ดูหนัง Underdog (2007) อันเดอร์ ด็อก ยอดสุนัขพิทักษ์โลก
ทุกท่าน! “There’s no need to fear… Underdog is here!” ใครที่เป็นแฟนการ์ตูนคลาสสิกยุค 60s จะต้องคุ้นเคยกับประโยคเปิดตัวสุดเท่นี้อย่างแน่นอน และในปี 2007 ดิสนีย์ก็ได้นำเอาซูเปอร์ฮีโร่สี่ขาในตำนานกลับมาโลดแล่นอีกครั้งในรูปแบบภาพยนตร์ Live-Action! วันนี้เราจะมา “ดูหนัง” ที่เป็นการผสมผสานระหว่างหนังครอบครัวสุดน่ารัก, หนังซูเปอร์ฮีโร่สุดป่วน, และหนังตลกสัตว์พูดได้!
เรื่องย่อ
เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นเมื่อ ชูไชน์ (ให้เสียงโดย เจสัน ลี) สุนัขบีเกิลผู้โชคร้าย ต้องประสบอุบัติเหตุในห้องทดลองสุดเพี้ยนของนักวิทยาศาสตร์ผู้ชั่วร้าย ดร.ไซมอน บาร์ซินิสเตอร์ (ปีเตอร์ ดิงค์เลจ) อุบัติเหตุครั้งนั้นทำให้ชูไชน์ได้รับพลังเหนือมนุษย์ (หรือเหนือหมา?) มาอย่างไม่คาดฝัน! ทั้งพละกำลังมหาศาล, ความเร็วสูง, และที่สำคัญที่สุดคือ… ความสามารถในการ “บิน” และ “พูด”!
ชูไชน์ได้หลบหนีออกมาและได้รับการช่วยเหลือจาก แดน อันเจอร์ (จิม เบลูชี) อดีตตำรวจผู้เป็นยามรักษาความปลอดภัย และ แจ็ค (อเล็กซ์ นิวเบอร์เกอร์) ลูกชายวัยรุ่นของเขา แจ็คได้รับเลี้ยงชูไชน์ไว้โดยไม่รู้ถึงพลังที่ซ่อนอยู่
แต่เมื่อ ดร.บาร์ซินิสเตอร์ และลูกสมุนจอมซื่อบื้อ แคด (แพทริก วอร์เบอร์ตัน) เริ่มก่อแผนการร้ายเพื่อยึดครองเมือง “แคปปิตอล ซิตี้” ชูไชน์จึงต้องสวมชุดฮีโร่สีแดง (ที่เขาบังเอิญไปเจอ) และกลายร่างเป็น “อันเดอร์ด็อก” ยอดสุนัขพิทักษ์โลก! เขาต้องเรียนรู้ที่จะควบคุมพลังใหม่, ปกป้องเมือง, รักษาความลับตัวตนจากครอบครัวใหม่, และเอาชนะใจ พอลลี่ เพียวเบรด (ให้เสียงโดย เอมี่ อดัมส์) สุนัขสแปเนียลสาวสวยที่เขาแอบปิ๊ง movie24hd
อ่านรีวิวก่อน ดูหนัง
นักแสดงนำ: คนจริงปะทะเสียงพากย์!
ทีมคนแสดง:
ปีเตอร์ ดิงค์เลจ (Peter Dinklage) รับบทเป็น ดร.ไซมอน บาร์ซินิสเตอร์: การแสดงสุดโอเวอร์แอ็คติ้งที่ขโมยซีนที่สุดในเรื่อง! (ในยุคก่อนที่เขาจะดังเป็นพลุแตกจาก Game of Thrones )
จิม เบลูชี (Jim Belushi) รับบทเป็น แดน อันเจอร์
อเล็กซ์ นิวเบอร์เกอร์ (Alex Neuberger) รับบทเป็น แจ็ค อันเจอร์
ทีมพากย์เสียง:
เจสัน ลี (Jason Lee) (จาก Alvin and the Chipmunks ) ให้เสียงเป็น ชูไชน์ / อันเดอร์ด็อก
เอมี่ อดัมส์ (Amy Adams) ให้เสียงเป็น พอลลี่ เพียวเบรด
ผู้กำกับ: เฟรเดอริก ดู เชา (Frederik Du Chau) (ผู้กำกับจาก Racing Stripes )
โปสเตอร์หนัง
รีวิวและบทวิเคราะห์
Underdog คือหนังครอบครัวที่ “เบาสมอง” และ “ดูง่าย” อย่างแท้จริง
สำหรับแฟนๆ รุ่นเยาว์: หนังเรื่องนี้สร้างมาเพื่อเอาใจเด็กๆ โดยเฉพาะ ด้วยพล็อตเรื่องที่เรียบง่าย, มุกตลก Slapstick, และตัวละครหมาพูดได้สุดน่ารัก
ปีเตอร์ ดิงค์เลจ คือ MVP: การแสดงสุดฮาและเต็มไปด้วยพลังงานของ ปีเตอร์ ดิงค์เลจ ในบทบาทวายร้ายสุดเพี้ยน คือส่วนที่ดีที่สุดและน่าจดจำที่สุดของหนังเรื่องนี้
ข้อจำกัดที่ชัดเจน: ต้องยอมรับว่าหนังเรื่องนี้ไม่ได้มีความทะเยอทะยานหรือความลึกซึ้งใดๆ บทภาพยนตร์ค่อนข้างจะสูตรสำเร็จและคาดเดาได้ง่าย และ “งานภาพ CGI” โดยเฉพาะการขยับปากของเหล่าสัตว์นั้นดู “แข็ง” และ “ล้าสมัย” อย่างเห็นได้ชัดเมื่อเทียบกับมาตรฐานปัจจุบัน (หรือแม้แต่ในยุคนั้นก็ตาม)
IMDb: ให้คะแนน 4.8/10
Rotten Tomatoes: ได้รับคะแนนจากฝั่งนักวิจารณ์เพียง 14% แต่ก็เป็นหนังที่เด็กๆ ในยุคนั้นสามารถเพลิดเพลินไปกับมันได้
lisafordeay
⭐ 6/10
Underdog สร้างจากซีรีส์แอนิเมชันทีวีต้นฉบับที่ออกฉายเมื่อหลายปีก่อน เล่าเรื่องราวของสุนัขชื่อ Shoeshine ที่หลังจากประสบเหตุร้ายแรงกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในขณะที่เข้าร่วมกองกำลังในขณะนั้น สุดท้ายมันถูกส่งตัวไปยังสถานกักขังที่นักวิทยาศาสตร์ชั่วร้าย (รับบทโดย Peter Dinklidge) กำลังทำการทดลอง แต่ Shoeshine กลับมีพลังเหนือมนุษย์ Shoeshine (ให้เสียงโดย Jason Lee จาก Alvin & The Chipmunks) บังเอิญเจอสำนักงานตำรวจเก่า (รับบทโดย Jim Belushi) และลูกชายของเขาที่รับ Shoeshine ไปดูแล Shoeshine และ Shoeshine ก็กลายเป็นเพื่อนกับลูกชายของ Belushi แน่นอนว่านักวิทยาศาสตร์ชั่วร้ายกำลังตามล่าเขา และเขาต้องปกปิดพลังที่เพิ่งค้นพบนี้ไว้เป็นความลับโดยการสวมชุดและเรียกตัวเองว่า เขาชนะใจสุนัขพันธุ์ค็อกเกอร์สแปเนียล (ให้เสียงโดย Amy Adams จาก Enchanted) ซึ่ง Molly (รับบทโดยหญิงสาวจาก The Grinch Taylor Monsom)
เจ้าของของ Shoeshine เป็นมิตรกับเจ้าของคนใหม่ของ Shoeshine ดังนั้น Shoeshine จะช่วยโลกจากมนุษยชาติ เพลงประกอบโดย Randy Eldeman ผู้แต่งเพลงประกอบให้กับหนังอย่าง While You Were Sleeping, Leap Year, The Mask, 27 Dresses และอื่นๆ อีกมากมาย กำกับโดยผู้กำกับคนเดียวกันที่กำกับ Racing Stripes Underdog จริงๆ แล้วก็ไม่ได้แย่นะ สมควรได้รางวัลออสการ์ไหม? ไม่ เป็นหนังดิสนีย์ที่ดีที่สุดตลอดกาลไหม? แต่สนุกไหม? ใช่ ใช่ โดยรวมแล้วผมชอบนะ เพราะไม่ได้ดูมานานแล้ว Jason Lee รับบท /Shoeshine ได้ดี แต่ผมอดคิดไม่ได้ว่าเขารับบทเป็น Dave จากซีรีส์ Alvin & The Chipmunks รวมถึง Amy Adams ผู้ให้เสียงสุนัขพันธุ์ค็อกเกอร์สแปเนียลที่เขาสนใจ
MartianOctocretr5
⭐ 6/10
พวกเขาทำอีกแล้ว: ฉีกชื่อรายการเก่าทิ้ง แล้วทำลายความทรงจำเก่าๆ ด้วยของที่ “สร้างใหม่” น่าเบื่อ การ์ตูนยุค 60 นี่เป็นหนึ่งในการ์ตูนที่ตลกที่สุดในยุคนั้น เป็นการเสียดสีหนังสือการ์ตูนซูเปอร์ฮีโร่แบบสบายๆ ตัวละครถูกวาดให้เหมือนสัตว์ครึ่งคนครึ่งคน เหมือนกับมิกกี้เม้าส์ คราวนี้พวกเขาใช้บีเกิลจริงๆ เหมือนกับการทำนาฬิกามิกกี้เม้าส์ด้วยหนูจริงๆ ลูกเล่นสุดบรรเจิดที่ทำให้รายการต้นฉบับตลกหายไปจากหนังเรื่องนี้ แทนที่จะได้สุนัขตำรวจตัวเก่าที่เงอะงะ โง่กว่าแคดอีก และเจ้าของสัตว์เลี้ยงบางคนก็ไม่ได้เพิ่มอะไรให้กับเนื้อเรื่องเลย เอฟเฟกต์เชยๆ (แอนิเมชันเสียงหมานี่น่าอายจริงๆ) บทแย่ คนแคระที่ซ้ำซากจำเจเล่นเป็นไซมอน บาร์ ซินิสเตอร์ หนุ่มเสียงแหบพร่าที่พวกเขาจ้างมาพากย์เสียงอันเดอร์ด็อกก็น่ารำคาญ คุณคงคิดว่าอย่างน้อยพวกเขาน่าจะได้เสียงแบบอิมเพรสชันนิสม์มาเทียบเคียงกับเสียงอันเป็นเอกลักษณ์และอารมณ์ขันของวอลลี่ ค็อกซ์ในเรื่อง Underdog แต่เปล่าเลย อย่างน้อยก็มีการอ้างอิงถึงเนื้อหาต้นฉบับอย่างน่ารักอยู่บ้าง (เช่น ท่อนที่คล้องจอง) ซึ่งยกระดับขึ้นไปเป็น 4 เฉพาะเด็กเล็กที่รักสุนัขเท่านั้นที่จะสนุกกับเรื่องนี้ได้ คนอื่นๆ ควรซื้อดีวีดีการ์ตูนชุดต้นฉบับมาดู ดูเฉพาะตอนสิ้นหวังเท่านั้น
ภาพยนตร์ที่คล้ายกัน
หากคุณชื่นชอบหนังครอบครัวแนวสัตว์พูดได้ เราขอแนะนำ:
Racing Stripes (2005) : ผลงานเรื่องก่อนหน้าของผู้กำกับคนเดียวกัน ที่ว่าด้วยม้าลายอยากเป็นม้าแข่ง
Beverly Hills Chihuahua (2008) : หนังหมาคุณหนูหลงทางผจญภัย
Cats & Dogs (2001) : หนังสงครามลับระหว่างหมากับแมว
Garfield: The Movie (2004) : การผจญภัยของเจ้าแมวส้มจอมขี้เกียจฉบับ Live-Action
คำถามที่พบบ่อย (Q&A)
Q: หนังเรื่องนี้สร้างจากการ์ตูนเหรอ?
A: ใช่! สร้างจากตัวการ์ตูนสุดคลาสสิกในชื่อเดียวกันที่โด่งดังอย่างมากในอเมริกาช่วงยุค 60s ซึ่งเป็นที่รู้จักจากประโยคติดปาก “There’s no need to fear, Underdog is here!”
Q: ไม่เคยดูการ์ตูนมาก่อน จะดูรู้เรื่องไหม?
A: ดูรู้เรื่องแน่นอน เพราะหนังเล่าเรื่องราวต้นกำเนิด (Origin Story) ของอันเดอร์ด็อกใหม่ทั้งหมด
Q: หนังเรื่องนี้เหมาะกับเด็กๆ ไหม?
A: เหมาะมาก! เป็นหนังเรท PG ที่สมบูรณ์แบบสำหรับทั้งครอบครัว มีแอ็คชั่นแบบการ์ตูนที่ไม่รุนแรงและมุกตลกเบาสมอง
บทสรุป: Underdog คือภาพยนตร์ครอบครัวที่เรียบง่าย, เบาสมอง, และดูได้เพลินๆ เป็นความบันเทิงที่ไม่ซับซ้อนสำหรับเด็กๆ และเป็นโอกาสที่จะได้เห็น ปีเตอร์ ดิงค์เลจ ในบทบาทสุดฮาก่อนที่เขาจะกลายเป็นทีเรียน แลนนิสเตอร์ หากคุณกำลังมองหาหนังเบาๆ ไว้ดูในวันหยุดกับลูกหลาน… ยอดสุนัขพิทักษ์โลกตัวนี้ก็พร้อมจะมอบรอยยิ้มให้คุณ