The Fifth Element (1997) รหัส 5 คนอึดทะลุโลก

ทำความรู้จักทีมงานและนักแสดง

• ผู้กำกับ/เขียนบท: ลุค เบซง (Luc Besson)
• นักแสดงนำ:
  • บรูซ วิลลิส (Bruce Willis) รับบท คอร์เบน ดัลลาส
  • มิลลา โยโววิช (Milla Jovovich) รับบท ลีลู
  • แกรี โอลด์แมน (Gary Oldman) รับบท ซอร์ก
  • คริส ทักเกอร์ (Chris Tucker) รับบท รูบี้ ร็อด
  • เอียน โฮล์ม (Ian Holm) รับบท หลวงพ่อวีโต คอร์นีเลียส

อยากติดตามผลงานอื่นๆ ของพวกเขาไหม? ลองค้นหาบนเว็บ Movie24HD ของเราได้เลย!

โปสเตอร์หนัง

รีวิวภาพรวม: หนังไซไฟ-คัลท์ที่ยังคงความสดใหม่

“The Fifth Element” คือภาพยนตร์ที่ “เหนือกาลเวลา” อย่างแท้จริง สิ่งที่ทำให้หนังเรื่องนี้โดดเด่นและเป็นที่รักมาจนถึงปัจจุบันคือ “วิสัยทัศน์และจินตนาการ” ที่ไม่เหมือนใครของ ลุค เบซง การสร้างโลกอนาคตที่เต็มไปด้วยสีสัน, ยานพาหนะลอยฟ้า, และเผ่าพันธุ์ต่างดาวที่แปลกตา ทำออกมาได้อย่างน่าทึ่งและน่าจดจำ

หัวใจสำคัญอีกอย่างคือ “การออกแบบเครื่องแต่งกาย” ที่ได้ดีไซเนอร์ระดับโลกอย่าง ฌอง-ปอล โกลติเยร์ (Jean-Paul Gaultier) มาสร้างสรรค์ชุดที่ทั้งล้ำยุคและกลายเป็นไอคอนิกไปแล้ว (โดยเฉพาะชุดผ้าพันแผลสีขาวของลีลู)

หนังเต็มไปด้วยฉากแอ็กชันที่สนุกสนาน, อารมณ์ขันที่ร้ายกาจ, และตัวละครที่มีเสน่ห์น่าจดจำ บรูซ วิลลิส ในบทฮีโร่จำเป็นสุดกวน, มิลลา โยโววิช ในบทสาวน้อยต่างดาวผู้เปราะบางแต่ก็แข็งแกร่ง, แกรี โอลด์แมน ในบทตัวร้ายสุดจิต, และที่ขาดไม่ได้คือ คริส ทักเกอร์ ในบท รูบี้ ร็อด ที่ขโมยซีนได้ทุกฉากที่ปรากฏตัว!

คะแนนจากนักวิจารณ์:

• IMDb: 7.6/10
• Rotten Tomatoes: 71% (คะแนนจากฝั่งนักวิจารณ์)

หมื่นทิพ

กับเรื่องของคอร์เบน ดัลลัส (Bruce Willis) คนขับแท็กซี่ที่จับพลัดจับผลูต้องมาช่วยกอบกู้จักรวาล นั่นคือ การตามหาสิ่งที่เรียกว่า ธาตุที่ 5 ซึ่ง หากไม่มีมัน โลกทั้งใบจะถูกความชั่วร้ายครอบครองไปตลอดกาล กับการผจญภัยครั้งนี้เขาต้องพบกับ ลีลู (Milla Jovovich) สาวต่างดาวที่ถูกส่งมาเพื่อปกป้องธาตุที่ 5 , คุณพ่อวีโต้ คอร์เนเลียส (Ian Holm) นักบวชผู้รับภารกิจปกป้องโลกมาหลายชั่วอายุคน และ ซอร์ก (Gary Oldman) ศัตรูตัวร้ายที่หวังจะครองจักรวาล หนังกำกับและเขียนบทโดย Luc Besson ครับ (โดยมี Robert Mark Kamen มาช่วยเกลาอีกที) หนังทำได้โม้และเว่อร์สุดๆ แต่ขณะเดียวกันก็มันส์มากๆ ด้วย เรื่องนี้เป็น ไซไฟ – แอ๊คชั่นเต็มตัวครับ สำหรับคอแอ๊คชั่นทั้งหลาย เรื่องนี้น่าจะเข้าทางน่ะนะครับ

งานด้านฉากและอารมณ์ขันค่อนข้างเยอะอยู่ Effect ก็เนี๊ยบดีทีเดียว เป็นหนังที่ดูเอาความบันเทิงได้เลยครับ ดูเอามันส์ได้สบาย ก็น่าทึ่งดีนะครับเพราะผู้กำกับ Besson คิดบทร่างของหนังเรื่องนี้ตั้งแต่ตอนอยู่ไฮสคูลแล้วล่ะ จากนั้นก็ใฝ่ฝันอยากจะทำมาตลอด จนพี่ท่านได้มาเป็นผู้กำกับใหญ่แห่งฝรั่งเศส จึงได้ทำความฝันให้เป็นจริง ซึ่งความฝันชิ้นนี้ลงทุนประมาณ 93 ล้านดอลล่าร์ครับ และหนังเรื่องนี้ไม่ถือว่าเป็นหนังฮอลลีวู้ดด้วยครับ เพราะจริงๆ แล้วหนังสร้างโดยบริษัทที่ชื่อว่า Gaumont แห่งฝรั่งเศส จึงทำให้นี่กลายเป็นหนังที่ไม่ใช่หนังฮอลลีวู้ดที่ลงทุนสูงที่สุด (ในตอนนั้น)

และงานที่ออกมา ผมว่าคุ้มนะ พวก Effect และเรื่องราวมันโม้และหนุกหนานดีมาก ฉากต่างๆ ก็สีสันสวยดี ดาราก็เยี่ยมทุกคน แต่คนที่ขโมยซีนคงต้องยกให้พี่ Chris Tucker ซึ่งเขาก็คือคู่หูคู่ฮ่าของเฉินหลงใน Rush Hour นั่นแหละครับ มาในบทดีเจจอมพล่ามที่พล่ามได้บ้ามากๆ เอาแค่ตอนแกวิ่งไปกรี๊ดไปนี่ก็ฮาสุดๆ แล้วล่ะครับ พี่ Bruce ก็ยังคงเป็นพี่ Bruce ครับ มาดเดิมๆ แต่ก็ไม่มีปัญหาอะไร, Jovovich ก็น่ารักแบบแปลกๆ ตามเคย และบทที่เธอรับในหนังนั่นผมว่าไม่ธรรมดาครับ เป็นบทที่มีความสับสนในตัวหลายอย่างมาก แต่เธอก็เล่นได้ถึงทุกอย่าง เอาแค่ตอนที่เธอขอร้องให้ดอร์เบนช่วยเธอด้วยเนี่ย ก็อดจะสงสารไม่ได้แล้วล่ะ อีกคนที่มาในมาดแปลกๆ อีกก็คือ Oldman ในบทวายร้ายแบบหนังการ์ตูนที่บ้าได้ไม่ผิดหวังครับ คนละคนกับซีเรียส แบล็คใน Harry ภาค 3 เลยในแง่รายได้ หนังไปได้ไม่สวยเท่าไรในอเมริกา (ทำไปเพียง $63 ล้าน) แต่ยังดีที่รายได้ทั่วโลกอยู่ที่ประมาณ $263 ล้าน ก็ถือว่ากำไรนิดหน่อยครับ แต่ไม่ถึงกับถล่มทลายแต่อย่างใด  สรุปว่าหนังแอ๊คชั่นครับ มันส์บวกโม้ ดูเอาเพลิน ไม่มีปัญหาครับ เหมือนดูหนังการ์ตูนฉบับคนแสดง มันเพลินดีจริงๆ ครับ

ภาพยนตร์ที่คล้ายกัน

หากคุณชื่นชอบหนังไซไฟที่มีสไตล์จัดจ้านและจินตนาการล้ำเลิศ เราขอแนะนำเรื่องเหล่านี้:

1. Blade Runner (1982) เบลด รันเนอร์: ตำนานหนังไซไฟ-นัวร์ที่สร้างโลกอนาคตออกมาได้อย่างงดงามและน่าทึ่ง
2. Valerian and the City of a Thousand Planets (2017) วาเลเรียน พลิกจักรวาล: อีกหนึ่งผลงานไซไฟสุดอลังการของผู้กำกับ ลุค เบซง ที่เต็มไปด้วยเผ่าพันธุ์ต่างดาวและงานภาพสุดตระการตา
3. Guardians of the Galaxy (2014) รวมพันธุ์นักสู้พิทักษ์จักรวาล: หนังซูเปอร์ฮีโร่จากมาร์เวลที่มีกลิ่นอายของสเปซโอเปร่า, อารมณ์ขัน, และเพลงประกอบสุดไพเราะ

คำถามที่พบบ่อย (FAQ)

Q: “ภาษาศักดิ์สิทธิ์” ที่ลีลูพูดในเรื่องมีจริงหรือไม่?
A: ไม่มีจริง ภาษานี้ถูกคิดค้นขึ้นมาใหม่ทั้งหมดโดย ลุค เบซง และ มิลลา โยโววิช โดยมีคำศัพท์พื้นฐานประมาณ 400 คำ และทั้งสองคนมักจะเขียนจดหมายโต้ตอบกันเป็นภาษานี้เพื่อฝึกฝนระหว่างการถ่ายทำด้วย

Q: ทำไมหนังถึงกลายเป็น “คัลท์คลาสสิก”?
A: เพราะเป็นหนังที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวสูงมาก ทั้งในด้านงานภาพ, การออกแบบ, และการผสมผสานแนวหนังที่หลากหลาย ซึ่งอาจจะดู “แปลก” เกินไปสำหรับผู้ชมบางกลุ่มในตอนแรก แต่เมื่อเวลาผ่านไป ผู้คนก็เริ่มชื่นชมในความกล้าหาญและความคิดสร้างสรรค์ที่เหนือกาลเวลาของมัน

Q: ฉากโอเปร่าของ “ดีว่า พลาวาลากูน่า” ร้องโดยคนจริงๆ หรือไม่?
A: เสียงร้องของดีว่าสีน้ำเงินนั้น เป็นการผสมผสานระหว่างเสียงของนักร้องโอเปร่าตัวจริง อินวา มูลา (Inva Mula) กับการสังเคราะห์เสียงด้วยคอมพิวเตอร์ในบางช่วงโน้ตที่สูงหรือต่ำเกินกว่าที่มนุษย์จะร้องได้