ดูหนัง The Swordsman (2020) จอมดาบคืนยุทธ จงคืนลูกข้ามา
ทุกท่าน! หากคุณกำลังมองหาหนังแอ็คชั่นที่ “ไม่ต้องพูดเยอะ แต่บู๊ล้างผลาญ” และมี “คิวบู๊” ที่ดิบ, เร็ว, และโหดสะใจ วันนี้คุณมาถูกทางแบบสุดๆ! The Swordsman คือภาพยนตร์ที่เปรียบเสมือนการผสมผสานที่ลงตัวระหว่าง Taken (พล็อตพ่อลุยช่วยลูก) กับ Zatoichi (จอมดาบตาบอด)! วันนี้เราจะมา “ดูหนัง” ที่เป็นการโชว์ฟอร์มการแสดงบู๊ที่ดีที่สุดครั้งหนึ่งของ จางฮยอก!
เรื่องย่อ
เรื่องราวเกิดขึ้นในยุคราชวงศ์โชซอนที่กำลังระส่ำระสายจากการเปลี่ยนแปลงการปกครองและการรุกรานของราชวงศ์ชิง แท-ยุล (จางฮยอก) อดีตสุดยอดองครักษ์และจอมดาบที่เก่งกาจที่สุดในแผ่นดิน ได้ปลีกวิเวกไปใช้ชีวิตอย่างเงียบสงบในป่าลึกหลังจากเหตุการณ์นองเลือดในอดีต พร้อมกับ แท-อ๊ก ลูกสาวเพียงคนเดียวของเขา แต่บาดแผลจากอดีตก็ได้ทิ้งร่องรอยไว้… ดวงตาของเขากำลังจะมืดบอดลงทุกขณะ
แต่แล้ว… โลกที่แสนสงบของเขาก็ต้องพังทลายลง เมื่อกลุ่มทหารรับจ้างโหดเหี้ยมจากราชวงศ์ชิง นำโดย กูรูไท (โจ ทาสลิม) ได้บุกเข้ามาในหมู่บ้าน และ “ลักพาตัว” แท-อ๊ก ไปเพื่อเป็นเครื่องบรรณาการ!
เมื่อลูกสาวถูกพรากไป… จอมดาบผู้พยายามจะทิ้งอดีต ก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้อง “ปลุกสัญชาตญาณนักฆ่า” ของเขากลับคืนมาอีกครั้ง! แม้ว่าดวงตาจะใกล้บอดเต็มที เขาก็ขอใช้ “ดาบ” เพียงเล่มเดียว บุกตะลุยฝ่าดงศัตรู เพื่อทวงคืนลูกสาวกลับมา! “จงคืนลูกข้ามา!” movie24hd
อ่านรีวิวก่อน ดูหนัง
นักแสดงนำและผู้กำกับ
- จางฮยอก (Jang Hyuk) รับบทเป็น แท-ยุล: นี่คือการแสดงที่ “แบก” หนังทั้งเรื่อง! เขาทุ่มเทอย่างหนักและโชว์ทักษะการต่อสู้ที่น่าทึ่งในบทบาทจอมดาบตาบอดผู้สิ้นหวัง
- โจ ทาสลิม (Joe Taslim) (จาก The Raid, Mortal Kombat) รับบทเป็น กูรูไท: วายร้ายสุดโหดที่สมน้ำสมเนื้อ
- คิมฮยอนซู (Kim Hyun-soo) รับบทเป็น แท-อ๊ก
- ผู้กำกับ: ชเวแจฮุน (Choi Jae-hoon)
โปสเตอร์หนัง



รีวิวและบทวิเคราะห์
The Swordsman คือ “สวรรค์” ของคนรักหนังดาบซามูไร (หรือดาบเกาหลี!)
- แอ็คชั่นที่ดิบและเร็วที่สุด: นี่คือจุดแข็งที่สุดของหนัง! คิวบู๊ในเรื่องนี้ “เร็ว”, “หนัก”, “คม”, และ “ดุเดือด” อย่างที่สุด ไม่มีการเต้นระบำสวยงาม แต่คือการฟาดฟันที่เน้นผลลัพธ์และการเอาชีวิตรอด
- จางฮยอก คือของจริง: การแสดงของ จางฮยอก ทำให้เราเชื่อได้ว่าเขาคือ “จอมดาบ” จริงๆ ความคล่องแคล่วและการใช้ดาบของเขานั้นน่าทึ่งมาก
- การปะทะในฝัน: การได้เห็น จางฮยอก (ปรมาจารย์ดาบเกาหลี) มาปะทะกับ โจ ทาสลิม (ปรมาจารย์การต่อสู้ระยะประชิดจากอินโดนีเซีย) คือ “ไฟต์หยุดโลก” ที่คอหนังแอ็คชั่นรอคอย และมันก็ไม่ทำให้ผิดหวัง!
- พล็อตเรื่องที่ตรงไปตรงมา: หนังไม่ซับซ้อน พล็อตเรื่อง “พ่อล้างแค้นทวงคืนลูก” คือสูตรสำเร็จที่ “เวิร์ค” เสมอ มันทำให้เราเอาใจช่วยพระเอกได้อย่างเต็มที่
- IMDb: ให้คะแนนสูงถึง 7.1/10
- Rotten Tomatoes: ได้รับคะแนนจากฝั่งนักวิจารณ์สูงลิ่วถึง 100% (Certified Fresh)! (จาก 14 รีวิว)
shide_85
⭐ 6/10
กลอุบายที่ซับซ้อน (ไม่ได้ชี้ชัด แต่ทำให้ชัดเจนขึ้นด้วยบทสนทนาบางส่วนที่ไม่ได้อธิบายรายละเอียดหรือตัดทอนออกไป) การเล่นดาบที่เกินความคาดหมาย ศิลปะการต่อสู้ที่ดี เอฟเฟกต์ที่ดี และอารมณ์บางส่วนที่แฝงอยู่ใต้เนื้อเรื่องและบทสนทนา หากคุณมองเห็น ข้อเสียอย่างเดียวคือมันก้าวไปไกลเกินไปอย่างน้อย 1 จุด หรืออาจจะ 2 จุด ไม่ได้ถึงขั้นทำให้เสียอรรถรสทั้งหมด แต่ก็มากพอที่จะทำให้คนที่หลงใหลจนถึงจุดนั้นรู้สึกกังวล การตีความของนักดาบยังแสดงให้เห็นว่าปรมาจารย์ศิลปะการต่อสู้ (พยายาม) รับมือกับการโจมตีจากฝ่ายตรงข้ามหลายคนอย่างไร ความท้าทายที่ดีคือตัวร้ายที่พยายามรักษาสมดุลให้อยู่ในระดับที่เกือบจะเป็นฝ่ายร้าย แทนที่จะทำตัวชั่วร้ายตลอดเวลา
Foutainoflife
⭐ 6/10
สิ่งหนึ่งที่โดนใจผมจริงๆ ในหนัง Good Guy vs Bad Guy คือตอนที่ “Bad Guy” เล่นบทประชดประชันแบบประชดประชันพร้อมกับรอยยิ้มเยาะเย้ยหยัน พวกตัวร้ายในเรื่องนี้ต่างก็อินกับลักษณะนิสัยนี้มาก มันเยี่ยมมาก อย่างน้อยก็สำหรับผม เพราะมันทำให้ผมไม่ชอบตัวละครตัวนี้มากขึ้น และรู้สึกอินไปกับสิ่งที่เกิดขึ้นมากขึ้น หนังเรื่องนี้ทำออกมาได้ดีทีเดียว มีการแสดงดาบและศิลปะการต่อสู้ที่ออกแบบมาได้ดีมาก แต่ก็มีเนื้อเรื่องแฝงที่ให้ความรู้สึกดราม่า ดังนั้นหนังจึงไม่ได้เน้นแอ็คชั่นอย่างเดียว หนังทำออกมาได้ดีและเหมาะสม แต่น่าจะเพิ่มรายละเอียดเกี่ยวกับตัวละครหลักของเราอีกหน่อย ผมอยากเห็นรายละเอียดมากกว่านี้อีกหน่อย ผมขอแนะนำหนังเรื่องนี้เลย ถ้าคุณชอบหนังย้อนยุคเกาหลีที่มีฉากดาบสุดยอด ผมคิดว่าคุณจะไม่ผิดหวังแน่นอน
its-me
⭐ 7/10
แทยูล อดีตนักดาบผู้ยิ่งใหญ่ที่ตอนนี้ได้รับบาดเจ็บ อาศัยอยู่บนภูเขากับลูกสาวของเขา เมื่ออาการบาดเจ็บที่ดวงตาของเขาแย่ลง ลูกสาวจึงตัดสินใจลงมาจากภูเขา ด้วยเหตุผลบางอย่าง เธอพบว่าตัวเองกำลังอยู่ท่ามกลางแผนการทางการเมืองและถูกลักพาตัวไป แทยูลต้องต่อสู้กับเหล่านักดาบและนักฆ่ามากมายเพื่อช่วยชีวิตเธอ ด้วยอาการบาดเจ็บและอดีตที่ตามหลอกหลอนเขา เขาจะช่วยลูกสาวของเขาได้หรือไม่? ภาพยนตร์มีเรื่องราวมากมายอัดแน่นในช่วงเวลาสั้นๆ เรื่องราวเริ่มต้นอย่างสงบสุข เราได้เห็นพ่อและลูกสาวใช้ชีวิตอย่างสงบสุขบนภูเขา เมื่อพวกเขาลงมาจากภูเขา เราได้เห็นการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง เมื่อกลุ่มพ่อค้าทาสจากราชวงศ์ชิงก่อความวุ่นวายในราชวงศ์หมิง ในตอนแรกแทยูลเพิกเฉย แต่กลับกลายเป็นหายนะเมื่อลูกสาวถูกลักพาตัวไป นี่คือจุดเริ่มต้นของความสนุกที่แท้จริง การต่อสู้ด้วยดาบอันดุเดือดและนองเลือดกับเหล่าวายร้ายนับสิบ มีภาพย้อนอดีตที่บ่งบอกว่าแทยูลไม่ได้เรียบง่ายอย่างที่เห็น มีนักดาบสุดโหดสองคนคอยขัดขวางแทยูล การต่อสู้ของบอสทั้งสองครั้งนั้นยอดเยี่ยมมาก
หนังเรื่องนี้ดูดีมาก ชอบการถ่ายภาพมาก ฉากต่อสู้ก็ยอดเยี่ยม ยิ่งหนังดำเนินไป การต่อสู้ก็ยิ่งเข้มข้นขึ้น ท่าต่อสู้ด้วยดาบนั้นยอดเยี่ยมมาก และฉากแอ็คชั่นก็น่าพึงพอใจ สิ่งที่ฉันชอบที่สุดคือเพลงประกอบ (BGM) ที่ช่วยเพิ่มอารมณ์ให้กับหนังได้อย่างมาก เข้มข้น รุนแรง และกระชับ ดูแล้วเพลินมาก ประหลาดใจที่ผู้กำกับสามารถถ่ายทอดอะไรออกมาได้มากมายขนาดนี้ในเวลาสั้นๆ เป็นหนังแอ็คชั่นที่ยอดเยี่ยมมาก ฉันชอบบุคลิกของพระเอกที่ดูเงียบๆ แต่แฝงไปด้วยความอันตราย การต่อสู้นั้นน่าพึงพอใจมาก ให้ความรู้สึกเหมือนคนไร้ตัวตนแต่มีดาบอยู่ในมือ แนะนำเลย
ภาพยนตร์ที่คล้ายกัน
หากคุณหลงใหลในหนังแอ็คชั่นล้างแค้นสุดดิบ เราขอแนะนำ:
- The Man from Nowhere (2010) นักฆ่าฉายาเงียบ: หนังที่ต้องดู! หากคุณชอบพล็อต “ลุงโหดลุยเดี่ยวช่วยเด็กสาว”
- John Wick (2014): หากคุณชอบพระเอกที่เก่งเวอร์และลุยแหลก
- Taken (2008) ฅนคมล่าไม่ยั้ง: ต้นตำรับหนัง “พ่อลุยช่วยลูก” แห่งยุคใหม่
- Zatoichi (2003) ซาโตอิจิ ไอ้บอดซามูไร: หากคุณชอบความเท่ของ “จอมดาบตาบอด”
คำถามที่พบบ่อย (Q&A)
Q: หนังเรื่องนี้โหดและเลือดสาดมากไหม?
A: โหดและเลือดสาดมาก! เป็นหนังเรท R ที่เต็มไปด้วยฉากฟันดาบที่รุนแรงและสมจริง เหมาะสำหรับคอหนังแอ็คชั่นสายแข็ง
Q: ไม่ใช่แฟนหนังเกาหลี จะดูสนุกไหม?
A: สนุกแน่นอน นี่คือ “ภาษาสากล” ของหนังแอ็คชั่น ถ้าคุณชอบ John Wick หรือ The Raid คุณจะสนุกกับเรื่องนี้ได้อย่างแน่นอน
Q: การต่อสู้ของ จางฮยอก กับ โจ ทาสลิม มันส์จริงเหรอ?
A: เป็นฉากไคลแม็กซ์ที่ “ยอดเยี่ยม” และ “ดุเดือด” ที่สุดฉากหนึ่งเลยครับ!
บทสรุป: The Swordsman (2020) คือหนึ่งในหนังแอ็คชั่นย้อนยุคที่ “มันส์ที่สุด” ในรอบหลายปี เป็นการโชว์ฟอร์มที่ยอดเยี่ยมของ จางฮยอก และเป็นหนังที่คอหนังบู๊ “ห้ามพลาด” ด้วยประการทั้งปวง!