ดูหนัง The Legend of Speed (1999) เร็วทะลุนรก
ถ้าพูดถึงหนังแข่งรถในตำนาน นอกจาก Initial D แล้ว ชื่อของ “The Legend of Speed” จะต้องเป็นเรื่องที่คอหนังเอเชียยุค 90s นึกถึงอย่างแน่นอน! ผลงานของผู้กำกับ แอนดริว เลา (จาก Initial D และ Infernal Affairs ) ที่จับเอาซูเปอร์สตาร์แห่งยุคอย่าง เจิ้งอี้เจี้ยน และ จางป๋อจือ มาสร้างตำนานรักและความเร็วบนท้องถนน
เรื่องย่อ
เรื่องราวของ สกาย (รับบทโดย เจิ้งอี้เจี้ยน) หนุ่มหล่อผู้หลงใหลในความเร็ว เขาคือ “ราชาแห่งการแข่งรถใต้ดิน” ของฮ่องกงที่ไม่มีใครสามารถเอาชนะได้ แต่ชีวิตที่ดูเหมือนจะโรยด้วยกลีบกุหลาบของเขาก็ต้องพังทลายลง เมื่อเขาต้องเข้าไปพัวพันกับ ถังหง (รับบทโดย เยิ่นต๊ะหัว) นักเลงรุ่นใหญ่ผู้ทรงอิทธิพล และพ่ายแพ้การแข่งขันให้กับ เดียร์ (รับบทโดย ทัม Diu) นักแข่งรถคู่ปรับที่ได้รับการสนับสนุนจากถังหง สกายไม่เพียงแต่จะเสียตำแหน่งราชาแห่งความเร็ว แต่ยังต้องสูญเสียคนรัก เหลียง (รับบทโดย จางป๋อจือ) ให้กับเดียร์ไปอีกด้วย เขาจึงตัดสินใจเดินทางไปประเทศไทยเพื่อหลบเลียแผลใจและตามหาพ่อที่ไม่เคยเห็นหน้า ที่นั่นเอง เขาได้เรียนรู้เทคนิคการแข่งรถในรูปแบบใหม่และค้นพบความหมายที่แท้จริงของ “ความเร็ว” ก่อนที่จะกลับมาทวงบัลลังก์ของเขาทั้งในสนามแข่งและในเรื่องของหัวใจคืนอีกครั้ง!
อ่านรีวิวก่อน ดูหนัง
ทำความรู้จักทีมงานและนักแสดง
ผู้กำกับ: แอนดริว เลา (Andrew Lau)
นักแสดงนำ:
เจิ้งอี้เจี้ยน (Ekin Cheng) รับบท สกาย
จางป๋อจือ (Cecilia Cheung) รับบท เหลียง
เยิ่นต๊ะหัว (Simon Yam) รับบท ถังหง
เคลลี่ หลิน (Kelly Lin) รับบท เคลลี่
เคอโซ่วเหลียง (Blackie Ko) รับบท แบล็คกี้ (พ่อของสกาย)
อยากติดตามผลงานอื่นๆ ของพวกเขาไหม? ลองค้นหาบนเว็บ Movie24HD ของเราได้เลย!
โปสเตอร์หนัง
รีวิวภาพรวม: หนังแข่งรถที่ครบเครื่องทั้งแอ็กชันและดราม่า
“The Legend of Speed” คือภาพยนตร์ที่จับเอาเสน่ห์ของหนังฮ่องกงยุค 90s มาไว้ได้อย่างครบถ้วน หนังไม่ได้มีดีแค่ฉากการแข่งขันรถที่ทำออกมาได้น่าตื่นเต้นและสวยงามตามสไตล์ของผู้กำกับแอนดริว เลา แต่ยังอัดแน่นไปด้วยเรื่องราวดราม่าที่เข้มข้น ทั้งเรื่องราวของความรัก, มิตรภาพ, การทรยศ, และการล้างแค้น
เจิ้งอี้เจี้ยน ในบท “สกาย” นั้นเท่และมีเสน่ห์อย่างมาก สมกับเป็นไอคอนของวัยรุ่นในยุคนั้น ในขณะที่ จางป๋อจือ ก็สวยสะกดทุกสายตาและมอบการแสดงที่น่าจดจำ แต่ที่ขโมยซีนและสร้างสีสันให้กับเรื่องได้อย่างยอดเยี่ยมคือ เยิ่นต๊ะหัว ในบทนักเลงผู้โหดเหี้ยมและคาดเดายาก แม้ว่าเนื้อเรื่องอาจจะดูน้ำเน่าไปบ้างตามสไตล์หนังในยุคนั้น แต่ด้วยองค์ประกอบที่ลงตัวทั้งฉากแอ็กชัน, ดราม่า, และเสน่ห์ของนักแสดง ก็ทำให้ “The Legend of Speed” เป็นหนังแข่งรถอีกหนึ่งเรื่องที่ยังคงความคลาสสิกและสามารถหยิบกลับมาดูได้เสมอ
คะแนนจากนักวิจารณ์:
IMDb: 6.1/10
Rotten Tomatoes: (ไม่มีคะแนนจากนักวิจารณ์)
ภาพยนตร์ที่คล้ายกัน
หากคุณชื่นชอบหนังแข่งรถสไตล์เอเชีย เราขอแนะนำเรื่องเหล่านี้:
Initial D (2005) ดริฟท์ติ้ง ซิ่งสายฟ้า : อีกหนึ่งผลงานระดับมาสเตอร์พีซของผู้กำกับ แอนดริว เลา ที่ดัดแปลงจากมังงะชื่อดังได้อย่างสมบูรณ์แบบ เป็นหนังที่คอรถซิ่งทุกคนต้องดู
The Fast and the Furious: Tokyo Drift (2006) เร็ว…แรงทะลุนรก ซิ่งแหกพิกัดโตเกียว : แม้จะเป็นหนังฮอลลีวูด แต่ภาคนี้ได้นำเสนวัฒนธรรมการแข่งรถใต้ดินของญี่ปุ่นได้อย่างน่าตื่นตาตื่นใจ
2000 AD (2000) 2000 AD ฟอร์มูลา เอ็กซ์ : หนังแอ็กชัน-ไซไฟจากฮ่องกงที่ผสมผสานเรื่องราวการแข่งรถเข้ากับการสืบสวนสุดไฮเทค นำแสดงโดย กัวฟู่เฉิง
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
Q: ฉากในเรื่องถ่ายทำที่ประเทศไทยจริงหรือไม่?
A: จริงครับ! ช่วงกลางของเรื่องที่ตัวเอกเดินทางมาตามหาพ่อนั้น ได้มีการยกกองมาถ่ายทำในประเทศไทย ทำให้เราได้เห็นบรรยากาศและสถานที่ที่คุ้นตาปรากฏอยู่ในหนังด้วยครับ
Q: หนังเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับ Initial D หรือไม่?
A: ไม่ได้เกี่ยวข้องกันในด้านเนื้อเรื่องครับ แต่เป็นผลงานของผู้กำกับคนเดียวกัน (แอนดริว เลา) และมีสไตล์การถ่ายทำฉากแข่งรถที่น่าตื่นเต้นและมีเอกลักษณ์คล้ายคลึงกัน
Q: ทำไมหนังเรื่องนี้ถึงเป็นที่จดจำของคนในยุคนั้น?
A: เพราะเป็นหนังที่มาถูกที่ถูกเวลา ในยุคที่กระแสหนังฮ่องกงกำลังเฟื่องฟู และได้นักแสดงนำที่เป็นไอดอลขวัญใจวัยรุ่นอย่าง เจิ้งอี้เจี้ยน มานำแสดง ประกอบกับพล็อตเรื่องที่ครบรสทั้งรัก, โลภ, โกรธ, หลง จึงทำให้เป็นที่ชื่นชอบของผู้ชมในวงกว้าง