรื่องนี้ก็เป็นที่รักของผู้ชมในวงกว้างด้วยหัวใจและความสมจริงของมัน
randl1999
⭐ 7/10
ผมไม่เห็นด้วยกับนักวิจารณ์หลายคนของหนังเรื่องนี้ที่มองว่านี่เป็นมุมมองที่น่ารื่นรมย์และน่าขบขันเกี่ยวกับการรวมตัวของครอบครัวในช่วงวันหยุดที่ซับซ้อน บางทีอาจเป็นเพราะภูมิหลังของผมในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิต ผมจึงพบว่านี่เป็นความพยายามที่สับสนและไม่สอดคล้องกันอย่างมากในการจินตนาการถึงสิ่งที่อาจเป็นเหตุการณ์ตลกขบขันในครอบครัว ผู้เขียนได้ตีความเรื่องราวมากมายจนน่าสงสัยว่าจะมีครอบครัวห้าครอบครัวที่รวมเอาความแปลกประหลาด ความผิดปกติ และความผิดปกติต่างๆ ที่พบในเรื่องเดียวกันนี้ไว้ได้หรือไม่ โดยรวมแล้วผมประทับใจกับความร้ายกาจอันน่าเหลือเชื่อที่ครอบครัวนี้แสดงต่อคู่หมั้นของลูกชายคนโต ซึ่งไม่มีใครรู้จักนอกจากลูกสาวคนเล็กที่สุดที่เคยพบ แต่กลับกลายเป็นเป้าหมายของการต่อต้าน โดยอ้างอิงจากรายงานของน้องสาวตัวแสบ
การที่พ่อแม่ไม่สามารถรักษามารยาทหรือเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับลูกๆ ได้แม้แต่น้อย สะท้อนให้เห็นถึงปัญหาของพวกเขามากกว่าอารมณ์ขันของสถานการณ์ ใช่ ฉันเข้าใจว่าโรคร้ายแรงก็เป็นปัญหาเช่นกัน และใช่ คีตันเป็นนักแสดงที่ยอดเยี่ยม แต่ตัวละครของเธอกลับไม่ผ่านการทดสอบความสง่างาม ซึ่งเป็นความผิดของนักเขียนมากกว่าคีตันฉันคิดว่าสิ่งที่จะเกิดขึ้นจริงในสถานการณ์นี้คือ ลูกชายคนโตคงจะตำหนิครอบครัวของเขาเกี่ยวกับพฤติกรรมที่หยาบคายและโหดร้าย พาคู่หมั้นของเขาไปแล้ว (ถ้าเขาจริงจังจริงๆ) บอกพวกเขาว่าให้โทรหาเขาได้เมื่อโตขึ้น หรือคู่หมั้นเมื่อเห็นว่าเขาไม่ได้จริงจังจริงๆ ก็คงจากไปเอง อย่างไรก็ตาม หากเกิดเหตุการณ์เหล่านี้ขึ้น หนังเรื่องนี้คงจะยาวประมาณ 20 นาที ซึ่งสั้นเกินกว่าที่โรเจอร์ อีเบิร์ตจะพูดออกมาได้อย่างไพเราะ
marissas
⭐ 7/10
โครงเรื่องของ The Family Stone ฟังดูค่อนข้างซ้ำซาก: เอเวอเร็ตต์ สโตน พาเมเรดิธ แฟนสาวสุดเคร่งกลับบ้านช่วงคริสต์มาสเพื่อพบกับครอบครัวใหญ่ที่เกลียดเธอทันที ที่แย่ไปกว่านั้นคือตัวอย่างหนังเผยให้เห็นความซับซ้อนของเนื้อเรื่องส่วนใหญ่ อย่างไรก็ตาม โครงเรื่องนี้ถูกหยิบยกมาใช้บ่อยครั้ง เพราะเปิดโอกาสให้เกิดความตลก ดราม่า และเจาะลึกพลวัตของครอบครัวได้อย่างน่าเชื่อถือ พิสูจน์ตัวเองว่าเป็นตัวอย่างที่ดีกว่าหนังแนวนี้ทั่วไป ด้วยนักแสดงมากฝีมือและบทภาพยนตร์ที่ค่อนข้างชาญฉลาด
การปรากฏตัวของซาราห์ เจสสิกา ปาร์กเกอร์ ทำให้เมเรดิธยังคงน่าเห็นใจอยู่เสมอ แม้ในยามที่เราเข้าใจอย่างถ่องแท้ว่าทำไมเธอถึงทำให้ครอบครัวสโตนส์หงุดหงิด สโตนส์หลายคน ทั้งไดแอน คีตัน, เครก ที. เนลสัน, เดอร์มอต มัลโรนีย์, ราเชล แม็กอดัมส์ และลุค วิลสัน ต่างก็ใช้บทบาทของตัวเองให้คุ้มค่าที่สุด และที่สำคัญกว่านั้นคือ พวกเขาเริ่มดูเหมือนครอบครัวจริงๆ ไม่ใช่กลุ่มนักแสดงที่เล่นกันแบบสุ่มๆ นักแสดงเพียงคนเดียวที่พลาดโอกาสสร้างความประทับใจคือแคลร์ เดนส์ ซึ่งไม่สามารถทำอะไรได้มากนักกับบทบาทจูลี น้องสาวของเมเรดิธที่เขียนไว้อย่างไม่ใส่ใจ
The Family Stone ไม่ใช่หนังที่แหวกแนว แต่กลับก้าวข้ามกรอบเดิมๆ ที่พล็อตเรื่องอาจสื่อออกมา หนังสามารถถ่ายทอดทั้งความจริงทางอารมณ์และอารมณ์ขันในสถานการณ์ของเมเรดิธได้อย่างตรงไปตรงมา ยิ่งไปกว่านั้น หนังยังดำเนินเรื่องอย่างเป็นกลาง ตัวละครทุกตัวล้วนมีข้อบกพร่องแต่ก็น่ารักน่าเอ็นดู และในช่วงไคลแม็กซ์ที่โต๊ะอาหาร ทั้งเมเรดิธและซิบิลต่างก็มีประเด็นที่สมเหตุสมผล นักวิจารณ์ในเว็บไซต์นี้กล่าวหาว่าหนังเรื่องนี้กำลังผลักดันแนวคิดเสรีนิยมผ่านการพรรณนาถึงคู่รักเกย์ต่างเชื้อชาติและครอบครัวกึ่งโบฮีเมียนอย่างเห็นอกเห็นใจ และผลักดันแนวคิดอนุรักษ์นิยมผ่านการพรรณนาถึงครอบครัวสโตนส์ในฐานะพวกเสรีนิยมหน้าซื่อใจคดที่แค่พูดเล่นๆ ถึงการยอมรับความแตกต่าง แต่กลับมีอคติต่อคนอย่างเมเรดิธ ส่วนตัวแล้ว ฉันไม่แน่ใจว่า มีจุดมุ่งหมายอะไรหรือเปล่า นอกจากการคัดเลือกนักแสดงที่ดีมาเล่นละครตลก-ดราม่าช่วงเทศกาลวันหยุดที่ไม่ดูถูกสติปัญญาของผู้ชม ซึ่งก็ประสบความสำเร็จพอสมควร
ภาพยนตร์ที่คล้ายกัน
หากคุณชื่นชอบหนังดราม่า-คอเมดี้ที่ว่าด้วยครอบครัวสุดป่วน เราขอแนะนำ:
Love Actually (2003) : อีกหนึ่งหนังคริสต์มาสรวมดาวในตำนานจากฝั่งอังกฤษ
Meet the Parents (2000) : หากอยากชมหนังแนว “ไปเจอครอบครัวแฟน” ในเวอร์ชั่นที่ตลกโปกฮามากกว่านี้
Home for the Holidays (1995) : หนังคลาสสิกอีกเรื่องที่จับเอาความวุ่นวายของการรวมญาติมาเล่าได้อย่างยอดเยี่ยม
คำถามที่พบบ่อย (Q&A)
Q: หนังเรื่องนี้เป็นหนังตลกฟีลกู้ดอย่างเดียวหรือเปล่า?
A: เป็น “ดราม่า-คอเมดี้” (Dramedy) ครับ มีฉากตลกเยอะมาก แต่ก็มีประเด็นดราม่าที่จริงจังและสะเทือนอารมณ์เกี่ยวกับครอบครัวและความเจ็บป่วยด้วยเช่นกัน เป็นหนังที่ครบรสมากครับ
Q: ทำไมครอบครัวสโตนถึงดูใจร้ายกับนางเอกจัง?
A: เพราะพวกเขาเป็นครอบครัวที่รักและผูกพันกันมากครับ และมองว่าเมเรดิธผู้เนี้ยบและเจ้าระเบียบนั้น “ไม่เหมาะสม” กับลูกชาย/พี่ชายที่พวกเขารัก หนังเรื่องนี้คือการเรียนรู้ของทั้งสองฝ่ายที่จะมองข้ามอคติแรกพบและทำความเข้าใจซึ่งกันและกัน
Q: หนังเรื่องนี้เหมาะจะดูในช่วงคริสต์มาสไหม?
A: เหมาะมากครับ! โดยเฉพาะสำหรับคนที่อาจจะเบื่อหน่ายกับหนังคริสต์มาสที่หวานเลี่ยนเกินไป เรื่องนี้จะมอบภาพที่สมจริงของความวุ่นวาย ความเครียด แต่สุดท้ายก็คือความรักของครอบครัวในช่วงวันหยุดได้เป็นอย่างดี
บทสรุป: The Family Stone คือหนังคริสต์มาสที่ทั้งตลก, วุ่นวาย, และอบอุ่นหัวใจอย่างน่าประหลาด เป็นภาพสะท้อนที่สมจริงของคำว่า “ครอบครัว” ที่แม้จะไม่ได้สมบูรณ์แบบ แต่ก็เต็มไปด้วยความรัก หากคุณกำลังมองหาหนังที่จะทำให้คุณหัวเราะและซาบซึ้งไปพร้อมๆ กัน นี่คือหนังที่คุณไม่ควรพลาด