ทำความรู้จักทีมงานและนักแสดง
- ผู้กำกับ: พัคบอมซู (Park Bum-soo)
- นักแสดงนำ:
อยากติดตามผลงานอื่นๆ ของพวกเขาไหม? ลองค้นหาบนเว็บ Movie24HD ของเราได้เลย!
โปสเตอร์หนัง



รีวิวภาพรวม: หนังฟีลกู้ดที่เต็มไปด้วยพลังและเสียงเพลง
“Victory” คือภาพยนตร์ที่ประสบความสำเร็จอย่างงดงามในการเป็นหนัง “ฟีลกู้ด” ที่ดูแล้วมีความสุขอย่างแท้จริง จุดแข็งที่สุดของหนังคือ “บรรยากาศยุค 90s” ที่ถูกสร้างขึ้นมาได้อย่างสมบูรณ์แบบ ทั้งเพลงประกอบที่อัดแน่นไปด้วยเพลงฮิต K-Pop ในยุคนั้น, แฟชั่นเสื้อผ้า, และอุปกรณ์ประกอบฉากต่างๆ ล้วนทำให้ผู้ชมที่เติบโตมาในยุคนั้นต้องหวนนึกถึงความหลัง
หนังเต็มไปด้วยพลังงานบวกและความสดใสของเหล่าทีมนักแสดง อีฮเยริ (จาก Reply 1988) และ พัคเซวาน (จาก 6/45) มีเคมีของความเป็นเพื่อนซี้ที่น่ารักและเป็นธรรมชาติอย่างยิ่ง ฉากการเต้นเชียร์ลีดดิ้งทำออกมาได้อย่างสนุกสนานและน่าตื่นตาตื่นใจ
แม้ว่าพล็อตเรื่องอาจจะเดินตามสูตรสำเร็จของหนังแนว “ทีมรองบ่อน” (Underdog) ที่คาดเดาได้ง่าย แต่ด้วยเสน่ห์, พลังงาน, และความจริงใจที่หนังมอบให้ ก็ทำให้ “Victory” เป็นภาพยนตร์ที่สามารถดูได้เพลินๆ และออกจากโรงภาพยนตร์มาพร้อมกับรอยยิ้มอย่างแน่นอน
คะแนนจากนักวิจารณ์: (ณ วันที่รีวิว ภาพยนตร์ได้รับเสียงชื่นชมอย่างกว้างขวางในเกาหลีใต้)
- IMDb: (คาดการณ์คะแนนในระดับ 7.0+/10)
- Rotten Tomatoes: (คาดการณ์คะแนนจากฝั่งผู้ชมในระดับสูง)
รีวิวภาพรวม: หนังฟีลกู้ดที่เต็มไปด้วยพลังและเสียงเพลง
เสพติดดูหนัง
⭐ 6/10
– ไร้การสปอยเนื้อหาสำคัญ –
ตอนแรกจากที่เห็นหน้าหนัง คือไม่ดึงดูดใจอะไรเลย ยิ่งได้ชมตัวอย่างคือรู้สึกแบบมันดูเชยมาก สำหรับหนังเกาหลีเรื่องล่าสุดที่เข้าไทย “Victory” แต่ด้วยกระแสหลังฉายรอบพิเศษแรกในไทย ก่อนเลื่อนฉายกระแสออกมาเวิร์กกว่าคิด ก็เลยรู้สึกเปลี่ยนความคิด และลองเปิดใจมาชมสักหน่อยละกัน ถ้าไม่แย่ก็ถือว่าดีกับเรา ถ้าแย่ก็ถือซะว่ามาดูน้อง Lee Jung-ha ละกัน เรื่องราวในปี 1999 ณ เมืองเล็ก ๆ ในเกาหลี สองเพื่อนสาวขาแด๊นส์ ที่พยายามทำในสิ่งที่รักมาตลอด แต่กลับไม่ได้รับแรงสนับสนุนจากคนรอบข้าง ที่มองว่ากิจกรรมที่พวกเธอทำนั้นไร้สาระ จวบจนกระทั่งการมาถึงของสาวในเมืองโซล ที่อดีตเชียร์ลีดเดอร์ จุดประกายให้สองสาวอยากรวมพลังเกิร์ล พาวเวอร์ จัดตั้งชมรมเชียร์ลีดเดอร์รวมการเฉพาะกิจ ชื่อ Millennium Girls เพื่อพิสูจน์ให้เห็นถึงความสามารถด้านนี้ ว่ามันมีดีแค่ไหน! พอมาดูด้วยตัวเอง เออหนังมันสนุกสุด ๆ สนุกแบบง่าย ๆ สบาย ๆ ซึ่งเต็มไปด้วยเสน่ห์แบบ Old School ที่สร้างสรรค์เรื่องราวความชอบและมิตรภาพในวัยเรียนแบบเรียบง่าย แต่ทัชใจเราได้ด้วยคาแรคเตอร์ที่มิติ ที่แต่ละตัวละครคือต่างมีจุดเด่นในตัว และเป็นสีสันให้กับเรื่องราวได้แบบน่ารัก สดใส ชวนฮาหลายซีนเลย และมันยิ่งทำให้ทุกความสัมพันธ์ที่ออกมา ทั้งมุมแก่น ๆ ที่ดูน่ารัก และมุมซึ้ง ๆ ที่ชวนอบอุ่น ยียวนหัวใจ ให้เรายิ้มตามได้ตลอดเลย ซึ่งหนังบาลานซ์โมเมนต์ได้ดีทีเดียว เสริมให้สารหลักของเรื่องในแง่ของมิตรภาพ ความสัมพันธ์ครอบครัว และความชื่นชอบของตัวเอง มันถูกนำเสนอออกมาน่าสนใจ ลงตัว และมอบความสุขกับคนดูได้สำเร็จ และแน่นอนน้อง Lee Jung-ha น่าเอ็นดูมากกกกกก 😍 การแสดงของนักแสดงทุกคนมีเคมีที่เข้ากันมาก ๆ มีมุมที่สร้างภาพจำของตัวเอง และเรียกรอยยิ้มและเสียงฮาได้ดี อยากแนะนำให้ลองไปชมกันนะ เชยแต่ดี สนุกแบบมีความสุขกว่าที่คิดแน่นอน วันนี้ในโรงภาพยนตร์
anythinganywhereneveratonce
⭐ 6/10
หนังเรื่องนี้มีมุกตลกบ้างในบางครั้งและน้ำตาซึมบ้างในบางครั้ง มีช่วงที่สะเทือนอารมณ์ซึ่งทำให้ตัวละครมีพัฒนาการที่ยอดเยี่ยม ความสัมพันธ์ที่รู้สึกได้กับตัวเอกนั้นชัดเจนเพราะถ่ายทอดออกมาเป็นอารมณ์ที่หลากหลาย นี่เป็นหนังคลาสสิกที่ไม่ใช่หนังตลกผิวเผิน แต่นำเสนอประเด็นสำคัญที่เกิดขึ้นในเมืองอุตสาหกรรมที่มีความท้าทายด้านอำนาจและความยากจน แต่ก็ไม่ได้เน้นย้ำในคำสั่งสอนเหมือนหนังเรื่องอื่นๆ มากนัก ทำให้ผู้ชมดื่มด่ำไปกับละครตลกของโรงเรียนมัธยมและรู้สึกอย่างที่รู้สึก – ราวกับว่าโลกอาจจะแตกสลายก็เป็นได้
ภาพยนตร์ที่คล้ายกัน
หากคุณชื่นชอบหนังแนว Coming-of-age ที่มีกลิ่นอายย้อนยุค เราขอแนะนำเรื่องเหล่านี้:
- Sunny (2011) วันนั้น…วันไหน เพื่อนกันตลอดไป: ตำนานหนังมิตรภาพของแก๊งเพื่อนสาวในยุค 80s ที่ทั้งฮาและซึ้งจนน้ำตาไหล
- 20th Century Girl (2022) 20 เซนจูรี่ รักนี้ซาบซ่า: หนังรักย้อนยุค 90s อีกเรื่องจาก Netflix ที่เต็มไปด้วยความสดใสและความทรงจำของรักแรก
- Bring It On (2000): หนังเชียร์ลีดเดอร์สุดคลาสสิกจากฝั่งฮอลลีวูด ที่เต็มไปด้วยการแข่งขันและท่าเต้นที่น่าจดจำ
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
Q: หนังเรื่องนี้เป็นแนวมิวสิคัลเต็มตัวเลยไหม?
A: ใช่ครับ! “Victory” ถือเป็นภาพยนตร์แนวมิวสิคัล-เชียร์ลีดดิ้งเรื่องแรกของเกาหลีใต้อย่างเป็นทางการ หนังอัดแน่นไปด้วยฉากเต้นและร้องเพลงที่สนุกสนานตลอดทั้งเรื่อง
Q: เพลงประกอบในเรื่องเป็นเพลงยุค 90s จริงๆ หรือเปล่า?
A: ใช่แล้วครับ! หนึ่งในไฮไลท์สำคัญของหนังคือการนำเอาเพลง K-Pop ที่โด่งดังและเป็นที่นิยมจริงๆ ในช่วงปี 1999 กลับมาใช้ประกอบ ซึ่งสร้างบรรยากาศและความรู้สึกโหยหาอดีต (Nostalgia) ได้อย่างยอดเยี่ยม
Q: ต้องเป็นแฟน K-Pop ยุคเก่าถึงจะดูสนุกไหม?
A: ไม่จำเป็นเลยครับ! แม้ว่าการรู้จักเพลงจะช่วยเพิ่มความสนุกขึ้นไปอีก แต่แก่นเรื่องของมิตรภาพ, การตามหาความฝัน, และพลังของวัยรุ่นนั้นเป็นเรื่องที่เป็นสากลและทุกคนสามารถสนุกไปกับมันได้อย่างแน่นอน