ผู้กำกับ: ฟิล อัลเดน โรบินสัน (Phil Alden Robinson) ผู้กำกับจากหนังคลาสสิกอย่าง Field of Dreams
โปสเตอร์หนัง
รีวิวและบทวิเคราะห์
The Sum of All Fears คือหนังทริลเลอร์การเมืองที่ทำออกมาได้อย่างยอดเยี่ยมและน่าติดตาม มันประสบความสำเร็จในการสร้างบรรยากาศของ “วิกฤตการณ์ระดับโลก” ที่เต็มไปด้วยความตึงเครียดและกดดัน
8 ปีครับ … 8 ปี กว่าผมจะได้ดูภาคที่ 4 ของแจ๊ค ไรอัน ก็เรียกว่ารอกันจนเหงือกแห้ง เปลี่ยนเหงือกใหม่ไป 3 รอบกว่าๆ น่ะ ถึงจะได้ดู สาเหตุ ที่ The Sum of All Fears กว่าจะคลอดออกมาก็ตั้ง 8 ปี ก็เพราะเมื่องวดก่อน จำได้มั้ยครับที่ผมบอกไว้ว่า Tom Clancy แกไม่พอใจเอามากๆ ที่ Patriot Games และ Clear and Present Danger ออกมาแตกต่างจากนิยายของแก จนเป็นสาเหตุให้ Clancy ไม่ยอมขายลิขสิทธิ์นิยายตอนต่อๆ มาของแจ๊ค ไรอันให้ Paramount ซะเลย ประมาณว่าหมั่นไส้น่ะครับ แต่ถึงกระนั้น Paramount ก็ยังคงตามตื้ออยู่หลายปีดีดักจน Clancy ยอมกลับมาจูบปากคืนดีด้วยในที่สุดอีก สาเหตุหนึ่งก็คือ โครงการจะสร้างหนังจากนิยายของ Clancy ที่บริษัทอื่นๆ มาตอดไว้ ยังไม่ได้เรื่องซะที ช่วงปี 1994 มีข่าวครับว่าจะมีการเอานิยายเรื่อง Without Remorse ไปสร้าง ซึ่งเรื่องนี้จะมีจอห์น คลาร์คเป็นพระเอก และยังมีข่าวอีกว่าคนที่น่าจะรับบทนั้นไปคือพ่อหนุ่ม Keanu Reeves แต่สุดท้ายหนังก็ไม่ได้สร้างแต่อย่างใด พอเป็นเช่นนี้ Clancy เลยเลิกเล่นตัวครับ กลับมาขายนิยายเรื่องนี้ให้ Paramount ในที่สุด
พอ คิดจะสร้าง Par ก็รีบติดต่อทีมงานชุดเดิมจากหนังสองภาคก่อนให้กลับมาร่วมงานกันครับ ตั้งแต่ผู้กำกับ Phillip Noyce และ Harrison Ford แต่แล้วทั้งสองกลับปฏิเสธไปซะดื้อๆ ครับ ซึ่งจนปัจจุบันก็ยังไม่มีใครออกมาให้ความกระจ่างได้ว่าทำไมพวกเขาถึงไม่ยอม กลับมา ต่อจากนั้นก็มีการติดต่อไปที่ผู้กำกับ Wolfgang Petersen (Air Force One, The Perfect Storm และ Troy) แต่พี่ท่านก็ไม่เล่นด้วยอีก สุดท้ายเก้าอี้ผู้กำกับก็ตกเป็นของ Phil Alden Robinson ยอดฝีมืออีกคน ที่ไม่ได้จับงานกำกับหนังใหญ่มาร่วม 10 ปี
ส่วนเรื่องที่ว่าใครจะมา เล่นเป็นแจ๊ค ไรอัน พอ Ford แกไม่ยอมกลับมาเล่น ทีมงานเลยต้องควานหาคนใหม่ตามระเบียบ และคนที่ได้บทไปก็คือ Ben Affleck ซึ่งสาเหตุที่เขาได้บท ส่วนหนึ่งก็เนื่องมาจากการแนะนำของ Alec Baldwin ผู้ซึ่งเคยรับบทเป็นแจ๊ค ไรอันคนแรกใน The Hunt For Red October ตอน นั้นพอดี Baldwin และ Affleck ได้แสดงหนังเรื่อง Pearl Harbor ร่วมกัน และ Baldwin ก็เห็นอะไรบางอย่างในตัว Affleck ว่าช่างมีอะไรหลายอย่างคล้ายคลึงกับเขา เลยแนะนำมายังผู้สร้าง แล้วก็ได้แสดงในที่สุด และในภาคนี้ แจ๊ค ไรอันถูกลดอายุลงไปครับ เพราะจริงๆ พี่แกต้องเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงในซีไอเอไปแล้ว แต่นี่ เผอิญว่า Ford แกเกิดไม่ยอมกลับมา ทีมงานเลยต้องแก้บทให้แจ๊ค ไรอัน กลายเป็นเพียงเจ้าหน้าที่มือใหม่เพื่อให้เหมาะกับ Affleck ดังนั้นถ้าจะบอกว่านี่เป็นภาคก่อนหน้าแบบกลายๆ ก็คงพอได้น่ะครับ เนื้อหา ภาคนี้ก็เกี่ยวกับการที่มีวายร้ายนีโอนาซีอย่าง เดรสเลอร์ (Alan Bates) ต้องการจะจุดชนวนให้อเมริกากับรัสเซียทำสงครามกัน ทำให้แจ๊คต้องมาสืบหาความจริงทั้งหมด ก่อนที่มันจะเกิดสงครามโลกขึ้นมาจริงๆ