ทำความรู้จักทีมงานและนักแสดง
- ผู้กำกับ: โรเบิร์ต เซเม็กคิส (Robert Zemeckis)
- นักแสดงนำ:
- บ็อบ ฮอสกินส์ (Bob Hoskins) รับบท เอ็ดดี้ วาเลียนท์
- คริสโตเฟอร์ ลอยด์ (Christopher Lloyd) รับบท ผู้พิพากษาดูม
- โจแอนนา แคสซิดี้ (Joanna Cassidy) รับบท โดโลเรส
- นักแสดงให้เสียงพากย์:
- ชาร์ลส์ ไฟลเชอร์ (Charles Fleischer) ให้เสียง โรเจอร์ แรบบิท
- แคธลีน เทอร์เนอร์ (Kathleen Turner) ให้เสียง เจสสิก้า แรบบิท (ไม่ได้รับเครดิต)
อยากติดตามผลงานอื่นๆ ของพวกเขาไหม? ลองค้นหาบนเว็บ Movie24HD ของเราได้เลย!
โปสเตอร์หนัง



รีวิวภาพรวม: การปฏิวัติวงการภาพยนตร์ที่ยังคงน่าทึ่ง
“Who Framed Roger Rabbit” คือภาพยนตร์ที่ “สมบูรณ์แบบ” ในทุกมิติอย่างแท้จริง เทคนิคพิเศษ ในการผสมผสานคนแสดงกับตัวการ์ตูน 2 มิติ นั้นน่าทึ่งและ “มาก่อนกาล” อย่างยิ่ง ทุกการเคลื่อนไหว, แสง, และเงา ถูกสร้างขึ้นมาอย่างประณีตจนทำให้เรารู้สึกว่าเหล่าตูนมีชีวิตอยู่จริงๆ ซึ่งเป็นผลงานที่สมควรแล้วกับการคว้ารางวัลออสการ์
แต่ที่เหนือกว่าเทคนิค คือ บทภาพยนตร์ ที่ยอดเยี่ยมในสไตล์ “ฟิล์มนัวร์” (Film Noir) ที่เต็มไปด้วยความลึกลับ, การสืบสวน, และตัวละครที่มีมิติ การสร้างโลกที่มนุษย์และการ์ตูนอยู่ร่วมกันทำออกมาได้อย่างน่าเชื่อถือและเปี่ยมด้วยจินตนาการ
การแสดงของ บ็อบ ฮอสกินส์ นั้นยอดเยี่ยมและเป็นหัวใจสำคัญของเรื่อง แต่ที่ขโมยซีนและกลายเป็นไอคอนไปตลอดกาลคือ เจสสิก้า แรบบิท ตัวการ์ตูน “Femme Fatale” ที่ร้อนแรงที่สุด และ ผู้พิพากษาดูม วายร้ายที่สร้างฝันร้ายให้กับเด็กๆ ทั่วโลก!
รางวัลการันตีคุณภาพ:
- ชนะเลิศ 4 รางวัลออสการ์: รวมถึงรางวัล Special Achievement Award สำหรับการกำกับแอนิเมชันที่ยอดเยี่ยม
คะแนนจากนักวิจารณ์:
- IMDb: 7.7/10
- Rotten Tomatoes: 97% (คะแนนจากฝั่งนักวิจารณ์)
หมื่นทิพ
ตอนดูรอบแรกเมื่อสมัยเด็กนี่ มันรู้สึกว่าหนังโคตรมหัศจรรย์เลยนะครับ ในหัวคิดซ้ำๆ ว่า “คนแสดงกับตัวการ์ตูนได้ยังไงอ้ะ” มันเป็นอะไรที่ตื่นตามากๆ และเชื่อว่าคนรุ่นผมที่ได้ดูในโรงก็คงตื่นเต้นไม่แพ้กัน จำได้ว่าสมัยเด็กๆ มันก็สนุกไปกับความแฟนตาซีของหนังน่ะครับ ดูแล้วก็เอิ้กอ้ากไปกับการได้เห็นตัวการ์ตูนโต้ตอบกับคน ได้เห็นมุกฮาๆ แบบตูนๆ แต่ตอนนั้นยังไม่ค่อยเก็ทเนื้อเรื่องแบบเต็มที่ ครั้นพอโตขึ้นก็เพิ่งมารู้สึกว่าเนื้อเรื่องมันหนักนะ จริงๆ มันคือหนังสืบสวนคดีฆาตกรรมแบบ Chinatown เลยด้วยซ้ำครับ หลายฉากก็แอบโหด และตัวร้ายก็น่ากลัว (ไม่รู้ใครเป็นไหม แต่ฉากตัวร้ายเผยตัวตนที่แท้จริง ผมว่ามันหลอนยังไงก็ไม่รู้) ไปๆ มาๆ ผมว่าผมชอบหนังเรื่องนี้มากขึ้นกว่าสมัยที่ดูรอบแรกๆ อีกนะ ตอนนั้นแค่สนุกกับสีสันของตัวการ์ตูน แต่พอโตขึ้นก็เห็นถึงความเด็ดของหนังมากขึ้น พอมาดูในรายละเอียดแล้วก็พบว่ามันลงตัวในทุกด้านก็ว่าได้
ในแง่เทคนิคนั้นน่ะดีอยู่แล้วครับ CG เนียนกำลังดี, ดนตรีของ Alan Silvestri ก็ไพเราะได้อารมณ์หนังย้อนยุคมากๆ, การเดินเรื่องและการทิ้งปมก็น่าติดตาม อีกทั้งหลายฉากๆ ก็วางมุมกล้องได้เจ๋ง (อย่างตรงอุโมงค์ทางเข้าเมืองตูนเป็นต้น) การแสดงนี่ก็หายห่วง Bob Hoskins เล่นได้ยอดมาก คาแรคเตอร์ของเขามัน Contrast กับตัวละครอื่นๆ จนทำให้เขาดูเด่นอย่างยิ่ง แต่รายที่ลืมไม่ลงอย่างแรงคือ Christopher Lloyd ที่เป็นจั๊ดจ์ดูมได้น่าขนลุกโคตรๆ แน่นอนว่าช่วงท้ายยิ่งโคตรยอด น่าขนลุกจนหลอนเลยล่ะ ตัวการ์ตูนล้วนมาพร้อมชีวิตชีวา โรเจอร์ก็กวนได้ใจ, เจสสิก้า แรบบิทก็เซ็กซี่อย่างเว่อร์ ถ้าพูดเป็นภาษายุคนี้ก็คงต้องบอกว่า ทั้งคนและตูนมาร่วมจอกันได้แซ่บอย่างแรงน่ะครับ ถือเป็นหนึ่งในหนังไม่กี่เรื่องที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวจนยากจะหาเรื่องใดมาเทียบ และเป็นงานระดับท็อปอีกเรื่องของ Robert Zemeckis ขึ้นแท่นคู่กับ Back to the Future ได้เลย รายได้ก็นับว่างามอยู่ครับ โกยทั่วโลกไป $329 ล้าน จากทุนราว $70 ล้าน ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี
linkola
⭐ 6/10
ผมเป็นแฟนตัวยงของทั้งการ์ตูนและหนังฟิล์มนัวร์ ดังนั้น Who Framed Roger Rabbit จึงเป็นประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมสำหรับผม เรื่องราวเกิดขึ้นในยุค 1940 ในบรรยากาศลึกลับชวนให้นึกถึงภาพยนตร์คลาสสิกของโบการ์ตอย่าง The Maltese Falcon ภาพยนตร์เรื่องนี้ผสมผสานตัวละครการ์ตูนและนักแสดงจริงเข้าด้วยกันได้อย่างลงตัว สำหรับผม หนึ่งในแง่มุมที่น่าสนใจที่สุดของภาพยนตร์เรื่องนี้คือการได้เห็นตัวการ์ตูนของดิสนีย์และวอร์เนอร์บราเธอร์สอยู่ในฉากเดียวกัน ซึ่งผมเชื่อว่าเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ภาพยนตร์ ใครจะลืมฉากดวลเปียโนระหว่างโดนัลด์และแดฟฟี่ได้ล่ะ? นักแสดงจริง ๆ ออกจะเว่อร์วังและดราม่าเกินไปบ้างในบางครั้ง แต่ก็ไม่ถึงขั้นทำให้หนังดูแย่หรือน่าเบื่อ ตัวการ์ตูนก็ช่วยรักษาบรรยากาศไว้ได้มากเช่นกัน
goya-4
⭐ 9/10
Who Framed Roger Rabbit เป็นหนึ่งในภาพยนตร์ที่ทั้งบ้าบิ่นและฉลาดที่สุดเรื่องหนึ่งที่ออกฉายมาในรอบหลายปี กำกับโดย Robert Zemeckis ซึ่งต่อมาได้กำกับ Forrest Gump และ Castaway รวมถึงภาพยนตร์อื่นๆ นำแสดงโดย Bob Hoskins ในบทบาทนักสืบเอกชนที่ตกอับในยุค 50s ที่ถูกดึงเข้าไปพัวพันกับคดีฆาตกรรมใน Toonland เพื่อช่วยคลี่คลายปริศนาและพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของ Roger Rabbit ตัวการ์ตูน หนึ่งในเสน่ห์ที่แท้จริงของภาพยนตร์เรื่องนี้คือ Kathleen Turner ผู้ให้เสียงพากย์เป็น Jessica Rabbit เธอเป็นตัวเลือกที่สมบูรณ์แบบด้วยเสียงที่เย้ายวนใจและเซ็กซี่ หนังเรื่องนี้สนุกมากสำหรับทุกคนในครอบครัว แม้จะมีการเสียดสีเล็กน้อย แต่อย่างที่ Jessica พูดไว้ว่า “ฉันไม่ได้แย่ ฉันแค่ถูกดึงดูดไปแบบนั้น” สุดยอดจริงๆ! ครองสถิติภาพยนตร์ที่มีเครดิตมากที่สุดตอนจบเรื่อง (937!) จากคะแนน 1 ถึง 10… 9
ภาพยนตร์ที่คล้ายกัน
หากคุณชื่นชอบภาพยนตร์ที่ผสมผสานระหว่างคนแสดงกับแอนิเมชัน เราขอแนะนำเรื่องเหล่านี้:
- Space Jam (1996) สเปซแจม ทะลุมิติมหัศจรรย์: การจับคู่กันระหว่าง ไมเคิล จอร์แดน และเหล่าตัวการ์ตูนลูนีย์ตูนส์
- Cool World (1992): หนังไลฟ์แอ็กชันผสมแอนิเมชันในโทนที่ดาร์กและเป็นผู้ใหญ่กว่า
- Enchanted (2007) มหัศจรรย์รักข้ามภพ: เรื่องราวสุดป่วนของเจ้าหญิงจากโลกการ์ตูนที่หลุดเข้ามาในมหานครนิวยอร์ก
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
Q: การที่ตัวการ์ตูนจากค่าย Disney และ Warner Bros. มาปรากฏตัวร่วมกันเกิดขึ้นได้อย่างไร?
A: เป็นความสุดยอดของโปรดิวเซอร์ สตีเวน สปีลเบิร์ก ครับ! เขาสามารถเจรจาให้ทั้งสองสตูดิโอคู่แข่งตลอดกาลยอมส่งตัวการ์ตูนที่โด่งดังที่สุดของตัวเองมาร่วมจอได้สำเร็จ โดยมีเงื่อนไขที่ “เท่าเทียมกัน” คือ บั๊กส์ บันนี่ (Warner) และ มิกกี้ เมาส์ (Disney) จะต้องมีเวลาปรากฏบนจอเท่ากันเป๊ะๆ! ซึ่งฉากที่ทั้งสองกระโดดร่มลงมาพร้อมกันจึงกลายเป็นฉากประวัติศาสตร์ไปโดยปริยาย
Q. ฉากจบของผู้พิพากษาดูมน่ากลัวมากจริงหรือ?
A: จริงครับ! และกลายเป็น “ฝันร้าย” ของเด็กๆ ในยุคนั้นเลยทีเดียว! ฉากที่เขาเผยโฉมหน้าที่แท้จริงออกมานั้นน่ากลัวและหลอนติดตาอย่างยิ่ง
Q. ทำไมหนังถึงประสบความสำเร็จอย่างถล่มทลาย?
A: เพราะเป็นหนังที่ “ปฏิวัติ” วงการอย่างแท้จริง ทั้งในด้านเทคนิคพิเศษที่น่าทึ่ง, การเล่าเรื่องที่ซับซ้อนและเป็นผู้ใหญ่, และการรวมตัวของตัวการ์ตูนจากหลากหลายค่าย ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่มีใครเคยทำได้มาก่อน