ทำความรู้จักทีมงานและนักแสดง
ผู้กำกับ: ปีเตอร์ ซีกัล (Peter Segal)
นักแสดงนำ:
คริส ฟาร์ลีย์ (Chris Farley) รับบท ทอมมี่ คัลลาแฮน
เดวิด สเปด (David Spade) รับบท ริชาร์ด เฮย์เดน
โบ ดีเร็ก (Bo Derek) รับบท เบเวอร์ลี่
แดน แอครอยด์ (Dan Aykroyd) รับบท เรย์ ซาลินสกี้
ร็อบ โลว์ (Rob Lowe) รับบท พอล
อยากติดตามผลงานอื่นๆ ของพวกเขาไหม? ลองค้นหาบนเว็บ Movie24HD ของเราได้เลย!
โปสเตอร์หนัง
รีวิวภาพรวม: หนังคอมเมดี้สุดคลาสสิกที่ทั้งฮาและอบอุ่นหัวใจ
“Tommy Boy” คือภาพยนตร์ที่สมบูรณ์แบบในแง่ของการเป็นหนังคอมเมดี้คู่หู หัวใจสำคัญที่ทำให้หนังเรื่องนี้เป็นอมตะคือ “เคมี” ที่เข้ากันได้อย่างมหัศจรรย์ระหว่าง คริส ฟาร์ลีย์ และ เดวิด สเปด พลังการแสดงตลกแบบเจ็บตัว (Physical Comedy) ที่เป็นธรรมชาติของฟาร์ลีย์ ปะทะกับมุกตลกหน้าตายและคำเหน็บแนมสุดเจ็บแสบของสเปด คือส่วนผสมที่ลงตัวและสร้างเสียงหัวเราะได้ตลอดทั้งเรื่อง
หนังเต็มไปด้วยฉากที่น่าจดจำมากมาย ตั้งแต่ฉาก “Fat Guy in a Little Coat” ไปจนถึงฉากที่กวางตื่นขึ้นมาทำลายรถ ทั้งหมดนี้ได้กลายเป็นฉากคลาสสิกที่แฟนๆ ยังคงพูดถึงกันอยู่เสมอ
แต่ภายใต้ความตลกบ้าๆ บอๆ หนังยังสอดแทรกเรื่องราวที่อบอุ่นหัวใจเกี่ยวกับมิตรภาพ, การก้าวข้ามผ่านความสูญเสีย, และการเติบโตเป็นผู้ใหญ่ได้อย่างน่าประทับใจ นี่คือหนังที่ดูแล้วทำให้เรารู้สึก “ดี” และเป็นผลงานที่ทำให้เราคิดถึง คริส ฟาร์ลีย์ ผู้จากไปก่อนวัยอันควร
คะแนนจากนักวิจารณ์:
IMDb: 7.1/10
Rotten Tomatoes: 41% (คะแนนจากฝั่งนักวิจารณ์ แต่คะแนนฝั่งผู้ชมสูงถึง 90%!)
หมื่นทิพ
Tommy Boy ถือเป็นผลงานแจ้งเกิดเรื่องสำคัญของดาราตลกร่างท้วมจากสำนัก Saturday Night Live อย่าง Chris Farley ครับ ซึ่งก็บอกตรงๆ ว่ายังรู้สึกเสียดายนายคนนี้อยู่ไม่หาย เพราะแม้จะได้เกิดเต็มตัวจากหนังเรื่องนี้ แต่เพียง 2 ปีหลังจากนั้นเขาก็จากโลกนี้ไป (อันเนื่องมาจากยาเสพติดน่ะครับ) Farley รับบท ทอมมี่ ลูกชายคนเดียวของบิ๊กทอม (Brian Dennehy) เจ้าของโรงงานผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ชื่อดัง ซึ่งบิ๊กทอมด่วนจากโลกนี้ไปก่อนครับ ทำให้ทอมมี่ต้องทำทุกอย่างเพื่อปกป้องโรงงาน ก่อนมันจะโดนขายต่อให้กับผู้ซื้อรายใหญ่อย่างซาลินสกี้ (Dan Aykroyd)
พล็อตเรื่องมาในสไตล์หนังของ Adam Sandler ครับ ตัวเอกเป็นพวกต๊องๆ มองโลกแง่ดี ดูไม่ค่อยเป็นโล้เป็นพาย แล้วก็มีลูกบ้าเป็นพักๆ ซึ่ง Farley ก็แสดงบทนี้ในแนวทางของตัวเองได้ค่อนข้างน่ารักครับ แล้วที่สำคัญเลยคือเขาได้ประกบคู่กับดาราตลกจากสำนักเดียวกันอย่าง David Spade รายนี้รับบทริชาร์ด เป็นเพื่อนที่คอยช่วยประคองทอมมี่ให้ทำงานลุล่วง ซึ่งลีลาของ Spade เข้ากับ Farley อย่างพอดีครับ เพราะ Farley ออกแนวต๊องๆ บ้าๆ ใช่ไหมฮะ ส่วน Spade นี่มาแนวนิ่งๆ ตลกหน้าตาย ดูมีสติอยู่บ้าง และชอบพูดเสียดสีประชดการกระทำของทอมมี่ ซึ่งมันกลายเป็นความลงตัวแบบพอดีครับ Farley ก็บ้ากันไป Spade ก็จิกกัดหลอกด่าไปเรื่อยๆ มันเข้ากันดีจริงๆ
ตัวหนังนั้นจัดว่าดูได้เพลินๆ ครับ ฮาใช้ได้ คลายเครียดดี ที่ผมชอบอย่างหนึ่งคือแม้ตัวละครหลักของหนังจะออกแนวต๊องๆ บ๊องๆ แต่หนังก็ไม่ได้บ้าจนหลุดโลก เท้ายังติดดันยืนอยู่ในโลกความจริง ที่สำคัญคือหนังอาจมีมุกห่ามๆ มุกผู้ใหญ่ๆ หรือมุกลามกอยู่บ้าง แต่มันไม่เกินงามครับ ไม่ล้ำเส้น ถือว่าอยู่ในระดับที่พอดี ซึ่งโดยส่วนตัวผมมองว่าจุดนี้สำคัญนะ เพราะระดับความเรตของมุกก็มีผลต่อภาพลักษณ์ของตัวละครเหมือนกัน ถ้ามุกมันเกินไปก็จะไปลดทอนความน่ารักของตัวละครได้ ซึ่งถือว่าดีครับที่หนังไม่เลือกที่จะล้ำเส้นแบบที่หนังหลายๆ เรื่องทำ
หนังกำกับโดย Peter Segal ซึ่งรายนี้ก็อย่างที่ผมเคยบอกครับ หนังจะสนุกหรือไม่ขึ้นกับดารากับบทหนัง หาก 2 อย่างนี้ไปกันได้ หนังก็จะออกมาโอเค ว่าง่ายๆ คือ Segal นั้นอาจไม่ใช่ผู้กำกับที่มีลายเซ็นต์เด่นชัดครับ ลูกเล่นลีลาเฉพาะตัวอาจไม่เยอะ พี่แกทำหนังตามวัตถุดิบที่มี มีเท่าไรก็ใส่ไปตามนั้น ไม่ปรุงเพิ่ม ไม่เล่นท่ายาก ซึ่งผมมองว่าแบบนี้ก็ยังถือว่าดีน่ะนะครับ เพราะโลกนี้มีผู้กำกับที่สามารถทำให้หนังเลอะเทอะเละเทะได้ ทั้งๆ ที่วัตถุดิบอยู่ในขั้นดีแท้ๆ ดังนั้นการที่ผลงาน Segal มักออกมาประมาณนี้ อาจไม่ดีเด่มากมาย แต่อย่างน้อยเขาก็ทำให้บทหนังที่มี ออกมาเข้าท่าไม่เละเทะ – ผมมองว่าก็ยังถือว่าดีน่ะครับแบบนี้
ครับ หนังสนุกดี ดูเพลินดี หลายคนยกให้นี่เป็นหนังที่สนุกที่สุดของ Farley และ Spade ซึ่งผมก็เห็นด้วยนะ เพียงแต่ก็ต้องออกตัวครับว่าแม้ผมจะเพลินและสนุกกับหนัง แต่ก็ยังไม่ถึงกับชอบมากนัก ถ้าถามว่าเพราะอะไร ก็ตอบได้ว่าคงเพราะหนังยังขาดบางสิ่งน่ะครับ อย่างเช่นมิติตัวละคร หรือความอ่อนโยนน่ารักบางอย่าง เพราะเท่าที่เป็นนี่คือตัวละครดูขำจริง ตลกจริง แต่มันก็ออกจะดูแบนราบไปนิด ซึ่งจริงๆ ก็ไม่แปลกครับ เพราะหนังยุคแรกๆ ของ Adam Sandler ก็เป็นแบบนี้เหมือนกัน คือเน้นขำเน้นห่ามแต่ไม่เน้นอารมณ์ ต้องรอจนถึงรุ่น The Wedding Singer น่ะครับถึงจะมีอะไรอบอุ่นๆ มาเพิ่มความน่ารักให้กับเรื่องราว ก็เพราะแบบนี้แหละครับผมถึงรู้สึกเสียดาย เพราะแสงในตัว Farley นั้นถือว่าเพิ่งเริ่มได้ฉายเท่านั้นเอง ถ้าเขาไม่ด่วนจากไปก่อนนี่ก็ไม่แน่นะครับ งานชิ้นหลังๆ ของเขาอาจมีอะไรมากกว่านี้ก็ได้
rob
⭐ 8/10
ผมดูหนังเรื่องนี้โดยที่ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับตัวหนังเลยแม้แต่น้อย รวมถึงนักแสดงอย่างคริส ฟาร์ลีย์และเดวิด สเปดด้วย ต้องบอกเลยว่าหนังเรื่องนี้เป็นหนังตลกคลาสสิกเลยทีเดียว บางครั้งมันก็งี่เง่าจนน่าขำ ฟาร์ลีย์แสดงได้อย่างยอดเยี่ยมในบทไอ้โง่งี่เง่าที่ออกเดินทางกับมือขวาของพ่อ (สเปด) ที่ยอดเยี่ยมไม่แพ้กันเพื่อหาเงินทุนมาช่วยธุรกิจอะไหล่รถยนต์ของครอบครัว ผ่อนคลาย ปล่อยสมองให้ว่าง แล้วดื่มด่ำไปกับความสนุก นักแสดงสมทบที่ยอดเยี่ยมนำแสดงโดยนักแสดงคนโปรดอย่างไบรอัน เดนเนฮี (Cocoon), ร็อบ โลว์ (Wayne’s World) และโบ เดเร็ก (“10”) แนะนำเป็นอย่างยิ่งสำหรับหนังตลกที่ดูแล้วขำกลิ้ง
ภาพยนตร์ที่คล้ายกัน
หากคุณชื่นชอบหนังคอมเมดี้แนวคู่หู-เดินทาง เราขอแนะนำเรื่องเหล่านี้:
Dumb and Dumber (1994) ใครว่าเราแกล้งโง่…วะ : ตำนานหนังคู่หูสุดบ๊องของ จิม แคร์รี่ และ เจฟฟ์ แดเนียลส์ ที่ออกเดินทางข้ามประเทศ
Planes, Trains and Automobiles (1987) : การเดินทางสุดป่วนของสองชายต่างขั้วที่ต้องร่วมทางกันกลับบ้านให้ทันวันขอบคุณพระเจ้า
Black Sheep (1996) : การกลับมาร่วมงานกันอีกครั้งของคู่หู คริส ฟาร์ลีย์ และ เดวิด สเปด ในเรื่องราวการเมืองสุดฮา
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
Q: ทำไมนักวิจารณ์ถึงให้คะแนนน้อยกว่าผู้ชมอย่างมหาศาล?
A: นักวิจารณ์ในยุคนั้นอาจจะมองว่าหนังมีพล็อตเรื่องที่ค่อนข้างจะธรรมดาและมุกตลกที่ดูไร้สาระ แต่ผู้ชมทั่วไปกลับชื่นชอบอย่างถล่มทลายในความฮาที่เข้าถึงง่ายและเคมีที่สมบูรณ์แบบของคู่หู ฟาร์ลีย์-สเปด ซึ่งทำให้หนังกลายเป็น “คัลท์คลาสสิก” ที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ตลอดหลายปีที่ผ่านมา
Q: คริส ฟาร์ลีย์ และ เดวิด สเปด เป็นเพื่อนซี้กันในชีวิตจริงหรือไม่?
A: ใช่ครับ! ทั้งสองคนเป็นเพื่อนซี้กันมาตั้งแต่สมัยที่ยังเป็นนักแสดงในรายการตลกชื่อดัง Saturday Night Live (SNL) ซึ่งความสนิทสนมในชีวิตจริงนี่เองที่ทำให้เคมีของพวกเขาทั้งคู่ในหนังดูเป็นธรรมชาติและน่าเชื่อถืออย่างมาก
Q: หนังเหมาะกับผู้ชมกลุ่มไหน?
A: เหมาะสำหรับคนที่ชื่นชอบหนังคอมเมดี้สไตล์ยุค 90s, แฟนๆ ของคริส ฟาร์ลีย์ และคนที่อยากดูหนังเบาสมองที่ให้ทั้งเสียงหัวเราะและความรู้สึกดีๆ